ความยินดีอย่างบ้าคลั่งกำลังก่อเกิดในใจ นางกำลังสุขล้นกับการคาดคะเนของตนเอง เสิ่นม่านขบริมฝีปากล่างไว้แน่นพลางถูฝ่ามืออย่างตื่นเต้น นางขยับเข้าใกล้หนิงโม่ด้วยท่าทีลึกลับและเอ่ยถามเสียงค่อย
“บราเธอร์ ฮาว อาร์ ยู?”
หนิงโม่ “?”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่กระจ่าง เสิ่นม่านคิดว่าอีกฝ่ายไม่เข้าใจจึงเปลี่ยนคำพูด “ร่ำรวย แข็งแรง ประชาธิปไตย ปรองดอง [1] ”
ท่าทีของหนิงโม่จากทีแรกไม่ค่อยกระจ่าง บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็มึนงง
เสิ่นม่าน “...”
หรือจะเดาผิดไป? นางยังไม่ยอมแพ้ พร้อมกับหยั่งเชิงครั้งสุดท้าย “ตรีโกณมิติ?”
ในที่สุดหนิงโม่ก็มีปฏิกิริยา เขาเกี่ยวคอเสื้อของนางขึ้นมาให้นางยืนตัวตรง “เมื่อครู่เครื่องโม่หินคงไม่ได้กระแทกศีรษะเ้าหรอกนะ?”
ให้ตายเถิด นี่กำลังด่านางว่าบ้าหรือ?
หัวใจของเสิ่นม่านเต็มไปด้วยความผิดหวัง ความเดียวดายที่อยู่ต่างโลกต่างบ้านต่างเมืองกำลังทวีความรุนแรง จากนั้นค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็ความโกรธเคือง
นางปัดมือของหนิงโม่ออกและกล่าวอย่างมีน้ำโห “ไม่ต้องมายุ่ง! คนยุคโบราณโง่เง่า!”
โดนด่าว่าโง่เง่า เดิมทีหนิงโม่ควรโกรธ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อเห็นใบหน้าอิ่มเอิบที่กำลังป่องด้วยความโมโห เขากลับหัวเราะออกมา
เสิ่นม่านถลึงตาตอบรับเสียงหัวเราะนั่น
“เ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงนิสัยเปลี่ยนไปมากเช่นนี้?”
หนิงโม่ถามว่า “เพราะเหตุใด?”
เสิ่นม่านถามกลับ “เช่นนั้นเ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดเล่าจื๊อจึงเขียนคัมภีร์เต้าเต๋อจิง?”
หนิงโม่ขมวดคิ้ว “เพราะเหตุใด?”
“เพราะเล่าจื๊อพอใจอย่างไรเล่า! เ้าคนซื่อบื้อ!”
เมื่อด่าเขาเสร็จ เด็กน้อยสามคนในครัวก็ล้างมือเรียบร้อยและกำลังเรียกนาง เสิ่นม่านหันกลับมาชูนิ้วกลางให้หนิงโม่ จากนั้นจ้ำอ้าวเข้าครัวไป
หลังจากคนทั้งหมดห่อเกี๊ยวไส้ผักและกินกันเรียบร้อย แสงสว่างสุดท้ายตรงขอบฟ้าก็ค่อยๆ จางหายไปและความมืดก็เข้ามากลืนกินแทน
เสิ่นม่านช่วยเด็กทั้งสามชำระล้างตัว จากนั้นเข้าไปเล่านิทานในห้องนอนของเด็กๆ สองเื่ กล่อมเด็กทั้งหมดนอนเรียบร้อยแล้วจึงออกมา ห้องของหนิงโม่นั้นเงียบสนิทไปแล้ว
นางมองออกไปที่หน้าต่างอันมืดมิด ความกล้าแสนชั่วร้ายเริ่มบังเกิด นางเดินย่องไปข้างประตูและเงี่ยหูฟังจนแน่ใจว่าด้านในไม่มีเสียงอะไร เสิ่นม่านลองผลักประตู
เปิดไม่ออก
เ้าหนุ่มด้านในลงกลอนเอาไว้ เสิ่นม่านรู้ดีว่าเขาคอยระแวดระวังนางเสมอ
เขามีแผนการ นางเองก็มีกลยุทธ์!
นางจำได้ว่าด้านหลังห้องปีกมีหน้าต่าง้า ซึ่งตรงนั้นมีบันไดสามารถเชื่อมเข้าสู่ห้องนอนของหนิงโม่ได้
ตอนนั้นนางสั่งให้ช่างทำไว้เพื่อให้เข้าออกได้สะดวก และยามนี้นางก็จงใจให้หนิงโม่อาศัยในห้องนั้น
เสิ่นม่านกระตือรือร้นขนบันไดไปยังหน้าต่าง้า จากนั้นย่องขึ้นบันไดอย่างแ่เบา ไม่ง่ายกว่าจะไปถึง้าห้องนอนของหนิงโม่
จากรอยแยกตรงแผ่นไม้บนห้องนอน นางมองเห็นชายหนุ่มนอนอยู่บนเตียง
เสิ่นม่านกลัวว่าเขายังนอนไม่หลับ จึงนั่งยองๆ อยู่ตรงนั้นสักพัก เมื่อเห็นคนเบื้องล่างไม่มีความเคลื่อนไหวแล้วจึงค่อยๆ ขยับ
ในที่สุดก็เคลื่อนตัวมาจนถึง้าของเตียง เสิ่นม่านสูดหายใจลึก ตั้งใจว่าจะหาจังหวะลงจากบันไดอย่างเงียบเชียบ ใครจะรู้ว่าจู่ๆ คนบนเตียงก็ลุกขึ้นและส่งเสียงตวาด
“ใคร?!”
เสิ่นม่านรู้สึกใจึงรีบถอยด้วยความตื่นตระหนก แต่กลับเหยียบชิ้นส่วนของไม้ที่ผุพังเข้าพอดี
กร๊อบ!
แผ่นไม้หัก เสิ่นม่านร้องอย่างอนาถและร่วงจาก้า
“อ๊าก!”
ชายผู้น่าสงสารที่นั่งอยู่บนเตียง ได้ยินเพียงเสียงที่ดังจาก้า ยังไม่ทันได้เงยหน้าขึ้นก็ถูก ‘ก้อนหิน’ ที่ร่วงจากฟ้าทับเข้าอย่างจัง
ในเวลาเดียวกันกับที่ ‘ก้อนหินขนาดใหญ่’ ตกลงมา เบื้องหน้าของเขาก็มืดมิด ทั้งยังมีอะไรนุ่มนิ่มมาััแนบกับริมฝีปากของเขา ขณะที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ดวงตาทั้งสองคู่สบกันพอดี
เสิ่นม่านเองก็ตกตะลึงเช่นกัน
สถานการณ์ในห้องค่อนข้างวุ่นวาย คืนนี้มีแสงจันทร์จากหน้าต่างทำให้มองเห็นชายหนุ่มที่ถูกทับกำลังหน้าแดงระเรื่อ เขารีบเบือนหน้าหนีไปอีกทาง จากนั้นะโออกมาอย่างยากลำบาก
“ออกไป”
ดูเหมือนว่าเขาอยากจะพูดอะไรอีก แต่หนิงโม่ตาลอยและหมดสติไป
เสิ่นม่านยังคงทับอยู่บนตัวเขาและได้ยินเสียงเติมพลังงานพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วดังขึ้นในสมอง
ไม่น่าเป็ไปได้
ครั้งสุดท้ายที่ชาร์จพลังงาน นางกุมมือหนิงโม่ทั้งคืน แต่กลับชาร์จได้เพียงร้อยละเจ็ดสิบ ทว่าเมื่อครู่ที่จุมพิตกัน พลังงานของนางกลับพุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็วถึงร้อยละแปดสิบ?!
นี่มันขัดกับหลักวิทยาศาสตร์!
เป็เพราะจูบหรือ?
เสิ่นม่านมองดูชายเบื้องล่างที่เป็ลมไป ภายในใจของนางกำลังสงสัย นางจึงคว้าใบหน้าของเขาและก้มลงจูบ แต่พลังงานกลับยังคงชาร์จด้วยความเร็วปกติ
แล้วเงื่อนไขคืออะไรกันแน่? ทำไมถึงได้เปิดการทำงานรวดเร็วของระบบได้? เสิ่นม่านจูบอีกหลายครั้ง แต่ระบบยังไม่ตอบสนอง เป็ไปได้ไหมว่าระบบทํางานผิดปกติ?
นางยังคงติดอยู่ในวังวนแห่งความสงสัย แต่คนเบื้องล่างจู่ๆ ก็เริ่มไอค่อกแค่ก
“แค่กๆ นางปีศาจ… เ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?!”
เสิ่นม่านสะดุ้งโหยง พลันตระหนักได้ว่าตนยังทับอยู่บนตัวหนิงโม่ กระทั่งใบหน้ายังแนบกันอีกด้วย นี่มันท่าทางของสตรีที่เกี้ยวพาราสีชายหนุ่มชัดๆ
พฤติกรรมเช่นนี้นับว่าลามกอนาจารเกินไป เสิ่นม่านรู้สึกตัวจึงรีบลงจากตัวหนิงโม่
“ขอโทษ ข้าขอโทษ… ข้าไม่ได้ตั้งใจ!”
หนิงโม่โกรธจัดจนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็สีม่วง แอบเข้ามาในห้องของเขากลางดึก จูบเขาก็แล้วไป แต่กลับยังนอนทับบนตัวเขาและอยู่ใกล้กับเขาเพียงนี้?!
แม่นางผู้นี้คือปีศาจสาวชัดๆ!
นี่มัน… เหนือคำบรรยายเหลือเกิน!
เขายิ่งคิดยิ่งโมโห หนิงโม่อดกลั้นความเ็ปที่แผ่ออกมาจากร่าง เขาชี้นิ้วเรียวยาวไปทางเสิ่นม่าน ขณะกำลังจะอ้าปากพูด แต่ในลำคอกลับมีกลิ่นคาวเืหวานๆ
“เ้า… นางปีศาจ เ้า...”
อั่ก…
เขากระอักเืออกมา หนิงโม่ทนต่อไปไม่ไหวจึงหมดสติไปอีกหนึ่งรอบ
เสิ่นม่านใจนอึ้งไป
ในความมืด นางััใบหน้าที่มีเือุ่นๆ สมองของนางกำลังสับสนอลหม่าน
กระอักเื?
นางเอื้อมมือไปแตะชีพจรของหนิงโม่และมีเสียงเตือนดังขึ้นในสมอง
“คำเตือน คำเตือน คนไข้กระดูกหน้าอกร้าวมีอันตรายถึงชีวิต ้าเปิดโหมดทำการรักษาหรือไม่?”
กระดูกหน้าอกร้าว... คงไม่ใช่เพราะถูกนางทับหรอกนะ?
เสิ่นม่านละอายใจจึงเปิดโหมดรักษาอย่างไม่ลังเล ฉับพลันมือทั้งคู่ของนางก็ส่องแสงสว่างอบอุ่น แสงนั้นส่งผ่านไปที่มือของหนิงโม่ พลังงานค่อยๆ เคลื่อนไหลสู่ร่างกายของเขา
หนิงโม่ที่เดิมทีหมดสติไม่มีการรับรู้ ขณะนี้กำลังรู้สึกถึงความอบอุ่นที่สบายตัวอย่างน่าประหลาดกำลังห่อหุ้มเขา ช่างเป็ความรู้สึกที่สบายยิ่งนัก บริเวณที่าเ็เมื่อครู่ ขณะนี้เริ่มรู้สึกแ่เบาและผ่อนคลาย
ท่ามกลางกระแสความอบอุ่นที่กำลังไหลเวียน จุดที่มีอาการเจ็บก็ค่อยๆ ทุเลาหายไป
หนิงโม่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืดมิด ทว่าเขากลับมองเห็นเสิ่นม่านนั่งอยู่บนเตียง ขณะนี้กำลังกุมมือทั้งคู่ของเขาไว้ แสงเป็ประกายค่อยๆ ไหลสู่ร่างกายของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน
เขาจ้องมองสตรีร่างอวบอ้วนที่แสนธรรมดาผู้นี้ด้วยความตื่นตะลึง พร้อมกับสะบัดมือของนางออก
ทว่ายามนี้อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิ้มอ้อล้อเหมือนเช่นเคย นางแย่งมือของเขากลับไปด้วยท่าทีจริงจัง
“อย่าเพิ่งขยับ กระดูกซี่โครงของเ้าหักไปสองท่อน ถ้าไม่อยากตายก็ทำตัวดีๆ หน่อย”
เป็ครั้งแรกที่หนิงโม่ไม่ได้ต่อต้านนางมากและไม่ได้ชักมือกลับ
ท่ามกลางความมืด เขาอาศัยแสงประกายระยิบระยับมองดูแก้มเอิบอิ่มนั้น ไม่รู้ว่าเพราะแสงหรือเพราะหัวใจของตน สภาพจิตใจของเขาที่เดิมทีขุ่นเคือง ขณะนี้กลับสงบลง
ทั้งที่เขาเกลียดชังการคบหากับสตรีผู้นี้ แต่กลับยินดีอยู่ที่หมู่บ้านนี้ต่อเพราะนาง ทั้งอาศัยกินอยู่กับนางแล้วยังปล่อยให้นางล่วงเกินตนเองตามใจชอบ!
หนิงโม่รู้สึกว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติกับเขา
“เ้าเป็ใครกันแน่?”
เสิ่นม่านใกับคําถามฉับพลันของเขา นางลืมตาขึ้นและเห็นดวงตาคู่หนึ่งฉายแววเยือกเย็น
-----
เชิงอรรถ
[1] คำขวัญของประเทศจีน และเป็หลักยึดในการบริหารของผู้นำทั้งหลายในยุคปัจจุบัน