กระท่อมน้อยหลังคามุงด้วยหญ้าภายนอกดูซอมซ่อบริเวณรอบๆ ก็มีต้นไม้ยืนต้นตายมากมาย บ่อน้ำแห้งขอดผืนดินแตกระแหงผาน้ำตกที่ไม่มีน้ำซักหยด ภาพที่เห็นอยู่ตอนนี้สร้างความประหลาดใจให้ซินเยว่ยิ่งนัก
"นี่มันอะไรกันที่นี่ที่ไหนแล้วนี่บ้านของใครเ้าตัวน้อย"
ซินเยว่ถามเ้าก้อนขน สภาพของกระท่อมที่นางเห็นท่าทางจะไม่มีใครอยู่มานาน มันดูเก่าเหมือนจะพังลงมาได้ทุกเมื่อแค่เพียงลมพัดเบาๆ เท่านั้น เ้าตัวน้อยใช้ปากกัดปลายชุดของซินเยว่ทำท่าจะลากนางให้เข้าไปในกระท่อม
"เ้าจะให้ข้าเข้าไปในนั้นหรือ จะได้อย่างไรบ้านของใครก็ไม่รู้แล้วเก่าขนาดนั้นเกิดพังลงมาทับข้าจะทำอย่างไร"
ซินเยว่ส่ายหน้าปฏิเสธมัน เ้าก้อนขนพยักหน้าแล้วทำเสียงจิ๊จ๊ะ เหมือนพูดกับซินเยว่ นางมองไปที่กระท่อมเก่าอย่างชั่งใจแล้วลองเปิดประตูเข้าไป เมื่อประตูเปิดออกพลันมีสายลมวูบหนึ่งพัดมาปะทะใบหน้านางเบาๆ มันเย็นสบายทำให้รู้สึกสดชื่นผิดกับบรรยากาศด้านนอกลิบลับ
มองจากด้านนอกกระท่อมหลังเล็กนิดเดียวแต่พอเข้ามาด้านในกลายเป็ห้องโถงกว้างกว่าที่เห็นภายนอกลิบลับ ริมผนังมีโต๊ะเก้าอี้ชั้นวางหนังสือและชั้นวางขวดยาที่ทำจากไม้เนื้อแข็งชั้นดี มีเตียงนอนเล็กๆ ติดกับหน้าต่าง ซินเยว่เดินสำรวจดูภายในห้องอย่างละเอียด ภายนอกดูเหมือนจะสกปรกแต่ข้างในกลับสะอาดกว่าที่เห็น
เ้าตัวน้อยส่งเสียงจิ๊จ๊ะเรียกนางแล้วใช้อุ้งเท้าหน้าอุ้มขวดยาที่ใหญ่เท่าตัวมันส่งให้ซินเยว่ มันใช้ปากเปิดจุกขวดแล้วเทยาเม็ดสีน้ำตาลคล้ายยาลูกกลอนมีกลิ่นหอมเย็น เม็ดเท่าลูกแก้วใส่มือซินเยว่แล้วทำท่าทางว่าให้นางกินเข้าไป ซินเยว่รับมาแต่ยังคงลังเลที่จะกิน จากประสบการณ์ที่นางได้รับมาก่อนที่จะมาเกิดใหม่ที่นี่ ทำให้นางหวาดระแวงและเกิดความลังเล
"คงไม่ใช่ยาพิษหรอกนะ"
ซินเยว่มองเ้าก้อนขนที่กำลังจ้องนางอย่างลังเล แต่ความรู้สึกส่วนลึกของนางกำลังร่ำร้องบอกให้นางกลืนยาลูกกลอนเม็ดนั้นเข้าไป
“เอาเถอะถ้าเป็ยาพิษก็แค่ตายอีกรอบ”
ซินเยว่โยนยาเม็ดนั้นเข้าไปในปากพลันเกิดความรู้สึกแสบร้อนเหมือนไฟกำลังแผดเผาร่าง หัวใจของนางเต้นเเรงระรัวซินเยว่ใช้มือกุมไปที่หัวใจเพราะตอนนี้นางรู้สึกเหมือนมีไฟเผาไหม้อยู่ข้างใน
ความรู้สึกเหมือนกำลังจะแหลกสลายเกิดขึ้นราวครึ่งเค่อ ตอนนี้ซินเยว่รู้สึกเหมือนมีของเหลวสีดำหนืดกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไหลออกตามรูขุมขนของนาง ไม่นานซินเยว่ก็กระอักเืสีดำออกมากองโต
ทว่าร่างกายของนางรู้สึกเบาสบายเหมือนจะลอยได้ ิัที่เคยหยาบกร้านกลับมาชุ่มชื้นนุ่มเนียนประดุจหยก เเขนที่เล็กแห้งเหมือนไม้ตะเกียบกลับมาอวบอิ่มสุขภาพดี เส้นผมสีดำที่เคยเเห้งเเข็งกลับเงางามนุ่มดุจไหมชั้นดี
"เหม็นชะมัดข้าต้องอาบน้ำ"
ซินเยว่ทำท่าจะอ้วกออกมาเมื่อได้กลิ่นกายตนเอง นางบอกความ้าแก่เ้าก้อนขน เ้าก้อนขนวิ่งออกนอกประตูไปซินเยว่มองตามหลังมันอย่างครุ่นคิด นางเปิดประตูออกอย่างช้าๆ ทิวทัศน์ที่แห้งแล้งก่อนหน้านี้เปลี่ยนไปกลายเป็ป่าเขาเขียวชอุ่ม ด้านข้างกระท่อมมีน้ำตกที่ไม่แห้งอีกต่อไป แม้แต่บ่อน้ำก็มีน้ำสีเขียวมรกตอยูเต็มบ่อ
ซินเยว่ตกตะลึงกับภาพที่เห็น นี่มัน์ชัดๆ ทิวทัศน์ที่สวยงามนี่มันอะไร เ้าก้อนขนชี้อุ้งเท้าไปที่น้ำตกซินเยว่ถอดเสื้อผ้าออกลงเเช่น้ำชำระร่างกายของเหลวสีดำหนืดหลุดออกสลายในน้ำตกเหมือนไม่เคยมีอยู่ นางรู้สึกว่าร่างกายกระปรี้กระเปร่าเหมือนมีพละกำลังเพิ่มขึ้นมหาศาล แถมน้ำตกนี้ก็มีกลิ่นหอมมากด้วย
หลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนชุดที่อยู่ในกระท่อมเสร็จแล้วเ้าก้อนขนก็ยกถ้วยชาที่ทำจากหยกสีขาวส่งให้ซินเยว่ ในนั้นมีน้ำสีเขียวมรกตอยู่ด้านใน มันทำท่ายกขึ้นดื่มให้ซินเยว่ดูนางดื่มตามที่มันบอกอย่างไม่ลังเล ภายในร่างกายของนางพลันมีพลังขุมหนึ่งะเิออกมาเสียงดัง
ปัง ปัง ปัง ปัง!!!!ขึ้นสี่ครั้งรอบๆ ตัวนางมีแสงสีแดงล้อมรอบแล้วหายวับไปตรงกลางหว่างคิ้ว ซินเยว่ก้มมองตัวเองนางสะบัดมือเบาๆ ลูกไฟสีแดงก็ปรากฏขึ้นที่ฝ่ามือของนาง ยิ่งซินเยว่ถ่ายพลังไปมากเท่าใดลูกไฟก็ยิ่งใหญ่โตขึ้นเท่านั้น นางรู้สึกว่าตอนนี้ร่างกายของนางได้เปลี่ยนไปแล้ว
"นี่เ้าก้อนขนเ้าเป็ใครกันแน่เหตุใดเ้าต้องช่วยข้า”
ซินเยว่อุ้มมันขึ้นมาไว้ในอุ้งมือจ้องมองมันด้วยสายตามีคำถาม นางถอนหายใจออกมาเบาๆ
“แต่ถึงอย่างไรข้าก็ต้องขอบใจเ้าอยู่ดี ถ้าไม่ได้เ้าตัวข้าคงไม่มีทางใช้พลังปราณพวกนี้ได้เป็เเน่"
เ้าก้อนขนะโขึ้นนั่งบนบ่าของซินเยว่ยื่นปากน้อยๆ จุ๊บที่แก้มของนางทำให้ตอนนี้แก้มซินเยว่เปียกชื้นไปด้วยน้ำลายของมัน
เ้าก้อนขนะโโลดเต้นไปมาเหมือนดีใจกับอะไรบางอย่างอยู่บนไหล่ของซินเยว่ จากนั้นมันก็มุดเข้าไปในอกเสื้อของนาง อุ้งเท้าเล็กๆ หดไว้ข้างกายในท่ากุมท้อง จากนั้นมันก็ทำท่านอนหลับไปทั้งอย่างนั้น
ซินเยว่เลิกคิ้วมองเ้าตัวน้อย ท่าทางมันคงคิดจะตั้งรกรากอยู่ที่นี่ระยะยาวเกาะติดนางไม่ปล่อยเสียแล้ว ซินเยว่ก้มหน้ามองเ้าก้อนขนในอกเสื้อที่นอนหลับปุ๋ยพลางส่ายหน้าอย่างจนใจ
"เ้านอนหลับเช่นนี้ข้าจะกลับออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร"
เ้าก้อนขนขยับตัวส่งเสียงจิ๊จ๊ะ ที่ซินเยว่รบกวนการนอนของมันเ้าตัวน้อยโผล่หัวเล็กๆ ออกมาจากอกเสื้อในปากมีแหวนหยกที่เซวี่ยฟังเฟยมอบให้นางก่อนหน้านี้คาบอยู่ในปาก
"เฮ้!!นั่นแหวนของข้านะเ้าตัวน้อยไปอยู่ที่เ้าได้อย่างไร"
เ้าก้อนขนคาบแหวนแล้วส่ายหัวไปมา
"เ้า้าจะบอกอะไรข้าอย่างนั้นหรือ"
ซินเยว่แบมือรอรับแหวนหยกของนาง ทันทีที่เ้าก้อนขนคายแหวนออกจากปากมันแหวนก็หล่นลงบนมือซินเยว่ พลันเกิดเเสงสีขาวสว่างจ้าจนทำให้นางต้องหยีตา ซินเยว่ลืมตาอีกครั้งปรากฏว่านางนอนอยู่ในถ้ำที่เดิมก่อนหน้านี้ ข้างๆ มีเซวี่ยฟังเฟยและฮุ่ยหลิงกำลังมองนางด้วยความเป็ห่วง
"ท่านแม่เกิดอะไรขึ้นเ้าคะ"
ซินเยว่ลุกขึ้นนั่งมองใบหน้าของสตรีทั้งสองที่มีท่าทางขวัญเสีย
"แม่ไม่รู้เยว่เอ๋อ หลังจากลูกล้มตัวลงนอนก็มีลูกไฟสีแดงห่อหุ้มตัวของลูกเอาไว้แม่กับฮุ่ยหลิงเข้าใกล้เ้าไม่ได้ เรียกอย่างไรลูกก็ไม่ยอมตื่น"
ซินเยว่ทำสีหน้าฉงน หรือว่าลูกไฟสีแดงที่พวกนางเห็นจะเป็สิ่งเดียวกันกับที่ออกมาจากแหวน
"ท่านแม่ข้าหลับไปนานเท่าใด"
นางถามมารดาด้วยความสงสัย
"ลูกหลับไปราวๆ หนึ่งเคอพอลูกลืมตาตื่นขึ้นลูกไฟสีแดงก็หายไป"
ซินเยว่พยักหน้าท่าทางครุ่นคิด
"ท่านแม่ลูกขอถามท่านแม่ได้หรือไม่ หลังจากท่านปู่มอบแหวนหยกให้ท่านแม่ท่านปู่ได้บอกอะไรกับท่านแม่อีกหรือไม่ อะไรก็ได้ที่ท่านแม่สามารถคิดออกจะเป็เื่ที่ไม่สำคัญก็ได้"
เซวี่ยฟังเฟยกอดอกทำท่านึก
"อืม...ก่อนสิ้นลมท่านปู่ของลูกพูดว่า 'รอให้นางกลับมารวมเป็หนึ่ง' ท่านปู่พูดซ้ำๆ ก่อนสิ้นลมแม่ไม่เเน่ใจว่าท่านปู่ของลูกกล่าวถึงผู้ใดหรืออะไร แม่เพียงคิดว่าท่านปู่อาจจะเพ้อไปเท่านั้น"
ซินเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
"ท่านแม่ข้ามีเื่ที่ต้องบอกกับท่านเกี่ยวกับแหวนหยกที่ท่านยกให้ข้า"
นางลอบมองเซวี่ยฟังเฟยว่ามีท่าทางรู้เื่ความลับของเเหวนหยกมาก่อนหรือไม่ เซวี่ยฟังเฟยยังคงจ้องหน้าซินเยว่อยู่เช่นนั้นเพื่อรอฟังในสิ่งที่นาง้าจะบอก
"คือ...แหวนหยกนี่เป็แหวนวิเศษเ้าค่ะ ที่ท่านแม่เห็นข้าหลับไปนั้นข้าเข้าไปในมิติของแหวนวงนี้ ลูกไฟที่ห่อหุ้มร่างข้าคือพลังที่ตื่นขึ้นและทั้งหมดข้าคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับแหวนหยกวงนี้ ตอนนี้ข้าสามารถใช้พลังได้แล้ว แต่ไม่เเน่ใจว่าขั้นไหนเพราะพลังของข้าเป็ลูกไฟไม่ใช่สีที่ออกมาเหมือนอย่างของพวกท่าน”
เซวี่ยฟังเฟยน้ำตาไหลออกมานางดึงซินเยว่เข้ามากอด
"เยว่เอ๋อของแม่ดีจริงๆ ดียิ่งนักขอบคุณ์ ต่อไปนี้จะไม่มีใครกล้ารังแกลูกของแม่อีกแล้ว"
"ดีจริงๆ เ้าค่ะคุณหนูบ่าวดีใจกับคุณหนูจริงๆ"
ฮุ่ยหลิงเขย่าแขนซินเยว่ด้วยความดีใจ ซินเยว่ล้วงแหวนหยกออกมาสวมที่นิ้วชี้ด้านขวาพลันมีแสงสีแดงเปล่งออกมาล้อมรอบเอาไว้ พอแสงหายไปนิ้วชี้ข้างขวาที่เคยมีแหวนหยกกลายเป็เพียงรอยสี เเดงเป็วงและมีสัญลักษณ์รูปหางหงส์ขึ้นที่กลางหว่างคิ้วของซินเยว่จากนั้นจึงหายไป
ทุกคนต่างอึ้งไปหมดแม้แต่ตัวของซินเยว่เอง นี่มันจะพิสดารพันลึกเกินไปแล้ว
หลังจากซินเยว่เล่าเื่ที่นางพบเจอตอนที่นางหลับไปให้ทั้งสองคนฟังเสร็จแล้ว นางจึงปรึกษาทั้งสองคนว่าจะออกเดินทางไปชายแดนเเคว้นฉิงในวันพรุ่งนี้ดีหรือไม่
ชายแดนแคว้นฉิงมีป่าลึกลับแห่งหนึ่งชื่อว่า ป่ามืดสายหมอก ป่านี้กว้างใหญ่ไพศาลกินพื้นที่ด้านใต้ของแผ่นดินหลิงซวนทั้งหมด ูเาน้อยใหญ่สลับซับซ้อน น้อยคนนักจะกล้าเข้าไปจนถึงส่วนลึกของป่าเพราะที่นั่นมีสัตว์อสูรั้แ่ขั้นแปดขึ้นไปอาศัยอยู่มากมาย
ป่ารอบนอกส่วนมากจะเป็สัตว์อสูรขั้นหนึ่งถึงเจ็ดสวนสัตว์อสูรขั้นที่สูงกว่าขั้นเจ็ดอาศัยอยูส่วนลึกของป่ามืดสายหมอก ไม่ค่อยออกมาที่ป่ารอบนอกสักเท่าใด แต่ก็มีบางครั้งที่พวกมันออกมาทำลายเมืองที่อยู่ใกล้ชายขอบของป่า ดังนั้นแต่ละเมืองจึงมีสมาคมถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อจัดการกับสัตว์อสูรที่ออกมาอาละวาด
หนึ่งเดือนต่อมาซินเยว่เซวี่ยฟังเฟยและฮุ่ยหลิงเดินทางถึงเมือง เยว่กว่างเมืองเล็กๆ เมืองสุดท้ายของแคว้นฉิงที่ตั้งอยู่ติดชายแดนห่างไกลจากเมืองหลวงหลายพันลี้ ซินเยว่เลือกพักโรงเตี๊ยมในเมืองก่อนหนึ่งคืนเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับเมืองนี้
ประชาชนเมืองเยว่กว่างส่วนมากมีอาชีพล่าสัตว์อสูรและหาสมุนไพรปราณและเมืองเยว่กว่างตั้งอยู่ติดกับป่ามืดสายหมอกทำให้มี ทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ทุกคนต่างมีพลังปราณไม่แปลกเลยที่จะกล้าอาศัยอยู่ใกล้ป่าที่มีสัตว์อสูรจำนวนมากเช่นนี้ เมื่อถึงโรงเตี๊ยมระดับกลางซินเยว่จัดการจ่ายค่าห้องพักสามห้อง
"พี่ชายข้าขออาหารสามสี่อย่างยกไปที่ห้องของข้าแล้วก็เตรียมน้ำอาบให้พวกข้าหน่อยนะเ้าคะ"
เมื่อสั่งเสี่ยวเอ้อเสร็จซินเยว่จึงหันมาคุยกับทั้งสองคน
"ท่านแม่คืนนี้เราพักที่นี่ให้หายเหนื่อยก่อนเดี๋ยวข้าจะไปที่ว่าการหาที่ดินสักผืนสร้างเรือนของพวกเราท่านแม่ว่าดีหรือไม่"
ซินเยว่ปรึกษามารดาของนางหลังจากที่คิดจะตั้งรกรากที่นี่
"ได้เอาตามที่ลูกว่าเลย"
เซวี่ยฟังเฟยล้วนตามใจซินเยว่ ทั้งสามคนขึ้นไปอาบน้ำพักผ่อน เตรียมใช้ชีวิตใหม่ที่เมืองเยว่กว่าง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้