พอรู้ความชัดเจนว่าผู้ที่้าจัดกระดูกเป็ลิงน้อยตัวหนึ่ง เหลียนเซวียนก็นิ่งงันไปพักใหญ่ นางแอบดูฝูงลิงตีกันก็แล้วไปเถอะ ยังพาลูกลิงาเ็กลับมาอีก
"ข้าจะเอายาแก้ปวดไปละลายน้ำแล้วกรอกใส่ปากมัน ท่านก็ช่วยดามกระดูกให้มันแล้วพันแผลให้เรียบร้อย พักฟื้นสักระยะ ก็น่าจะหาย"
เซวียเสี่ยวหรั่นใช้ตะเกียบคนยาแก้ปวดที่ใส่อยู่ในช้อนให้ละลาย แล้วกรอกใส่ปากลิงน้อยอย่างระมัดระวัง
หลังจากนั้นก็กรอกน้ำมันอีกสองสามช้อน
มือของเหลียนเซวียนมีแต่ดินเหนียว เซวียเสี่ยวหรั่นตักน้ำที่ต้มแล้วใส่ถ้วยให้เขาล้างมือ ก่อนจูงเขาเข้าไปใกล้กับลิงน้อยตัวนั้น
"กระดูกของมันแทงทะลุออกมา สามารถต่อได้ไหม?" เซวียเสี่ยวหรั่นมองเขาอย่างวาดหวัง
เขาไม่ตอบว่าต่อกระดูกเป็หรือไม่ เธอจึงต้อนเป็ดขึ้นคอน [1] บังคับพาเขาเข้ามา เหลียนเซวียนรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
แน่นอนว่าแค่ต่อกระดูกธรรมดาไม่เหลือบ่ากว่าแรงสำหรับเขา
ไหนเลยจะรู้ว่า ในความเข้าใจของเซวียเสี่ยวหรั่น เขาเป็ยอดฝีมือที่พเนจรในยุทธภพ สถานการณ์าเ็ภายนอกเช่นกระดูกหักสำหรับเขาแล้วน่าจะเป็เหมือนข้าวที่กินอยู่ทุกวัน คนป่วยนานวันเข้าก็กลายเป็หมอเสียเอง ดังนั้นเขาต้องมีวิธีต่อกระดูกอย่างแน่นอน
มือของเหลียนเซวียนคลำขาที่หักของลิงน้อย จนแน่ใจรายละเอียดของตำแหน่งที่กระดูกหัก กระดูกของลิงคล้ายคลึงกับของคนมาก การต่อกระดูกให้ลิง เหลียนเซวียนย่อมมีความมั่นใจอยู่หลายส่วน แต่หากต่อกระดูกให้หมูหรือวัว เช่นนั้นก็พูดยาก
เหลียนเซวียนคลำอยู่ครู่หนึ่ง จนเกิดความมั่นใจ
เซวียเสี่ยวหรั่นเดินวนเวียนอยู่ด้านหลังของเขา ยอมเสียสละผ้าเช็ดตัวของตนเอง เอาไปต้มน้ำเดือดฆ่าเชื้อ รอจนแห้งเพื่อเอาไปใช้พักแผลให้ลิงน้อย
ขณะกำลังยุ่งอยู่ ก็เห็นเหลียนเซวียนหันมองมาที่ตนเอง
"หา? เสร็จแล้ว?" เซวียเสี่ยวหรั่นวิ่งเข้าไป
กระดูกของลิงน้อยซึ่งโผล่ออกมาให้เห็นเมื่อครู่ได้รับการต่อกลับเข้าที่แล้ว ยามนี้ยังมีโลหิตบางส่วนไหลจากาแ ขาซ้ายของมันอาบย้อมไปด้วยสีแดงฉาน
"สมกับเป็ยอดฝีมือโดยแท้ ต่อกระดูกยังรวดเร็วขนาดนี้" เซวียเสี่ยวหรั่นสีหน้าเบิกบาน "ข้าจะไปต้มน้ำก่อน จะได้ใช้ผ้าที่ต้มแล้วเช็ดแผลให้มัน อีกสักครู่ค่อยพันแผล"
ขณะกำลังจะหันหลังกลับสายตาเหลือบไปที่อาภรณ์สีขาวของเขา เซวียเสี่ยวหรั่นก็ยิ้มหวานให้เหลียนเซวียน "เอ่อ... เหลียนเซวียน คือว่าข้ายังขาดของอยู่นิดหน่อย"
ขาดของแล้วมาถามเขาทำไม ตอนนี้เขามีอะไรให้นางได้หรือ เหลียนเซวียนนึกข้องใจ
ผ่านไปชั่วครู่ ก็ได้ยินเสียงผ้าขาดแคว่ก หน้าผากของเขาพลันเต้นตุบๆ
อาภรณ์ตัวยาวเดิมทีก็สั้นอยู่แล้ว บัดนี้ความยาวของทั้งสองด้านเหลือแค่หัวเข่า
เซวียเสี่ยวหรั่นถือผ้าเลอะเทอะสองชิ้นในมือพลางฉีกยิ้มกว้าง "ต้องขอบคุณเสื้อคลุมตัวยาวของท่าน ไม่อย่างนั้นจะหาของมีประโยชน์แบบนี้ได้จากที่ไหน"
เหลียนเซวียนนิ่งงัน เขาไม่รู้สาเหตุว่าทำไมสตรีผู้นี้ถึงไม่สวมกระโปรงยาว เสื้อผ้าที่นางสวมเป็แบบสั้นทั้งเสื้อและกางเกง ไม่สวมกระโปรงยาว ช่างประหลาดนัก
ควรรู้ว่าแม้แต่หญิงชาวบ้านทั่วไปยังสวมกระโปรงยาวไม่ว่าฐานะครอบครัวจะยากจนข้นแค้นแค่ไหนก็ตาม
ทว่านางไม่เพียงไม่สวมกระโปรงยาว แม้แต่เสื้อที่สวมใส่ยังดูแปลกมากอีกด้วย เนื้อผ้าเรียบลื่น แต่คงทนแ่า ยามลูบจะมีเสียงสากๆ เนื้อผ้าน่าอัศจรรย์ยิ่ง
เซวียเสี่ยวหรั่นไหนเลยจะแยแสว่าใจเขาคิดอย่างไร เธอหยิบผ้าสองชิ้นที่เพิ่งได้มาใหม่วิ่งไปที่ริมแม่น้ำอย่างกระตือรือร้น
ซักและขยี้จนสะอาดแล้วก็วิ่งกลับมา แล้วโยนผ้าหมาดลงหม้อต้ม
หลังน้ำเดือดก็ช้อนผ้าออกมา แล้วให้เหลียนเซวียนช่วยอบผ้าชิ้นหนึ่งให้แห้ง เพื่อใช้พันแผล ส่วนเธอก็นำอีกชิ้นไปเช็ดทำความสะอาดคราบเืให้ลิงน้อย แน่นอนว่าอีกชิ้นที่เหลือยังคงเป็ผ้าเช็ดตัวของเธอต่อไป
หลังถูกเคี่ยวกรำอยู่พักใหญ่ ในที่สุดขาของลิงน้อยก็ถูกดามด้วยไม้สองท่อนและพันผ้าไว้อย่างแ่า
อาจเป็เพราะได้กินยาแก้ปวด ประกอบกับเสียเืมาก แม้ลิงน้อยจะถูกจับพลิกไปพลิกมาหลายรอบ ก็ยังไม่ได้สติ
"เรียบร้อย ข้าจะต้มน้ำผักคาวมัจฉาให้มันชามหนึ่ง ค่ำหน่อยค่อยป้อนให้มัน ผักคาวมัจฉาช่วยบรรเทาอาการอักเสบและระงับปวด เหมาะกับอาการของลิงน้อยตอนนี้มาก"
เซวียเสี่ยวหรั่นเปลี่ยนเป็หม้ออีกใบ แล้วโยนผักคาวมัจฉาที่ขุดมาใส่ลงไปต้ม
ผักคาวมัจฉา? ผักที่มีกลิ่นคาวปลา? นั่นมันหญ้าจื่อจี๋มิใช่หรือ เหลียนเซวียนที่กลับไปปั้นโอ่งน้ำต่อเหม่อลอยไปชั่วขณะ
หญ้าจื่อจี๋มีรสขม มีฤทธิ์เย็น บำรุงปอด แก้พิษไข้ ลดอาการบวมอักเสบของาแ ขับปัสสาวะ ช่วยแก้อาการท้องร่วงและปวดท้อง เหมาะสำหรับเอามาต้มให้ลิงน้อยดื่ม
แม่นางผู้นี้มีความรู้มากมายจริงๆ แม้ดูเหมือนว่าเป็คนใจร้อนไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย แต่บางครั้งเขาก็รู้สึกทึ่งในมุมมองของนางจริงๆ
น้ำแกงงูที่ตุ๋นไว้สำหรับมื้อเที่ยงเย็นแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นเอาขึ้นตั้งไฟอุ่นอีกรอบ ทั้งสองต่างเติมท้องของตนเองให้เต็มตามอัธยาศัย
เซวียเสี่ยวหรั่นซดน้ำแกงโฮกๆ ไปครึ่งชา หลังจากนั้นก็วางตะเกียบไว้ด้านข้าง คิดไว้ว่าจะออกไปข้างนอก
"เหลียนเซวียนท่านช่วยดูไฟหน่อย ข้าจะออกไปอีกรอบ หากดินเหนียวยังมีเหลืออยู่ ก็ปั้นช้อนกับชามอีกชุดหนึ่งเถอะ ลิงน้อยจำเป็ต้องใช้ทีหลัง เอ้อ... ปั้นอ่างล้างหน้าสักใบก็ได้ เอาไว้ใช้ล้างหน้าสะดวกดี ฮิๆ ท่านดูเอาตามสบาย ข้าไปล่ะ"
เธอหยิบมีดพับเล่มเล็ก สะพายเป้ขึ้นหลังแล้ววิ่งฉิวออกไปจากถ้ำ
นางไปทางซ้ายอีกแล้ว คิดฉวยโอกาสที่ฝูงลิงไม่อยู่ไปขโมยกล้วยน้ำว้าสินะ
แม่นางผู้นี้ยึดมั่นเื่อาหารการกินอย่างเหนียวแน่น เหลียนเซวียนปรายตาไปที่ปากถ้ำ
เซวียเสี่ยวหรั่นไปดงกล้วยน้ำว้าจริงๆ
ลิงสองฝูงทะเลาะวิวาทกัน เธอเห็นเองกับตา ลิงจำนวนมากตีกันจนหัวร้างข้างแตกเือาบ เซวียเสี่ยวหรั่นคิดว่าพวกมันน่าจะหาสถานที่เหมาะสมซ่อนตัวเพื่อรักษาาแชั่วคราว ่นี้น่าจะยังไม่มาป้วนเปี้ยนแถวดงกล้วย
ดังนั้น... นี่คือโอกาสอันดี
เธอวิ่งไปถึงนอกดงกล้วยในอึดใจเดียว รอบด้านเงียบเชียบมีเพียงเสียงลมครวญหวิวโชยผ่านยอดไม้
"ฮ่า เยี่ยมไปเลย"
เซวียเสี่ยวหรั่นหยิบกิ่งไม้ขึ้นมา เคาะตีไปตลอดทางระหว่างเข้าสู่ดงกล้วย
เซวียเสี่ยวหรั่นเดินวนดูภายในป่ารอบหนึ่งอย่างผ่อนคลาย ฝูงลิงเด็ดกล้วยที่งอมแล้วไปเกือบทั้งหมด ที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่ยังดิบอยู่ ไม่ก็ผลเล็ก
เมื่อเป็เช่นนี้ แน่นอนว่ากล้วยที่เหลืออยู่ย่อมมีมาก
เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มหน้าบาน
เธอใช้เวลาตลอด่บ่ายไปกับการวิ่งไปวิ่งมาระหว่างถ้ำกับดงกล้วย
ก่อนฟ้ามืด มุมหนึ่งของถ้ำก็อัดแน่นไปด้วยกล้วยน้ำว้าใหญ่น้อยจนแทบไม่เหลือพื้นที่ให้หยั่งเท้า
"แฮ่กๆ พอแล้ว เลิกเด็ดชั่วคราว เหลือไว้ให้ฝูงลิงบ้าง ่หน้าหนาวจะได้ไม่ลำบากนัก" เซวียเสี่ยวหรั่นหอบหายใจ พลางหัวเราะอย่างมีความสุข
อย่าเห็นว่าเธอเอาแต่วิ่งไปๆ มาๆ เป็ครึ่งค่อนวัน แท้จริงแล้วขนกล้วยน้ำว้ากลับมาไม่น้อย
ดงกล้วยแห่งนั้นยังมีกล้วยน้ำว้าเหลืออยู่อีกมาก เซวียเสี่ยวหรั่นอุตส่าห์ใจกว้างเหลือไว้ให้เหล่าวานร
ไม่ใช่เพราะกล้วยน้ำว้าเก็บไว้ไม่ได้นานหรอกหรือ เหลียนเซวียนตวัดสายตาใส่นาง
เซวียเสี่ยวหรั่นมองลิงน้อยที่ยังนอนหลับไม่ได้สติอยู่ ก่อนเทน้ำผักคาวมัจฉาที่ต้มเสร็จแล้วใส่ชาม ลิงน้อยทำเสียงฟืดฟาดสองสามครั้ง ลืมตาขึ้นมามองนาง หลังจากนั้นก็หลับต่อ
"ควรตื่นได้แล้ว เ้าหลับมาตลอดบ่ายเลยนะ" เซวียเสี่ยวหรั่นลูบหัวของมัน หากลิงน้อยมีไข้ก็คงลำบาก
ลิงน้อยตื่นมาสักพักแล้ว ตอนเผาเครื่องปั้นดินเผา แสงไฟในถ้ำลุกโชติ่ มันคงจะตื่นเพราะความร้อนระอุ พอเห็นเปลวเพลิงก็ใร้องเจี๊ยกๆ อยากจะหนีแต่ลุกไม่ขึ้น ขยับตัวไปมาครู่หนึ่งก็หมดสติไปอีก
"ช่างเถอะ ให้มันหลับก่อนก็ได้ เอาถ้วยโถเหล่านี้ออกไปล้างทำความสะอาดก่อนดีกว่า"
เซวียเสี่ยวหรั่นหันไปขุดเอาเครื่องปั้นดินเผาที่ตั้งไว้จนเย็นแล้ว เอามาวางซ้อนกันก่อนยกออกไปริมแม่น้ำ
...
[1] ต้อนเป็ดขึ้นคอน หมายถึง การมัดมือชก บีบบังคับให้ผู้อื่นทำบางอย่างโดยไม่สนใจว่าเขาจะเต็มใจหรือไม่