หมี่หลันเยว่ตั้งใจจะใช้งานหนิวเถียจู้จริงๆ นั่นแหละ เพราะหลังตรุษจีนจะเปิดร้านใหม่ ยังไงคนก็ไม่พออยู่แล้ว ยิ่งทุกคนเป็นักเรียน เวลาเลยจัดสรรยากหน่อย ตอนนี้มีคนที่พอจะใช้งานได้ หมี่หลันเยว่ไม่มีทางปล่อยไปแน่ๆ แถมจากการสังเกตการณ์่นี้ หนิวเถียจู้ใช้ได้เลยทีเดียว เป็คนซื่อๆ ขยันขันแข็ง แถมยังฉลาดและเอาใจใส่
"พี่หลิวลี่คะ ่ก่อนตรุษจีนเนี่ย ลูกค้าจะเยอะขึ้นมาก อาจจะเหนื่อยหน่อยนะ พี่ต้องออกแรงเยอะหน่อยนะคะ ต้องมองให้รอบด้าน ฟังหูไว้หูเยอะๆ ขายของให้ได้เยอะๆ นี่เป็เื่สำคัญ แต่ก็ต้องระวังของหายด้วยนะ ่ก่อนตรุษจีนคนออกมาเดินเยอะ อาจจะมีคนหลายๆ แบบ"
ทางด้านหนิวเถียจู้ยังคงคุยเล่นกับเฉียนหย่งจิ้นและคนอื่นๆ อยู่ หมี่หลันเยว่ก็เริ่มกำชับหลิวลี่แล้ว ก่อน่ตรุษจีนเป็่ที่ร้านค้าต่างๆ วุ่นวายที่สุด หมี่หลันเยว่กลัวของหาย แม้จะขายน้อยลงไปบ้างก็ยังดีกว่าของหาย เพราะของหายเป็อะไรที่ทำให้หงุดหงิดใจมาก
"ฉันรู้แล้ว หลันเยว่ ฉันจะพยายามดูแลร้านให้ดีที่สุด"
หลิวลี่ก็รู้ว่า่ก่อนตรุษจีนมันวุ่นวาย เธอก็เลยทำได้แค่บอกว่าจะพยายามเต็มที่ ไม่กล้ารับประกันว่าจะไม่มีของหาย เพราะอย่างที่เขาว่ากัน ไม่กลัวโจรขโมย กลัวแต่โจรที่คอยจ้อง ถ้าเจอพวกที่ตั้งใจจะขโมยขึ้นมาจริงๆ ต่อให้ระวังแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะกันไว้ได้ทั้งหมด
"ให้ฉันช่วยพี่หลิวลี่ดูแลร้านไหม"
หนิวเถียจู้ได้ยินหมี่หลันเยว่คุยกับหลิวลี่ ก็รีบยกมือเดินเข้ามา
"ฉันขอเสนอตัวเลย มาช่วยพี่หลิวลี่ดูแลร้าน หลันเยว่ว่าไง?"
ดีสิ ดีอยู่แล้ว ที่จริงหมี่หลันเยว่อยากให้พวกผู้ชายมาช่วยดูแลร้าน่ก่อนตรุษจีนที่พอมีเวลาว่างกันบ้าง ถึงพวกเขาจะยังเด็ก แต่ก็เป็ผู้ชาย ยังไงก็ช่วยคุมร้านได้บ้าง แต่หมี่หลันเยว่กลัวว่าพวกเขาจะคิดว่าการให้ผู้ชายมาดูแลร้านมันเสียเกียรติ หมี่หลันเยว่ก็เลยเก็บเื่นี้ไว้ในใจตลอด
"พี่เถียจู้ พี่อยากจะมาช่วยงานที่ร้านจริงๆ เหรอคะ? อย่าฝืนใจนะคะ"
หมี่หลันเยว่กลัวว่าหนิวเถียจู้จะแค่อยากช่วยเพราะวันนี้เธอพูดว่าจะให้เขามาทำงานด้วยกันหลังจากนี้ แต่โดยส่วนใหญ่ผู้ชายจะไม่ค่อยชอบถูกจำกัดอยู่ในร้าน คอยพูดคุยกับลูกค้าไปวัน ๆ
"ไม่ฝืนใจ ตอนนี้ฉันเพิ่งเข้ามาในกลุ่มของเรา ถ้าให้ฉันทำอะไร ฉันคงยังช่วยอะไรได้ไม่มาก ตอนนี้ร้านขาดคน ่ก่อนตรุษจีนฉันจะช่วยพี่หลิวลี่ดูแลร้านไปก่อน แล้วก็จะได้ศึกษาเรียนรู้สินค้าในร้าน แล้วก็จะได้เรียนรู้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าจากพี่หลิวลี่ด้วย"
หมี่หลันเยว่ชูนิ้วโป้งให้ เธอรู้จุดแข็งจุดอ่อนของตัวเอง หนิวเถียจู้คนนี้ไม่เลวเลยทีเดียว ดูเหมือนว่าสายตาในการเลือกคนของตัวเองก็ยังพอมีมาตรฐานอยู่บ้าง หมี่หลันเยว่ก็ค่อนข้างมั่นใจในตัวเขาด้วย ถ้าผู้ชายมุ่งมั่นกับงานขาย รับรองว่าจะทำได้ดีมาก ผลงานจะต้องโดดเด่นอย่างแน่นอน
ในยุค 90 ปลายๆ ในชาติก่อน มีดาวเด่นด้านการขายหลายคนที่เป็ผู้ชาย ในวงการค้าปลีกที่มีแต่ผู้หญิงเป็ส่วนใหญ่ จำนวนผู้ชายที่น้อยนิด กลับกลายเป็ผู้นำของอุตสาหกรรมนี้ สร้างผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย
"ดีเลยค่ะ พี่เถียจู้ พรุ่งนี้พี่มาที่ร้านได้เลยนะคะ ให้พี่หลิวลี่สอนพี่ อะไรที่ไม่เข้าใจก็ให้พี่เรียนรู้เยอะๆ แล้วก็พูดเยอะๆ ฝึกเยอะๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะพูดไม่เป็ มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง ถ้าฝึกเยอะ เดี๋ยวก็คล่องเอง แล้วถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ยังมีพี่หลิวลี่ พี่เขาเป็กองหลังที่แข็งแกร่งของพี่แน่นอน รับรองว่าดูแลพี่ได้"
เมื่อได้รับการอนุมัติจากหมี่หลันเยว่ หนิวเถียจู้ก็ดีใจมาก เขารู้สึกว่า ถ้าเขาตั้งใจเรียนรู้ เขาจะต้องเรียนรู้จุดสำคัญของเสื้อผ้าในร้านได้อย่างรวดเร็ว แล้วจะได้ช่วยหมี่หลันเยว่ได้มากขึ้น ในเมื่อหมี่หลันเยว่ดึงเขาเข้ามาร่วมกลุ่มกับเธอ เขาก็ไม่ควรทำให้เธอผิดหวัง ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมเขาจะต้องทำให้คนอื่นผิดหวังด้วย เขาจะต้องทำให้ดีกว่าเดิมเท่านั้น
เื่ก็เป็อันตกลงกัน หนิวเถียจู้กลายเป็พนักงานขายในร้านห้องเสื้อหลันเยว่ เขาเริ่มทำงานกับหลิวลี่ทุกวัน เพราะตอนนี้โรงงานกำลังยุ่งกับการส่งของ หมี่หลันเยว่เลยไม่ได้สนใจสถานการณ์ที่ร้านเท่าไหร่ ยังไงก็มีหลิวลี่อยู่แล้ว เธอก็เลยสบายใจได้ แค่ยุ่งวุ่นวายอยู่ที่โรงงานอย่างเดียว
"เสี่ยวหลันเยว่ ยุ่งอะไรอยู่เหรอ?"
ในที่สุด ในวันที่ยุ่งจนหัวหมุนวันหนึ่ง หมี่หลันเยว่ก็ได้ยินเสียงที่ไพเราะราวกับเสียง์ เธอรีบหันกลับไป เห็นหนิวต้าลี่กำลังยืนอยู่ที่หน้าโรงงานของเธอ กำลังโบกมือให้เธอ
"ลุงหนิว ทำไมคุณลุงถึงมาเองล่ะคะ?"
หมี่หลันเยว่รีบวางมือจากงานที่ทำอยู่ เฉียนหย่งจิ้นเพิ่งจะบรรจุหีบห่อของตัวเองเสร็จ ก็ยื่นมือไปรับงานที่อยู่ในมือของหมี่หลันเยว่มา
"ทำไมฉันจะมาไม่ได้ ฉันคิดถึงพวกเธอ ก็เลยมาดูพวกเธอหน่อย"
หนิวต้าลี่เดินเข้าไปในโรงงานสองก้าวก็หยุด ไม่ได้รับการอนุญาตจากหมี่หลันเยว่ เขาก็ไม่อยากทำตัวตามสบายเกินไป ยังไงที่นี่ก็คือโรงงานของหมี่หลันเยว่
ถ้าในพื้นที่นี้มีอะไรที่เธอไม่อยากให้เขารู้ ถ้าเขาทำตัวคุ้นเคยเกินไปก็คงไม่ดี ถึงแม้จะสนิทกับเด็กพวกนี้พอสมควรแล้ว แต่หนิวต้าลี่ก็เป็ผู้จัดการร้านค้าขนาดใหญ่ เขาทำอะไรก็มีขอบเขต ไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นมาว่าได้
เขาแค่ใช้สายตากวาดดูสถานการณ์ในโรงงานคร่าวๆ พื้นที่ค่อนข้างใหญ่ มีพื้นที่ครึ่งหนึ่งวางเครื่องจักร อีกครึ่งหนึ่งยังว่างอยู่ ดูท่าแล้วอีกครึ่งหนึ่งคงจะเต็มในไม่ช้า หนิวต้าลี่ค่อนข้างมั่นใจในความสามารถของหมี่หลันเยว่
"คุณลุงหนิว เข้ามาเดินเล่นข้างในสิคะ นี่คือโรงงานของฉัน ตอนนี้คนงานยังไม่เยอะเท่าไหร่ แต่คุณลุงก็เห็นแล้วว่าทางนี้ยังมีที่ว่าง ฉันอยากจะรอขยายโรงงานหลังตรุษจีนอยู่ค่ะ"
หมี่หลันเยว่ใช้ผ้าขนหนูเช็ดมือจนสะอาด แล้วเดินออกไปต้อนรับ
เห็นหนิวต้าลี่ยืนอยู่ที่ข้างประตูโรงงาน ไม่ได้ตั้งใจจะเดินเข้ามา เธอเลยโบกมือเรียก
"ในเมื่อมาแล้ว ก็เข้ามาเยี่ยมชมหน่อยสิคะ ถือโอกาสดูว่าโรงงานเรามีอะไรที่ทำได้ไม่ดี คุณลุงช่วยแนะนำหน่อยนะคะ"
คำเชิญของหมี่หลันเยว่เป็ไปด้วยความจริงใจ หนิวต้าลี่จะปฏิเสธอีกก็คงจะดูเป็การรั้งเกินไป
"หลันเยว่ ไม่มีอะไรไม่สะดวกใช่ไหม"
ถึงแม้จะยกเท้าก้าวเข้ามาแล้ว แต่หนิวต้าลี่ก็ยังพูดออกมาอีกคำ
"ไม่มีอะไรไม่สะดวกเลยค่ะ ก็แค่ที่ที่ใช้ตัดเย็บเสื้อผ้า เสื้อผ้าที่นี่ คุณลุงก็เคยขายแล้ว จะมีอะไรต้องปิดบังคุณลุงอีกล่ะคะ คุณลุงเชิญเยี่ยมชมตามสบายเลยค่ะ"
หมี่หลันเยว่โอบแขนคุณลุงหนิวอย่างสนิทสนม พาคนเข้ามาข้างในสองก้าว แล้วก็ปล่อยมือออกอย่างเป็ธรรมชาติ
"ดีเลย งั้นฉันจะเยี่ยมชมโรงงานของเสี่ยวหลันเยว่ของเรา ดูว่าจ้างคนงานที่มีฝีมือทองคำแบบไหน เครื่องจักรราคาแพงแบบไหน ถึงทำเสื้อผ้าออกมาได้ดีขนาดนี้ ทำให้เมืองชิงไถของเรา ถ้าไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าหลันเยว่ก็เหมือนไม่ได้ฉลองตรุษจีนเลย"
คำพูดนี้ชมเชยหมี่หลันเยว่เกินไป หมี่หลันเยว่รีบถ่อมตัว
"จะถึงขนาดที่คุณลุงพูดได้ยังไงกันคะ ก็แค่พวกเราเย็บปักถักร้อยอย่างละเอียด ก็ต้องให้พนักงานขายของคุณลุงขายดีด้วย ไม่งั้นจะมีรายได้จากการขายเยอะขนาดนั้นได้ยังไงกันคะ"
"ยัยหนูนี่ก็ถ่อมตัวเก่งจริงๆ"
หนิวต้าลี่ลูบหัวเล็กๆ ของหมี่หลันเยว่อย่างเอ็นดู ทำท่าทางสนิทสนมเหมือนผู้ใหญ่ในบ้าน
"อายุแค่นี้ทำโรงงานได้ใหญ่ขนาดนี้ถือว่าเก่งมากแล้ว ฉันก็เคยเห็นโรงงานของพวกเขาที่กว่างโจวเหมือนกัน"
หนิวต้าลี่เดินเข้าไปข้างในพลางคุยเล่นกับหมี่หลันเยว่ สายตาก็จับจ้องไปที่ฝีมือของคนงาน รวมถึงวิธีการทำ วัสดุที่ใช้ ปากก็ยังคงพูดไปเรื่อยๆ
"โรงงานพวกนั้น น้อยมากที่จะมีคนงานเกินสิบคน แต่ก็ยังเปิดได้ราบรื่น"
"แต่ฝีมือของที่นั่นเทียบกับที่นี่ไม่ได้เลย เสื้อผ้าที่ซื้อกลับไป ถ้าไม่ตัดด้ายออกก็ใส่ไม่ได้ แล้วที่นี่ล่ะ ก่อนบรรจุหีบห่อก็ตัดแต่งจนสะอาดหมดจด แถมยังเย็บแ่า ไม่มีทางที่ใส่ไปสองวันแล้วจะขาดอะไรพวกนั้น นี่ทำให้ฉันสบายใจมาก"
"เสื้อผ้าทางใต้น่ะ ลูกค้ามักจะกลับมาหาบริการหลังการขายเสมอ ฉันวุ่นวายกับเื่เล็กๆ น้อยๆ พวกนี้จนหัวหมุนหมดแล้ว จนต้องจ้างช่างฝีมือดีมานั่งประจำอยู่ที่ร้าน คอยบริการลูกค้าที่เสื้อผ้าขาด กระดุมหลุด หรือด้ายเย็บเบี้ยว แต่เสื้อผ้าที่รับมาจากที่นี่ ไม่มีสักตัวที่ด้ายหลุด"
คุณภาพนี้ทำให้หนิวต้าลี่ประหลาดใจมาก แสดงว่าเสื้อผ้าหลันเยว่ทุกชิ้นเป็สินค้าคุณภาพ ไม่มีสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่อย่างนั้นจะสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้มากขนาดนี้ในเวลาเพียงสองเดือนกว่าๆ ได้อย่างไร ตอนนี้ยอดขายครึ่งหนึ่งของห้างสรรพสินค้าของเขามาจากเสื้อผ้าหลันเยว่
"ได้รับคำชมจากคุณลุงหนิวขนาดนี้ หลันเยว่รู้สึกเป็เกียรติมากจริงๆ ค่ะ คำชมของคุณลุงก็เป็การยืนยันถึงคนงานของเราด้วย แสดงให้เห็นว่าผลงานของพวกเขาน่าพอใจ ผลงานนั้นมั่นคง และการเสียสละก็คุ้มค่าค่ะ"
ต่อหน้าคนงาน หมี่หลันเยว่ก็ให้การยอมรับผลงานของคนงานของเธออย่างเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ยังต่อหน้าลูกค้าอีกด้วย ไม่ใช่เวลาที่จะมาถ่อมตัว คุณภาพคือเหตุผลที่หนักแน่นของผลิตภัณฑ์ เมื่อพูดถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ หมี่หลันเยว่กล้าที่จะรับประกัน
"ฉันชอบทัศนคติแบบนี้ของเธอ ตอนที่ควรจะถ่อมตัวก็ถ่อมตัว ตอนที่ควรจะหนักแน่นก็หนักแน่น ทำทุกอย่างได้อย่างชัดเจน"
หนิวต้าลี่เห็นแล้วว่าตอนที่หมี่หลันเยว่พูดถึงคุณภาพของเสื้อผ้า สีหน้าของคนงานนั้นเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและความภูมิใจในตัวเ้านายสาวของตัวเอง
หมี่หลันเยว่พาหนิวต้าลี่เดินดูรอบโรงงาน หนิวต้าลี่ไม่ได้ให้ข้อเสนอแนะอะไร เขาก็แค่เป็ผู้จัดจำหน่ายเสื้อผ้า สำหรับการตัดเย็บเสื้อผ้า เขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ก็เลยไม่ได้โอ้อวดอย่างไม่ระมัดระวัง หนิวต้าลี่ถ่อมตัวมากในอุตสาหกรรมที่ไม่คุ้นเคย เขาชมคนงานในโรงงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า กว่าจะออกจากประตูโรงงาน
"คุณลุงหนิว ถ้าครั้งหน้าคุณลุงมาสั่งสินค้าที่นี่ก่อนกำหนด ฉันคิดว่าเสื้อผ้าที่คุณลุงจะได้ คุณภาพจะต้องดีกว่าคนอื่นแน่นอนค่ะ"
หมี่หลันเยว่พูดติดตลกข้างๆ คุณลุงหนิว
"ทำไมล่ะ?"
หนิวต้าลี่ยังไม่ได้ตอบสนอง
"คุณลุงชมคนงานในโรงงานของเราแล้ว พวกเขาจะไม่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อคุณลุงได้ยังไงล่ะคะ?"
หนิวต้าลี่ถูกหมี่หลันเยว่ทำให้ขำ รู้ว่าหมี่หลันเยว่พูดเล่นๆ เสื้อผ้าของเธอ รับประกันเื่คุณภาพอยู่แล้ว ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามคน
พาคนไปที่ร้าน หมี่หลันเยว่เห็นว่าในร้านยังมีคุณลุงอีกสองคนที่นั่งอยู่ ทั้งหมดเคยมากับคุณลุงหนิวแล้ว
"คุณลุงทั้งสองมาแล้ว ทำไมไม่ตามคุณลุงหนิวไปดูหน่อยล่ะคะ?"
ทั้งสองคนโบกมืออย่างสุภาพ แสดงให้เห็นว่าหมี่หลันเยว่ไม่ต้องเกรงใจพวกเขา
"คุณลุงนั่งรอไปก่อนนะคะ"
หมี่หลันเยว่เดินไปหาหลิวลี่ เธอไม่ได้คุยเื่ในร้านกับหลิวลี่มาหลายวันแล้ว
"่นี้ในร้านเป็ยังไงบ้างคะ ลูกค้าเยอะไหมคะ?"
"เยอะพอสมควรเลยละ ยุ่งมาก แต่ฉันต้องขอบคุณที่ส่งเถียจู้มาช่วย นี่มันคนเก่งชัดๆ ถ้ารู้ว่าเขาเก่งขนาดนี้ เธอควรจะส่งเขามาเร็วกว่านี้ ฉันเพิ่งรู้ว่าคำว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า มันเป็ยังไง ฉันขอยอมแพ้เลย"
"โอ้ มีเื่แบบนี้ด้วยเหรอคะ?"
หมี่หลันเยว่ประหลาดใจมาก หนิวเถียจู้รีบส่ายหน้า แสดงว่าตัวเองยังทำได้ไม่ดีพอ
"ถ่อมตัวมากไปก็คือความหยิ่งแล้วนะคะ พี่เถียจู้ พี่นี่มันของจริง ได้รับคำชมจากพี่หลิวลี่ได้ด้วย"
ไม่คิดเลยว่าที่นี่จะมีขุนพลฝีมือดีอีกคน!
