ถ้าได้สักพันล้านเฉินเฟิงคงไม่ลังเล แต่หลี่ชิงเจาอธิบายชัดเจนแล้วว่าตอนนี้เงินสำรองของธนาคารเหลือไม่มาก
ยิ่งกว่านั้นเขายังเป็ลูกค้าที่มาขอสินเชื่อครั้งแรก เอกสารการเงินก็ไม่ครบถ้วน โชคดียังพอมีเส้นสายกับผู้เฒ่าหวังอยู่บ้าง ทางธนาคารจึงพิจารณาให้เขากู้ร้อยล้าน ไม่งั้นอย่าว่าแต่เงินล้าน เผลอๆ เงินแสนก็อาจไม่ได้แตะ
"เอาละ คุณเฉิน กรุณาส่งมอบเอกสารทั้งหมดของโรงแรมเฉียนต๋าและสัญญาซื้อขายที่ดินสองแปลงให้ฉันด้วยค่ะ ดิฉันจะดำเนินการให้คุณอย่างเร็วที่สุด ถ้าเป็คนอื่น อย่างน้อยคงใช้เวลาเป็เดือนกว่าจะได้รับการอนุมัติเงินกู้ แต่ในเมื่อคุณมีความสัมพันธ์อันดีกับประธานเฉียนต๋ากรุ๊ป ทุกอย่างเลยง่ายขึ้น ทางเราสามารถอนุมัติเงินกู้ให้คุณได้เลยภายในวันนี้ อีกข้อมูลหนึ่งที่คุณควรทราบคือ สินเชื่อนี้มีระยะเวลาชำระคืนหลายแบบ หนึ่งปี สามปี ห้าปี สิบปี ยี่สิบปี แม้แต่สามสิบปีก็มี คุณเฉินคิดว่าจะสามารถทำการชำระคืนได้ใน่เวลาประมาณกี่ปีคะ?" หลี่ชิงเจาพูดด้วยน้ำเสียงเอาจริงเอาจัง
เฉินเฟิงตอบด้วยเสียงหัวเราะลั่น
"ผมก็อยากคืนภายในหนึ่งเดือนนั่นแหละครับ แต่ในเมื่อหนึ่งเดือนไม่มีในตัวเลือก งั้นเอาเป็่ระยะเวลาที่สั้นที่สุดก็แล้วกันครับ ผมจะชำระเงินคืนภายในหนึ่งปี แต่จริงๆ ผมคิดว่าจะชำระหนี้ให้แล้วสิ้นภายในเดือนเดียวเท่านั้น จากนั้นผมคงไม่ทำการกู้ยืมอีกแล้วแหละ"
แม้ว่าเฉินเฟิงจะเคยพูดว่าคนที่สามารถกู้เงินจากธนาคารได้เป็คนใหญ่คนโต แต่ศักดิ์ศรีจากอดีตชาติค้ำคอไม่ให้เขากู้ยืมมากกว่านี้
ถ้าเขากู้จนติดเป็นิสัย อนาคตเขาคงติดหนี้เป็แสนล้านเหมือนผู้เฒ่าหวัง หรืออาจกลายเป็เหมือนหม่าชิงหยาง แม้เงินไม่ขาดมือ แต่ต้องไปใช้ช่องโหว่ของธนาคารแทน
หม่าชิงหยางมักพูดจาโอ้อวดตลอดเวลาว่า เขาไม่สนใจในเงินทองอะไรมากมาย แต่จริงๆ แล้ว เขานี่แหละให้ความสำคัญกับเงินมากที่สุด มิฉะนั้น เขาคงไม่มีทางทำผลงานที่น่าเหลือเชื่ออย่างการใช้ประโยชน์จากเงินทุนสามพันล้าน เพื่อระดมสินเชื่ออสังหาฯ กว่าสามแสนหกหมื่นล้านได้หรอก
เวลานี้เฉินเฟิงไม่มีหนทางหาเงินทุนอื่นจริงๆ นอกจากทำเื่กู้ยืม นี่เป็การกู้ยืมครั้งแรกในสองชาติของเขา
หลี่ชิงเจาสติหลุดไปชั่วขณะเพราะคำตอบของเฉินเฟิง
เธออยากรู้เหลือเกินว่าโครงการ หรืออะไรที่ทำให้เฉินเฟิงมั่นใจว่า จะสามารถหาเงินมาชำระหนี้ทั้งต้นทั้งดอกได้ภายในหนึ่งเดือน?
หลี่ชิงเจายิ้มหวาน
"ระยะเวลาการกู้ยืมขั้นต่ำคือหนึ่งปี ไม่มีกรณีชำระคืนล่วงหน้า ถ้าเป็การกู้ยืมระยะยาวอย่างสิบปีหรือยี่สิบปี คุณสามารถชำระคืนล่วงหน้าได้ซึ่งจะช่วยลดดอกเบี้ยลง แต่คุณกู้ยืมหนึ่งหนึ่งร้อยล้าน เป็ระยะเวลาหนึ่งปี แม้จะชำระคืนล่วงหน้า คุณก็ต้องจ่ายครบต้นครบดอก"
เฉินเฟิงไม่มีความรู้เื่สินเชื่อ เพราะชาติก่อนเขาเริ่มต้นจากศูนย์หลังจากถูกลอตเตอรี่เหมือนกัน
ในชาติก่อน หลังจากหัวใจเฉินเฟิงแตกสลายนานเป็ปีจนกระทั่งจบการศึกษา
เขาก็ตัดสินใจใช้ระบบสุ่มเลข ซื้อลอตเตอรี่เป็ร้อยใบโดยที่ทุกใบเป็เลขเดียวกันหมด ตอนนั้นถ้าไม่ถูกรางวัลเขาคิดจะะโตึก แต่ในความโชคร้ายยังพอมีโชคดีอยู่บ้าง เขาถูกรางวัลที่หนึ่งเป็จำนวนทั้งสิ้นหนึ่งร้อยใบ
เป็เงินกว่าห้าร้อยล้าน!
หลังหักภาษีเขาเหลือเงินราวสี่ร้อยล้าน เฉินเฟิงใช้เงินจำนวนนี้เป็เงินทุน และใช้ความรู้ที่ได้รับจากมหาวิทยาลัยก้าวเข้าสู่ตลาดหุ้น จากนั้นทรัพย์สมบัติของเขาก็เติบโตขึ้น เขาจึงไม่มีความจำเป็ต้องกู้เงินธนาคาร
เมื่อฟังคำอธิบายของหลี่ชิงเจาเสร็จ เฉินเฟิงยิ้มบาง
"งั้นผมทำเื่กู้ยืมหนึ่งปี คุณไม่ต้องกังวลว่าผมจะหนีหนี้ ผมจะผ่อนชำระทุกเดือน"
หลี่ชิงเจายิ้มหัวเราะเบาๆ
"เช่นนั้นเื่เงินกู้ยืมร้อยล้านก็ตกลงกันคร่าวๆ ตามนี้นะคะ แต่ดิฉันค่อนข้างสงสัยเื่การเดิมพันที่คุณพูดถึงเมื่อสักครู่ ฉันอยากรู้เนื้อหา หรือมันมีอะไรดึงดูดให้ฉันสนใจ เพราะทั้งคุณหวังกับคุณหยางต่างก็ยอมลงนามกับคุณ แถมยังใช้หุ้นตั้งยี่สิบเปอร์เซ็นต์เป็ของเดิมพัน ในฐานะผู้จัดการธนาคาร นอกจากทักษะการบริหารธนาคารแล้ว ฉันไม่มีเงินหรือหุ้นอะไรพอให้คุณสนใจเลยนะคะ"
เฉินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"เนื้อหาที่ผมเตรียมให้คุณค่อนข้างเรียบง่าย ผมจะอธิบายให้ฟังเลยละกัน ผมจะเดิมพันกับคุณว่าภายในสิบปีนี้ ผมจะสามารถเข้าถือหุ้นในธนาคาร ICB ได้หรือเปล่า ถ้าผมทำได้ คุณต้องย้ายมาทำงานธนาคารภายในเครือของผม ถ้าผมทำไม่ได้ ผมให้คุณเลย หนึ่งร้อยล้าน!" เนื้อหาการเดิมพันเรียบง่ายอย่างที่เฉินเฟิงเกริ่นไว้ตอนแรก
เมื่อรู้เนื้อหาทั้งหมด หลี่ชิงเจารู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย
"เพิ่งพบกันครั้งแรก ก็คิดจะทาบทามให้ฉันไปทำงานในธนาคารคุณแล้วเหรอ?" เธอพึมพำกับตัวเอง
เฉินเฟิงพูดต่อสบายๆ
"คุณรับตำแหน่งผู้จัดการธนาคาร ICB สาขาเมืองโม๋ตูแห่งนี้ได้ด้วยอายุน้อยขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถสูงล้ำกว่าคนอื่น แล้วจะเป็อะไรได้? ไม่งั้นระดับผู้จัดการธนาคารทุกคนคงอายุเกินสี่สิบกว่าทั้งนั้นแหละครับ"
หลี่ชิงเจาสวนกลับทันควัน
"ปีหน้าฉันก็สามสิบ ไม่น้อยแล้วค่ะ พวกคุณต่างหากที่อายุน้อย" หลี่ชิงเจาไม่พูดเฉยๆ เธอหันไปแอบมองหลิ่วอีอีซึ่งนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาด้วยสายตาอิจฉาด้วย
ได้ยินแบบนี้ หลิ่วอีอีจึงอดแทรกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
"ฉันว่าผู้จัดการหลี่ยังดูสาวดูสวยอยู่เลยนะคะ บางที สามีฉันเขาคงไม่ได้สนใจความสามารถของคุณ แต่อาจสนใจคุณมากกว่า! ชุดเครื่องแบบบนตัวคุณก็ดูน่าดึงดูด ฉันคิดว่าสามีฉันคงหลงเสน่ห์คุณเข้าแล้วแหละ"
เฉินเฟิงถึงกับไปไม่เป็
ั้แ่เดินเข้าธนาคารมาหลิ่วอีอีไม่พูดอะไรเลย แต่จู่ๆ การที่เธอเปิดก่อนได้เปรียบแบบนี้ ทำให้เขาตั้งตัวแทบไม่ทัน นี่ตัวเขาดูเป็คนหน้าหม้อที่จะหยุดเดินเพื่อดูผู้หญิงหน้าตาดีทุกคนเลยเหรอ?
เฉินเฟิงลูบหน้าผากและพูดกับหลี่ชิงเจาด้วยน้ำเสียงแหยๆ
"คุณผู้จัดการคงแต่งงานแล้วใช่ไหมครับ อย่าใส่ใจภรรยาผมเลย เธอพูดจาไร้สาระน่ะ พวกเราเพิ่งจดทะเบียนกันก่อนจะมาที่นี่เอง ผมจะหลงผู้หญิงมีเสน่ห์แบบคุณเข้าให้น่ะ" เฉินเฟิงพยายามพูดตลกแก้เก้อ
แต่หลี่ชิงเจาที่ได้ยินแบบนั้นกลับยกยิ้มน้อยๆ
"โสดสนิทค่ะ ไร้วี่แววการแต่งงานใดๆ คิดไม่ถึงว่าหนุ่มสาวสมัยนี้แต่งงานกันเร็วขนาดนี้" หลี่ชิงเฉินรู้ว่าเขาอายุแค่ 21 ปีจากการตรวจสอบข้อมูล สีหน้าเธอปั่นป่วนด้วยอารมณ์หลากหลาย
ได้ยินดังนั้น หลิ่วอีอีก็เหมือนเขื่อนแตกดั่งคนเก็บกดมานาน เธอเริ่มซุบซิบนินทาและบ่นกับหลี่ชิงเจา เื่เกี่ยวกับครอบครัวเธอที่้าให้เธอแต่งงานเอย รวมถึงเื่อื่นๆ
เฉินเฟิงหัวเราะทั้งน้ำตา เห็นหลิ่วอีอีกลายเป็แบบนี้ เขาก็รีบพูดแทรก
"ฉันกับผู้จัดการหลี่ยังคุยเื่การเดิมพันไม่เสร็จนะ อย่าเพิ่งขัดสิ"
หลิ่วอีอีหยุดพูดหลังจากระบายจนหนำใจ ปล่อยให้เฉินเฟิงคุยกับหลี่ชิงเจาต่อ
"คุณเฉิน สัญญาที่คุณพูดเมื่อสักครู่ ฉันไม่มีเหตุผลที่จะไม่ลงนามเลย การเดิมพันนี้เหมือนกับคุณจะโยนเงินหนึ่งร้อยล้านให้ฉันฟรีๆ ในอีกสิบปีข้างหน้า เพราะฉันคิดว่าธนาคาร ICB ไม่มีทางให้ผู้ถือหุ้นเป็นิติบุคคลเข้าซื้อกิจการได้แน่นอน"
