ข้อเท็จจริงพิสูจน์แล้วว่ารองหัวหน้าแก๊งเซียวฉีมีความสามารถในการทำอาหารดีกว่าหัวหน้าแก๊งนิดหน่อย ——นิดหน่อยที่เกือบจะเป็ศูนย์ ครึ่งชั่วโมงต่อมาสมาชิกแก๊งหลายคนนั่งอยู่ที่โต๊ะ มองไปที่จานอาหารไหม้เกรียมที่ไม่สามารถระบุได้ พวกเขากินเค้กที่นำมาเอง ดื่มเบียร์และพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน มีเฉพาะเหอชูซานเท่านั้นที่ยืนอยู่หน้าเตาถอนหายใจพลางทาเนยสดลงบนไส้กรอกไม่กี่ชิ้นที่เหลือรอด
หลังจากทาซอสเสร็จแล้ว เขาก็ก้มลงไปหยิบหนังสือที่ถูกลูกพี่ใหญ่ชย่าเตะไปข้างๆ เปิดอ่านใหม่สองสามหน้า
ยังอ่านไม่ถึงสองบรรทัด หนังสือก็ถูกใครบางคนเหยียบลงไปในทราย "ฉันคิดว่าฉันไม่ควรเผาหนังสือ ควรจะเผาแกมากกว่า"
"ถ้าเผาไปแล้วจะไม่มีใครมาย่างไส้กรอกให้กินนะ" เหอชูซานพูดพร้อมกับยิ้ม
ชย่าลิ่วอีเตะเขา แล้วนั่งยองๆ ลงข้างๆ แล้วยัดเค้กชิ้นเล็กๆ เข้าปากเขา
"อืม อร่อย"
"เสี่ยวหลัวทำ"
"พี่ชอบไหม? เดี๋ยวผมจะกลับไปเรียนวิธีทำแล้วจะทำให้พี่กิน"
"ไม่ต้องหรอก" ชย่าลิ่วอีรู้สึกคลื่นไส้กับเค้กั้แ่ฟันน้ำนมหลุดไปอีกครั้งในวันเด็กปีนี้
"งั้นอบคุกกี้ก็ได้ ชอบคุกกี้ไหม?"
“อือ”
"คุกกี้ดีกว่าเค้กนะ ปกติพี่ควรกินของแข็งๆ บ้าง จะได้ฝึกเคี้ยว อย่ากินแต่ของนิ่มๆ"
"ไสหัวไป"
ท้องฟ้าสีคราม เมฆสีขาว ทะเลและชายหาด ชายสองคนนั่งยองๆ อยู่หลังเตาที่ควันไฟลอยฟุ้ง พูดคุยกันอย่างหวานชื่น จู่ๆ ก็ได้กลิ่นไหม้เข้าจมูก ทั้งคู่จึงรีบลุกขึ้นพร้อมกันอย่างรวดเร็ว
"ไส้กรอกไหม้ด้วยหรือ? วันนี้ยังพอมีอะไรให้กินบ้างไหมเนี่ย หัวหน้า!" ชุยตงตงพูด
“หุบปาก”
……
กลุ่มมาเฟียเหล่านี้ปิ้งของแล้วก็ไหม้ ไหม้แล้วก็ยังปิ้ง กินปิ้งย่างแบบไหม้บ้างดิบบ้างอยู่ตลอดบ่าย ทำให้ชายหาดเละเทะไปหมด โต๊ะก็เต็มไปด้วยจานชามที่กินเหลือและซอสที่หกเลอะเทอะเต็มพื้น จากนั้นพวกเขาก็เริ่มโบกขวดเบียร์แล้ววิ่งลงทะเลไปเล่นน้ำ หัวเราะส่งเสียงดังและไล่จับกันอย่างสนุกสนาน เสี่ยวหม่ากอดหัวไอ้หัวบากแล้วกดลงน้ำ ต้าปาโถวแอ่นหลังแล้วดันเสี่ยวหม่าลงน้ำแทน ชุยตงตงกับนักร้องสาวน้อยยืนดูอยู่ข้างๆ ส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน
เหลือเพียงเหอชูซานที่ถือถุงใบใหญ่ นั่งยองๆ เก็บขยะอยู่คนเดียวอย่างขยันขันแข็ง
ชย่าลิ่วอีคาบบุหรี่ เดินเท้าเปล่าที่เต็มไปด้วยทรายมาหาเขา "ไม่ต้องเก็บแล้ว ทิ้งไว้ตรงนี้แหละ"
"อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว" เหอชูซานพูด
ชย่าลิ่วอีนั่งยองๆ ลงข้างเขา หยิบขวดเปล่าขึ้นมา แล้วทำท่าเหมือนจะฟาดหัวเขาอย่างแรง "ไอ้บ้า แกล้งทำเป็ดี มีแต่แกที่มีจิตสำนึกหรือไง!"
"รักษาความสะอาดของฮ่องกง เป็ความรับผิดชอบของทุกคน" นักศึกษาเหอพูดสั่งสอนเขา พร้อมกับหยิบขวดในมือเขาใส่ถุงขยะไปด้วย
ชย่าลิ่วอีใช้มือเปล่าตบหัวเขาอีกครั้ง "อย่ามาพูดมากกับฉัน! เก็บขยะทีหลังไม่ได้หรือไร? ไปดูพระอาทิตย์ตกกับฉัน!"
"ที่นี่ก็ดูได้เหมือนกัน" เหอชูซานหัวเราะเบาๆ พร้อมกับคว้ามือเขาไปด้วย
ลูกพี่ใหญ่ชย่ารู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาทันที เขาพยายามสะบัดมือของเหอชูซานออกโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ไม่สามารถสะบัดตัวเขาออกไปได้
ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเหนือผืนน้ำทะเลเปลี่ยนเป็สีแดงฉานราวกับเื นกอินทรีทะเลร้องเสียงแหลมดังก้องไปทั่วขณะบินโฉบผ่านท้องฟ้าเหาะข้ามเกลียวคลื่นยามเย็น เหอชูซานวางถุงขยะลง ยืนอาบแสงสีแดงของดวงอาทิตย์ที่สาดส่องมาทางด้านหลัง แล้วเดินเข้ามาใกล้ด้วยรอยยิ้ม
ชย่าลิ่วอีถอยหลังตามการเคลื่อนไหวของเขา สายตาเหลือบไปมองบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ไม่ไกล
เหอชูซานหันกลับไปมองกลุ่มบอดี้การ์ดแวบหนึ่ง ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาชี้ไปที่ระยะไกลแล้วร้องเสียงหลงว่า "ตำรวจ!"
ทันทีที่พวกบอดี้การ์ดหันกลับมา าานักแสดงเหอก็รีบคว้าบุหรี่ออกจากปากของลูกพี่ใหญ่ชย่า แล้วจุ๊บไปที่ปากของเขาอย่างรวดเร็ว!
“……”
"ผัวะ!"
เมื่อบอดี้การ์ดไม่เห็นอะไรเลยจึงหันกลับมา ก็เห็นเพียงเหอชูซานนอนขดตัวอยู่บนชายหาด มือข้างหนึ่งกุมท้อง ขณะที่หัวเราะคิกคักและพยายามจะลุกขึ้นด้วยความเ็ป ส่วนลูกพี่ใหญ่ชย่าก็เดินจากไปไกลแล้วด้วยความโกรธจัด ระหว่างเดินก็ยังสะบัดเท้าเปล่าที่ถูกเตะจนเจ็บไปมา
"มาถ่ายรูปกันเร็ว!" ชุยตงตงะโภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น "เร็วเข้า! เดี๋ยวพระอาทิตย์จะตกดินแล้ว!"
ชย่าลิ่วอีก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว แล้วหันกลับไปมองเหอชูซานที่ยังคงอ้อยอิ่งอยู่บนชายหาด เขาจึงเดินกลับไปแล้วกระชากเหอชูซานขึ้นมาอย่างหยาบคาย ลากเขาไปทางที่ชุยตงตงอยู่ เหอชูซานถือโอกาสเกาะติดเขาไปด้วย ทั้งสองคนดึงและผลักกันไปจนถึงหน้ากล้อง ชุยตงตงโอบเสี่ยวหลัวไว้แล้ว หัวบากเลือกตำแหน่งที่ไม่เด่นที่สุด บอดี้การ์ดคนหนึ่งยกกล้องขนาดใหญ่ขึ้นมา "หัวหน้า รองหัวหน้า คุณเหอ คุณหลัว พี่หม่า พี่บาก ช่วยมองกล้องด้วยกันนะครับ ผมจะนับหนึ่ง สอง สาม แล้วพวกคุณก็ะโพร้อมกันนะ..."
“1 2 3——”
"รวย!" ทุกคนะโพร้อมกัน เสี่ยวหม่ารีบวิ่งเข้ามาแทรกหัวเข้าไประหว่างหัวหน้าของเขากับเหอชูซาน พร้อมกับะโและยิ้มกว้าง
"แชะ!" ภาพถ่ายถูกบันทึกไว้ใน่เวลานั้น
……
เวลาพลบค่ำ ชย่าลิ่วอีไปส่งเหอชูซานกลับห้องเช่าที่ตึกแถวในย่านซีหวน
เหอชูซานลงจากรถ แล้วเกาะขอบหน้าต่างชวนเขา "ยังสว่างอยู่เลย ขึ้นไปนั่งเล่นข้างบนหน่อยไหมครับ?"
"คืนนี้ฉันมีนัดคุยธุระกับคนอื่นแล้ว"
"งั้นฉันจะไปหานายอาทิตย์หน้าได้ไหม?"
“อือ”
"พี่อยากกินอะไรไหม เดี๋ยวผมซื้อวัตถุดิบมาทำ"
เสี่ยวหม่าที่อยู่ในรถด้านหลังโผล่หัวออกมาอย่างหงุดหงิด มองไปที่เหอชูซานที่กำลังก้มตัวคุยกับชย่าลิ่วอีผ่านหน้าต่างรถ แล้วก็กลับไปนั่งอย่างหัวเสีย "เชี่ยเอ๊ย! ยังคุยไม่จบอีกเหรอ?"
"คู่รักเขาจะร่ำลากัน แกจะรีบร้อนไปทำไม" ชุยตงตงที่นั่งอยู่ในรถพูดกับเขา
"เจ้ตงตงอย่าเรียกว่า‘คู่รัก’สิ ขนลุกชะมัด! ฉันว่าไอ้แซ่เหอนั้นจริงๆ แล้วมันดูเหมือนเกย์นะ! ต้องทำให้มันอยู่ห่างๆ พี่ใหญ่หน่อย!"
"..." เพิ่งจะรู้หรือ พ่อชายแท้?
สิบนาทีต่อมาเหอชูซานซึ่งเป็เกย์จริงๆ ยืนอยู่ข้างถนนคนเดียว มองดูขบวนรถของชย่าลิ่วอี หายไปตรงหัวมุมถนน เขาถอนหายใจอย่างไม่เต็มใจพร้อมกับลูบปาก แล้วหันหลังกลับขึ้นไปชั้นบน
เขาหยิบไฟฉายออกมาจากกระเป๋าเอกสาร เพิ่งจะเดินขึ้นไปถึงชั้นสอง เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
มีกลิ่นคุ้นเคยอยู่ในอากาศ คุ้นเคยมากและเป็ลางไม่ดี แต่เขาก็นึกไม่ออกว่ามันคือกลิ่นอะไรในตอนนี้
เขาชะงักฝีเท้า ลังเลเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ สูดหายใจลึกๆ เข้าไปหนึ่งครั้ง กำลังจะหันหลังวิ่งหนี แต่ทันใดนั้นก็ถูกชายร่างใหญ่สองคนที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ กดตัวเขาไว้กับผนัง!
ยังไม่ทันได้ร้องขอความช่วยเหลือ ปากก็ถูกอุดด้วยผ้า จากนั้นก็ถูกมัดมือมัดเท้าขณะที่กำลังดิ้นรนต่อสู้ ทุกอย่างมืดไปหมด ร่างกายลอยขึ้นมาในแนวนอน!
"อื้อ อื้อ อื้อ... อื้อ อื้อ อื้อ..." เขาพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลังในความมืด และในตอนนี้เขาก็เพิ่งนึกออกว่ากลิ่นนั้นคืออะไร ——มันคือกลิ่นกระสอบที่คุ้นเคย!
แต่ครั้งนี้คนที่ "เชิญ" เขาไป ไม่ได้้าให้เขาไปเขียนบทแน่ๆ
……
เบื้องล่างเป็ป่าช้าสีเทาซีด ทอดตัวไปสุดสายตาจรดทะเล แสงไฟสลัวสาดส่องเงาโดดเดี่ยวเดินอยู่บนนั้น รูปเทวดาที่สลักอยู่บนแผ่นหินสองข้างทางจ้องมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า ขณะที่เขาเดินขึ้นบันไดขึ้นไปจนสุดทาง
ที่นั่นมีหลุมศพเก่าตั้งอยู่และมีชายคนหนึ่งที่มีสีหน้าเ็ายืนอยู่ข้างหน้า เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าชายคนนั้นก็หันกลับมา
ลู่กวงิกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับช่อดอกไม้พลางพูด "คุณอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย"
เซี่ยเจียหัวมองเขาเดินเข้ามาใกล้ด้วยความเงียบ
ลู่กวงิก้มลงวางดอกไม้ จากนั้นก็ก้มศีรษะทำสัญลักษณ์กางเขน ก่อนจะหันไปพูดกับเซี่ยเจียหัว "ทำไมไม่รับโทรศัพท์ผม?"
เซี่ยเจียหัวมองเขาทำเป็ใสซื่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย ลู่กวงิแยกเขี้ยวทำหน้าเบ้ไปพักหนึ่ง ก่อนจะรู้สึกตัวว่าคงทำต่อไปไม่ไหว จึงเปลี่ยนกลับมาเป็ยิ้มแย้มอีกครั้ง "ว่าไง? นายเจออะไรหรือเปล่า?"
"นายโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเืใดๆ กับถังเจียฉี เขาไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องนายเลยสักนิด"
ลู่กวงิหรี่ตาลง ยิ้มเหมือนจิ้งจอก "ขอโทษที ผมขอโทษคุณ คุณเข้าถึงยากเหลือเกิน ที่พูดถึงถังเจียฉีก็แค่อยากให้คุณลดกำแพงลงแล้วเปิดใจรับผม แล้วทีหลังเราก็คุยกันถูกคอไม่ใช่หรือ?"
จู่ๆ เซี่ยเจียหัวก็ยกมือขึ้นตบหน้าเขา!
"นายใช้คนที่ตายไปแล้วมาหลอกเอาข้อมูล นายไม่รู้สึกว่าตัวเองเลวทรามต่ำช้าบ้างเหรอ?!"
ลู่กวงิโดนตบจนหน้าหันไปข้างหนึ่ง เขาขยับมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "อย่าโกรธเลยครับ วันนี้ผมเอาของขวัญชิ้นใหญ่มาให้คุณ คุณอยากจะกำจัดชย่าลิ่วอีไม่ใช่หรือ?"
เขาล้วงฟิล์มออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เซี่ยเจียหัว
