สองพี่น้องตระกูลเมิ่งต่างมีความคิดที่ต่างกัน ทั้งยังกระวนกระวายจึงรออยู่ในเรือนถึงสองวัน แต่ดูคล้ายว่าภายนอกจะสงบสุข ไม่มีปัญหาใดๆ มาหาถึงประตูเรือน
เมื่อได้ยินว่าช่วยชีวิตนางเซี่ยกับซวี่เฉินฟางกลับมาได้ เมิ่งซวี่ซวีก็ตื่นตระหนกจริงๆ เพราะนางเซี่ยเคยเจอนางยามไปตักน้ำที่บ่อน้ำ หากนางเซี่ยบอกเื่นี้ให้เมิ่งอู่รู้ เมิ่งอู่ต้องมาแก้แค้นนางเป็แน่
ทว่าเมิ่งอู่ไม่มา
สองวันมานี้ร่างกายของนางเซี่ยยังไม่หายดี อ่อนแอมาก ซวี่เฉินฟางเองก็ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่เช่นกัน ยิ่งกว่านั้น อินเหิงก็าเ็ที่แขน เมิ่งอู่ต้องยุ่งวุ่นวายกับการดูแลทั้งสามคนจนไม่มีเวลาว่าง
นางเซี่ยนอนพักฟื้นอยู่บนเตียง ขณะที่อินเหิงออกแรงที่มือไม่ได้ มีเพียงซวี่เฉินฟางเท่านั้นที่อาการดีขึ้นบ้าง ยามที่เมิ่งอู่ทำอาหาร เขาก็ช่วยเด็ดผักและก่อไฟ ทั้งคู่ทำงานร่วมกันอย่างเข้าขาดี
วันข้างหน้ายังอีกยาวไกล รอให้เมิ่งอู่ว่างจากเื่พวกนี้ก่อน ค่อยสะสางบัญชีก็ยังไม่สาย
ทว่าผู้ใดจะคาดคิด สองวันมานี้ชาวบ้านในหมู่บ้านทยอยมีอาการวิงเวียนศีรษะและอาเจียน เมื่อมาหาเมิ่งอู่ นางจึงพบว่านี่เป็สัญญาณของการถูกพิษ
เพียงแต่อาการของชาวบ้านเบากว่ามาก แค่กินยาก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ชาวบ้านที่เดินทางมาหาเมิ่งอู่เพื่อรักษาตัว จึงได้รู้ว่าภายในเรือนของเมิ่งอู่ก็มีคนสองคนที่ถูกวางยาพิษ มิหนำซ้ำอาการรุนแรงมากจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
แม้ว่าอาการที่ถูกพิษนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนในหมู่บ้าน แต่ก็มีคนป่วยจำนวนไม่น้อย เห็นชัดว่านี่ไม่ใช่การวางยาพิษโดยบังเอิญ แต่เป็การวางยาพิษโดยเจตนา
ประจวบเหมาะกับชาวบ้านที่ได้รับพิษเหล่านี้ ล้วนเคยไปตักน้ำที่บ่อน้ำใน่สองวันมานี้
ชาวบ้านจึงรีบนำน้ำจากบ่อน้ำมาให้เมิ่งอู่ตรวจสอบ ผลปรากฏว่า ในน้ำมีสารพิษเจือปนเล็กน้อย
ในเวลาอันรวดเร็ว ชาวบ้านล้วนหวั่นวิตก มิกล้าดื่มแม้แต่น้ำในเรือนมากนัก ครั้นกล่าวถึงคนร้ายที่วางยาพิษ ต่างก็พากันเกลียดชังเหลือหลาย
โชคดีที่บ่อน้ำในหมู่บ้านลึกพอสมควร น้ำในบ่อจึงมียาพิษเจือจาง เป็ผลให้ชาวบ้านที่ดื่มน้ำจากบ่อน้ำเข้าไปไม่ถึงกับเสียชีวิต
หาก้าจับตัวคนร้าย ต้องรู้ก่อนว่านี่เป็ยาพิษชนิดใด
ชาวบ้านให้ความสำคัญกับเื่นี้ยิ่งยวดจึงเริ่มสืบหากันอย่างแข็งขัน
แม้เมิ่งอู่ไม่ได้มาล้างแค้นเมิ่งซวี่ซวี แต่เมิ่งซวี่ซวีก็โล่งใจได้ไม่นาน ด้วยไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก ราวกับอสนีบาตตอนกลางวันแสกๆ
เมิ่งเจียนเจียมีสีหน้าเคร่งขรึม บีบไหล่เมิ่งซวี่ซวี แล้วกระซิบถาม “เ้าเป็คนใส่ยาพิษลงในบ่อน้ำหรือ?”
เมิ่งซวี่ซวีหน้าซีดเผือด ส่ายหน้ารัวๆ “ไม่... ข้าไม่ได้ทำ...”
เมิ่งเจียนเจียถาม “แล้วไฉนในบ่อน้ำถึงมียาพิษ!”
เมิ่งซวี่ซวีกล่าวอย่างพรั่นพรึง “ข้าไม่รู้ ข้าไม่รู้อันใดเลย...” นางจับมือเมิ่งเจียนเจียพลางเอ่ยถาม “เ้าว่าพวกเขาจะสืบมาถึงข้าหรือไม่? พี่สาว ข้าไม่ได้ใส่ยาพิษลงในบ่อน้ำนะ!”
สีหน้าของเมิ่งเจียนเจียซีดขาวเช่นกัน นางปลอบโยน “อย่าเพิ่งใ เมื่อยาเบื่อหนูนั่นละลายในน้ำแล้วจะไม่มีทั้งสีและกลิ่น ผู้ใดจะสืบหาเจอเล่า”
ทว่าชาวบ้านมากมายขนาดนี้ไม่ถึงกับไร้หนทางเลย
ชาวบ้านพวกนี้ไม่รู้วิธีปรุงยาพิษ ดังนั้นยาพิษต้องซื้อมาจากที่ใดที่หนึ่ง บางครั้งชาวบ้านก็ใช้ยาพิษบางชนิด แต่ไม่ได้ใช้กับคน กลับใช้กับหนู เพียงพอน หรือหมาป่าที่ชอบมาขโมยไก่ อะไรทำนองนั้น
บังเอิญหมู่บ้านใกล้เคียงมีคนขายยาพิษประเภทนี้พอดี
เพื่อไม่ให้ใครนำยาพิษที่ใช้กำจัดหนูหรือแมลงมาทำร้ายผู้อื่น ยามที่ชาวบ้านซื้อยาจากเขา เขาจะบันทึกไว้ในสมุด
เขาขายยามากว่าสิบปีแล้ว จึงมีประสบการณ์มากโข หัวหน้าหมู่บ้านจึงให้คนไปเชิญคนขายยามา แล้วตักน้ำจากบ่อน้ำมาให้เขาดู ก่อนเล่าอาการของพวกชาวบ้านให้เขาฟัง คนขายยามองน้ำที่ใสสะอาดจากบ่อเพียงแวบเดียว ก็กล่าวว่า “น่าจะเป็ยาเบื่อหนู”
ชาวบ้านถาม “เฮ่อเหล่าเยา เ้ารู้ได้อย่างไรว่าเป็ยาเบื่อหนู?”
คนขายยาตอบอย่างมีมนุษยธรรม “ยาพิษชนิดอื่นๆ มักมีสีมีกลิ่นนิดหน่อย หากเป็ยาพิษชนิดอื่น เมื่อน้ำในบ่อเจือจางจนมองไม่เห็นและไม่ได้กลิ่น พิษจะไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายมากนัก ในบรรดายาที่ข้าขาย ยาเบื่อหนูเป็ยาที่มีพิษร้ายแรงที่สุด หนำซ้ำยังไร้สีไร้กลิ่น บางครั้งมีคนคิดจะใช้ยาเบื่อหนูทำเื่ชั่วร้าย ด้วยคิดว่าตนเองฉลาดมีสติ แต่แท้จริงแล้วกลับเป็วิธีที่โจ่งแจ้งสะดุดตาที่สุด”
เมื่อเกิดเื่เช่นนี้ขึ้น ชาวบ้านจึง้าสืบหาความจริง คนขายยาย่อมยินดีให้ความร่วมมือ
เขานำสมุดบันทึกออกมาให้ทุกคนดูว่า่นี้มีผู้ใดซื้อยาเบื่อหนูจากเขาบ้าง
คนขายยาไม่กลัวว่าผู้ที่ซื้อยาจะบอกชื่อปลอม เพราะเขามักเดินทางไปขายยาตามหมู่บ้านต่างๆ และมีความจำดีมาก จึงจดจำชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ หากพบผู้ที่ไม่รู้จักมาขอซื้อยาจากเขา เขาจะไม่ขายให้ เว้นแต่ว่าคนผู้นั้นจะหาคนรู้จักมารับรอง
จากการตรวจสอบครั้งนี้พบว่า ่นี้มีชาวบ้านจากหมู่บ้านซุ่ยสี่คนมาซื้อยาเบื่อหนูจากคนขายยา
คนหนึ่งซื้อยาไปแต่ยังไม่ได้ใช้ อีกสองคนใช้ไปแล้ว เหลืออยู่ครึ่งเดียว แต่ในครอบครัวของพวกเขาก็มีคนถูกยาพิษ จึงเป็ไปได้ยากที่จะวางยาพิษตนเอง
คนขายยากล่าว “เหลืออีกคนหนึ่งคือ แม่นางเมิ่งเจียนเจีย ดอกไม้งามที่สุดประจำหมู่บ้านซุ่ย”
เมื่อกล่าวจบ ทุกคนอดฉงนไม่ได้ว่า เมิ่งเจียนเจียเป็คนอ่อนโยนและใจดีมาโดยตลอด จะทำเื่แบบนี้ได้อย่างไร?
ทว่าพอสืบหาข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่า ดูคล้ายคนในครอบครัวของเมิ่งต้าจะไม่มีผู้ใดถูกยาพิษ ชาวบ้านล้วนโกรธแค้น พากันไปที่เรือนของครอบครัวเมิ่งต้า ด้วยตั้งใจจะสืบหาความจริงให้ได้!
เมิ่งเจียนเจียกับเมิ่งซวี่ซวีคาดไม่ถึงว่า เื่ราวจะสาวมาถึงตัวพวกนางเร็วขนาดนี้
สองวันมานี้นางเย่ยังแอบดีใจ โชคดีที่ในเรือนมีน้ำพอให้ดื่มกิน สองวันมานี้จึงไม่ต้องไปตักน้ำในบ่อน้ำ ดังนั้นคนในครอบครัวจึงไม่มีผู้ใดถูกยาพิษ
พอชาวบ้านบุกมาถึงหน้าเรือนพร้อมกับความโกรธแค้น นางเย่ก็ยังไม่รู้ว่าเกิดเื่ใดขึ้น
ชาวบ้านะโ “เมิ่งเจียนเจียอยู่ที่ใด! เรียกเมิ่งเจียนเจียออกมา! ที่ผ่านมาพวกเราประเมินนางผิดไป ไม่คิดเลยว่านางจะใจร้ายถึงเพียงนี้!”
นางเย่กล่าวอย่างไม่พอใจ “พวกเ้าพูดจาเหลวไหลอันใด เจียนเจียของบ้านเรามิได้ก้าวเท้าออกจากเรือนเลย แล้วไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้ใด?”
ชาวบ้านกล่าว “ไม่ออกจากเรือนรึ ข้าดูแล้วนางรู้สึกสำนึกผิดกระมัง!”
เวลานี้เมิ่งซวี่ซวีที่อยู่ในห้องประหวั่นพรั่นพรึงจนตัวสั่นไม่หยุดราวกับไก่ป่วย เมิ่งเจียนเจียมองนางแวบหนึ่งด้วยั์ตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและเกลียดชัง เื่เล็กน้อยแค่นี้ก็ยังทำไม่สำเร็จ ยามนี้ยังนำปัญหามาให้ถึงประตูเรือน นางจะมีประโยชน์อันใด!
ยามที่เมิ่งเจียนเจียเดินออกจากเรือน ใบหน้าเล็กๆ ยังคงซีดเซียว เมื่อชาวบ้านเอ่ยถามไม่กี่ประโยค นางก็เริ่มหลั่งน้ำตาอย่างหดหู่และเกินจริง
เมิ่งเจียนเจียกล่าวว่า นางเคยซื้อยาเบื่อหนูจริง แต่ใช้กำจัดหนู ไม่ได้ใช้ทำเื่เลวร้ายใดๆ
ชาวบ้านกล่าว “เฮ่อเหล่าเยาบอกว่า เ้าซื้อยาจำนวนไม่น้อยจึงสามารถใช้ได้หลายครั้ง แล้วที่เหลือเล่า หายไปที่ใดหมดแล้ว?”
เมิ่งเจียนเจียกล่าวทั้งน้ำตา “ข้าเก็บยาที่เหลือไว้ในตู้ แต่ต่อมาก็หายไป ข้าเองก็ไม่รู้ว่าหายไปที่ใด...”
ชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ย “หายไปหรือ? เกรงว่าเ้าจะเอาไปใส่ในบ่อน้ำกระมัง!”
เมิ่งต้า นางเย่และนางเหอเพิ่งเข้าใจถึงความร้ายแรงของเื่นี้
ยาเบื่อหนูในบ่อน้ำน่าจะเกี่ยวข้องกับเมิ่งเจียนเจีย!
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นล้วนคิดว่าคนร้ายคือเมิ่งเจียนเจีย จึงเรียกร้องให้จับนาง ผู้ใดกล้าวางยาพิษทำร้ายคนทั้งหมู่บ้านย่อมต้องถูกลงโทษด้วยการจับถ่วงน้ำ เผาทั้งเป็ หรือไม่ก็ทุบตีจนตาย