ในเวลาเดียวกันนั้นมีผู้ฝึกยุทธ์มายังริมเขาเทียนเสวียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าร่วมการล่าสัตว์อสูร
สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ที่ไม่มีทรัพยากรมากมาย การล่าสัตว์อสูรจึงเป็วิธีที่ไม่เลวในการหาทรัพยากรให้เพิ่มพูน เพียงเวลาไม่นาน บริเวณริมเขาเทียนเสวียนก็กลายเป็สถานที่ครึกครื้นที่สุดของสำนักยุทธ์ กระทั่งผู้าุโสำนักยุทธ์หลายคนก็มาเช่นกัน
เมื่อมีผู้ฝึกยุทธ์มาที่นี่มากขึ้นเรื่อย ๆ ความโกลาหลจึงบังเกิดขึ้น ทำให้ศึกแย่งชิงวัตถุดิบสัตว์อสูรปะทุอย่างฉับพลัน
ทางด้านเย่เฟิงและฉินเยียนหราน พวกเขายังคงเปิดศึกกับยูนิคอร์นตนนั้น ด้วยพลังโจมตีของพวกเย่เฟิง ทำให้ยูนิคอร์นมีาแทั่วร่างจนเริ่มเดินโซเซ
“วูบ!” เมื่อเย่เฟิงแทงหอก บนร่างของยูนิคอร์นก็ปรากฏรูโหว่ แม้จะไม่ตายคาที่ แต่ก็สูญเสียพลังต่อสู้
“ชิ้ง!” ทันใดนั้นมีรังสีดาบมาจากฟากฟ้า ก่อนจะฟันคอของยูนิคอร์นตนนั้น จนเืสาดกระเซ็นทั่วอากาศ ยูนิคอร์นถูกดาบสะบั้นคอ จากนั้นเห็นเงาร่างชุดขาวปรากฏตัว เขามองมาที่เย่เฟิงด้วยสายตาเย่อหยิ่ง
“ข้าอยู่ที่นี่แล้ว เ้าเปลี่ยนไปอยู่ที่อื่นเถอะ!” ชายชุดขาวคนนั้นกล่าวอย่างยโสโอหัง กว่าเย่เฟิงและฉินเยียนหรานจะทำให้ยูนิคอร์นหมดแรงสู้ได้นั้นมันไม่ง่ายเลย แต่เมื่อชายชุดขาวคนนี้มาถึงก็ไล่เย่เฟิงให้ไปที่อื่น
“เปลี่ยนที่?” เย่เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขากวาดตามองชายชุดขาวด้วยสายตาเย็นเยียบ “ข้าสองคนเล็งสัตว์อสูรตนนี้ไว้แล้ว เพียงเ้าบอกว่าให้เปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนงั้นหรือ? ข้าแนะนำเ้าให้ไปเสียดีกว่า!”
แม้เผชิญหน้ากับชายชุดขาว เย่เฟิงก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่นิดเดียว แต่เลือกที่จะชี้แนะ เพราะการเดินทางครั้งนี้มาเพื่อล่าสัตว์อสูร ไม่ใช่ทะเลาะกับมนุษย์
“แกว่งเท้าหาเสี้ยน เ้าไม่เห็นหรือว่าข้าเป็คนฆ่าสัตว์อสูรตนนี้? ยังไม่ถอยไปอีก!” ชายหนุ่มคนนั้นได้ยินก็เผยสีหน้าเย็นเยือก พร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวออกมา เป็พลังขั้นรวมชี่ที่ 2
“ไสหัวไปซะ!” เมื่อเห็นท่าทีของชายหนุ่มคนนั้น สีหน้าของเย่เฟิงเปลี่ยนไปเย็นะเือย่างสมบูรณ์ ก่อนจะกล่าวเช่นนั้น
“ในเมื่อเ้ากล้าพูดเยี่ยงนี้กับข้า งั้นเ้าตายซะเถอะ แล้วข้าจะได้เป็คู่หูกับคุณหนูเยียนหราน!” ชายชุดขาวคนนั้นกล่าว จากนั้นตวัดดาบโจมตีเย่เฟิงอย่างไม่ลังเล ซึ่งรังสีดาบที่ตวัดออกมาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
“ดูสิ นั่นเย่เฟิงกำลังสู้กับคนบางคนอยู่ อีกฝ่ายเหมือนจะเป็ลู่เฉิน ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ที่ 2 มีทักษะดาบแม่นยำ พลังก็ยังแกร่งกล้า!” ผู้คนสังเกตเห็นเหตุการณ์ทางด้านพวกเย่เฟิง จากนั้นมีคนผู้หนึ่งจำชายชุดขาวคนนั้นได้ จึงกล่าวออกมาเช่นนั้น
“ลู่เฉินอยู่ขั้นรวมชี่ที่ 2 เย่เฟิงผู้นี้คงต้องเสียเปรียบแล้ว!” ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งกล่าว ในสายตาพวกเขา ลู่เฉินที่อยู่ขั้นรวมชี่ที่ 2 ไม่ใช่คนที่เย่เฟิงในขั้นบ่มเพาะกายาจะต่อกรด้วยได้
ที่สำนักยุทธ์เทียนเสวียน ผู้อยู่ขั้นรวมชี่จึงจะเป็ผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง แม้เย่เฟิงเป็ผู้ฝึกยุทธ์อันดับที่ 4 ในรายนามขั้นบ่มเพาะกายา แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะเทียบเคียงกับผู้อยู่ขั้นรวมชี่ได้
“ฮ่า ๆ ๆ หมอนี่อยู่กับฉินเยียนหราน พอดีเลยลู่เฉินจะได้สั่งสอนเขา” ผู้คนคิดในใจ พวกเขาคือผู้ชื่นชอบฉินเยียนหรานและอยากจะสั่งสอนเย่เฟิงเสียให้ได้
ดวงตาของเย่เฟิงฉายอย่างเยือกเย็น พลันพลังดาราโคจรบนร่าง แสงดาวส่องกะพริบพร้อมกับปรากฏแผนที่ดาวขนาดใหญ่และมีอักขระเคลื่อนไหวบนนั้น คล้ายสื่อสารกับฟ้าดิน เย่เฟิงใช้ย่างก้าวดาวตกผีเสื้อเคลื่อนที่โดยไร้เงาไร้ร่องรอย จึงหลบรังสีดาบของลู่เฉินในพริบตาเดียว จากนั้นเขาเหวี่ยงหมัดออกไป ทำลู่เฉินชะงักนิ่งพลางสีหน้าเปลี่ยนไป เขาพบว่าตนมิอาจหลบหมัดนี้ได้ทัน มันเร็วเกินไป!
อย่างไรก็ตามลู่เฉินพยายามหลบหนีอย่างสุดกำลัง แต่สุดท้ายก็หลบหนีหมัดของเย่เฟิงไม่พ้น ทำให้หมัดปะทะเข้าที่ไหล่ของลู่เฉินเต็มแรง ตามมาด้วยเสียงดังกร๊อบ กระดูกบริเวณหัวไหล่ของลู่เฉินแตกหัก เขาจึงส่งเสียงร้องด้วยความเ็ปพร้อมถอยหลังไปหลายก้าว สีหน้าก็ดูย่ำแย่มาก
“เป็แบบนี้ไปได้อย่างไร?” ทุกคนต่างตะลึงค้างกับภาพฉากตรงหน้า ลู่เฉินที่อยู่ขั้นรวมชี่ที่ 2 กลับเปราะบางเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เฟิง
“เกิดอะไรขึ้น เย่เฟิงคนนี้อยู่ขั้นบ่มเพาะกายาไม่ใช่หรือ แล้วเหตุใดจึงแข็งแกร่งได้มากขนาดนี้?” มีคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยความแคลงใจ เท่าที่พวกเขาทราบมา ผู้อยู่ขั้นบ่มเพาะกายาไม่มีทางต่อกรกับผู้อยู่ขั้นรวมชี่ได้เด็ดขาด
“ไม่สิ ข้าัักลิ่นอายของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่จากคนผู้นี้ได้ เย่เฟิงคนนี้ทะลวงขั้นพลังแล้ว ถ้าเช่นนั้นลู่เฉินก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาน่ะสิ?” ผู้ฝึกยุทธ์อีกคนกล่าว แต่ถึงแม้เย่เฟิงจะทะลวงขั้นพลังแล้วก็น่าจะอยู่ขั้นรวมชี่ที่ 1 จึงเป็ไปไม่ได้ที่จะสร้างาแให้กับลู่เฉิน
“เ้า้าฆ่าข้าไม่ใช่หรือ เข้ามาสิ!” ในขณะที่ผู้คนกำลังใ เย่เฟิงกลับเหยียดยิ้มอย่างเ็า ดูเหมือนกำลังเย้ยหยัน จากนั้นเห็นเขาเดินออกมาหนึ่งก้าว ก่อนจะไปปรากฏตัวที่ด้านหน้าลู่เฉิน พร้อมเหวี่ยงหมัดโจมตี ซึ่งหมัดนั้นอัดแน่นไปด้วยพลังมหาศาลและทรงพลังกว่าเมื่อครู่นี้มาก
ลู่เฉินต้องหน้าถอดสีและถอยหลังไปอีกครั้ง เขาไม่คาดคิดว่าเย่เฟิงจะมีพลังมากเพียงนี้ หากรู้ว่าจะเป็เช่นนี้เขาคงไม่ยั่วยุอีกฝ่าย
“ได้โปรดปล่อยข้าเถอะ!”
ด้วยความแข็งแกร่งของเย่เฟิง ลู่เฉินรู้สึกว่าควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงกล่าวอ้อนวอนไปเช่นนั้น
“ปล่อยเ้า คิดว่าข้าจะทำหรือ?”
เย่เฟิงแสยะยิ้ม ก่อนหน้านี้เขาตักเตือนลู่เฉินดี ๆ แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจคำเตือนของเขา ซ้ำยังลงมือจัดการเขาอีก พอตอนนี้รู้ว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่เฟิง จึงอ้อนวอนขอให้ปล่อยไป คิดว่าในโลกใบนี้มีเื่เช่นนี้ด้วยหรือ?
ในทางกลับกัน หากลู่เฉินเอาชนะเย่เฟิง แล้วเย่เฟิงอ้อนวอนร้องขอชีวิต ลู่เฉินจะปล่อยไปหรือ? แน่นอนว่าไม่!
ดังนั้นผู้ที่คิดจะฆ่าเขา เย่เฟิงไม่มีทางเมตตาปรานีใด ๆ
“ข้าอยากเห็นนักว่าเ้าจะหลบการโจมตีนี้ยังไง!”
เย่เฟิงก้าวออกมา พร้อมกับเหวี่ยงหมัดโจมตีอีกครั้ง โดยไม่คิดจะปล่อยอีกฝ่ายไป
“หมอนี่...”
ผู้คนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่างก็ใ ลู่เฉินอ้อนวอนขอชีวิต ทว่าเย่เฟิงผู้นี้กลับไม่มีความเมตตาแต่อย่างใด
“อั่ก!”
เสียงโอดครวญดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องเ็ปของลู่เฉิน หมัดนี้ของเย่เฟิงซัดเข้าที่ร่างลู่เฉินเต็ม ๆ ซึ่งเป็หมัดธรรมดาที่ไม่มีพลังหยวน แต่กลับอัดแน่นด้วยพลังที่น่าทึ่ง ทำให้กระดูกบริเวณหน้าอกของลู่เฉินแตกหัก จากนั้นล้มลงไปกองกับพื้น
“ชายผู้นี้แข็งแกร่งมาก!” ผู้คนถึงกับปาดเหงื่อเมื่อเห็นพลังที่เย่เฟิงโจมตีลู่เฉิน นี่ทำให้ความคิดที่พวกเขามีต่อเย่เฟิงเปลี่ยนไปทั้งหมด
“ข้าอ้อนวอนเ้า แต่เ้าก็ยังกล้าทำร้ายข้า ข้าลู่เฉินรับรองเลยว่าเ้าไม่รอดไปจากเขาเทียนเสวียนแห่งนี้แน่!”
ลู่เฉินจ้องมองเย่เฟิงด้วยสายตาอาฆาต แม้เหลือลมหายใจเฮือกสุดท้าย แต่ก็ยังด่าทอเย่เฟิงอย่างเกรี้ยวกราด
“งั้นหรือ?”
เย่เฟิงแสยะยิ้มพลางเหลือบมองลู่เฉินแวบหนึ่ง ก่อนจะละสายตาไป แล้วมองไปที่ซากศพยูนิคอร์นที่นอนอยู่บนพื้น
“ข้าว่าเ้าอาจจะมีปัญหาตามมา พวกเราออกไปจากที่นี่กันก่อนเถอะ” ฉินเยียนหรานกล่าวขณะมองเย่เฟิง
“ทำไมหรือ?”
เย่เฟิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและยังคงไม่สนใจ แต่เดินไปหาซากศพยูนิคอร์นเพื่อเก็บวัตถุดิบสัตว์อสูร
“พี่ชายของลู่เฉินมีชื่อว่าลู่เจียง เขาอยู่ขั้นรวมชี่ที่ 4 เป็ผู้ฝึกยุทธ์อันดับที่ 7 ในรายนามขั้นรวมชี่ เ้าทำร้ายน้องชายของลู่เจียง ลู่เจียงจะต้องตามมาแก้แค้นเ้าแน่” ฉินเยียนหรานกล่าวเตือนเย่เฟิงด้วยท่าทีเป็ห่วง
ถึงอย่างไรเย่เฟิงเพิ่งบรรลุขั้นรวมชี่ หากลู่เจียงมาแก้แค้นแทนน้องชายเขา เย่เฟิงจะรับมือได้อย่างไร?