โรงเรียนอนุบาลสองภาษาซินเล่ย ณ เมือง A
เสียงของหยาดฝนเม็ดเล็กๆ เริ่มเบาลง ใบไม้ที่ฉ่ำวาวของต้นแมกโนเลียหน้าประตูทางเข้าแลดูเขียวชอุ่มกว่าทุกทีเหล่ากองทัพเด็กน้อยส่งเสียงเจี้ยวจ้าวพากันขึ้นรถของตนเอง
ซูหรงหรงที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มยืนอยู่ใต้ต้นแมกโนเลียอันสูงตระหง่านมือหนึ่งถือร่ม อีกมือก็โบกไปมาเพื่อบอกลาเหล่านักเรียนตัวน้อยของเธอ
ถึงแม้ว่าหน้าตาท่าทางหรือแม้กระทั่งขนคิ้วของเธอจะแสดงออกถึงความอบอุ่นใจทว่าตัวเธอกลับรู้ดีว่าหัวใจของเธอนั้นตอนนี้มันออกวิ่งไปไกลกว่าหมื่นกิโลแล้ว
วันนี้เป็วันเกิดแฟนสุดที่รักที่คบหาดูใจกันมาถึง 4 ปี ‘กู้แหยนเจ๋อ’
ซูหรงหรงอุตส่าห์ใช้เวลาหลายวันในการตระเตรียมของขวัญวันเกิดให้เขาเธอวางแผนว่าจะรีบไปมอบให้เขาทันทีหลังเลิกเรียนแต่เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเธอเอาเสียเลย เพราะทันทีที่เลิกเรียนฝนก็ดันตกลงมา
เมื่อส่งนักเรียนกลุ่มสุดท้ายเสร็จซูหรงหรงรีบคว้าของขวัญแล้วออกวิ่งไปที่บ้านกู้แหยนเจ๋อแทบจะทันที
ณ อพาร์ตเมนต์สุดหรูซินหลินหย้วน
ซูหรงหรงขึ้นลิฟต์มาจนถึงชั้น 18เธอที่เตรียมจะกดกริ่งหน้าประตูก็ชะงักลงเมื่อพบว่าประตูบานนั้นยังเปิดแง้มอยู่ไม่ได้ปิดสนิท
ทำไมไม่รอบคอบเอาเสียเลย? กู้แหยนเจ๋อมักจะบอกเสมอว่าเธอเป็คนสะเพร่าดูเหมือนเขาก็เป็เหมือนกันไม่ใช่หรือไง
แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้แอบเข้าไปแล้วก็เซอไพรส์เขาให้ใไปเลย
ซูหรงหรงอมยิ้มอย่างซุกซน เธอกอดของขวัญของเธอไว้แน่นก่อนจะค่อยๆย่องเข้าไปภายใน
ภายในกล่องของขวัญที่ถูกห่ออย่างประณีตสวยงามนั้นคือนาฬิกาทรายสีชมพูที่เป็สัญลักษณ์ของความรักของพวกเขาแถมภายในนาฬิกาทรายยังฝังรูปภาพของทั้งสองลงไปด้วย
เมื่อเข้าประตูมาแล้วเธอพบว่าภายในห้องรับรับแขกยังไม่มีการวางเค้กหรืออาหาร
หรือเขาจะรอเธออยู่กันนะ?
หัวใจของซูหรงหรงเต็มไปด้วยความรักอันเปี่ยมล้น เธอค่อยๆ ย่องไปทางห้องนอนของเขาอย่างช้าๆช้าๆ...ก่อนจะหยุด กึก! อยู่หน้าประตูห้อง
ราวกับโดนฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาที่ตัวของเธอ
ภายในห้องนอนนั้น...’กู้แหยนเจ๋อ’ คนรักของเธอ กับ ‘เฉินหย่าถิง’เพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ…ทั้งสองคนกำลังนัวเนียอยู่!
ภาพที่ปรากฏตรงหน้าดูน่าขยะแขยงสะอิดสะเอียนจนเธอไม่อาจทนมองได้อีกต่อไป
กู้แหยนเจ๋อที่เพิ่งสังเกตเห็นการปรากฏตัวของซูหรงหรงรีบเอาผ้าห่มคลุมร่างกาย ก่อนจะเอ่ยทั้งที่ยังหอบ
“ซูหรงหรงฟังฉันอธิบายก่อน...”
“ฉันเห็นชัดเจนหมดแล้ว!”
ซูหรงหรงปัดมือของเขาที่ยื่นมาจะกอดเธอออก ดวงตาที่แดงก่ำของเธอเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาที่พร้อมจะไหลลงมา
“หรงหรง...”
กู้แหยนเจ๋อคว้าตัวซูหรงหรงเข้ามากอดแต่ซูหรงหรงพยายามจะดิ้นออกจากวงแขนนั้น เมื่อดิ้นไม่หลุดเธอจึงใช้ฟันกัดเข้าที่ท่อนแขนของเขา
“โอ๊ย...”
กู้แหยนเจ๋อปล่อยตัวเธอแทบจะทันทีราวกับถูกไฟฟ้าช็อตซูหรงหรงที่ยังตั้งตัวไม่ทัน ร่วงลงไปกองกับพื้นพลันนาฬิกาทรายที่ถืออยู่ในมือก็หล่นแตกเสียงดัง
ราวกับ์จงใจรูปคู่ของพวกเขาทั้งสองฉีกขาดออกจากกันเป็สองส่วน
“...ซูหรงหรง ยัยบ้า!”
เฉินหย่าถิงที่อยู่ในเหตุการณ์รีบเอาผ้าคลุมตัวก่อนจะรุดไปหากู้แหยนเจ๋อแล้วตรวจสอบาแในขณะเดียวกันซูหรงหรงที่ตั้งสติได้ก็ะโกลับไป
“เธอนั่นแหละที่บ้า!”
กู้แหยนเจ๋อมองท่าทีที่กังวลของเฉินหย่าถิง เขาถอนหายใจก่อนจะใช้มือบีบมือของเธอเบาๆ เพื่อปลอบประโลมให้เธอคลายกังวล จากนั้นเขาก็หันมาพูดกับซูหรงหรง
“ซูหรงหรง...ไหนๆวันนี้เธอก็เห็นทั้งหมดแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าฉันสารภาพกับเธอไปเลยแล้วกัน”
เมื่อได้เห็นใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกผิดของกู้แหยนเจ๋อมันทำให้ซูหรงหรงตระหนักได้ว่า
นี่คือใบหน้าของลูกชายคนที่สองของเครือธุรกิจกู้กรุ๊ปที่มักจะล้อเล่นกับศักดิ์ศรีของผู้อื่นอยู่เสมอและนี่เป็ครั้งที่สองในรอบ4 ปีที่เธอได้เห็น
ครั้งแรก คือตอนที่เขาแสดงออกว่ารักแต่ตัวเอง
ช่างน่าขำเสียจริง
“หรงหรง...ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปกปิดเื่นี้กับเธอฉันกับถิงถิงเริ่มคบกันั้แ่เดือนที่แล้ว ฉันแค่ไม่ได้บอกเธอเพราะกลัวเธอจะเสียใจ...”
กู้แหยนเจ๋อพูดได้เพียงครึ่งเดียวก็รู้สึกร้อนรนใจจนทนไม่ได้เมื่อได้เห็นสายตาของซูหรงหรงที่จ้องมาที่เขาอย่างผิดหวังและกล่าวโทษขนตาที่ยาวเป็แพของเธอรื้นไปด้วยน้ำตา
“แหยนเจ๋อ...”
เฉินหย่าถิงที่ยืนดูท่าทีอยู่รีบใช้มือรั้งตัวกู้แหยนเจ๋อแล้วดันตัวขึ้นมายืนข้างเขาสายตามองต่ำลงมาที่ซูหรงหรงก่อนจะเอ่ย
“ซูหรงหรง...ฉันทนเห็นสารรูปน่าสมเพชของเธอตอนนี้ไม่ไหวแล้วเลิกทำตัวเป็คนน่าสงสารเถอะย่ะจะแสดงอะไรนักหนา!”
นี่คือคำพูดของเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันหรือนี่?
เพื่อนสนิทที่นอนกับแฟนของฉันแล้วยังมาด่าทอฉันในเื่ที่ตัวเองเป็คนก่อขึ้น?
“เธอมันก็เป็เสียแบบนี้ทำตัวแอ๊บแบ๊วไร้เดียงสา นี่มันยุคสมัยไหนแล้วเธอคิดจะรักษาความบริสุทธิ์ของเธอไปชั่วชีวิตหรือยังไง เธอกับแหยนเจ๋อคบกันมาตั้ง 4 ปี 4 ปีที่ผ่านมาเธอทำให้เขาได้มากสุดก็แค่จับมือกับจูบ!”
คำพูดแทงใจนี้ทำให้มือของกู้แหยนเจ๋อที่เตรียมจะเอื้อมไปดึงตัวของซูหรงหรงชะงักลงก่อนจะเก็บกลับมาไว้ที่เดิม