“คุณหนู”
“พวกเรากลับกันเถอะ”
ซินหรูเดินกลับไปที่รถม้า นางรู้สึกเสียใจที่เขาไม่เคยบอกว่า ต้องทำงานร่วมกับสกุลหลิน และยังมีหลินเยี่ยนหง คอยติดตามเขาไม่ห่างเช่นนี้ตลอดเวลา
“ช่างโง่ยิ่งนัก เ้ามันก็แค่คนที่เขาเก็บมาเลี้ยงด้วยความสงสารเท่านั้น ไม่ควรคิดอะไรเกินเลยมาั้แ่ต้นแล้ว คงจะได้เวลาเสียที”
สามวันถัดมา
วันนี้ท่านอ๋องกลับจวนเร็ว จึงตั้งใจจะมานั่งกินข้าวกับซินหรู นางถูกเรียกมานั่งที่โต๊ะเสวยร่วมกับเขา แต่แทบจะไม่พูดอะไรเลยสักคำ
“เ้าอิ่มแล้วหรือ ไม่สบายหรือเปล่า เหตุใดกินน้อยเช่นนี้”
ท่านอ๋องเอื้อมมือ หมายจะจับหน้าผากนาง แต่ซินหรูกลับถอยหนี พร้อมกับสายตาที่ว่างเปล่า เขาไม่เคยเห็นสายตาเช่นนี้มานานแล้ว เหตุใดจู่ ๆ วันนี้ นางถึงเป็เช่นนี้อีก
“จริงสิวันนี้”
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”
กงอวี่เดินเข้ามาระหว่างมื้ออาหาร ท่านอ๋องจึงยังไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใด
“มีอะไรกงอวี่”
“คือว่า คุณหนูหลินมาขอเข้าเฝ้าด่วนพ่ะย่ะค่ะ”
“ได้ เดี๋ยวข้าออกไป”
“คือว่า! นางสั่งให้กระหม่อมกำชับพระองค์ว่า เื่ด่วนมาก รอมิได้พ่ะย่ะค่ะ”
ซินหรูลุกขึ้นทันที และคำนับย่อให้เขา ท่านอ๋องเห็นถึงความผิดปกตินี้ในทันที
“ซินหรู”
“ในเมื่อเสด็จอามีงานด่วน เช่นนั้นข้าคงต้องขอตัวก่อน”
“ซินหรู เหตุใดเ้าจึง…”
“ท่านอ๋องเพคะ”
“บังอาจ! เหตุใดเ้าจึงรีบเข้ามา ทั้ง ๆ ที่ข้ายังไม่ได้อนุญาต”
“หามิได้เพคะ หม่อมฉันมีเื่ด่วนจะต้องทูลแจ้ง รอเวลามิได้”
ท่านอ๋องโกรธก็จริง แต่ก็หันมามองหน้าหลินเยี่ยนหง นางคงมีเื่ด่วนจริง ๆ ถึงได้เสี่ยงถูกลงอาญา เข้ามาพบเขาเช่นนี้ แต่ซินหรูยังคงยืนนิ่ง ราวกับเป็อากาศ
“มีอะไร”
“ทางลานพิธีส่งข่าวมาแจ้งว่า มีคนร้ายก่อกวนที่ลานบวงสรวง คาดว่าน่าจะเป็สายลับของแคว้นเว่ยเพคะ หม่อมฉันพึ่งกลับมาจากลานพิธี พอทราบข่าว จึงรีบมาแจ้งพระองค์ก่อนเพคะ”
“ว่าอย่างไรนะ! เช่นนั้น…”
เขาหันมามองซินหรูเพียงแวบเดียว ตอนนี้เื่ด่วนตรงหน้าสำคัญมากกว่า หากมีคนต่างแคว้นเข้ามาสร้างปัญหา เื่เล็กจะเริ่มเป็เื่ใหญ่ทันที ซึ่งตงโจวกับแคว้นเว่ย มิใช่พันธมิตรและศัตรู แต่หากเข้ามาก่อความวุ่นวายเช่นนี้ ย่อมมิใช่เื่ที่เขาวางเฉยได้
“กงอวี่เ้าไปเตรียมม้าให้ข้า”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“ซินหรู เ้าอยู่ในจวน ห้ามออกไปไหนเป็อันขาด”
“ท่านจะพานางไปด้วยหรือเพคะ”
“นี่น้องหญิงซินหรู นี่มันเวลาใดแล้ว เหตุใดเ้ายังถามอะไรที่ไร้เหตุผลเช่นนี้ ข้ากับท่านอ๋อง…”
เพี๊ยะ!
“ซินหรู!”
ฝ่ามือบางของซินหรู ฟาดไปที่ใบหน้าของหลินเยี่ยนหงเต็มแรง นางเซถลาจนท่านอ๋องเองยังใ ปกติซินหรูไม่เคยตบตีผู้อื่นมาก่อน แม้แต่สาวใช้หรือบ่าวไพร่
“ซินหรู เหตุใดเ้า…”
“เ้าเป็ใคร เหตุใดจึงกล้ามาสั่งสอนข้า เวลาไหนทำสิ่งใด คนเช่นเ้ามีสิทธิ์มาต่อว่าข้างั้นหรือ”
“แต่ข้าหวังดีนะ ถึงได้เตือนเ้า ท่านอ๋องเพคะ นางเสียสติไปแล้ว”
ท่านอ๋องหันมามองหน้าซินหรู สายตาของนางโกรธและน้อยใจ เขาเองก็ไม่รู้ว่าจู่ ๆ เหตุใด นางจึงเป็คนไร้เหตุผลขึ้นมาเช่นนี้ ตัดพ้อเขายังพอเข้าใจ แต่กลับทำร้ายคน เขาไม่เข้าใจเอาเสียเลย
“ซินหรู … ขอโทษนางเดี๋ยวนี้”
ซินหรูเบิกตากว้าง และหันมามองหน้าท่านอ๋อง ด้านหลังมีหลินเยี่ยนหง ที่เอามือลูบหน้า แต่ส่งสายตาสะใจมองมาที่นางอย่างเปิดเผย
“ท่านว่าอย่างไรนะ”
“ข้าบอกว่าให้… ขอโทษนาง เ้าไม่มีสิทธิ์ทำร้ายผู้อื่น โดยเฉพาะต่อหน้าข้า ขอโทษนางแล้วกลับไปที่เรือนของเ้า”
“หากข้าไม่ทำเล่า ท่านจะสั่งโบยข้า หรือกักบริเวณเล่าเพคะ”
“ฉินซินหรู! มันจะมากไปแล้วนะ”
“มากไปงั้นหรือ เสด็จอาเพคะ หากท่านคิดว่ามันมากเกินไป ก็สั่งลงโทษข้าเสียเลยสิ”
“ครั้งนี้เ้าทำผิด”
“ถูกต้องเพคะ ข้าทำผิดที่ตบหน้านาง แต่ตอนนี้แม้แต่นาง ก็มีสิทธิ์ต่อว่าข้า ต่อหน้าท่านแล้วงั้นหรือ”
“เ้า!”
“ท่านอ๋องเพคะ อย่ากล่าวโทษน้องหญิงเลยเพคะ ตอนนี้เื่ที่เร่งด่วนกว่า คือนอกเมืองนะเพคะ”
“กงอวี่!”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“พาคุณหนูฉินกลับไปที่เรือนพัก กักบริเวณนาง หากไม่มีคำสั่งข้า อย่าให้นางออกมาเป็อันขาด!”
“ท่านอ๋อง!”
“ข้าเดินกลับเองได้ ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันทูลลา”
“ฉินซินหรู เ้าหยุดนะ!”
แม้แต่กงอวี่และหลินเยี่ยนหง ก็มิกล้าสบตาท่านอ๋องในยามนี้ กงอวี่ติดตามท่านอ๋องมานับสิบปี ไม่เคยเห็นพระองค์กริ้วมากขนาดนี้มาก่อน และนับจากที่ฉินซินหรูมาอยู่ในจวน ก็ไม่เคยถูกท่านอ๋องสั่งลงโทษเช่นนี้
“พวกเ้าออกไปก่อน ออกไปให้หมด!”
ทุกคนรวมถึงหลินเยี่ยนหง ต้องออกไปจากห้องเสวย ตอนนี้เหลือเพียงเขากับนางที่อยู่ข้างใน
“ซินหรู เ้าเป็อะไรไป ข้าไม่เคยเห็นกิริยา เช่นที่เ้าทำในวันนี้มาก่อน เกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่”
“ไม่มีเพคะ”
“อย่าได้ยั่วโมโหข้า เ้าเองก็รู้ว่า ข้าสามารถสั่งลงโทษเ้าได้”
“เช่นนั้นก็ได้เพคะ จะสั่งกักบริเวณ ห้ามข้าออกจากจวน ไม่ให้รับรู้อะไร เมื่อรู้สึกตัวอีกที ก็มีอาสะใภ้เสียแล้ว เช่นนั้นดีหรือไม่เพคะ”
“ซินหรู! เ้ากำลังพูดสิ่งใดออกมา ไปฟังผู้ใดพูดมา”
“เหตุใดต้องฟังผู้ใดด้วย ที่เห็นและเป็อยู่ตอนนี้ มันก็ชัดเจนแล้วมิใช่หรือเพคะ”
“เ้าคิดว่าข้ากับหลินเยี่ยนหง…”
“ขอให้พระองค์สมปรารถนา หม่อมฉันก็แค่บุตรีอดีตแม่ทัพ ที่ตายในสนามรบ เพราะความรับผิดชอบ และรู้สึกผิดที่ทำให้บิดาของข้าตาย ท่านจึงได้เก็บข้ามาเลี้ยง ในเมื่อเป็เช่นนั้น ก็อย่าใส่ใจมากเลยเพคะ”
“นี่เ้าคิดกับข้าเช่นนี้งั้นหรือ”
“หากมิใช่เช่นนั้น แล้วมีอะไรมากกว่านั้นหรือเพคะ”
นางมองไปยังดวงตาสีนิลของเขาตรงหน้า ซึ่งเดิมทีมองนางด้วยความใ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็ว่างเปล่า และเ็า
“ไม่มี เ้ารีบกลับไปที่เรือน อยู่ที่นั่นและห้ามออกไปไหนเป็อันขาด”
“รับพระบัญชาเพคะ”
นางรีบเดินออกจากห้องไปทันที เมื่อหลินเยี่ยนหงเห็นว่า นางโกรธ และแอบเช็ดน้ำตา ก็เผยยิ้มออกมาด้วยความพอใจ เพราะคิดว่าฉินซินหรูคงแอบร้องไห้เป็แน่
“ท่านอ๋องเพคะ ทั้งหมดเป็ความผิดของหม่อมฉัน”
“เ้ากลับจวนไปเถอะ หมดธุระของเ้าแล้ว กงอวี่ พวกเรารีบไป”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“เอ่อ เช่นนั้นท่านอ๋องโปรดระวังตัวด้วยเพคะ หม่อมฉันทูลลา”
เยี่ยนหงได้แต่มองตามหลังท่านอ๋อง ที่ควบอาชาคู่กายออกจากจวนไป เมื่อนางหันไปมองยังเรือนหลัง ของฉินซินหรูก็ยิ้มออกมาในทันที
“ตบนี้ถือว่าแลกเปลี่ยนได้คุ้มค่า ข้าจะยอมให้เ้าสักครั้งฉินซินหรู กลับจวน!”
ลานประกอบพิธีนอกเมือง
เมื่อท่านอ๋องเสด็จมาถึง ทุกอย่างก็ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ส่วนข้าศึกที่จับได้ เป็คนของแคว้นเว่ยจริง แต่พวกมันถูกฆ่าตายหมดแล้ว และยังทิ้งข้อความเอาไว้ ซึ่งทำให้ท่านอ๋องถึงกับกริ้วขึ้นมาในทันที
“นี่มันอะไรกัน อยากได้ดินแดนฝั่งเหนือของตงโจว พวกแคว้นเว่ยจะท้ารบงั้นหรือ”
ท่านอ๋องมองไปรอบ ๆ ลานประกอบพิธี ที่ถูกทำลาย ตงโจวไร้ามานาน ครั้งนี้เขาจะต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุด เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์ในตงโจว ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป หลังจากการปรากฏตัวของคนแคว้นเว่ยในครั้งนี้
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”
“ยกเลิกพิธีบวงสรวง พรุ่งนี้เรียกประชุมราชสำนัก สั่งให้กองทัพขุนพลเกราะเพลิงเข้ามาประชุมด้วย”
“รับทราบพ่ะย่ะค่ะ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้