เหยาเชียนเชียนก้มหน้าลงตัวแข็งทื่อ เด็กชายผู้งดงามและน่ารักเมื่อครู่หายไปแล้ว ในอ้อมแขนของนางถูกแทนที่ด้วยลูกแมวตัวน้อยที่นอนขดอยู่ เสื้อผ้ากองซ้อนกันจนแทบจะคลุมตัวไว้มิด
ภาพหลอน นี่ต้องเป็ภาพหลอนแน่ๆ!
เหยาเชียนเชียนวางลูกแมวน้อยไว้บนพื้นด้วยมืออันสั่นเทา นางอยากกรีดร้องออกมา แต่ในสถานการณ์ที่ใสุดขีดนางกลับส่งเสียงอะไรไม่ออก
อาเหยียนกลายร่างเป็แมว หรือว่าแมวกลายร่างเป็อาเหยียนกันแน่?
เหยาเชียนเชียนค่อยๆ ยกมือขึ้นหยิกที่ต้นขาของตัวเองเต็มแรง มันเจ็บเสียจนน้ำตาไหล นางปิดปากเพื่อกลั้นเสียงทั้งหมด พลางมองไปที่แมวน้อยตัวนั้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“อาเหยียน?”
นางเอ่ยเรียกเสียงสั่นเครือ ลูกแมวตัวเล็กขดตัวนิดหน่อยราวกับััได้ถึงความเย็นเยียบของพื้น มันขยับเข้าไปหากองผ้าอย่างไม่สบายตัว เหยาเชียนเชียนฟังเสียงร้องเหมียวเหมียวด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง นึกเสียใจที่ตนไม่ยอมทนหิวไปอีกสักคืน
เด็กคนนี้เป็บุตรชายของชิงผิงอ๋อง หรือว่าเป็ปิศาจแมวกันแน่?
ไม่รู้ว่าเป็แมวพันธุ์อะไร แต่ก็ดูสวยพิกล
ความคิดของเหยาเชียนเชียนพันกันยุ่งเหยิง นางอยากหนีไปเพื่อให้เื่พ้นตัวเสียเหลือเกิน
ทว่าภาพลูกแมวน้อยที่นอนอยู่บนพื้นช่างดูอ่อนแอยิ่งนัก กลางคืนอากาศเย็น ถ้าหากไม่สบายขึ้นมาหรือรอให้คนมาพบตัวในวันพรุ่งนี้ และทิ้งไว้ราวกับเป็ลูกแมวทั่วไปตัวหนึ่ง เช่นนั้นจะไม่เป็การฆ่าคนทางอ้อมหรือ?
“เหมียว~ เหมียว~”
เหยาเชียนเชียนมองลูกแมวที่ขดตัวมาอยู่ข้างเท้า ลังเลอยู่นานก่อนจะกัดฟันรวบทั้งแมวและผ้ากองนั้นขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะเดินตามเส้นทางเดิมเพื่อกลับไปห้องอย่างระมัดระวัง
ลูกแมวน้อยในอ้อมแขนของนางหลับสนิท แต่ก็ไม่สามารถวางลงได้ เพราะเมื่อวางลง เ้าแมวน้อยก็จะส่งเสียงร้องออกมาอย่างง่ายดาย
เหยาเชียนเชียนเกรงว่าหากมีคนได้ยินเข้าจะกลายเป็จุดสังเกตได้ ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงนอนกอดมันไปตลอดทั้งคืน พยายามผ่อนคลายจิตใจไปพร้อมกับเรียบเรียงความคิด
ไม่รู้ว่าลูกแมวตัวนี้เป็ลูกของชิงผิงอ๋องหรือไม่ หากใช่ เ้าของร่างเดิมอาจจะเห็นเหตุการณ์นี้เข้า จึงบีบคออีกฝ่ายด้วยความหวาดกลัว?
แต่หากเป็เช่นนั้น ชิงผิงอ๋องก็กำลังปกป้องลูกชายของตนอยู่ไม่ใช่หรือ เขารู้ว่าแท้จริงแล้วลูกชายของตนเป็ปิศาจแมว?
คงเป็ปิศาจแมวกระมัง เหยาเชียนเชียนก้มหน้ามองลูกแมวน้อย ตัวนางในชาติที่แล้วไม่มีเวลาเลี้ยงสัตว์ ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับเพื่อนตัวน้อยผู้นี้ดี เมื่อครู่ให้เขากินไก่ไปเยอะขนาดนั้น ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาหรือไม่
“เฮ้อ ยามนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาตัวแทบไม่รอด ยังต้องมาครุ่นคิดเื่ของเ้าอีก”
เหยาเชียนเชียนใช้ปลายนิ้วลูบศีรษะเล็กแ่เบา “ยังไม่รู้เลยว่าถ้าท่านพ่อของเ้าเสด็จกลับมาแล้วจะปลดข้าหรือไม่ หากเ้าเป็ลูกชายของเขาจริง ถ้าเขาเอ็นดูเ้าอยู่บ้าง เห็นแก่เื่คืนนี้ เ้าช่วยข้าอ้อนวอนหน่อยแล้วกัน”
เพียงแต่ว่าถ้าเ้าของร่างเดิมได้เห็นเหตุการณ์นี้แล้วเช่นกัน เหตุใดชิงผิงอ๋องจึงไม่ฆ่านางทิ้งเสีย?
หากเ้าของร่างเดิมเผยแพร่เื่ราวแปลกประหลาดเหล่านี้ออกไป ต้องนำมาซึ่งความปั่นป่วนเป็แน่ ชิงผิงอ๋องจึงสั่งให้คนคอยจับตาดูนางไว้ แต่ตนกลับเสด็จออกไปดื่มสุราดอกไม้ [1] เช่นนี้จะไม่ดูว่าเขาไม่แยแสเกินไปหน่อยหรือ?
“เื่ราวเป็เช่นไรกันแน่ ข้ารู้สึกว่ายามนี้ไม่มีอะไรสมเหตุสมผลเอาเสียเลย”
ไม่รู้ว่าเหตุใดเ้าของร่างเดิมถึงคิดจะบีบคอฆ่าเด็กคนนี้ และไม่รู้ว่าชิงผิงอ๋องรับรู้ถึงความพิเศษของเด็กคนนี้หรือไม่ และยิ่งไม่รู้กว่าคือแมวน้อยตัวนี้สามารถกลับคืนร่างมนุษย์ได้หรือไม่
“หากเ้าอยู่ในร่างนี้ต่อไป อย่าว่าแต่มีคนเห็นเลย หากชิงผิงอ๋องเสด็จกลับมาไม่เจอลูกชาย ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งคงหนีไม่พ้นข้าเป็แน่”
ถ้าถึงยามนั้น นางก็ไม่อาจมอบลูกแมวน้อยตัวนี้ให้เขาได้จริงๆ หากว่าแท้จริงแล้วเขาไม่รู้เื่นี้
“ช่างเถิด ถ้าไม่ได้จริงๆ ข้าก็จะพาเ้าหนีเอง”
เหยาเชียนเชียนกอบกุมอุ้งเท้าเล็กไว้หลวมๆ มันทั้งนุ่มนิ่ม มีเนื้อเป็สีชมพู ทั้งยังลื่นมือ
นางมาที่นี่ด้วยตัวคนเดียวและไร้ซึ่งที่พึ่ง หากเด็กคนนี้ไม่สามารถเป็ที่ยอมรับของโลกนี้ได้ เช่นนั้นนางก็จะพาเขาไปด้วย ถือเป็ที่พึ่งของกันและกัน
“แน่นอนว่าเงื่อนไขแรกก็คือท่านพ่อของเ้าต้องยินยอมปล่อยข้ากับเ้าไปก่อน”
เชิงอรรถ
[1] ดื่มสุราดอกไม้ เป็คำกล่าวอย่างสุภาพของคนโบราณ หมายถึง การไปซ่องและร่ำสุรากับเหล่านางโลม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้