แผ่นดินชางหลานมีอากาศเย็นสบายทุกฤดู พืชผลบนที่นาิญญาสามารถเก็บเกี่ยวได้ปีละหลายครั้ง ในเดือนนี้พืชผลบนที่นาิญญาเติบโตขึ้นอย่างอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากจุนห่าวรดน้ำ ด้วยน้ำจากบ่อโอสถทุกครั้ง ดังนั้นพืชผลบนที่นาิญญาของจุนห่าวจึงเติบโตได้ดีกว่าคนอื่น ตามที่จุนห่าวคาดการณ์ อีกประมาณหนึ่งเดือน ข้าวิญญาของเขาก็จะโตเต็มที่และพืชิญญาส่วนหนึ่งก็จะเริ่มเก็บได้แล้ว ซึ่งเป็สิ่งที่พวกเขากินในตอนนี้ จุนห่าวเลิกปลูกข้าวิญญาและพืชิญญาในเทศะแล้ว ตอนนี้ในเทศะมีเพียงนมผลไม้และหญ้าิญญาล้ำค่าเท่านั้น
หญ้าไหมเงินเปลวไฟโลหิตค่อนข้างโตช้า แต่การเพิ่มน้ำโอสถทำให้บ่มเพาะได้เร็วกว่าการปลูกแบบธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด อีกสองเดือนหญ้าก็จะโตเต็มที่ การปลูกพืชผลบนที่นาิญญาของจุนห่าวมีรูปแบบที่ยอดเยี่ยม ชาวบ้านจำนวนมากจึงมักจะมาเยี่ยมชมและชื่นชมจุนห่าวที่ดูแลผืนนาได้อย่างดี
หลังจากลูกครบหนึ่งเดือนแล้ว หานรุ่ยและจุนห่าวก็พาเด็ก ๆ ไปดูแลหญ้าิญญาด้วย เด็ก ๆ ที่นี่ต่างมีสมรรถภาพร่างกายที่แข็งแรง โดยเฉพาะจุนตงและจุนหนาน เพราะตอนที่อยู่ในท้องเด็ก ๆ ได้ดูดซับพลังิญญาไปไม่น้อย แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้บำเพ็ญเพียรด้วยตัวเอง ทว่าพลังิญญาได้ซึบซับเข้าสู่เืเนื้อของพวกเขา ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงมีสมรรถภาพร่างกายที่ดีกว่าเด็กคนอื่น
ยามที่จุนห่าวทำงาน หานรุ่ยจะพาลูก ๆ ไปดูอยู่ข้าง ๆ เมื่อจุนห่าวเห็นพวกเขาก็พลันเกิดพลังเต็มเปี่ยม ไม่ใช่ว่าหานรุ่ยไม่อยากช่วย แต่เพราะหานรุ่ยมีรากิญญาคู่ คือ ไฟและสายฟ้า โดยกำเนิด จึงไม่เหมาะที่จะดูแลที่นา คนที่ดูแลที่นาจำเป็จะต้องมีรากิญญา น้ำและไม้ เพียงแค่สองชนิดนี้เท่านั้น จุนห่าวมีห้ารากิญญาจึงสามารถดูแลนาที่ิญญาได้อย่างไม่มีปัญหา
“คุณชายจุน คุณชายหาน พวกท่านพาลูกไปดูแลที่ที่นาิญญาอีกแล้วหรือ?” เฉินเสาอวี่ถามขึ้น เฉินเสาอวี่ คือ ผู้ใหญ่บ้านซวงเอ๋อร์ของหมู่บ้านเหมยหลิน ปีนี้มีอายุ 16 ปี หน้าตางดงามมาก มีรากิญญาไม้ น้ำและดิน มีพลังปราณอยู่ที่ลมปราณขั้นที่หนึ่ง เฉินเสาอวี่ คือ ซวงเอ๋อร์ที่งดงามที่สุดในหมู่บ้านเหมยหลิน อีกทั้งยังบำเพ็ญเพียรได้ แม้ว่าเขาจะเป็ซวงเอ๋อร์ แต่มีคนฐานะร่ำรวยหลายคนอยากตบแต่งให้เขาเป็ภรรยาเอก (ซวงเอ๋อร์บนแผ่นดินชางหลานจะมีฐานะต่ำกว่า หากไม่ใช่คนที่โดดเด่นเป็พิเศษ โดยปกติจะเป็ได้แค่อนุภรรยา) ทว่าเฉินเสาอวี่เป็คนช่างเลือก จึงไม่สนใจคนพวกนั้น ทว่าั้แ่เห็นจุนห่าวในหมู่บ้านแห่งนี้ เขาก็ตกหลุมรักจุนห่าวทันที เขารู้สึกว่าชายหนุ่มอย่างจุนห่าวเท่านั้นที่คู่ควรกับเขา ฉะนั้นไม่ว่าจะมีธุระหรือไม่ เขาก็มักจะมาหาจุนห่าว และใช้โอกาสนี้พูดคุยกับจุนห่าวเป็ครั้งคราว
ผ่านมาก็นานแล้ว จุนห่าวยังไม่เคยสบตาเขาตรง ๆ เลยแม้แต่น้อย ยิ่งจุนห่าวไม่สนใจเขามากเท่าไร ก็ยิ่งกระตุ้นความอยากเอาชนะของเฉินเสาอวี่เท่านั้น และยิ่งสร้างแรงผลักดันให้เฉินเสาอวี่อยากเขาให้จงได้ ครั้งแรกที่เฉินเสาอวี่ได้พบกับหานรุ่ย ก็หลังจากที่รู้ว่าจุนห่าวมีภรรยาเป็ซวงเอ๋อร์ เขาก็เริ่มอิจฉาริษยาหานรุ่ย เขาอิจฉาหานรุ่ยที่ขี้เหร่ถึงเพียงนี้ แต่กลับได้แต่งงานกับจุนห่าวที่หล่อเหลา
หลังจากรู้ว่า จุนห่าวมีภรรยาซวงเอ๋อร์หน้าตาขี้เหร่ ความมั่นใจของเขายิ่งทวีคูณ เขาคิดว่าที่จุนห่าวแต่งงานกับคนน่าเกลียดเช่นหานรุ่ยต้องไม่ได้สมัครใจเป็แน่ ตราบใดที่เขาพยายามพิชิตใจจุนห่าว อีกทั้งรูปโฉมของเขางดงามถึงเพียงนี้ จุนห่าวจะไม่รักเขาได้อย่างไร
"ใช่แล้ว! จุนห่าวพูดว่าหากข้าและลูก ๆ อยู่ข้างกายเขา เขาจะมีแรงใจและทำงานได้เร็วขึ้น” หานรุ่ยพูดพลางหัวเราะแก้เก้อ ในขณะที่กำลังอุ้มลูกอยู่ พร้อมน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความสุข เขามองออกแต่แรกแล้วว่าเฉินเสาอวี่ชอบจุนห่าว ทุกครั้งที่เห็นจุนห่าว ก็จะเห็นแววตาวาววับของเฉินเสาอวี่ที่มองจุนห่าวอย่างหวานเยิ้ม และตัวติดหนึบกับจุนห่าวอยู่ตลอดเวลา แต่พอหานรุ่ย เขามองอย่างกับเป็คู่แค้น เกลียดจนเเทบอยากจะกินเืกินเนื้อเขา อย่างไรก็ตามการที่จุนห่าวเมินเฉยต่อแววตาหวานหยดย้อยของเฉินเสาอวี่ ทำให้หานรุ่ยรู้สึกดียิ่งนัก
เฉินเสาอวี่เห็นหานรุ่ยที่กำลังหัวเราะยิ้มกว้าง ก็โกรธหน้าเขียว จนหน้าตาบิดเบี้ยวไปหมด เขากำมือแน่น และพูดพลางกัดริมฝีปากว่า “คุณชายหานนี่ ช่างโชคดีเสียจริง ที่ได้เจอคุณชายจุนที่ดีปานฉะนี้” ทว่าเขาแอบคิดในใจ ยังไม่แน่หรอกนะ ว่าใครจะชนะ หน้าตาขี้เหร่เยี่ยงนี้ ไม่อายบ้างเลยหรือ เขาจะต้องแย่งจุนห่าวมาให้ได้
“ก็คงใช่ ตอนที่ข้ายังเด็ก หมอดูตรวจดวงชะตากล่าวว่าข้าเป็คนที่โชคดี ข้าคิดว่าการที่ได้แต่งงานกับจุนห่าว ถือเป็เื่ที่โชคดีที่สุดของข้าแล้ว และข้าเป็คนหวงแหนโชคแห่งความสุข เพราะฉะนั้นผู้อื่นจึงไม่มีโอกาสมาฉกฉวยโชคของข้าไปได้แน่”
จุนห่าวก็ไม่ใช่คนโง่ การที่บังเอิญพบเฉินเสาอวี่หลายต่อหลายครั้ง เขาเองก็ไม่เชื่อว่าจะเป็เื่บังเอิญ และแววตาหวานเยิ้มที่มองเขานั้น เขาจึงมองออกว่าเฉินเสาอวี่คิดอย่างไรกับเขา อย่างไรก็ตาม จุนห่าวกลับรู้สึกเบื่อหน่ายต่อแววตาหวานหยดย้อยของเฉินเสาอวี่ บัดนี้เขาคือสามีที่มีลูกแล้ว เฉินเสาอวี่ก็ยังจะมายุ่งกับเขาอีก เห็นได้เลยว่า กมลสันดานมีปัญหา หากหานรุ่ยใช้แววตาแบบนั้นมองเขาล่ะก็ เขาคงทำให้หานรุ่ยนอนอยู่บนพื้นเบื้องล่างและทำโทษเขาเป็แน่แล้ว พอฉุกคิดถึงเื่นี้จุนห่าวก็รู้สึกเขินอายขึ้นมา จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ทะลวงด่านสุดท้ายกับหานรุ่ยเลย ทุกครั้งที่เขาอยากจะไปไกลกว่านี้ เด็กทั้งสองคนก็ดันมาสร้างปัญหาเสียก่อน ว่ากันว่าการมีลูกคือ ภาระ ตอนนี้เขารู้ซึ้งแล้ว
ขณะที่จุนห่าวกำลังครุ่นคิดอะไรไปเรื่อยอยู่นั้น ก็พลันเห็นหานรุ่ยที่กำลังยิ้มสดใสให้กับเฉินเสาอวี่ จุนห่าวมองดูด้วยสายตาดุดัน พร้อมพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เสี่ยวรุ่ย เ้ายิ้มสดใสให้เขาทำไมกัน เ้าไม่เคยยิ้มให้ข้าอย่างนั้นมาก่อนเลย เป็เพราะเขาหน้าตาดีกว่าข้ารึ” จากนั้นเขาก็มองเฉินเสาอวี่ครู่หนึ่ง และกล่าวขึ้นว่า “เ้าก็หน้าตาธรรมดา ๆ ดูดีกว่าข้าตรงไหนกัน”
เฉินเสาอวี่มองจุนห่าว มองแล้วมองอีก มองจนรู้สึกเปี่ยมสุขในใจ ทว่าพอได้ยินจุนห่าวกล่าวว่าเขาหน้าตาธรรมดา ๆ ก็พลันกระทืบเท้าอย่างโกรธเคือง แล้ววิ่งเตลิดหนีไป
เมื่อมองดูเงาของเฉินเสาอวี่ที่วิ่งเลือนไป หานรุ่ยก็พูดขึ้นอย่างจนใจว่า “เขาชอบเ้า คนที่ต้องหึงควรเป็ข้า เ้าหึงแทนข้าทำไมกัน ทำเขาโกรธ จนวิ่งเตลิดไปแล้ว” ถึงหานรุ่ยจะพูดอย่างนี้ แต่ในใจกลับมีความสุขมาก
“ข้าไม่ชอบที่เ้ายิ้มให้คนอื่น เ้าเป็ของข้า เ้าต้องยิ้มให้ข้าคนเดียว อีกอย่างคนอื่นมาชอบข้า ก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของข้า เขาชอบข้า มันก็คือเื่ของเขา ข้าไม่ได้ชอบเขา มันก็คือเื่ของข้า อย่าบอกนะว่า เ้าชอบเห็นข้าอ่อนโยนต่อคนอื่นที่มาชอบข้า ก็ข้ารักและใส่ใจเ้านี่”
พอหานรุ่ยนึกถึงความเป็ไปได้นี้ จึงพูดว่า “ไม่อยาก แค่คิดข้าก็โกรธจนแทบคลั่งแล้ว”
“ถูกต้องไหมล่ะ หากข้าอ่อนโยนกับคนอื่น ก็จะเป็การทำร้ายเ้า หัวใจดวงน้อยของข้า...” จุนห่าวกล่าว พลางชี้ไปที่อกข้างซ้ายของตนเอง “เล็กขนาดใส่เ้าได้แค่คนเดียว”
หลังได้ฟังจุนห่าว หานรุ่ยก็รู้สึกสุขใจในทันที เขาพูดพลางหัวเราะว่า “‘ถ้าอย่างนั้นลูก ๆ ล่ะ อย่าบอกนะว่า ในหัวใจของเ้าไม่มีลูก?”
จุนห่าวกล่าว “ถึงแม้จะใส่เ้าเข้าไปได้แค่คนเดียว แต่ยังให้พวกลูก ๆ เบียดเข้าไปได้อีกหน่อย สักวันพวกเขาก็จะมีคนรักเป็ของตนเอง สุดท้ายในใจของข้าก็จะเหลือเพียงเ้าคนเดียว”
พอได้ฟังจุนห่าวแล้ว หานรุ่ยก็พูดพร้อมหน้าแดงว่า “เ้านี่ช่างกะล่อนเสียจริง ข้าไปละ งานที่นายังรอเ้าอยู่นะ” พูดจบก็อุ้มลูก ๆ เดินไป
เมื่อเห็นหานรุ่ยเดินจ้ำอ้าวไป จุนห่าวจึงรีบเดินตามไป พลางคิดในใจ นี่คือการเขินสินะ