“ถึงอย่างไรต่อไปท่านก็เข้ามายุ่งเกี่ยวไม่ได้แล้ว เพราะข้ากับนางจะยกเลิกการหมั้นหมายกันขอรับ” สีหน้าท่าทางของคุณชายสามหนิงดูอึดอัดใจอยู่หลายส่วน
“ยกเลิกการหมั้น? แต่การหมั้นหมายของพวกเ้าเป็พระราชโองการของฝ่าานะ” ความคิดแรกของกู้เจิงคือฟู่ผิงเซียงหาผู้ชายที่ดีกว่านี้เจอแล้วหรือ? แต่การหมั้นที่ได้รับพระราชทานมาจากฮ่องเต้จะยกเลิกได้ง่ายดายปานนี้เลยหรือไง?
“เช่นนั้นแล้วยังไง? นางถูกพบเห็นในสภาพเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยกับญาติผู้พี่ของนางในโรงเตี๊ยม แม้ว่าข้าจะเป็เพียงบุตรของอนุ แต่ท่านพ่อกับนายหญิงก็ไม่มีทางยอมให้ข้าแต่งงานกับนางแน่นอน วันนี้นางเข้าวังขอพระราชทานอนุญาตเพื่อถอนหมั้นแล้ว” เมื่อพูดจบ คุณชายสามหนิงก็มองกู้เจิงด้วยสายตาขุ่นเคืองทันที
“เ้าคงไม่คิดว่าข้าเป็คนเข้ามายุ่งเกี่ยวเื่นี้กระมัง?” กู้เจิงมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“คุณหนูฟู่บอกข้าว่า นี่เป็ฝีมือของคนตระกูลกู้ จุดประสงค์คือการทำให้นางไม่อาจแต่งงานกับข้าได้ และทำให้นางเสื่อมเสียชื่อเสียง” คุณชายสามหนิงเดินเข้ามาหากู้เจิงอย่างเคียดแค้น
ชุนหงกับหม่าตงเห็นดังนั้นก็รีบเข้ากันให้คุณหนูใหญ่อยู่ด้านหลัง
ทว่ากู้เจิงกลับไม่กลัวคุณชายสามหนิง ตอนที่อยู่ในงานล่าสัตว์ นางเห็นท่าทีของเขาที่มีต่อพี่สาวร่วมอุทร ทำให้นางรู้สึกว่าเขานิสัยใจคอไม่เลวเลย แต่ฟู่ผิงเซียงผู้นั้นกลับทำให้นางปวดหัวนัก “นางบอกว่าเป็ฝีมือของตระกูลกู้หรือ? ไม่กี่วันก่อนนางยังบอกอยู่เลยว่าเื่นี้ตระกูลหนิงของเ้าเป็ผู้อยู่เื้ั”
“เหลวไหล นางเป็ว่าที่ภรรยาข้า เหตุใดตระกูลหนิงของข้าต้องทำเช่นนี้กับนางด้วย?”
“เหตุใดต้องทำเช่นนี้? เ้าคิดไม่ได้หรือ?” กู้เจิงยิ้มเยาะ
คุณชายสามหนิงนิ่งอึ้งไป
“แล้วนางได้บอกเ้าหรือเปล่าว่าเมื่อไม่นานมานี้ นางสะกดรอยตามพี่รองของเ้ามาที่ ‘โรงน้ำชาซูจี้’ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ และนางยังสั่งให้คนของนางตีข้ากับพี่รองของเ้าให้สลบไป เพื่อให้พวกเราเสื่อมเสียชื่อเสียง” เดิมทีกู้เจิงคิดจะปิดบังเื่นี้ แต่อย่างไรเสียเื่นี้ก็เกี่ยวข้องกับคุณหนูรองหนิง และเขาเองก็เป็คนของตระกูลหนิง พูดออกไปคงไม่เป็ไร
“จะเป็ไปได้ยังไง? คุณหนูฟู่เป็คนจิตใจงดงามถึงขนาดนั้น”
“นางเนี่ยนะจิตใจงดงาม?” กู้เจิงรู้สึกว่านี่เป็เื่ขบขันที่สุดที่เคยได้ยินมา นางถามกลับอย่างไม่เกรงใจว่า “เ้าใช้ตาข้างไหนมอง? คงไม่ใช่เพราะนางบอกเ้ากระมัง?”
คุณชายสามหนิงกำหมัดแน่น เขามองกู้เจิงอย่างเคียดแค้น
กู้เจิงไม่รู้ว่าคุณชายสามหนิงผู้นี้คิดอย่างไร และก็ไม่อยากรู้ว่าฟู่ผิงเซียงพูดกับเขาเช่นไร นางเอ่ยเสียงเย็นว่า “หากเ้าไม่เชื่อ ก็ไปถามที่ ‘โรงน้ำชาซูจี้’ ดูได้ เถ้าแก่และลูกจ้างที่นั่นล้วนสามารถเป็พยานได้ว่า ฟู่ผิงเซียงเคยมาที่นี่ นอกจากนี้ รบกวนคุณชายสามหนิงไปสืบหาความจริงเสียก่อนที่จะมาซักถามเื่ราว จะได้ไม่ถูกคนหลอกเอา คิดจะยัดเยียดข้อหาใส่ผู้อื่น ก็อย่าคิดว่าคนอื่นเป็คนโง่หน่อยเลย”
“ไม่ต้องแล้ว ข้าไม่มีฐานะอะไรที่จะไปถามแล้ว” คุณชายสามหนิงพูดจบก็หมุนตัวเตรียมเดินออกจากร้านหนังสือ
“หยุดก่อน” กู้เจิงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา นางกล่าวเสียงเย็นว่า “ไม่ว่าเ้าจะมีฐานะที่จะไปถามหรือไม่ เ้าก็ต้องคิดเื่นี้ให้กระจ่าง ข้าไม่อยากถูกหาว่าสร้างปัญหาให้กับเ้า คุณชายสามหนิง อย่าลืมว่าตอนที่เ้าสอบเข้ารับราชการไม่ผ่าน นางให้บ่าวกล่าววาจาทำเ้าขายหน้าต่อผู้คนข้างนอกว่ายังไงบ้าง และยิ่งต้องไม่ลืมว่า นางหลอกใช้เ้านัดน้องรองของข้าออกไปเพื่อทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขายังไง”
คุณชายสามหนิงคิดไม่ถึงว่า กู้เจิงจะพูดจี้จุดเขาได้ขนาดนี้ สองเื่นี้เป็ความเ็ปในใจเขา เขาหันกายจากไปอย่างเ็ป
ชุนหงและหม่าตงถอนหายใจด้วยความโล่งอก หม่าตงเอ่ยว่า “คุณชายผู้นี้ดูเหมือนจะยังเป็เด็ก ทำไมถึงได้มีร่างกายกำยำขนาดนี้? ดูแล้วออกจะน่ากลัวไปหน่อยนะขอรับ”
“ฟู่ผิงเซียงช่างเลวเสียจริง” ชุนหงพูดอย่างโกรธเคือง “กลับดำเป็ขาวเสียได้”
(*หมายถึง บิดเบือนความจริง)
ตรองดูก็รู้ว่าฟู่ผิงเซียงพูดถึงนางต่อหน้าคนอื่นว่าอย่างไร กู้เจิงคิดไม่ถึงว่าคุณชายสามหนิงผู้นี้จะเชื่อ คิดถึงเื่ของฟู่ผิงเซียงกับญาติผู้พี่ตระกูลวังคนนั้น เฮ้อ ดูเหมือนว่าเื่ราวจะร้ายแรงมาก ดูท่าข่าวลือน่าจะแพร่สะพัดออกไปมากแล้ว มิเช่นนั้นตระกูลหนิงคงไม่เข้าวังเพื่อขอความเมตตาจากฝ่าาให้ยกเลิกการหมั้นหมาย
แต่นี่เป็ฝีมือของตระกูลหนิงจริงๆ น่ะหรือ? ต่อให้ตระกูลหนิงโกรธฟู่ผิงเซียงที่ทำลายการเกี่ยวดองของน้องรองกับหนิงซิ่วอิง แต่อย่างไรเสียฟู่ผิงเซียงก็เป็บุตรสาวของภรรยาเอก ทั้งยังมีแม่ทัพเยี่ยนคอยหนุนหลังเชียวนะ
ช่างเถอะ มันเกี่ยวอะไรกับนาง
ยามกลับมาถึงบ้าน ก็เห็นสองสามีภรรยาเสิ่นช่วยกันกวาดหิมะในลานบ้าน กู้เจิงกับชุนหงต่างรีบเข้าไปช่วย
หลังจากสองสามีภรรยาเสิ่นรับรู้การตัดสินใจของพี่สามกับพี่สะใภ้สามแล้ว ก็ยิ้มพอใจ
ตอนบ่ายไม่มีงานอะไรให้ทําอีก กู้เจิงจึงนั่งรับแดดอยู่กลางลานบ้าน ก่อนจะลุกขึ้นมาปักตุ๊กตาหิมะเล่น นาง ทำทั้งหมดหกตัว แต่ละตัวมีขนาดเท่าฝ่ามือเด็ก ในใจนางคิดว่าหลังทำเสร็จแล้วจะแขวนไว้บนระเบียงทางเดินเพื่อให้เข้ากับฤดูกาล
“ท่านแม่ ให้ข้าช่วยยกน้ำเถอะเ้าค่ะ” กู้เจิงเห็นแม่สามีตักน้ำขึ้นมาจากบ่อ จึงวางงานในมือลงเข้าไปช่วย
“ไม่ต้องหรอก เ้าทำงานของเ้าไป ข้าหิ้วเองได้” นายหญิงเสิ่นปฏิเสธ
กู้เจิงยิ้มน้อยๆ ให้แม่สามี ก่อนจะก้มหน้าเย็บปักต่อ
“ตุ๊กตาหิมะพวกนี้หน้าตาน่ารักจริงๆ” นายหญิงเสิ่นหยิบกระดาษมาดูตุ๊กตาหิมะที่ลูกสะใภ้วาด
“รอข้าทำเสร็จแล้วก็จะแขวนไว้ที่นี่เ้าค่ะ” กู้เจิงชี้ไปที่้าของระเบียงทางเดิน
“ท่านแม่ เื่ไก่และเป็ดของท่านป้าใหญ่ได้ข้อสรุปหรือยังเ้าคะ?” กู้เจิงถามไปพลางทำงานไปด้วย
นายหญิงเสิ่นส่ายหน้า “ยังเลย แต่วันนี้ผู้นำตระกูลจะออกหน้าไปพูดเื่นี้ให้ บ้านเต๋อซิงน่าจะไว้หน้าท่านผู้นำตระกูลอยู่บ้าง”
“บ้านเต๋อซิงนี่ก็แย่เกินไปกระมังเ้าคะ มีคนมากมายเห็นลูกของพวกเขาเล่นซนขนาดนั้น พวกเขากลับยังคิดปัดความรับผิดชอบอีก” บนโลกนี้คนดีก็ดีเกินไป คนเลวก็เลวเกินไป
ขณะนั้นเอง ชุนหก็งวิ่งออกมาจากในสวน นางกล่าวกับกู้เจิงอย่างดีใจว่า “คุณหนู ท่านบุตรเขยกลับมาแล้วเ้าค่ะ”
กู้เจิงกับนายหญิงเสิ่นมองหน้ากัน ตะวันยังไม่ทันลับขอบฟ้า เสิ่นเยี่ยนกลับมาเร็วขนาดนี้เชียวหรือ? ทั้งสองพากันออกไปดู พวกเขาเห็นรถม้าหรูหราคันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน เสิ่นเยี่ยนและกงกงผู้หนึ่งก้าวเท้าลงมาจากรถ
“ท่านแม่ เหนียงจื่อ ท่านนี้คือ ‘หลิวกงกง’ คนสนิทขององค์รัชทายาทขอรับ” เสิ่นเยี่ยนแนะนํากงกงผู้อวบอ้วนผิวขาว ที่ยืนปั้นยิ้มอยู่ข้างเขาให้ทุกคนรู้จัก
กู้เจิงกับนายหญิงเสิ่นรีบทำความเคารพ
“ฮูหยินเสิ่น ฮูหยินน้อยเสิ่น” หลิวกงกงก็ทำความเคารพเช่นกัน เขายิ้มตาหยีพลางหยิบกล่องไม้กล่องหนึ่งจากมือขันทีน้อยมาส่งให้นายหญิงเสิ่น “นี่เป็ของรางวัลที่องค์รัชทายาทมอบให้ใต้เท้าเสิ่น”
นายหญิงเสิ่นเหลือบมองลูกชายแวบหนึ่ง เห็นลูกชายพยักหน้าจึงรับมาและกล่าวขอบคุณ
“องค์รัชทายาทตรัสว่า ฮูหยินเสิ่นสามารถเลี้ยงดูบุตรชายที่ดีเช่นใต้เท้าเสิ่นได้ นับว่าเป็มารดาที่ดีผู้หนึ่ง” พูดจบก็ยิ้มพร้อมมองไปทางกู้เจิง “คุณหนูกู้ คืนนี้เป็งานฉลองวันเกิดของพระชายารัชทายาท ท่านต้องมาให้ได้นะขอรับ ข้าน้อยขอตัวก่อน”
งานฉลองวันเกิดของพระชายารัชทายาท? หลังจากกู้เจิงมองส่งหลิวกงกงจากไป นางก็หันมามองเสิ่นเยี่ยนด้วยแววตาแปลกใจระคนดีใจ
“ที่ข้ากลับมาเร็วขนาดนี้ เพราะอยากให้เ้าเตรียมตัวให้พร้อม” เสิ่นเยี่ยนยิ้มบางๆ
“คุณหนูจะได้เข้าวังหลวงหรือเ้าคะ?” ชุนหงกล่าวด้วยความยินดี นี่ถือเป็เกียรติอันยิ่งใหญ่จริงๆ
เทียบกับความตื่นเต้นของกู้เจิงและชุนหงแล้ว นายหญิงเสิ่นดูจะกังวลเล็กน้อย
ชุนหงเริ่มพลิกเปิดหีบเสื้อผ้า ั้แ่มาอยู่ที่ตระกูลเสิ่นคุณหนูก็ไม่ค่อยได้ใส่เสื้อผ้าดีๆ สักเท่าไหร่ ที่สวมอยู่ล้วนเป็ชุดที่น้าเฝิงส่งมาให้ งานเลี้ยงอาหารค่ำของตำหนักบูรพาในคืนนี้ย่อมต้องนำเสื้อผ้าชั้นดีที่อยู่หีบออกมาใช้
“คุณหนู รีบมาลองเสื้อผ้าเร็วเข้าเ้าค่ะ” ชุนหงยืนะโบอกคุณหนูอยู่นอกประตู
สายตาของกู้เจิงจับจ้องไปที่ห้องนอนของแม่สามี เสิ่นเยี่ยนถูกมารดาเรียกเข้าไป คงจะกำลังคุยเื่งานในจวนขององค์รัชทายาทคืนนี้ ตอนที่หลิวกงกงคนนั้นเอ่ยถึงเื่ที่เชิญนางไปร่วมงานในคืนนี้ นางเหลือบไปเห็นความกังวลในดวงตาของแม่สามี เทียบกับความสุขของนางแล้ว ความกลุ้มใจของแม่สามีดูจะแปลกอยู่บ้าง
“คุณหนู? ท่านกำลังมองอะไรอยู่เ้าคะ?” ชุนหงถามขึ้น เมื่อเห็นกู้เจิงทำท่าทีแปลกๆ
“ไม่มีอะไร” กู้เจิงรีบหยิบเสื้อผ้าในมือชุนหงมา “ข้าจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเ้ามาดูว่าเหมาะสมหรือไม่”
ตำหนักบูรพาของผู้เป็ว่าที่ฮ่องเต้ แต่เสิ่นเยี่ยนเป็เพียงขุนนางเล็กๆ กลับได้รับความโปรดปรานจากองค์รัชทายาท กู้เจิงจะไม่มีความสุขได้อย่างไร? และเขายังมอบของขวัญให้ และถึงขั้นให้กงกงคนสนิทมาส่งให้อีกด้วย องค์รัชทายาทคงจะต้องชื่นชมเสิ่นเยี่ยนเป็อย่างมาก
นางคิดว่า นางเข้าใจว่าแม่สามีกำลังกังวลเื่อะไร นางเองก็กลุ้มใจเล็กน้อยเช่นกัน แต่หากเสิ่นเยี่ยน้าเป็ขุนนาง ก็ต้องเลือกขึ้นเรือลำใดลำหนึ่ง จะรักษาจุดยืนความเป็กลางไว้ย่อมไม่ดีแน่ อย่างน้อยตอนนี้องค์รัชทายาทก็เป็พระยุพราช* แล้ว สามารถปกป้องตวนอ๋องและเสิ่นเยี่ยนได้ คงจะไม่เลวร้ายไปกว่านี้หรอก
(*ในภาษาจีนเรียกว่า ฉู่จวิน (แปลว่า ว่าที่กษัตริย์) คือรัชทายาทที่กษัตริย์สถาปนาตำแหน่งนี้ขึ้น)
ตอนที่เสิ่นเยี่ยนเข้ามาในห้อง ก็เห็นภรรยาเปลี่ยนเป็ชุดผ้าแพรสวยหรูแล้ว พอเห็นเขา ริมฝีปากแดงระเรื่อของนางก็โค้งขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มของนางหอมหวานดุจบุปผา ความงามของนางทำให้ดวงตาของเขาทอประกายลึกล้ำ เดิมนางก็มีรูปโฉมก็ราวกับภาพวาดอยู่แล้ว แต่วันนี้ได้แต่งแต้มแป้งชาด ทำให้ยิ่งเปล่งประกายมากขึ้น
“ชุดนี้ไม่ได้” กู้เจิงถอดเสื้อนอกออก นางชี้ไปยังชุดธรรมดาบนเตียง “เอาตัวนั้นเถอะ”
“ทำไมล่ะเ้าคะ? ชุดนี้ก็ดูดีมากแล้วเ้าค่ะ” ชุนหงไม่เข้าใจ ชุดนี้คุณหนูไม่เคยใส่เลยสักครั้ง