หากพูดถึงไอเทมของเขา........... ก่อนที่เย่เทียนเซี่ยจะโจมตีแรคคูนปีศาจเขาก็เรียกหน้ากากผู้กล้า ผ้าคลุ่มิญญา เขี้ยวั์และเขี้ยวัปีศาจออกมาสวมใส่ทั้งหมดทำให้ค่าคุณสมบัติของเขาอยู่ในสถานะที่ดีที่สุด ยังไม่ต้องพูดถึงหน้ากากที่เพิ่มคุณสมบัติอันลึกลับเข้ามา เกราะมือที่ทำให้ผู้เล่นคนอื่นๆอิจฉาจนแทบบ้าที่อยู่บนบนมือทั้งสองข้างของเย่เทียนเซี่ยก็สามารถทำให้ดวงตาของจั้วพั่วจวินแดงก่ำเหมือนกระต่ายได้แล้ว ตัวเขาที่เพิ่งได้รับสร้อยข้อมือระดับเงินมาชิ้นหนึ่งเขาก็ดีใจจนแทบบ้าแล้ว แต่หากเทียบกับเย่เทียนเซี่ยในตอนนี้แล้วมันก็ไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วชิ้นหนึ่ง.......... คนที่เหนือกว่าก็มักจะมีไอเทมที่เหนือกว่าสินะ
และสิ่งที่ยิ่งดึงดูสายตาของผู้คนก็คือไอเทมแปลกประหลาดที่เขาถืออยู่ในมือ ลักษณะภายนอกของมันมีบรรยากาศน่ากลัว รูปร่างแปลกประหลาดแบบที่ไม่อาจอธิบายได้ มันไม่ใช่ดาบ และก็ไม่ใช่อาวุธจำพวกทุบด้วย แต่ภายใต้สภาพแวดล้อมโดยรอบที่มีความมืดมนอยู่นิดหน่อยพวกเขาสามารถมองเห็นแสงสีแดงเืเป็รูปขนนกอันหนึ่งที่ส่องสว่างขึ้นมาจาก้าของมันราวกับดวงตาอันโเี้ได้อย่างชัดเจนจนทำให้หัวใจของคนมองกระตุกวูบไป อาวุธเช่นนี้ต่อให้ไม่มีคุณสมบัติ แต่ลักษณะภายนอกที่ทำให้ผู้คนหวาดผวาของมันก็มากพอที่จะทำให้ผู้คนอิจฉาตาร้อนจนอยากจะแย่งมันมาได้แล้ว
นี่คืออาวุธที่พี่รองบอกว่าได้รับมาจากภารกิจลับอย่างหนึ่งสินะ?
ก่อนหน้านี้เย่เทียนเซี่ยเคยพูดถึงห้วงเวลาแห่งโชคชะตาให้พวกเขาฟังแล้ว แต่สิ่งที่เขาไม่อาจบอกออกไปได้ก็คือมันเปลี่ยนรูปมาจากสร้อยคอที่เธอคนนั้นมอบให้เขา แม้กระทั่งชื่อที่แท้จริงของมันเย่เทียนเซี่ยก็ไม่ได้บอกพวกเขาไป เพราะมันลึกลับมากเกินไปดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้คนนอกรู้เื่นี้ และต่อให้เย่เทียนเซี่ยบอกพวกเขาไปพวกเขาก็คงยากที่จะเชื่ออยู่ดี
ด้านหลังของเย่เทียนเซี่ยจั้วพั่วจวินจ้องมองไปยังเกราะมือเขี้ยวัที่ส่องแสงสีขาวและสีดำที่อยู่บนมือของเย่เทียนเซี่ย ด้านหลังของเย่เทียนเซี่ยยังมีผ่าคลุมิญญาที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยไอแห่งความตาย แล้วยังอาวุธแปลกๆดึงดูดให้คนมาปล้นที่อยู่ในมือเขาอีก...... จั้วพั่วจวินได้แต่กลืนน้ำลายเงียบๆ
เมื่อเดินลึกเข้าไปบรรยากาศโดยรอบก็ยิ่งกดดัน แสงสว่างจากภายนอกก็ยิ่งมืดมิดลงมากยิ่งขึ้นราวกับเมฆหมอกสีดำที่ลอยตัวอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่าได้บดบังแสงสว่างที่สาดส่องเข้ามา และยังกดดันให้ผู้คนที่ย่างกรายเข้ามาหายใจไม่สะดวกอีกด้วย
“ยังไม่ถึงอีกเหรอ?” ซูเฟยเฟยถามคำถามนี้ออกมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง เมื่อได้อยู่ข้างกายเย่เทียนเซี่ยแล้วเธอก็ไม่รู้สึกหวาดกลัวอีกต่อไป แต่บรรยากาศในป่าลึกแห่งนี้ทำให้ร่างกายของเธอรู้สึกไม่สบายจนอยากจะออกไปจากที่นี่สักที
“น่าจะใกล้แล้วล่ะ ดูจากระยะห่างแล้ว น่าจะต้องเดินทางไปอีกสิบนาทีได้....... ระวังตัวด้วย ยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไรไอปีศาจก็จะยิ่งหนาแน่น มอนสเตอร์ก็จะยิ่งดุร้ายมากขึ้นเหมือนกัน”
เสียงของเย่เทียนเซี่ยเพิ่งจบไปฝีเท้าของเขาก็หยุดชะงักลงทันที ดวงตาของเขาจ้องมองไปด้านหน้า คนที่ตามมาอีกสามคนหยุดลงแล้วมองไปที่เขาอย่างสงสัย
ในความมืดด้านหน้าปรากฏดวงตามืดมนห้าคู่
“ระวังด้วย มันคือมอนสเตอร์เลเวล 25......” เย่เทียนเซี่ยพูดเสียงต่ำแล้วรีบเดินไปด้านหน้าอย่างว่องไว “พั่วจวิน ใกล้ๆนี้อาจจะมีมอนสเตอร์ตัวอื่นปรากฏตัวออกมาได้ ปกป้องชิวสุ่ยกับเฟยเฟยด้วย!”
พูดจบเขาก็พุ่งเข้าไปหามอนสเตอร์ห้าตัวที่อยู่ด้านหน้า
พยัคฆ์าปีศาจ : เลเวล 25, พลังชีวิต 2,300
เดิมทีมันคือเสือโคร่งธรรมดาที่อาศัยอยู่ภายในป่า แต่หลังจากได้รับผลกระทบจากไอปีศาจมันก็บ้าคลั่ง มันจะฉีกกระชากสิ่งมีชีวิตทุชนิดที่เข้าใกล้อย่างโหดร้าย
พร์ : ไม่มี
ทักษะ
าาพยัคฆ์คำราม : เสียงคำรามดังกึกก้องเพิ่มพลังโจมตีให้ตัวเองและเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ใกล้ๆ15% จะแสดงผลเมื่อพลังชีวิตลดลงต่ำกว่า 50% อัตราการแสดงผลค่อนข้างต่ำ
จุดอ่อน : เนื่องจากมีคุณสมบัติของความมืดจึงหวาดกลัวต่อแสงสว่างและธาตุไฟ
ขณะที่เย่เทียนเซี่ยพุ่งเข้าไปหาพยัคฆ์าปีศาจ พยัคฆ์าปีศาจห้าตัวที่แอบซุ่มอยู่ด้านหลังพุ่มไม้ก็พุ่งเข้ามาหาเขาในเวลาเดียวกัน กรงเล็บพยัคฆ์แหลมคมตวัดมาที่ร่างของเย่เทียนเซี่ยอย่างดุร้าย เย่เทียนเซี่ยคำนวณตำแหน่งอย่างแม่นยำจากนั้นก็ะโโจมตีเข้าไปด้วย “ัสะบั้น” ลงบนหัวของมัน เสียงเปรี้ยงดังขึ้นมา ร่างของพยัคฆ์าปีศาจที่ถูกโจมตีหยุดชะงักและถูกแรงปะทะที่มาพร้อมกับัสะบั้นโจมตีเข้าอย่างจังจนมันล้มลงไปบนพื้น ร่างของเย่เทียนเซี่ยอาศัยช่องว่างนั้นพุ่งตัวไปด้านหน้าเป็เส้นตรงจนกระทั่งไปหยุดอยู่ที่ด้านหลังของพยัคฆ์าปีศาจเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกมันหันไปสนใจคนอีกสามคน
ภายใต้ความกดดันจั้วพั่วจวินยกโล่ขึ้นและมู่หรงชิวสุ่ยเองก็หยิบธนูออกมาพลางส่ายหน้าแล้วพูด “เอาเถอะ ไม่ต้องโจมตีจะดีกว่า ให้พี่รองจัดการคนเดียวก็เหลือแหล่แล้ว ถ้าพวกเราไม่ระวังอาจจะเป็การดึงดูดความเกลียดชังของมันมาก็ได้....... พวกเราคงจัดการมันไม่ไหวหรอก”
เงาร่างของเย่เทียนเซี่ยวูบไหวไปซ้ายทีขวาทีเหมือนภูติผีท่ามกลางการโจมตีของพยัคฆ์าปีศาจทั้งห้าตัวทำให้การโจมตีของพยัคฆ์าปีศาจพลาดเป้าไปทั้งหมด เย่เทียนเซี่ยปลดปล่อยัสะบั้นออกมาสองครั้งฟาดฟันลงไปบนร่างของเป้าหมายทำให้ร่างที่พุ่งไปด้านหน้ากระเด็นกลับไปที่เดิมและทำให้มันตายไปหนึ่งตัว จากนั้นเขาก็รีบหมุนตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว เมื่อคำนวณตำแหน่งอย่างแม่นยำแล้วร่างของเขาก็ะเิการโจมตีออกไป เขาพุ่งเข้าไปหาพยัคฆ์าปีศาจสองตัวที่กำลังพุ่งเข้ามาหาตัวเองแล้วปลดปล่อยทักษะเงาัสะบั้นออกไปหนึ่งครั้ง
ภายใต้ค่าโชคที่สูงถึง 17 หน่วยของเย่เทียนเซี่ย ทักษะเงาัสะบั้นจึงนำมาซึ่งผลลัพธ์สูงถึง 10% และสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพที่สูงขึ้นภายใต้กำมือของเขา พยัคฆ์าปีศาจสองตัวที่เย่เทียนเซี่ยพุ่งผ่านถูกพลังแห่งการโจมตีของเงาัสะบั้นจู่โจมจนล้มลงไปกับพื้น เย่เทียนเซี่ยไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป ร่างของเขาเพิ่งจะหยุดลงบนพื้นเขาก็รีบพลิกตัวกลับไปอย่างรวดเร็วแล้วปีนขึ้นไปบนร่างของพยัคฆ์าปีศาจที่นอนอยู่บนพื้นแล้วใช้ัสะบั้นโจมตีต่อเนื่องเข้าไปอีกสองครั้งจนมันตาย
ภายในระยะเวลาไม่กี่วินาทีพยังคฆ์าปีศาจห้าตัวก็ถูกจัดการไปแล้วสาม ระดับของมันห่างจากเย่เทียนเซี่ยถึง 10 เลเวล จำนวนก็มากกว่าถึง 5 เท่า การต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่กลายเป็ปีศาจห้าตัวกลับถูกเย่เทียนเซี่ยจัดการทั้งหมดเพียงคนเดียว เขาโจมตีพยัคฆ์าปีศาจอย่างต่อเนื่องสองครั้งแต่ร่างของเขากลับไม่ได้รับาเ็ใดๆเลยสักแห่ง แม้กระทั่งชายเสื้อยังไม่ถูกััเลยด้วยซ้ำ จั้วพั่วจวินและมู่หรงชิวสุ่ยที่คุ้ยเคนกับความสามารถของเย่เทียนเซี่ยได้แต่ชื่นชมเขาอยู่ในใจ แต่ซูเฟยเฟย เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังดูหนังแฟนตาซีอยู่
ตอนที่เย่เทียนเซี่ยที่เผชิญหน้ากับพยัคฆ์าปีศาจพร้อมกันสามตัวเพียงคนเดียวได้อย่างง่ายดาย เขาดูผ่อนคลายมาก และในตอนนั้นเองจั้วพั่วจวินและมู่หรงชิวสุ่ยที่มองไปทางเยเทียนเซี่ยอย่างสนใจก็รับรู้ได้พร้อมกันว่าระหว่างที่เย่เทียนเซี่ยหมุนตัวอย่างรวดเร็วก็มีพยัคฆ์าปีศาจตัวหนึ่งพุ่งมาจากทางด้านหลังของพวกเขาอย่างกะทันหัน
จั้วพั่วจวินออกอาการร้อนรน เขารีบปลดปล่อยทักษะยั่วยุใส่พยัคฆ์าปีศาจด้วยความรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป้าหมายในการโจมตีของพยัคฆ์าปีศาจเปลี่ยนแปลงไปทันที จากเดิมที่มันพุ่งเข้าใส่มู่หรงชิวสุ่ยมันก็บิดตัวแล้วพุ่งเข้ามาทางจั้วพั่วจวินทันที
-135,-140,-138……
ตัวเลขความเสียหายลอยขึ้นมาจากศีรษะของจั้วพั่วจวินอย่างต่อเนื่อง ด้วยพลังป้องกันของอาชีพผู้พิทักษ์ตัวเลขความเสียหายที่ได้รับภายใต้การโจมตีของมอนสเตอร์เลเวล 25 ก็ยังคงมากกว่าร้อยหน่วยอยู่ดี แต่สำหรับผู้พิทักษ์การต้านทานมอนสเตอร์หนึ่งตัวที่มีเลเวลเกินกว่าตัวเองมากกว่า 10 เลเวลนั้นไม่ได้กดดันเลยแม้แต่น้อย.......... แต่ถ้าสองตัวละก็เตรียมตัวตายได้เลย
จั้วพั่วจวินดื่มน้ำยาฟื้นฟูไปด้วยพลางยกดาบในมือโจมตีไปทางพยัคฆ์าปีศาจไปพร้อมกัน
พลาด, พลาด, -48.....................
“................” จั้วพั่วจวิน
ความต่างของระดับมากเกินไป เมื่อรวมเข้ากับความสามารถในการโจมตีของผู้พิทักษ์จึงกลายเป็อะไรที่แทบไม่น่ามอง การโจมตีที่เขาสร้างให้กับพยัคฆ์าปีศาจนั้นเรียกได้ว่ากระจอกงอกง่อย แล้วมู่หรงชิวสุ่ยก็กลิ้งเข้ามายืนอยู่ด้านข้างของเขา หลังจากที่เ้าตัวยืนอย่างมั่นคงแล้วก็เริ่มโจมตีอย่างต่อเนื่อง
-61,-72,
-59,-70,
-63,-69……
ดับเบิ้ลชู๊ต : การยิ่งลูกศรออกไปสองลูกอย่างต่อเนื่อง พลังให้การโจมตีแบ่งออกเป็ 70% และ 80% ของพลังโจมตีพื้นฐาน ทักษะนี้ใช้พลังเวทย์ 7 หน่วยและไม่มีคูลดาวน์
เขายิงลูกศรออกไปสองครั้งในคราวเดียวไม่มีพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ความสามารถในการสร้างความเสียหายสูงที่สุดในบรรดาอาชีพทั้งหมดของนักธนูกำลังสะท้อนออกมาแล้วในเวลานี้ ทักษะพื้นฐานของนักธนูสามารถโจมตีใส่พยัคฆ์าปีศาจอย่างต่อเนื่องได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ภายใต้พลังป้องกันและพลังชีวิตอันแข็งแกร่งของพยัคฆ์าปีศาจ ตัวเลขความเสียหายเช่นนี้ดูเหมือนจะค่อนข้างอ่อนแอ แต่พลังชีวิตของพยัคฆ์าปีศาจก็ลดลงด้วยความรวดเร็ว
ซูเฟยเฟยขยับตัวอย่างงกๆเงิ่นๆเพื่อปลดปล่อยทักษะรักษาขั้นต้นของเธอออกมาช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตของจั้วพั่วจวิน ขณะเดียวกันเธอก็มองไปทางเย่เทียนเซี่ยโดยไม่ละสายตา
พวกเขาต่อสู่กับพยัคฆ์าปีศาจอยู่ประมาณห้าวินาที ความเสียหายที่มันได้รับก็เหมือนจะมาจากมู่หรงชิวสุ่ยเกือบทั้งหมด ในที่สุดความเกลียดชังที่เกิดขึ้นก็ทำให้พยัคฆ์าปีศาจเปลี่ยนเป้าหมาย มันหมุนตัวอย่างกะทันหันแล้วคำรามหนึ่งครั้งก่อนจะพุ่งเข้าหามู่หรงชิวสุ่ย
“ชิวสุ่ย!” จั้วพั่วจวินได้แต่นิ่งอึ้ง ทักษะยั่วยุของเขายังเหลือเวลาคูลดาวน์อยู่อีกไม่กี่วินาทีสุดท้ายจึงเป็ไปไม่ได้เลยที่จะดึงดูดความเกลียดชังของพยัคฆ์าปีศาจกลับมาได้ในทันที เขาทำได้แค่ตามไปด้านหลังของพยัคฆ์าปีศาจด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มู่หรงชิวสุ่ยถอยหลังไปอย่างรวดเร็วแล้วทันใดนั้นเงาดำสายหนึ่งก็สว่างวาบขึ้นมาอย่างฉับพลัน
เย่เทียนเซี่ยที่จัดการพยัคฆ์าปีศาจห้าตัวหมดไปแล้วเพิ่งจะมองเห็นฉากที่พยัคฆ์าปีศาจกำลังพุ่งเข้าใส่มู่หรงชิวสุ่ยด้วยความเกลียดชังพอดี ด้วยพลังชีวิตของมู่หรงชิวสุ่ยพยัคฆ์าปีศาจโจมตีเพียงสองครั้งก็เพียงพอที่จะฆ่าเขาได้แล้ว เย่เทียนเซี่ยพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องคิดอะไรมากแล้วใช้ทักษะเงาัสะบั้นออกไปในระยะที่เหมาะสมที่สุด ร่างหนักอึ้งของพยัคฆ์าปีศาจกระเด็นออกไปจากนั้นเย่เทียนเซี่ยก็ตามไปซ้ำด้วยทักษะัสะบั้นอีกครั้งทำให้พลังชีวิตของมันว่างเปล่าไปในทันที
“เฮ้อ..........มอนสเตอร์เลเวล 25 ไม่ใช่อะไรที่พวกเราจะจัดการได้เลย” จั้วพั่วจวินถอนกายใจออกมาแล้วหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาอย่างเศร้าสร้อย “พี่รอง ถ้าไม่มีพวกเรา บางทีพี่อาจจะทำภารกิจสำเร็จไปแล้วก็ได้......แม้แต่ผมหรือชิวสุ่ยก็ไม่อยากหรอกนะ แต่ตอนนี้พวกเราเป็ได้แค่ตัวถ่วงของพี่”
เย่เทียนเซี่ยส่ายหน้าแล้วพูดออกมา “พวกเราเป็พี่น้องกัน ไม่มีอะไรถ่วงกันหรอกน่า ถ้านายเป็ฉัน นายจะคิดว่าฉันถ่วงนายให้ถอยหลังหรือเปล่าล่ะ? ไปเถอะ” พูดจบเย่เทียนเซี่ยก็หมุนตัวกลับไป เขายังคงเดินอยู่ด้านหน้าสุดเหมือนเดิม
ความรู้สึกอบอุ่นปะทุขึ้นในใจของจั้วพั่วจวินและมู่หรงชิวสุ่ยและเอ่อล้นขึ้นมา จากนั้นพวกเขาก็พยักหน้าแรงๆแล้วเดินตามไปด้านหลังของเย่เทียนเซี่ยเงียบๆ เมื่อมองดูปฏิกิริยาของทั้งสองคนหัวใจของซูเฟยเฟยก็เต้นถี่รัวขึ้นมา จั้วพั่วจวิน มู่หรงชิวสุ่ย ลูกชายของผู้นำสูงสุดแห่งหัวเซี่ยและผู้นำของเซิ้งอวี้ คนสองคนนี้ไม่เพียงเป็เพื่อนที่ดีกับเย่เทียนเซี่ย แต่ตอนที่พวกเขาเผชิญหน้ากับเย่เทียนเซี่ยพวกเขายังแสดงท่าทีเคารพออกมาด้วย
เขาใช้วิธีการอะไรทำให้สองคนนั้นประทับใจกันนะ......... แล้วไหนจะยังหลิ่วชีเยว่ผู้ทรงเสน่ห์นั่นอีก
ซูเฟยเฟยอยากจะรู้จักทั้งหมดของเขา แต่เธอรู้ดีว่าการจะรู้จักเขาได้ทั้งหมดนั้นมันเป็เื่ที่ยากเหลือเกิน.......
เมื่อมองแผ่นหลังของเย่เทียนเซี่ย มือของจั้วพั่วจวินก็กระชับโล่ที่อยู่ในมือของเขาแน่น......... เขาคือคนที่มีความภาคภูมิใจและหยิ่งทระนงมากๆคนหนึ่ง เขาจะไม่ยอมให้ตัวเองเป็ภาระของเย่เทียนเซี่ยเด็ดขาด....... แต่ตั้งตอนที่ได้พบเย่เทียนเซี่ยครั้งแรกความปรารถนาอย่างแรงกล้าก็กระตุ้นเขาอยู่ทุกวันทุกคืน
และครั้งนี้ ประโยคนั้นของเย่เทียนเซี่ยก็จุดไฟแห่งความเชื่อมั่นในส่วนลึกของจิตใจเขาขึ้นมาอีกครั้ง
พวกเราคือพี่น้อง........พระจันทร์เป็พยาน สาบานด้วยเื เมื่อเป็พี่น้อง มีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้านมีศัตรูก็ร่วมกันต่อสู้ เย่เทียนเซี่ยได้ช่วยชีวิตของเขามาแล้ว ตอนนี้เขาจะมัวแต่มุดหัวอยู่ได้ยังไง.........
ทำไมตัวเองถึงไม่สามารถพุ่งออกไปช่วยเย่เทียนเซี่ย ปกป้องเขา แล้วกลายเป็แขนขาของเขาได้
เมื่อความเชื่อของคนๆหนึ่งก่อตัวขึ้นพลังที่เกี่ยวโยงกันก็จะแข็งแกร่งและน่ากลัว ระยะเวลาอันยาวนานในภายภาคหน้า “ตุ้นพั่วเชียวจวิน(โล่ทลายพันทัพ)” จะหายไปโดยไร้ข่าวคราว แต่ในปีนั้น โลกแห่ง World of Fate จะจดจำการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ไว้ไม่มีวันลืม ผู้คนทั่วโลกจะจดจำชื่อของเขาเอาไว้
มันคือาที่ไม่มีเย่เทียนเซี่ย าที่เกี่ยวข้องกับความอัปยศระหว่างประเทศ เป็าที่ไม่อาจพ่ายแพ้ เมื่อทุกคนก้าวเข้าสู่ความสิ้นหวัง คนๆหนึ่ง........ คนๆหนึ่งที่ถูกเรียกว่า “โล่ผนึกเทพ” จะใช้โล่และร่างกายของเขาต่อต้านศัตรูนับไม่ถ้วนที่ดาหน้าเข้ามาท่ามกลางเสียงกู่ร้อง ปกป้องประตูด้านหลังที่ไม่อาจให้ใครก้าวข้ามไปได้ ในตอนนั้น World of Fate ต้องสั่นะเืไปเพราะเขา..........โล่ที่ไม่มีวับบุบสลายที่ปกป้องาาปีศาจไร้พ่ายที่อยู่ด้านหลังตลอดกาล!
