หลังจากปล่อยไปแล้วหนึ่งครั้ง สิงเยี่ยยังรู้สึกไม่พอใจ
ดูเหมือนเขาจะเสพติดผู้เล่นใหม่ที่ชื่อจี้หนิงคนนี้เข้าเสียแล้ว พอเขาได้ยินเสียงพึมพำเธอว่า “คุณสุดยอดไปเลย” เ้าน้องชายที่เพิ่งปล่อยน้ำไปก็กลับมาปึ๋งปั๋งอีกครั้ง
จี้หนิงที่ยังไม่ฟื้นตัวก็ถูกสิงเยี่ยกอดและจับลงนอนข้าง ๆ เขา จากนั้นก็สอดใส่จากด้านข้างและกระแทกไปยังใจกลางดอกไม้[1]ของเธอ เมื่อก้นแน่นๆ กระแทกจนสั่นะเื เสียงเฉอะแฉะที่ลามกก็ดังออกมาจากจุดที่ทั้งสองกระทบกัน
เธอรู้สึกอายมากเสียจนอดไม่ได้ที่จะบิดขาไปมา
สิงเยี่ยที่ตั้งสมาธิมั่นมาตลอด เมื่อถูกขาของเธอบิดเข้าให้ก็ทำเอาแทบเสียสมาธิ เขาตบก้นของเธอเบาๆ ราวกับเป็การลงโทษ “นี่ อย่ามาบิดขาผมตอนนี้สิ”
จี้หนิงไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดแต่ก็ปล่อยขาที่ไขว้กันอย่างเชื่อฟัง
เธอไม่รู้สึกเจ็บอะไรตอนถูกตีก้น มันรู้สึกชาไปหมดและออกจะรู้สึกดีเสียด้วยซ้ำไป
ทันใดนั้นสิงเยี่ยก็ยกขาข้างหนึ่งของจี้หนิงขึ้นมา ให้อยู่ในท่วงท่าที่น่าอายเหมือนกับลูกสุนัขยืนถ่างขาฉี่ ก่อนถูไถมันอย่างช้าๆ และนุ่มนวล แล้วตอกเสาเข็มลงไปอีกครั้ง
จี้หนิงเหมือนถูกทรมานเจียนตาย เธอถึงจุดสุดยอดอยู่หลายครั้ง และจิกผ้าปูที่นอนตรงหน้า
จนกระทั่งจี้หนิงเริ่มร้องขอความเมตตาจากสิงเยี่ย แต่เขากลับใจจดใจจ่ออยู่กับการกระแทกร่องเนื้อนุ่มๆ ของเธอ และขยับเอวกับสะโพกของตัวเองกระแทกรัวๆ จนกระทั่งคลื่นความสุขพุ่งไปถึงหัวเหมือนปะทุความร้อน แล้วปล่อยน้ำออกมาด้วยความพึงพอใจ
เมื่อเห็นจี้หนิงเหนื่อยเกินกว่าจะขยับตัวแล้ว สิงเยี่ยก็รู้ว่าถึงเวลาต้องนอนพัก
แต่เนื่องจากผ้าปูที่นอนเปียกแฉะทั้งผืนจนนอนไม่ได้ เขาจึงสวมกางเกงในแล้วกดกริ่งเรียกบริกรให้เอาผ้าเช็ดตัวมาให้ และเปลี่ยนเครื่องนอนใหม่
จี้หนิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาก็สวมเสื้อกันลม ตัวของเธอปกคลุมไปด้วยกลิ่นหอมเย็นๆ ของความเป็ชายดุจต้นซีดาร์
หลังจากบริกรออกไป ทั้งสองคนต่างทำความสะอาดตัวและเอนกายลงบนเตียง นอนกอดกันเหมือนกับคู่รัก
หลังจากทำด้วยกันแล้ว จี้หนิงก็รู้สึกเหมือนรู้จักสิงเยี่ยมากขึ้น แม้เขาจะไม่ยิ้มและเคร่งขรึม แต่เธอก็ไม่กลัวเขาอีกต่อไปแล้ว
จี้หนิงพิงแขนที่แข็งแรงของสิงเยี่ย และถามเขาด้วยเสียงค่อยๆ “สิงเยี่ย ฉันขอถามคุณหน่อยว่าคุณมีประสบการณ์ผ่านมากี่ด่านแล้ว?”
“ห้าด่าน และนี่คือด่านที่หก” สิงเยี่ยตอบเธอแล้วถาม “ทำไมคุณถึงไม่ถามผมล่ะว่าคำใบ้ที่ผมได้จากเกมมนุษย์หมาป่าคืออะไร?”
เมื่อถูกเตือนความจำ แน่นอนว่าจี้หนิงก็รู้สึกอยากรู้ขึ้นมา
แต่นี่เป็เกมเซอร์ไววัลที่เกี่ยวข้องกับความเป็ความตาย แล้วเธอจะถามคนอื่นถึงคำใบ้ที่พวกเขาได้มาอย่างยากลำบากได้อย่างไร ตัวเธอก็ไม่ใช่คนที่หน้าด้านถึงขนาดนั้น
“[มองความจริงผ่านหมอก]” สิงเยี่ยรู้ถึงความคิดของเธอ จึงบอกเธอไปตรงๆ โดยไม่รอคำตอบ “นั่นคือคำใบ้”
เมื่อได้คำใบ้มา จี้หนิงก็รู้สึกประหลาดใจกับความใจดีของสิงเยี่ย
สีหน้าของเธอเหมือนกับจะบอกว่าเธอเอาเปรียบเขาอยู่ สิงเยี่ยหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของเธอแล้วพูดขึ้น “พวกเราจับคู่กันแล้ว ตอนนี้คุณคือคู่หูของผม ผมก็ต้องช่วยคุณอย่างสุดความสามารถสิ”
เมื่อพูดถึงการจับคู่แล้ว จี้หนิงจำความขัดแย้งระหว่างสิงเยี่ย และหมายเลข 9 เยี่ยเจียิเมื่อตอนบ่ายได้ แล้วถามด้วยความสงสัย “ไม่ใช่ว่าคุณเลือกฉันเพราะคุณไม่ถูกกับหมายเลข 9 หรอกเหรอ?”
“ก็ใช่ แต่ไม่ถูกทั้งหมด” ใบหน้าของสิงเยี่ยเปลี่ยนกลับเป็เ็าขึ้นมา “คุณเป็ผู้มาใหม่ ไม่มีคำใบ้อะไร ย่อมไม่มีเหตุผลที่เขาจะเลือกคุณเลย มันเป็ไปได้ว่าเขาคิดจะหลอกใช้คุณมากกว่า ที่ผมไม่ชอบเขาก็เพราะผมเคยเห็นเขาฆ่าผู้เล่นใหม่มาก่อน”
จี้หนิงเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว “หมายเลข 2 กับหมายเลข 4 ทั้งคู่ต่างมีคำใบ้จากฝ่ายมนุษย์หมาป่า แต่หมายเลข 9 ทั้งๆ ที่ไม่มีคำใบ้แต่เขากลับเลือกฉันก่อน ย่อมเป็จุดประสงค์ที่ไม่ธรรมดาแน่นอน โชคดีที่ฉันได้คุณช่วยไว้ ขอบคุณนะสิงเยี่ย”
สิงเยี่ยมองไปยังความประกายแวววาวในดวงตาของจี้หนิง โชคดีที่เขายังมีจิตสำนึกและเข้าไปขัดขวาง
ถ้าเขาได้พบกับจี้หนิงในโลกความเป็จริง สิงเยี่ยคิดว่าตัวเขาคงรู้สึกชอบเธออยู่ดี และบางทีทั้งคู่อาจจะได้กลายเป็แฟนกันก็ได้
แต่ในเกมเซอร์ไววัลที่ไม่ได้ปฏิบัติต่อผู้เล่นในฐานะมนุษย์แล้ว ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาจะได้พบกันอีกครั้งหรือไม่ หลังจากผ่านด่านนี้ไปได้ ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันได้อีกนานแค่ไหน
ถึงจะชอบแต่ก็ต้องเก็บฝังเอาไว้ในใจ
แววตาประชดประชันปรากฏขึ้นในดวงตาของสิงเยี่ย
เมื่อเห็นจี้หนิงยิ้มหวานให้ ในชั่วพริบตาหนึ่ง สิงเยี่ยก็เก็บอารมณ์เอาไว้และลูบหัวของเธอ “เมื่อคุณนอนหลับสักงีบแล้ว พวกเราจะลงไปข้างล่างเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมกัน”
จี้หนิงพยักหน้า และคิดว่าเมื่อสักครู่มีแค่ตัวเธอที่เสพสุขกับการเป็ฝ่ายรับ เธอจึงถามสิงเยี่ย “แล้วคุณล่ะ? คุณไม่เหนื่อยเลยเหรอ? คุณน่าจะเหนื่อยกว่าฉันอีก”
“ผมเหรอ? “ สิงเยี่ยหัวเราะ ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องกระตุกโดยไม่ตั้งใจ “ผมสบายดี หรือคุณจะลองอีกสักรอบก็ได้นะ? “
หนุ่มสุดคูลมาพร้อมกับความเย้ายวนของฮอร์โมนเพศชายที่แผ่ออกมาจากตัวเขา ทำให้จี้หนิงต้องกลืนน้ำลายและหนีบขาของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ถึงแม้เธอจะรู้สึกอยากขึ้นมาจริงๆ แต่ก็ปฏิเสธเขากลับไป “ยังมีเื่สำคัญกว่าต้องทำ เอาไว้เดี๋ยวพวกเราลงไปกันหลังจากที่ฉันพักสักแป๊บ”
เดิมทีเธอก็อยากบอกว่าควรจะลงไปตอนนี้ แต่จี้หนิงรู้สึกได้ว่าขาของเธอนั้นอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเมื่อขยับตัว เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องนอนพักสักงีบ
แม้สิงเยี่ยจะไม่พอใจ แต่เขาก็ยังทำตามที่เธอพูด ตัวเขาเองรู้สึกดีอย่างมากเมื่อเห็นสภาพของจี้หนิงที่ถูกเขาทำจนไม่สามารถลุกขึ้นจากเตียงได้
หลังจากจี้หนิงพักผ่อนแล้ว ทั้งสองก็สวมเสื้อผ้าและออกจากห้องส่วนตัวเล็กๆ นี้
จี้หนิงก็ค่อยๆ พบว่าตัวเองเริ่มเข้าถึงบทบาทในการเป็สาวไซด์ไลน์ได้บ้างแล้ว เธอที่อยู่ในอ้อมแขนของสิงเยี่ย ส่วนหนึ่งของหน้าอกกดทับเขาเอาไว้ พลางใช้มือของเธอัักล้ามเนื้อหน้าอกของสิงเยี่ยเป็ครั้งคราว
สิงเยี่ยเองก็เอาแขนของเขาโอบรอบเอวของเธอไว้ โดยให้ฝ่ามือวางอยู่บนบั้นท้ายที่สวยงามของเธอเช่นกัน
ดูเหมือนทั้งคู่จะสนิทกันแล้ว และกลมกลืนเข้ากับงานปาร์ตี้สวิงกิ้งนี้
หลังจากลมหนาวพัดผ่านไป จี้หนิงนึกเื่หนึ่งขึ้นมาได้ และเอนตัวเข้าไปใกล้หูของสิงเยี่ยแล้วถาม “หมายเลข 7 ตายแล้ว แล้วผู้เล่นชายหมายเลข 3 ที่จับคู่กับเธอล่ะ?”
สิงเยี่ยตอบกลับไป “คุณสามารถจับคู่กับ NPC ก็ได้นะ แต่ถ้าเลือกได้ เลือกจับกับผู้เล่นด้วยกันจะดีกว่า”
“ก็ยังดี” จี้หนิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วแสดงความคิดเห็น “แล้วก็ ฉันมักจะรู้สึกว่า NPC พวกนี้ดูแปลกๆ อยู่ตลอดเวลาเลย”
ทั้งสองมาถึงชั้นหนึ่งของเรือสำราญ จี้หนิงอยากจะเปลี่ยนชุดเพราะกางเกงใน SM ของเธอนั้นทั้งเหนียวและไม่สบายตัวเอาเสียเลย
เธอผละตัวออกจากสิงเยี่ยและอธิบายให้เขาฟัง “ฉันขอตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บนึงนะ เดี๋ยวกลับมา”
สิงเยี่ยพยักหน้า “คืนนี้อากาศหนาว สวมเสื้อนอกมาด้วยล่ะ”
จี้หนิงมองไปที่เขาอย่างหยาดเยิ้ม จากนั้นหันกลับและวิ่งไปที่ห้องโดยสารชั้นล่างโดยย่ำส้นสูง
เธอกลับไปยัง “จุดเกิด” ของตัวเองและเปิดตู้เสื้อผ้าตรงหน้าออก ในเวลานั้น เธอจำได้แม่นว่ามีชุดว่ายน้ำอยู่หลายชุด
จี้หนิงเลือกชุดแบบไขว้คอสีขาว มีลูกไม้เล็กๆ อยู่บนกางเกงว่ายน้ำซึ่งเข้ากับบุคลิคของเธอเป็อย่างดี
จี้หนิงสวมชุดบิกินี่ใหม่เสร็จแล้ว ก็พบชุดผ้าบางสีขาวประดับด้วยผีเสื้อประดิษฐ์อีกชุดหนึ่งที่แขวนไว้ด้านนอก เธอเห็นสาวงามคนอื่นใส่ราวกับว่าพวกเธอไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็นและไม่มีใครสวมเสื้อนอกเลย เธอกลัวว่าจะ OOC ได้ถ้าสวมเสื้อผ้ามิดชิดเกินไป
เยี่ยม ตอนนี้เธอมีคำว่า “ห้าม OOC” ฝังอยู่ใน DNA ของเธอแล้ว
หลังจากสวมเสื้อผ้าและมัดผมที่ยุ่งเหยิงเสียใหม่เพราะศึกใหญ่เมื่อสักครู่แล้ว จี้หนิงเดินออกมาพลางนึกถึงสิ่งต่างๆ ที่ได้เรียนรู้มาจากสิงเยี่ย
โดยไม่คาดคิดหลังจากออกจากประตูมา เธอก็ได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆ
จี้หนิงตื่นตัวทันที
ในมุมมองของจี้หนิงแล้วนี่ไม่ใช่โลกแห่งความจริง แต่เป็เหมือนกับภาพยนตร์และเกมที่มีการดำเนินเื่และมีเค้าโครงเื่
ดังนั้นทุกสิ่งที่ผิดปกติก็สมควรจะใส่ใจอย่างจริงจัง
เธอเดินตามเสียงร้องเพื่อหาที่มาของเสียง หลังจากผลักประตูเข้าไป เธอพบสาวงามในชุดบิกินี่ที่นั่งยองๆ อยู่มุมตู้และร้องไห้
แน่นอนว่าไม่ใช่ผู้เล่น แต่เป็ NPC!
______________________________________
[1]ใจกลางดอกไม้(花心) - หมายถึงตำแหน่งของเกสรตัวเมีย หรือรังไข่ผู้หญิงนั่นเอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้