ทันทีที่ย่าหลานสกุลลู่ทั้งห้าคนกลับมาถึงบ้าน คุณย่าลู่ก็กวักมือเรียก เหล่าหลานชายต่างพากันยื่นหน้าเข้ามาหาเธอ
คุณย่าลู่ผลักหัวของลู่ฉี่เสียนออกไป แล้วถามหลานชายอีกสามคนว่า “พวกแกคิดว่า ฮุ่ยฮุ่ยเหมาะจะเป็พี่สะใภ้ของพวกแกไหม?”
สวี่ฮุ่ยเป็ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตนเอง ทั้งยังเป็จ้วงหยวนในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยปีนี้ หน้าตาก็งดงาม
คุณย่าลู่มองยังไงก็ยิ่งชอบ อยากให้เธอมาเป็หลานสะใภ้คนโตของตนเองนัก
ลู่ฉี่เสียนเห็นคุณย่าพูดถึงเื่สำคัญในชีวิตตนเอง ก็เอนหลังพิงโซฟาด้วยสีหน้าเบื่อหน่อย
เด็กสาวเพิ่งอายุแค่นั้น ส่วนตนเองอายุตั้งเท่าไหร่แล้ว คุณย่าจับคู่มั่วซั่วไปหน่อยไหม!
หลานชายคนอื่น ๆ ต่างมองลู่ฉี่เสียนเป็ตาเดียว แล้วพยักหน้า “ดีครับ เหมาะสมกันมาก แต่พวกเราเห็นด้วยก็ไม่มีประโยชน์ ต้องให้พี่ใหญ่ตกลงด้วย”
คุณย่าลู่ตีหน้านิ่งพูดกับลู่ฉี่เสียนว่า “แกอย่ามาเล่นตัว ผู้หญิงที่เพียบพร้อมขนาดนี้ ถ้าแกปฏิเสธ เดี๋ยวก็โดนคนอื่นคว้าไปหรอก!”
ลู่ฉี่เสียนขมวดคิ้ว “คุณย่า พวกเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอครับ ว่าจะให้เวลาผมอีกสามปี ถ้าสามปีหลังจากนี้ ยังไม่มีข่าวคราวของเถาเถา ผมจะยอมทำตามที่คุณย่าจัดการให้ คุณย่าต้องรักษาสัญญานะครับ!”
คุณย่าลู่ตกตะลึง ถามหลานชายอีกสามคนตาปริบ ๆ “ฉันเคยพูดแบบนั้นด้วยเหรอ?”
หลานชายทั้งสามต่างหดหัวเข้ากระดอง ส่ายหน้าพร้อมกัน “ไม่เคย ไม่เคยเลยครับ! คุณย่าไม่มีทางผิดคำพูดหรอกครับ!”
“เห็นไหม” คุณย่าลู่แบมือให้ลู่ฉี่เสียน แล้วพูดไร้เดียงสา “ฉันไม่ได้พูด แกใส่ร้ายฉัน”
ลู่ฉี่เสียนใช้มือข้างหนึ่งเท้าคาง มองคุณย่ากับน้องชายทั้งสามด้วยสีหน้าว่างเปล่า
คุณย่าไม่ต้องเป็อาจารย์สอนหนังสือ เขียนนิยายอะไรนั่นแล้ว ไปเป็นักแสดงเถอะ รับรองได้รางวัลออสการ์แน่
ส่วนน้องชายทั้งสามคน เกิดมาเพื่อเป็คนทรยศโดยแท้
“ไม่ว่าคุณย่าจะเคยพูดแบบนั้นหรือไม่ ยังไงผมก็จะไม่แต่งงานกับสวี่ฮุ่ยครับ”
ลู่ฉี่เสียนลุกขึ้นยืน “ผมกลับแล้ว” ก่อนจะสาวเท้าเดินออกไปทันที
คุณย่าะโไล่หลัง “ไม่อยากรีบแต่งตอนนี้ ลองคบกันก่อนก็ได้นี่!”
ลู่ฉี่เสียนเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
เขาขับรถกลับถึงบ้านพักพนักงานของสถานีตำรวจก็ปาเข้าไปสองทุ่มกว่าแล้ว
อากาศร้อนอบอ้าว เพื่อนบ้านหลายคนนั่งตากลมอยู่ในบ้านพัก พวกเขายกเก้าอี้เตี้ยมานั่งคุยเล่นกันเป็กลุ่ม ๆ
ลู่ฉี่เสียนเพิ่งจอดรถ หลูเจียิ่ก็เดินเข้ามาหา
ถามด้วยความเป็ห่วงว่า “ทำไมวันนี้พี่ไม่อยู่บ้าน?”
“ครั้งที่แล้วพี่ติดธุระ แม่ฉันเลยเปลี่ยนมาตุ๋นซุปกระดูกหมูรากบัววันนี้ อยากให้พี่มาทานด้วย น้องสาวฉันมาบ้านนายหลายรอบก็ไม่เจอนาย”
หลูเจียิ่พูดพลางยื่นมือไปจัดปกเสื้อให้เขา แต่ลู่ฉี่เสียนเบี่ยงตัวหลบ
“วันนี้ฉันอยู่บ้านคุณย่าทั้งวัน”
ลู่ฉี่เสียนหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วมองไปยังเพื่อนบ้านที่มองมาทางพวกเขา พูดตรง ๆ ว่า “อย่าทำท่าสนิทสนมกับฉันแบบนี้ ฉันกลัวคนอื่นจะเข้าใจผิด”
หลูเจียิ่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิด เพื่อที่แม่ของเธอจะได้กดดันให้เขาแต่งงานกับเธอ
หลูเจียิ่พูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อกึ่งจริงกึ่งเล่นว่า “ฉันแย่มากขนาดนั้นเลยเหรอ พี่ถึงกลัวคนอื่นเข้าใจความสัมพันธ์ของเราผิด”
ลู่ฉี่เสียนพูดอย่างจริงจัง “ไม่เกี่ยวว่าเธอแย่หรือไม่แย่ ฉันเป็ผู้ชาย ต่อให้โดนเข้าใจผิดก็ไม่เป็ไร แต่เธอเป็ผู้หญิง ถ้าโดนคนอื่นเข้าใจผิดแล้วจะหาแฟนยังไง?”
“งั้นพี่ก็แต่งงานกับฉันสิ” หลูเจียิ่หน้าแดงก่ำ พูดพลางยิ้ม
แววตาของลู่ฉี่เสียนเ็าลงทันที “อย่าล้อเล่นกับฉันแบบนี้ มันไม่ตลก แถมยังทำให้ฉันรังเกียจด้วย!” พูดจบก็หันหลังขึ้นบ้านไป
หลูเจียิ่ระงับความผิดหวังและความไม่พอใจไว้ในใจ พูดไล่หลัง “พี่อาเสียน พี่ไม่ไปกินซุปกระดูกหมูรากบัวที่บ้านฉันเหรอ? แม่ฉันรอพี่แย่”
ลู่ฉี่เสียนตอบโดยไม่หันกลับมามอง “ฉันกินข้าวที่บ้านคุณย่าจนอิ่มมาก ตอนนี้กินอะไรไม่ลงแล้ว ฝากขอบคุณป้าด้วย”
หลูเจียิ่ได้แต่กัดริมฝีปากแน่นแล้วกลับบ้าน
แม่หลูเห็นลูกสาวคนโตกลับมาคนเดียวก็ถามว่า “ทำไมอาเสียนไม่มาด้วยกันล่ะ?”
หลูเจียิ่เล่าข้ออ้างไร้สาระของลู่ฉี่เสียนให้แม่ฟังอย่างเซ็ง ๆ
แม่ของหลูเจียิ่มองซุปกระดูกหมูรากบัวที่เคี่ยวอยู่บนเตาด้วยความหงุดหงิด
ั้แ่ที่เธอบอกลู่ฉี่เสียนเป็นัย ๆ ว่าอยากให้หลูเจียิ่แต่งงานกับเขา เขาก็ไม่เคยมาเหยียบบ้านเธออีกเลย
ลู่ฉี่เสียนอาบน้ำเย็นอย่างสบายใต้ฝักบัว พอออกมาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูจากข้างนอก
เขาใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมเปียกชุ่มพลางถาม “ใครครับ?”
“ฉันเอง เสี่ยวิ่”
ลู่ฉี่เสียนขมวดคิ้ว “มีอะไรเหรอ?”
“ที่บ้านฉันกินซุปกระดูกหมูรากบัวไม่หมด แม่เลยให้ฉันเอามาให้พี่ชามหนึ่ง”
ลู่ฉี่เสียนพูดด้วยน้ำเสียงเ็าผ่านประตูบ้าน “ฉันไม่เอาจริง ๆ เธอเอาไปให้คนอื่นเถอะ”
หลูเจียิ่รออยู่ข้างนอกสักพัก เห็นว่าลู่ฉี่เสียนไม่ยอมเปิดประตู ก็ได้แต่เดินจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์
...
ตอนกลางคืน สวี่ฮุ่ยตกปลาไหลกลับมา ตอนที่เธอเปิดไฟในห้องนั่งเล่น ก็เห็นกู่ซิ่วนั่งจ้องมองเธอนิ่งอยู่บนโซฟาก็ใแทบะโ
กู่ซิ่วเรียกสวี่ฮุ่ยเข้าไปในครัว หยิบเงินหนึ่งพันหยวนออกมาจากตัวยื่นให้เธอ กำชับเคร่งเครียดว่า “แกต้องรักษาสัญญานะ!”
สวี่ฮุ่ยรับเงินมา นับสองรอบแล้วพูดประชดประชัน “ไม่ใช่ทุกคนที่พูดจากลับกลอกเหมือนแม่นะคะ วางใจเถอะ นับจากนี้เป็ต้นไป หนูจะไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
กู่ซิ่วถึงค่อยวางใจแล้วกลับไปนอน
สวี่ฮุ่ยมองแผ่นหลังของเธอที่เดินจากไปอย่างเ็า แค่นเสียงเย้ยหยันในใจ อยากให้ฉันรักษาสัญญา ฝันไปเถอะ
ขอเพียงเธอมีหลักฐานแน่ชัดอยู่ในมือ เธอจะบอกความลับของกู่ซิ่วกับสวี่ต้าซานรู้ทำให้กู่ซิ่วไม่มีความสุข
ชาติที่แล้วกู่ซิ่วทำเธอไว้เจ็บแสบขนาดนั้น ยังไงชาตินี้เธอก็ต้องเอาคืนให้ได้!
สวี่ฮุ่ยมองเงินในมือพลางครุ่นคิด
กู่ซิ่วหาเงินได้เร็วขนาดนี้ คงไม่ใช่ไปขอจากชายคนนั้นมานะ
ทำไมชายคนนั้นถึงยอมให้เงินมากมายกับกู่ซิ่วล่ะ หรือเป็เพราะทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกัน?
นึกย้อนไปถึงครั้งก่อนวันที่ชายคนนั้นให้เงินกู่ซิ่ว ก็เป็่ที่สวี่เยว่นอนโรงพยาบาล จำเป็ต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วนพอดี
คงไม่ใช่ว่า...