--- ดีแลน Talk ---
ณ โกดังเก็บของ DLKK
หลังจากที่ลูกน้องของผมได้ไปจับตัวไอ้พวกคนที่มันบังอาจเบี้ยวหนี้ของผมมาได้ และดูท่าว่าพวกมันคงน่าจะกำลังรอผมให้ไปพิพากษาอยู่นั้น ผมที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ นั่งสงบจิตสงบใจอยู่ในรถสักพักก็ได้เดินลงไปยังสถานที่ที่ลูกน้องของผมจับตัวไอ้พวกหน้าด้านเอาไว้ ทั้งที่แม้ว่าโดยปกติแล้วผมจะปล่อยให้พวกลูกน้องจัดการตามกฎของการเบี้ยวหนี้ไป แต่คงเป็เพราะว่าหลายวันมานี้ผมอารมณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไรประจวบกับอยากจะหาที่ระบายพอดี ยังไงซะ...วันนี้ผมก็ขอมาปลดปล่อยเล่นกับเหยื่อสักหน่อยให้หายเซ็งก็แล้วกัน...หึหึหึ
ผมเดินเข้ามาด้วยท่วงท่าสบาย ๆ ก่อนที่บรรดาลูกน้องทั้งหลายจะก้มหัวทำความเคารพผมอย่างนอบน้อมทันทีที่เห็นผม
"สวัสดีครับนาย... / สวัสดีครับนาย.../ สวัสดีครับนาย..."
หลายเสียงประสานกันอย่างพร้อมเพรียง ก่อนที่ไอ้ริกลูกน้องคนสนิทของผมก็รีบรายงานถึงข้อมูลของคนที่ไปจับตัวมาวันนี้คร่าว ๆ ในขณะที่ผมกำลังหย่อนกายลงนั่งไขว่ห้างยังเก้าอี้ที่ลูกน้องจัดเตรียมเอาไว้ให้
“นายครับ...บุคคลที่ครบตามกำหนดสัญญาจับตัวมาได้แล้วครับ แต่ว่ามีแค่เคสนี้ที่จับมาได้มาแค่คนค้ำนะครับ เรายังไม่ใช่ตัวไอ้คนกู้แต่อีกไม่นานเราจับมันมาได้แน่นอนครับ เพราะตอนนี้สายของเราจับความเคลื่อนไหวของมันได้แล้ว เพียงแต่รอให้แน่ใจอีกนิดเท่านั้นครับ” ริกรายงานด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แต่ท่วงท่ากลับดูนอบน้อม
ผมที่ฟังสิ่งที่ลูกน้องรายงานแต่ไม่ได้โต้ตอบอะไรลูกน้องคนสนิทกลับไป เพราะกำลังรู้สึกระอาอยู่ในใจกับไอ้พวกลูกหนี้ที่มันคิดสั้นเลือกที่จะเบี้ยวหนี้คนอย่างผม
(ชิ...ไอ้พวกนี้นี่มันน่าจับฆ่าหมกปูนจริง ๆ พอถึงเวลาใช้หนี้ไม่ค่อยอยากจะใช้กัน ทำไมถึงชอบเล่นซ่อนแอบกับผมกันนักก็ไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่พวกมันก็ต่างรู้ดีว่าพวกมันหนีผมยังไงก็หนีไม่พ้น แต่ก็ยังดันทุรังจะหนี เหอะ...เอาเถอะ...หนีได้หนีไป แต่อย่าให้ผมเจอตัวแล้วกัน...หึ) ผมแสยะยิ้มร้ายอย่างรู้สึกเหยียดหยาม ก่อนจะปรายตามองไปยังร่างคนตรงหน้าที่นอนฟุบหน้าอยู่ที่พื้นด้านล่างด้วยสายตาขยะแขยง
(แต่ว่าเคสนี้คนค้ำเป็ผู้หญิงเหรอเนี้ย...เหอะ...สงสัยคงจะค้ำประกันให้ผัวซินะ เห้ออออ...ไอ้พวกหน้าตัวเมียพวกนี้นี่ ชอบหลอกให้ผู้หญิงมาค้ำประกันเงินกู้ให้แล้วชิ่งหนี พอถึงเวลาก็มีแต่พวกผู้หญิงนี่แหละที่ต้องมารับกรรมแทน แต่ถึงจะดูน่าสงสารแค่ไหนแต่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้...ก็อยากโง่ให้ไอ้พวกผู้ชายพวกนั้นมันหลอกกันเองนี่...รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรไปค้ำประกันให้ใครแม้กระทั่งคนที่นอนคุยอยู่ทุกคืนก็ตาม...) ผมนึกเย้ยหยันปนเวทนาเคสที่ผ่าน ๆ มาและคนตรงหน้าในใจ ก่อนจะใช้สายตาสำรวจไปยังคนที่ผมเพิ่งดูถูกไปพลาง ๆ
(แต่จะว่าไป...ผู้หญิงคนนี้ก็ดูจะใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะทรวดทรงองค์เอวที่ไม่ใช่แค่สมส่วนและไม่เรียกว่าแค่ใช้ได้ แต่ถึงกับดีมากเลยทีเดียว...เขาเรียกอะไรนะ...แบบเนื้อนมไข่ใช่หรือเปล่านะ ไหนจะผิวที่เนียนขาวละเอียดผุดผ่องที่แค่ได้พิจารณามองทั้งที่ยังไม่ทันได้ััก็พอจะรับรู้ได้ถึงความนุ่มลื่นของเนื้อสาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสายตาซุกซนของผมมันดันเหลือบมองไปยังก้อนเนื้อนุ่มนิ่มที่แม้จะถูกห่อหุ้มด้วยบราเซียสีขาวแต่ก็ยังดันล้นปริออกมาเนื่องจากสาบเสื้อที่แยกออกจากกันเพราะกระดุมที่ใช้ยึดเหนี่ยวหลุดหาย จนความอวบใหญ่กลมกลึงของหญิงสาวถึงกับทำให้ผมลอบกลืนน้ำลายอยู่หลายอึกเหมือนกัน...เฮ้ออออ...ภาพตรงหน้านี้มันช่างทำให้ผมอยากจะ...เห้ยยยย นี่กูคิดอะไรไปไกลขนาดนี้ว่ะ...สติ ๆ ไอ้ดีน...นั่นลูกหนี้มีผัวแล้วนะโว๊ยยยยย...) ผมที่มองคนที่นอนกองไม่ได้สติตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณา ก่อนที่จะสลัดหัวไปมาไล่ความหื่นให้ออกไปจากหัวตัวเอง
และในขณะที่ผมกำลังพยายามดึงสติของตัวเองที่กำลังเตลิดไปไกลให้กลับมาอีกครั้ง ก็เป็จังหวะเดียวกันกับที่ไอ้ริกยื่นเอกสารสัญญากู้ยืมของคนตรงหน้ามาให้ผมดู และในจังหวะที่ผมกำลังกวาดสายตาอ่านรายละเอียดเอกสารในมืออยู่นั้น เธอคนที่ผมเพิ่งเผลอคิดเกินเลยไปไกลก็ได้ฟื้นคืนสติขึ้นมา...
'กรี๊ดดดดด~~ นะ...นี่พวกนายจับฉันมาทำไม ปล่อยฉันไปนะไอ้พวกบ้า!!'
เสียงโวยวายถูกส่งออกมาจากปากเ้าของร่างบางที่เพิ่งฟื้นเมื่อสักครู่นี้ ภาพที่เธอกำลังดีดดิ้นพยายามเพื่อจะหนีไปให้พ้นจากตรงนี้จนผมเผ้ายุ่งเหยิง ทำให้ลูกน้องของผมต้องรีบชาร์ตเข้าประชิดตัวกดไหล่บางเอาไว้ เพื่อกันไม่ให้เธอลุกขึ้นวิ่งหนี
และหลังจากที่ผมปล่อยให้เธอออกฤทธิ์เดชได้สักพัก ผมที่เริ่มชักจะรำคาญเสียงของเธอก็ได้พูดขึ้นเพื่อให้เธอสงบลงสักที
‘ฟื้นสักทีนะ ปล่อยให้กูรอได้ตั้งนาน’ ผมพูดออกไปด้วยความรำคาญ เพราะผมมักจะรู้สึกรำคาญจริตจะก้านของผู้หญิงพวกนี้ โดยเฉพาะอีพวกที่มาเซ็นค้ำหนี้เพราะรักผัวจนตัวเองต้องมาตกระกำลำบากแบบนี้ ผมยิ่งรู้สึกสมเพชอย่างบอกไม่ถูก
และทันทีที่สิ้นเสียงของผม เ้าของร่างบางที่ดีดดิ้นก็พลันหยุดชะงักงันอย่างกับถูกปิดสวิตช์
จากนั้น...ผู้หญิงที่รับรู้ได้ถึงเสียงอันทรงอำนาจของผมก็ค่อย ๆ หันมาทางที่ผมนั่งช้า ๆ แต่ทว่า...เธอกลับไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองผมตรง ๆ แต่เธอเลือกที่จะมองผมไล่ขึ้นมาจากปลายเท้าแทน
(เหอะ...นี่มันคือการดูถูกกันชัด ๆ) ผมคิดหงุดหงิดในใจ
จนกระทั่ง...เมื่อผมที่เริ่มจะเหลืออดต่อพฤติกรรมของเธอที่ดูไร้มารยาทเอาแต่จ้องสำรวจผมไม่วางตา ก็ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดกับคนตรงหน้าจนอดไม่ไหวที่จะตะคอกเธอออกไป
‘มึงมองพอหรือยัง...ห๊ะ!!’
สิ้นเสียงที่ดังก้องกังวานของผม ผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการสำรวจเรือนร่างของผมก็ถึงกับสะดุ้งโหยงรีบเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยความใ...แต่ใครมันจะไปคาดคิดว่าทันทีที่ผมได้เห็นใบหน้าของเธอเต็มสองตา ภาพตรงหน้าถึงกับทำให้หัวใจอันด้านชาของผมกระตุกวูบเต้นระรัวทันที...
(เชี้ยยยย...โคตรน่ารักเลย...ผู้หญิงอะไรวะหน้าตาโคตรตรงสเปค แถมหุ่นก็เอ็กซ์สุด ๆ ...สวยขนาดนี้ผัวทิ้งให้มารับชะตากรรมคนเดียวได้ไงว่ะเนี้ย...) ผมถึงกับตะลึงงันเมื่อได้สบตากับเธอพร้อมกับได้พิจารณาใบหน้าของเธออย่างถี่ถ้วนเต็มสองตา
ภาพหญิงสาวใบหน้ารูปไข่ผิวขาวเนียนละเอียดที่ถูกแต่งแต้มด้วยริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ บวกกับพวงแก้มที่แดงนิด ๆ จากเืฝาดที่ขึ้นมาหล่อเลี้ยงจนดูเปล่งประกายสดใส ช่างดูรับกับจมูกที่เชิดรั้นเป็สันสวย อีกทั้งเมื่อได้มองเข้าไปยังดวงตากลมโตสีนิลดำสนิทที่แม้ว่าตอนนี้จะมีความหวาดหวั่นอยู่ในนั้นก็ตาม แต่ทว่า...แสงประกายความสุกใสของมันช่างเจิดจ้าจนทำให้ผมไม่อาจจะละสายตาไปจากดวงตาสวยคู่นั้นได้เลย...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้