และครั้งนี้พลังพิเศษตาทิพย์ก็ได้ทำให้การตัดสินตามปกติของเขาเกิดความผิดพลาด
หลินเยว่พลันรู้สึกผิดหวังอย่างที่สุดเพราะก่อนหน้านี้มันมีแต่ความราบรื่นมาโดยตลอด ไม่เคยมีอุปสรรคใดๆ เลย ตอนแรกเขาคิดว่าเขาได้พบตัวแปรสำคัญที่เป็เส้นทางสร้างโอกาสให้กับตัวเขาเองแต่คาดไม่ถึงว่ามันเป็เพียงทางตันเท่านั้น
หลินเยว่นั่งยองๆ อย่างเหม่อลอยอยู่กับที่ปล่อยให้ความเ็ปและความผิดหวังทรมานจิตใจของตนเองอย่างเต็มที่
ผ่านไปนานพอสมควร หลินเยว่จึงค่อยๆ เงยศีรษะขึ้นมุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มที่กำลังเยาะเย้ยตนเอง
เขาคิดฉวยโอกาสกุมอาวุธลับไว้ในมือ แต่คาดไม่ถึงว่าตัวเขาเองกลับตกหลุมพรางที่ตนเองสร้างไว้แล้วยังปล่อยให้อารมณ์เชิงลบส่งผลกระทบกับตัวเองอีกด้วย
การฝึกจิตใจของเขายังไม่พอจริงๆ!
หลินเยว่ถอนหายใจเบาๆหลังจากนั้นใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มอันแสนสดใส
แต่ไหนแต่ไรการพิสูจน์เครื่องเคลือบก็ไม่ได้มีทางลัดที่ลับเฉพาะอยู่แล้วทุกคนต้องใช้สายตาอันเฉียบแหลมของตนเองบวกกับความรู้ที่หลากหลายหากคิดแต่จะหาทางลัดก็เหมือนกับการที่วันๆ หวังว่าตนเองจะโชคดีสามารถเก็บตกได้ของแท้อยู่เสมอซึ่งเหตุการณ์แบบนี้มันไม่มีทางเป็ไปได้อยู่แล้ว
หากวันๆ คิดแต่จะหาทางลัด ก็ย่อมละเลยความรู้เกี่ยวกับเครื่องเคลือบไปอย่างแน่นอนซึ่งก็เหมือนกับการพายเรือทวนน้ำ ไม่มีความก้าวหน้าแล้วยังถอยหลังลงคลองเสียอีก
โชคดีที่หลินเยว่เข้าใจในหลักการนี้ได้อย่างรวดเร็วเขาจึงไม่ได้อยู่ในสภาพย่ำแย่ต่อไป
หลินเยว่คิดทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนับั้แ่เขามีพลังพิเศษตาทิพย์จนถึงปัจจุบันนี้
เขาโชคดีได้พบกับท่านเฮ่อฉางเหอและขายชามเคลือบที่เขาโชคดีเก็บตกมาได้ในราคา6 หมื่นหยวนเหตุการณ์เหล่านี้เขาไม่ได้ได้มาเพราะพลังพิเศษ การมีสภาวะจิตสงบนิ่งไม่ว่อกแว่กก็ไม่ได้ได้มาเพราะพลังพิเศษผลงานในการผ่าธูปของเขาก็ไม่ได้ได้มาเพราะพลังพิเศษบัตรการยอมรับในวงการการพนันหินหยกก็ไม่ได้ได้มาเพราะพลังพิเศษแต่พลังพิเศษสามารถสร้างเงินทองให้กับเขา แค่นี้เท่านั้นเอง
เหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของหลินเยว่ล้วนเกิดมาจากความขยันพยายามและความมีจิตใจดีของเขาเองแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพลังพิเศษเลย
หากความขยันพยายามเป็อาหารหลัก พลังพิเศษตาทิพย์ก็ถือว่าเป็เครื่องปรุงรสอย่างหนึ่งมันเป็เครื่องปรุงรสชาติชีวิตที่สามารถทำให้หลินเยว่ร่ำรวย แต่ไม่สามารถทำให้สภาพจิตใจของเขาได้รับประสบการณ์อันหลากหลาย
ทุกสิ่งทุกอย่างยังจำเป็ต้องพึ่งพาความขยันพยายามของเขาอีก!
คนอื่นยังสามารถประสบความสำเร็จโดยไม่มีพลังพิเศษตาทิพย์ถ้าเช่นนั้นตัวเขาเองก็ต้องทำได้เช่นกัน!
ต้องทำได้อย่างแน่นอน!!!
หลินเยว่ยิ้มเล็กน้อยสายตาของเขาสะท้อนความหนักแน่นเด็ดขาด
เมื่อคิดได้แล้ว เขาจึงค่อยๆวางแจกันเคลือบในมือคืนลงตำแหน่งเดิม ในเมื่อพลังพิเศษใช้ประโยชน์ไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นเป้าหมายที่เขามาในวันนี้ก็สำเร็จลงแล้วแต่ทว่าการนัดแนะที่เขาได้ตกลงไว้กับจางฮุยิยังคงมีอยู่ครั้งนี้เขาก็จะรอดูว่าความสามารถของเขาจะแตกต่างกับอีกฝ่ายขนาดไหน
ขณะที่หลินเยว่กำลังวางเครื่องเคลือบลงบนแผงร้านนั้นสายตาของเขากลับเหลือบไปมองตรงก้นเครื่องเคลือบอย่างไม่ตั้งใจ
เขาตกตะลึงไปในทันที
ความเป็ไปได้อีกอย่างหนึ่งหลั่งไหลเขาสู่สมองของเขา
หากเป็ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเคลือบก็จะมีผลการประเมิน2 ประการประการแรกคือรูปทรงแย่มาก อีกประการคือตรงก้นเครื่องเคลือบหรือหากจะพูดให้ถูกต้องจริงๆ ก็คือมีเพียงตรงก้นเครื่องเคลือบเพียงอย่างเดียวเพราะหากก้นของมันไม่มีปัญหา ตรงส่วนรูปทรงก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลยเพราะสิ่งที่น่าเชื่อถือที่สุดก็คือสีเคลือบด้านนอกที่ดูเหมือนของจริงอย่างแท้จริงนั่นเอง
หากตรงก้นเครื่องเคลือบเป็ของปลอมที่ทำขึ้น ก็ไม่ได้หมายความว่าตัวเครื่องเคลือบใบนี้จะเป็ของปลอมทั้งหมด?หากเป็เช่นนี้เครื่องเคลือบใบนี้อาจจะเป็ของแท้ก็ได้
ในใจที่มีแต่ความรู้สึกผิดหวังในตอนแรกกลับเริ่มร่าเริงขึ้นมาเพราะแจกันเคลือบที่อยู่เบื้องหน้าอาจจะเป็ของแท้
เขาพบว่าตรงก้นเครื่องเคลือบและตัวเครื่องเคลือบไม่ได้เป็ชุดเดียวกันอีกทั้งมีจุดเล็กๆ ที่ดูเหมือนว่าเป็การติดทับลงไปในภายหลัง
หลินเยว่จึงหยิบแจกันเคลือบใบนี้ขึ้นมาอีกครั้งครั้งนี้เขาจึงตั้งใจสังเกตตรงก้นเครื่องเคลือบโดยเฉพาะ
ลักษณะเฉพาะของก้นเครื่องเคลือบนี้มันชัดเจนอยู่ในสมองของเขาอยู่แล้วดังนั้น เขาจึงตั้งใจมองตรงก้นเครื่องเคลือบส่วนที่ติดกับตัวเครื่องเคลือบตรงนั้นเขามองตรงส่วนที่มีรอยติดกันทั้งหมดแต่เขาก็ไม่พบหลักฐานที่แสดงว่ามันเป็สิ่งที่ถูกติดขึ้นในภายหลังถึงแม้ว่าจะดูไม่ค่อยกลมกลืน แต่ทว่าเขาก็ยังรู้สึกนับถือฝีมือการติดของคนผู้นั้นเพราะบุคคลผู้นั้นต้องเป็ยอดฝีมือแน่นอน
บางทีอาจเป็เพราะหลินเยว่ผิดหวังมาแล้วครั้งหนึ่งและก็เกิดความหวังขึ้นมาอีกครั้งทำให้ในใจของหลินเยว่มีความรู้สึกว่าแจกันเคลือบตรงหน้านี้เป็ของแท้จริงๆ
แต่ทว่าตอนนี้เขาไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่ามันเป็ของแท้แต่กลับมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่ามันเป็ของปลอม
หลินเยว่พลันเกิดความลำบากใจอย่างหนัก
เขาไม่ได้้าที่จะเก็บตกได้ของแท้เสมอไป แต่เขา้าที่จะพิสูจน์เครื่องเคลือบโดยใช้ความรู้ที่เขามีทั้งหมดเรียงร้อยขึ้นมาแล้วจดจำไว้ในใจ นี่ถึงจะเป็เป้าหมายในการฝึกสำรวจแผงอย่างแท้จริง
แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ?
หลินเยว่คิดถึงพลังพิเศษตาทิพย์ขึ้นอีกครั้งหลังจากนั้นเขาก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ คาดไม่ถึงว่าเมื่อถึงจุดสำคัญเขาก็ยังจำเป็ต้องพึ่งพาพลังพิเศษอยู่ดี ใครใช้ให้เขามีความรู้ไม่ลึกซึ้งล่ะ!
หลินเยว่ไม่ใช่คนโง่ที่มีพลังพิเศษแต่กลับไม่คิดใช้มันแบบนั้น
หลินเยว่หยิบๆ วางๆเครื่องเคลือบเบื้องหน้านี้อยู่หลายครั้งทำให้เขาใช้เวลาอยู่ที่นี่เกินครึ่งชั่วโมงแล้ว เมื่อเ้าของแผงที่อยู่ด้านข้างเห็นเหตุการณ์เช่นนี้เขาจึงคิดว่าบางทีอาจจะมีโอกาสขายออกอยู่บ้างเพราะโดยปกติหากใช้เวลาสังเกตเครื่องเคลือบนานขนาดนี้ก็แสดงว่าอีกฝ่ายไม่มีความมั่นใจซึ่งก็หมายถึงว่าสุดท้ายแล้วอาจจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้เหมือนกัน
ดังนั้น เขาจึงปล่อยให้หลินเยว่สังเกตอยู่ตรงนั้นตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เขาจะเอ่ยปากบางทีการพูดมากเกินไปก็อาจจะทำให้เสียเื่ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการวัตถุโบราณนี้ หากคิดจะพูดก็ต้องพูดในจุดที่สำคัญไม่อย่างนั้นก็อย่าพูดเลยจะดีเสียกว่า เ้าของแผงยอมรับว่าเขาไม่สามารถพูดว่าเครื่องเคลือบใบนี้เป็ของแท้เพราะตรงก้นของมันก็เห็นกันชัดๆ อยู่เขาจึงคิดว่าให้คนซื้อเป็คนคิดตัดสินใจเองก็แล้วกัน
ดังนั้น เขาจึงไม่ได้สนใจหลินเยว่อีกเลยเขาปล่อยให้หลินเยว่สังเกตด้วยตนเอง
ถึงแม้ว่าเมื่อสักครู่จะใช้พลังไปไม่น้อยแต่โชคดีที่เขารู้สึกผิดหวังจนไม่สามารถคงสภาวะจิตสงบนิ่งไว้ได้ ดังนั้นพลังบางส่วนจึงฟื้นตัวขึ้นในตอนที่หลินเยว่เหม่อลอยมิฉะนั้นแล้วถึงแม้ว่าเขาจะพบประเด็นปัญหาตรงส่วนก้นของเครื่องเคลือบ เขาก็คงไม่สามารถใช้ตาทิพย์ในการสังเกตได้อีก
ดูแล้ว... ์ก็ยังคงเข้าข้างเขาอยู่
มุมปากของหลินเยว่จึงปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อย ตอนนี้เขาไม่สามารถใช้สภาวะจิตสงบนิ่งได้อีกแล้วเพราะเขาสามารถใช้สภาวะนี้ได้วันละครั้งเท่านั้นแต่ทว่านี่เป็เพียงการสังเกตสภาพภายในเครื่องเคลือบ ไม่ได้้าใช้ความรู้สึกในการััดังนั้น จึงไม่จำเป็ต้องใช้สภาวะจิตสงบนิ่งเลย
หลินเยว่ขยับขาทั้งสองข้างเล็กน้อยเพื่อคลายความปวดเมื่อยออกไปเขารวบรวมสมาธิ ตาทิพย์ของเขาค่อยๆ เปิดขึ้น
การใช้ตาทิพย์ในครั้งนี้เหลือเวลาน้อยกว่าครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัดหลินเยว่ััได้ว่าพลังของเขากำลังเหือดหายไป
แต่ก็น่าจะสามารถประคับประคองจนมองตรงส่วนก้นด้านในได้ทั้งหมด
หลินเยว่พยายามทำสติให้นิ่ง ไม่คิดถึงเื่อื่นๆเพราะการคิดเพ้อเจ้อก็ต้องเสียพลังมากเช่นกัน
ตรงส่วนก้นก็ค่อยๆ มีสภาพเหมือนกับเม็ดทรายที่ถูกน้ำล้างออกจนค่อยๆหลุดล่อนไป ไม่ว่าจะเป็สิ่งใดก็ตาม เมื่อปรากฏขึ้นในสายตาของหลินเยว่ก็จะกลายเป็ของโปร่งใสราวกับกระจกไม่ว่าสิ่งนั้นจะมีความหนาทึบเช่นใดก็ตาม
เพียงไม่นานสภาพก้นเครื่องเคลือบด้านในก็ปรากฏขึ้นในสายตาของหลินเยว่ รวมทั้งส่วน้าอีกด้วย
และเวลานี้เองที่หลินเยว่รู้สึกว่าดวงตาของเขาเริ่มเกิดอาการเจ็บแสบเขาเริ่มรู้สึกราวกับสมองบวมนี่เป็การเตือนล่วงหน้าว่าพลังของเขากำลังถูกใช้จนหมดสิ้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆและก็รีบมองไปตรงจุดรอยต่อตรงนั้น
มันมีการเชื่อมต่อกันดีมากราวกับว่ามันมีสภาพแบบนี้มาั้แ่แรกอยู่แล้ว
ตัวเนื้อเครื่องเคลือบทั้งหมดไม่มีสภาพเป็ช่องว่างหรือมีส่วนที่ถูกต่อเติมเข้าไปเลย
ถึงแม้ว่าตรงส่วนก้นจะไม่สวย และเมื่อประกอบกับตัวเครื่องเคลือบ้าแล้วก็ดูน่าเกลียดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าหลินเยว่ก็ต้องยอมรับว่าการเชื่อมต่อนี้สวยงามสมบูรณ์แบบจริงๆ
แต่ทว่าโดยปกติเวลาคนอื่นลอกเลียน เขาก็จะเลียนแบบจากเครื่องเคลือบที่มีรูปทรงสวยงามดังนั้น การเลียนแบบเครื่องเคลือบที่มีรูปทรงน่าเกลียดเช่นนี้ก็ทำให้หลินเยว่รู้สึกนับถือจริงๆ
แต่แล้ว...หลินเยว่ก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติอย่างรวดเร็ว
เมื่อสักครู่เขามองจากส่วนรอยต่อกับตรงก้นเครื่องเคลือบมาตลอดตอนนี้เมื่อมองเลื่อนขึ้นมา้า เขาจึงพบถึงความผิดปกติ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้