ในยุคที่ข่าวสารไหลเวียนอย่างรวดเร็วหลายครั้งที่ข่าวบางข่าวก็มีการเปลี่ยนแปลง ชนิดพลิกจากหน้ามือเป็หลังมือจนหัวเราะไม่ออก
และการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ก็ทำให้ลั่วเสี่ยวซีอ้าปากค้างไปแล้วเป็ที่เรียบร้อย
“เื้ัการสวีทหวานในโรงแรมสี่ชั่วโมงของลู่เป๋าเหยียนและหานรั่วซีหานรั่วซีคิดฆ่าตัวตายหลังเมาไม่ได้สติ”
ลั่วเสี่ยวซีและูเี่อันหลับไม่รู้เื่อยู่ในโรงแรมจนเกือบเที่ยงในขณะที่ข่าวซุบซิบเื่นี้กลายเป็ประเด็นร้อน และถูกแชร์ออกไปไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนครั้ง
ที่แท้เื่ที่ลู่เป๋าเหยียนกับหานรั่วซีนั่งเครื่องบินไฟล์ทเดียวกันนอนโรงแรมเดียวกันเป็เื่บังเอิญ โดยที่เ้าตัวเองก็ไม่รู้มาก่อน
เมื่อถึงอเมริกาหลังจากที่หานรั่วซีนั่งจิบกาแฟกับลู่เป๋าเหยียนเสร็จเธอก็รู้ตัวว่าตนเองยังคงตัดใจจากลู่เป๋าเหยียนไม่ได้จึงดื่มเหล้าเมามายถึงขนาดคิดะโตึกฆ่าตัวตายลู่เป๋าเหยียนและพนักงานโรงแรมจึงรีบไปที่ห้องเธอลู่เป๋าเหยียนดึงเธอให้ออกห่างจากหน้าต่าง และเธอก็ได้เข้ามากอดจูบลู่เป๋าเหยียนซึ่งเป็ต้นเหตุของภาพที่หลุดออกมา
ความจริงแล้วในวันนั้นลู่เป๋าเหยียนรีบผลักเธอออกทันทีนอกจากการจูบที่หานรั่วซีทำลงไปโดยไม่รู้ตัวหลังจากนั้นไม่ได้มีอะไรเกินเลยเกิดขึ้นแม้แต่น้อยบรรดาแฟนคลับของหานรั่วซีตื่นเต้นกันไปเอง
ส่วนเื่ที่ว่าทำไมถึงมีข่าวเท็จออกมา คงเป็เพราะปาปารัสซีที่ตามหานรั่วซีอยู่ จงใจใช้รูปภาพที่แอบถ่ายได้มาใส่สีตีไข่จนกลายเป็เื่ราวตามข่าว
ทางนักข่าวเดาว่าที่ลู่เป๋าเหยียนไม่ออกมาแก้ข่าวเื่นี้ั้แ่แรก อาจเพราะ้ารักษาภาพลักษณ์ราชินีผู้สูงศักดิ์ของหานรั่วซีเอาไว้แต่เื่ที่ว่าทำไมถึงออกมาเปิดเผยความจริงในภายหลังนั้น พวกเราคงไม่มีทางรู้...
“ให้ตาย!”ลั่วเสี่ยวซีจ้องหน้าจอ iPad อย่างเคืองๆ “ปาปารัสซีจงใจเขียนข่าวอะไรกันฉันว่ายัยหานรั่วซีนี่แหละตั้งใจให้พวกนั้นเขียนข่าวแบบนี้ เพื่อสร้างรอยร้าวให้เธอกับลู่เป๋าเหยียนมารยาจริงๆ!”
ูเี่อันนอนอยู่บนเตียงพลางหยิบ iPad ของลั่วเสี่ยวซีมาดูรูปภาพในข่าวภาพแรกคือภาพของหานรั่วซีที่ในมือถือแก้วเหล้า พลางทำท่าจะปีนหน้าต่างะโลงไปตามด้วยภาพลู่เป๋าเหยียนที่กำลังดึงตัวเธอออกมาและใบสุดท้ายเป็ภาพขณะที่พวกเขากำลังจูบกันที่เธอเคยเห็นก่อนหน้านี้
เธอเพิ่งสังเกตเห็นว่าในรูปเป็หานรั่วซีต่างหากที่กำลังกอดลู่เป๋าเหยียนอยู่ส่วนลู่เป๋าเหยียนก็ทำท่าเหมือนจะดันเธอออกไป
เธอส่ง iPad คืนให้กับลั่วเสี่ยวซี
“พวกเรากลับกันเถอะ”
ลั่วเสี่ยวซีพูดแซว“ในที่สุดก็ยอมกลับสู่อ้อมกอดของบอสใหญ่แล้วเหรอคะ?”
ูเี่อันค้อนลั่วเสี่ยวซีไปหนึ่งที
“ฉันจะกลับบ้านเธอ”ผ่านไปสักพักก็พูดขึ้นอีกว่า
“ต้องกลับไปเอาของที่ทิ้งไว้ที่บ้านเธอน่ะ”
หลังกลับมาที่อพาร์ทเมนต์ของลั่วเสี่ยวซีูเี่อันก็ลงมือเก็บของพลางคิดว่าจะไปเยี่ยมเจียงเส้าข่ายสักหน่อยดีหรือไม่แต่ในขณะที่กำลังลังเลอยู่นั้น เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น
“น่าจะเป็ไปรษณีย์ละมั้ง”
ลั่วเสี่ยวซีวิ่งไปเปิดประตูส่วนูเี่อันก็ก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อ ไม่นานเสียงฝีเท้าอันคุ้นเคยก็ดังเข้ามาใกล้
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเป็เสียงฝีเท้าของใครูเี่อันถึงกับชะงัก พอเงยหน้ามองก็เป็ลู่เป๋าเหยียนตามที่คาด
ดวงตาเรียวของเขาดูเยือกเย็นเหมือนฟ้าคลั่งที่มาพร้อมพายุ
ูเี่อันจับกระเป๋าในมือไว้แน่นเธอพยายามยิ้มออกมา
“นะนายทำไมมาอยู่ที่นี่”
ลู่เป๋าเหยียนถามเสียงเย็น“เมื่อเช้าปิดเครื่องทำไม”
“แบตหมด...”
มุมปากเขาแย้มยิ้มเยาะ“ข้ออ้างนี้เธอเคยใช้ไปแล้ว จะดื้อไปถึงเมื่อไรถึงจะยอมกลับบ้าน หืม?”
ูเี่อันยอมรับว่าเมื่อวานเธอตั้งใจปล่อยให้แบตหมดเธอกะว่าหลังจากเก็บของเสร็จก็จะกลับบ้านเสียทีลู่เป๋าเหยียนมีสิทธิ์อะไรมาถามเธอเสียงเย็นแบบนี้?
เธอเชิดหน้าพลางตอบอย่างไม่ยอมแพ้
“ฉันอยากจะกลับตอนไหนเดี๋ยวก็กลับเองแหละ”
ลู่เป๋าเหยียนหรี่ตาจู่ๆ เขาก็ก้มตัวลง ูเี่อันตาโตอย่างใ วินาทีต่อมาเธอก็ถูกลู่เป๋าเหยียนอุ้มพาดบ่าเอาไว้
“ลู่เป๋าเหยียน!”ูเี่อันทุบหลังเขาเบาๆ “ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ”
ลู่เป๋าเหยียนแบกเธอออกไปหน้านิ่งคนที่ยืนอยู่ข้างนอกอย่างลั่วเสี่ยวซีเห็นภาพนี้แล้วถึงกับตาโตพลางคิดว่าลู่เป๋าเหยียนช่างเท่เหลือเกิน จากนั้นจึงโบกมือลาูเี่อันตามหลังไปซาโยนาระ~
ูเี่อันมองไปทางลั่วเสี่ยวซีอย่างขอความช่วยเหลือแต่ลั่วเสี่ยวซีกลับส่งยิ้มเหมือนจะสื่อว่าช่วยไม่ได้จากนั้นก็เดินกลับเข้าห้องปิดประตูลงทันที
ูเี่อันจึงทำได้แค่ขอร้องลู่เป๋าเหยียน
“ฉันจะกลับไปกับนายแต่นายช่วยวางฉันลงก่อนได้ไหม”
ถ้าคนอื่นมาเห็นคงขายหน้าแย่
ลู่เป๋าเหยียนแบกเธอเข้าลิฟต์เหมือนไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
ูเี่อันจึงตัดสินใจใช้ไม้แข็ง“ถ้านายไม่ปล่อยฉัน ฉันจะะโเสียงดังๆ เลยว่า นายลักพาตัวฉัน!”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มมุมปาก“เธอคิดว่ายังมีคนในเมืองนี้ที่ไม่รู้จักเธอในฐานะคุณนายลู่อีกหรือไง”
“...” ูเี่อันพูดไม่ออก
เธอเคยออกข่าวทั้งหน้าบันเทิงและข่าวสังคมอยู่หลายครั้งคงไม่มีใครไม่รู้จักเธอในฐานะภรรยาของเขา
ต่อให้มีคนมาเห็นเธอโดนเขาแบกออกไปหรือเธอจะะโขอความช่วยเหลือแค่ไหน ก็คงมีแต่คนยืนชมอย่างสนใจเท่านั้น
แบบนั้นน่าอายยิ่งกว่า...
คิดแล้วูเี่อันจึงหลับตาลงทำเป็แกล้งตายอยู่นิ่งๆ ให้เขาแบกต่อไปดีกว่า
ลู่เป๋าเหยียนแบกเธอออกจากลิฟต์และจับเธอให้เข้าไปนั่งในรถ
เธอนั่งลงก็เบือนหน้าหนีมองออกไปนอกหน้าต่างสีหน้าท่าทางดูไม่อยากคุยอะไรกับลู่เป๋าเหยียนทั้งสิ้น
ลู่เป๋าเหยียนเองก็ไม่ได้ใส่ใจเขาเลื่อนโต๊ะทำงานเล็กๆ ในรถมาวางไว้ตรงหน้าจากนั้นจึงหยิบโน้ตบุ๊คออกมาสะสางงานต่อ
หลายวันมานี้งานเขายุ่งมากเฉพาะเื่ของูเี่อันก็ทำให้เขาเสียเวลาไปไม่น้อย
ูเี่อันเบือนหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างสักพักก็เริ่มปวดคอแถมวิวตึกกับรถที่วิ่งไปมาก็ไม่ได้น่าสนใจอะไรตอนนี้มีเพียงแต่เสียงเคาะคีย์บอร์ดของลู่เป๋าเหยียนที่ดึงความสนใจเธอเอาไว้ได้
คนแบบเขาไม่รู้ว่าเวลาเคาะคีย์บอร์ดทำงานอยู่จะดูเป็ยังไงนะ
เธอหันหน้ากลับมามองลู่เป๋าเหยียนที่กำลังรัวนิ้วลงคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว
มือเขาสวยยิ่งกว่าามือนายแบบในโฆษณานาฬิการาคาแพงพวกนั้นเสียอีกนิ้วของเขาเรียวยาวดูแข็งแกร่งน่ามอง
เขานั่งด้วยท่าทางสบายๆแต่กลับดูสง่างามและสูงศักดิ์ สายตาที่จดจ้องอยู่กับหน้าจอดูจริงจังและมุ่งมั่นหากใครได้มาเห็นภาพนี้ คงยากที่ห้ามใจไม่ให้เต้นรัว
ูเี่อันมองเขาเพลินอยู่นานจนลืมตัวจนกระทั่งรับรู้ได้ว่าตอนนี้รถไม่ได้วิ่งอยู่บนทางกลับบ้าน
“ลู่เป๋าเหยียน!นี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่!”
ลู่เป๋าเหยียนปรายตามองเธอ“แล้วใครบอกว่าฉันจะพาเธอกลับบ้าน?”
“นาย...”ูเี่อันรู้สึกเหมือนคนที่ถูกโจรลักพาตัวขึ้นรถมาชัดๆ พอมองดูดีๆ จึงรู้ว่าตอนนี้พวกเธออยู่บนทางด่วนที่มุ่งหน้าสู่สนามบิน
เธอเริ่มเข้าใจอะไรรางๆ
และก็เป็อย่างที่คาดไว้จริงๆเธอถูกเขาพามาสนามบิน ว่าแล้วเธอจึงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ฉันไม่ได้พกพาสปอร์ตมานะ”
“ไปแค่เมือง G ไม่ต้องใช้พาสปอร์ต”
ลู่เป๋าเหยียนพาูเี่อันเดินไปยังช่อง VIP เพื่อขึ้นเครื่องโดยตรงที่นั่นมีแอร์โฮสเตสสาวสวยสองคนกำลังยืนยิ้มต้อนรับพวกเธออยู่
“คุณลู่ คุณนายลู่ยินดีต้อนรับค่ะ”
ูเี่อันรู้สึกว่าเป็แอร์โฮสเตสนี่ไม่ง่ายเหมือนกันนะต้องจำหน้าผู้โดยสารให้ได้ทุกคนเลยเหรอเนี่ย...
ว่าแล้วเธอก็รู้สึกเหมือนมีอะไรผิดปกติจึงหันหน้ามองซ้ายขวา และพบว่าที่นี่มีเพียงเธอกับลู่เป๋าเหยียนแค่สองคนเท่านั้นแถมพวกเธอยังไม่มีตั๋วขึ้นเครื่องอีก
“ลู่เป๋าเหยียนพวกเรา...”
ยังไม่ทันถามออกไปลู่เป๋าเหยียนก็จูงมือเธอให้เข้าไปในเกตผ่านทางเดินขึ้นเครื่อง
จากนั้นภาพของเครื่องบินส่วนตัวลำสีขาวก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า
เพราะซูอี้เฉิงเองก็คิดจะซื้อเครื่องบินส่วนตัวเขาจึงมาถามเธอว่าเธอชอบแบบไหน ตอนนั้นูเี่อันจึงรีบไปหาข้อมูลอย่างตื่นเต้นทั้งแบบถูกแบบแพงก็ผ่านตาเธอมาจนหมดแต่เธอไม่เคยเห็นเครื่องบินรุ่นเดียวกันกับที่อยู่ตรงหน้าเธอเลย
ในขณะที่ความสงสัยยังคงอยูู่เี่อันก็ถูกลู่เป๋าเหยียนพาขึ้นเครื่องบินไป
ห้องโดยสารของเครื่องบินลำนี้เหมือนห้องรับแขกย่อมๆเก้าอี้หนังสีขาว แสงไฟสีนวล ที่มุมห้องยังมีบาร์ขนาดเล็กตั้งอยู่ไม่ว่าจะทำงานพักผ่อนหรือบันเทิงก็พร้อมสรรพ จะจัดให้เป็ห้องประชุมชั่วคราวก็ยังได้
หลายเดือนก่อนที่ซูอี้เฉิงอยากจะซื้อเครื่องบินส่วนตัวเขาให้เธอเลือกตามแบบที่เธอชอบ เธอจึงคิดพิจารณาถึงความจำเป็ในการใช้งานต่างๆ ของเธอกับพี่ชายแต่ก็ยังหาที่ถูกใจไม่ได้สักที ทว่าเครื่องบินของลู่เป๋าเหยียนลำนี้ ถูกออกแบบมาได้ตรงตามความ้าของเธอทุกอย่าง
“นั่งดีๆ”
ลู่เป๋าเหยียนจับให้เธอนั่งลงพลางช่วยเธอรัดเข็มขัดนิรภัย แอร์โฮสเตสสาวนำสลัดผลไม้และน้ำส้มคั้นสดๆ เดินมาเสิร์ฟให้เธอพลางถาม
“คุณลู่ คุณนายลู่คะจะให้นำเครื่องขึ้นเลยไหมคะ”
“อืม”ลู่เป๋าเหยียนตอบกลับไป แอร์โฮสเตสยิ้ม แล้วจึงเดินไปยังเคบินนักบิน
ูเี่อันอยากจะถามลู่เป๋าเหยียนเกี่ยวกับเครื่องบินลำนี้แต่เขานั่งอ่านเอกสารอยู่ตลอดเวลาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เชิงจะสื่อว่าห้ามใครมารบกวนเด็ดขาดเธอจึงไม่กล้าเปิดปาก ูเี่อันนั่งจิบน้ำส้มพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง
ไม่นานเครื่องบินก็ค่อยๆทะยานขึ้นฟ้า หลังทุกอย่างเข้าทีู่เี่อันก็เริ่มนั่งไม่ติดเธอจึงปลดเข็มขัดนิรภัยออก
ลู่เป๋าเหยียนเห็นการกระทำดังกล่าวของูเี่อันจึงถามขึ้นทั้งๆ ที่ตายังคงจ้องเอกสารตรงหน้า
“จะไปไหน?”
“ล้างมือ”
ระหว่างทีู่เี่อันเดินไปห้องน้ำก็พบว่าที่นั่งด้านหลังยังมีผู้โดยสารอยู่อีกคน
“Hi!”เสิ่นเยว่ชวนร้องทักเธอด้วยท่าทีสบายๆ
ูเี่อันรู้ว่าเสิ่นเยว่ชวนเป็ผู้ช่วยส่วนตัวของลู่เป๋าเหยียนเพราะฉะนั้นเื่ต่างๆ ของเขา เสิ่นเยว่ชวนคงรู้ดีสินะ?
เธอเดินเข้าไปนั่งลงตรงหน้าเสิ่นเยว่ชวนพลางส่งยิ้มตาหยี
“ถามอะไรหน่อยสิคุณ”
เสิ่นเยว่ชวนปรายตามองลู่เป๋าเหยียนหนึ่งทีพลางพูดอย่างระมัดระวัง “ไหนลองว่ามาสิ”
ูเี่อันชี้ไปที่ตัวเครื่องงบิน“ฉันนึกไม่ออกสักทีว่าเครื่องบินลำนี้ชื่อรุ่นว่าอะไร”
“เอ๋เครื่องนี่น่ะเหรอ...” เสิ่นเยว่ชวนพูดอย่างลำบากใจ “ก็ยากอยู่นะที่คุณจะรู้จักมัน...”
“ทำไมล่ะคะ”
“คุณก็คงรู้มาบ้างว่าอย่างพวกเสื้อผ้าแบรนด์เนมก็มักจะมีบริการตัดเย็บเสื้อผ้าตามความ้าของลูกค้าใช่ไหมล่ะ”เสิ่นเยว่อธิบาย “เครื่องบินลำนี้ก็เหมือนกันพวกเขาออกแบบตามความ้าของสามีคุณ ราคามันเลยแพงกว่าเครื่องบินตามท้องตลาดกว่าสิบเท่าพูดให้ถูกก็คือ มันไม่มีชื่อรุ่น...”
ูเี่อันช็อก“อย่างนี้นี่เอง...”
เธอนึกว่าในท้องตลาดจะยังมีเครื่องบินแบบเดียวกันขายซะอีกสงสัยพี่ชายเธอคงหมดหวังที่จะได้มันมา
“ทำไมเหรอ”เสิ่นเยว่ชวนเห็นูเี่อันดูมีสีหน้าผิดหวังจึงถามขึ้น “คุณไม่ชอบงั้นเหรอ”
ูเี่อันส่ายหน้าแต่ยังไม่ทันที่จะตอบอะไรออกไป เสียงเย็นๆ ของลู่เป๋าเหยียนก็ดังขึ้นที่ข้างหู
“ไหนเธอบอกว่าจะไปล้างมือ?”
“ฉัน...”ูเี่อันรีบหาข้ออ้างอย่างเร่งด่วน “ฉันหาห้องน้ำไม่เจอ”
“ลุกขึ้น”ลู่เป๋าเหยียนไม่ปล่อยให้เธอหนีไปง่ายๆ “ฉันพาเธอไปเอง”
ูเี่อันไม่รู้ว่าเขากำลังโกรธหรือไม่จึงลุกขึ้นอย่างว่าง่าย ปล่อยให้เขาจูงมือเข้าไปในห้องน้ำ
ห้องน้ำที่นี่กว้างขวางกว่าเครื่องบินทั่วไปมากจะเข้ามาทีเดียวสิบคนก็ยังได้แตู่เี่อันไม่เข้าใจว่าทำไมลู่เป๋าเหยียนต้องตามเธอเข้ามาด้วยเนี่ย
“นาย...”
ยังพูดไม่ทันจบลู่เป๋าเหยียนก็ผลักประตูห้องน้ำให้ปิดลงพร้อมล็อกประตูเรียบร้อยแขนข้างหนึ่งของเขายันกำแพงล็อกตัวเธอเอาไว้...
ูเี่อันมองหน้าเขาอย่างตื่นตะลึงด้วยหัวใจที่สั่นระรัว...
