เมืองหลิงหยุนเฉิงยังคงเจริญรุ่งเรืองเพราะมีหุบเขาหลิงหยุนที่เอื้อต่อสินค้าในตลาดอย่างพวกสัตว์ิญญาและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆบริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยเสียงของการต่อราคาและการแย่งซื้อดังไปทั่วแถมยังมีพวกทหารรับจ้าง ผู้ฝึกฝนิญญา และพวกล่าสัตว์ปะปนอยู่ในนั้นด้วย
เสียงฝีเท้าของม้าดังขึ้นมาแต่ไกลก่อนจะวิ่งผ่านไปซึ่งนั่นก็คือกองทหารองครักษ์ที่คอยดูแลสถานที่แห่งนี้
พอเข้ามายังเขตเมืองหลิงหยุนเฉิงก็เดินตรงดิ่งไปยังหุบเขาหลิงหยุนโดยไม่หยุดพักเพราะตอนนี้สภาพของข้าหากไปเรียกรถม้ามาขี่ คนจะต้องสงสัยเป็แน่ จากจุดนี้เดินเท้าต่อไปยังหุบเขาหลิงหยุนไม่ไกลเท่าไรเพราะได้บอกพี่เสวียนยิน ท่านอาจารย์ และอาจารย์หลันเท้อเอาไว้เรียบร้อยแล้วดังนั้นจะมานานแค่ไหนก็ไม่เป็ปัญหา
ข้ามาถึงที่หมายในเวลาใกล้เที่ยงและเอาเงินซื้อใบผ่านทางแทนที่จะใช้ตราเทพศาสตราวุธที่พี่เสวียนยินให้มาเพื่อเป็การปิดบังตัวเองซึ่งตอนนี้มีคนเข้าไปในหุบเขาหลิงหยุนจำนวนมากกว่าพันคนและแน่นอนว่ามีกลุ่มของทหารรับจ้างที่รวมตัวกันอยู่หลายกลุ่ม
ระหว่างทางขึ้นเขาพวกลูกผู้ดีที่เห็นข้าต่างก็มองด้วยสายตาที่รังเกียจเดียดฉันท์
“อี๋! เดี๋ยวนี้พวกขอทานก็เข้ามาให้หุบเขานี้ได้เหรอ?”
“ฮึ ก็แค่เอาตัวเองมาเป็อาหารของพวกสัตว์ิญญาแค่นั้นแหละสภาพอ่อนแอแบบนี้แค่สัตว์ิญญาระดับหนึ่งก็ยังสู้ไม่ได้ด้วยซ้ำมั้งข้าว่า”
“คนแบบนี้มาเพื่อเก็บเล็กเก็บน้อยจากคนอื่นเท่านั้นแหละข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะตายยังไง!”
...
ข้าไม่ได้ต่อปากต่อคำอะไรแต่กลับเคลื่อนพลังิญญาแล้วหายวับเข้าไปในป่าโดยเร็วการที่ไม่เดินบนทางสายใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับคนพวกนั้นไม่อย่างนั้นก็คงจะต้องตายอย่างอนาถแน่ๆหุบเขาชั้นที่สิบและเก้าอาจจะพอมีกฎระเบียบที่ทุกคนต่างก็เคารพอยู่บ้างแต่พอเข้าไปชั้นที่แปดและลึกไปกว่านั้นก็จะมีการฉกชิงฆ่ากันเพื่อแย่งของให้เห็นอย่างเกลื่อนกลาด
การรับรู้ได้ถึงพลังิญญาที่มีมากขึ้นแสดงให้เห็นชัดเจนว่าข้าแข็งแกร่งกว่าที่มาครั้งก่อนมาก และตอนนี้ขั้นการบำเพ็ญก็ยังอยู่ในขั้นเทวิญญาระดับกลางที่พร้อมจะบรรลุไปถึงขั้นเซียนได้ทุกเมื่อ!
ข้ารีบเร่งฝีเท้าและเข้ามาในชั้นที่สิบขณะยังไม่เที่ยง ป่ารอบๆต่างก็มีเสียงของนกกาที่ร้องกันเจี๊ยวจ๊าวรวมถึงเสียงของกิ่งไม้แห้งที่ถูกเหยียบดังขึ้นมาถี่ๆซึ่งเป็เสียงจากการเคลื่อนไหวของสัตว์ิญญาที่อยู่ในป่าแห่งนี้เมื่อมองปราดไปตรงข้างทางก็เจอหญ้าป่าที่โบกสะบัดตามแรงลมโดยมีหยดน้ำค้างสีใสประกายติดอยู่บนใบของมันหนึ่งหยด
มันเป็หญ้าิญญาที่เพิ่งเกิดใหม่ ตามห่าฝนที่เพิ่งจะพัดผ่านแต่ข้าเลือกจะมองข้ามไปเพราะยังเป็ต้นเล็กๆ ที่พลังและสรรพคุณยังไม่เต็มเปี่ยมหากจะเด็ดไปตอนนี้ก็เสียดายเปล่า
ข้าเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็มีเสียงขู่ฟ่อๆดังขึ้นมาจากป่าด้านหน้าก่อนจะมีงูหลามขนาดใหญ่ตัวหนึ่งเลื้อยออกมาดวงตาของมันจ้องมาเหมือนเจอเหยื่ออันโอชะ จนน้ำลายไหลยืดลงมาตามเขี้ยวยาวๆก่อนจะตกลงบนพื้น
งูหลามห้าก้าว สัตว์ิญญาระดับหนึ่ง!
ข้าผายมือขึ้นเพื่อเรียกอาวุธิญญาอย่างกระบี่คมจันทราออกมาดวงตาจับจ้องอย่างแน่วแน่แล้วแสดงพลังลมหายใจัขั้นที่แปดระดับสุดยอดออกมาพลังทำให้กิ่งไม้ใบหญ้าบริเวณใกล้เคียงปลิวว่อนเ้างูตัวนั้นจ้องมองข้าด้วยแววตาที่หวาดกลัวก่อนจะเลื้อยหนีไปอย่างรวดเร็ว
นึกไม่ถึงว่าพลังของข้าจะทำให้งูตัวนั้นใจนหนีเตลิดไปได้
ดูเหมือนว่าสำหรับสัตว์ิญญาระดับหนึ่งแล้วการจู่โจมเข้าหาคนที่มีพลังอย่างข้าจะเท่ากับรนหาที่ตายสินะ
ข้ายิ้มอย่างภูมิใจก่อนจะเดินหน้าต่อไปป่าบริเวณนี้ยังปรากฏร่องรอยของน้ำที่ไหลผ่านจนทำให้ใบไม้ใบหญ้าลู่ไปตามแรงเมื่อวานนี้ฝนคงจะตกหนักแน่ๆ หรือบางทีอาจจะเป็พายุฝนก็ได้ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถชะล้างจนกิ่งไม้ใบหญ้าที่กองรวมกันมาหลายปีราบเรียบเป็หน้ากลองขนาดนี้
พื้นดินเต็มไปด้วยโคลนแต่โชคดีที่ข้าสวมรองเท้าหนังของสำนักหมื่นิญญามาด้วยจึงใช้พลังของเพลงขาเมฆาหมอกเหยียบย่ำลงบนกิ่งไม้ ก้อนหินและพุ่มไม้เตี้ยเพื่อลอยตัวไปบนอากาศ กระทั่งพละกำลังของผู้ฝึกฝนในขั้นเทวิญญาปรากฏออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน
ผ่านหุบเขาชั้นที่สิบเข้ามาแบบไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือมาสักอย่าง เพราะสัตว์ิญญาที่บังเอิญเจอต่างก็หนีเตลิดไปจนหมดส่วนพวกหญ้าสมุนไพรก็มีแต่เกรดต่ำที่มีพลังไม่เพียงพอต่อการฝึกฝนของข้าเลยแม้แต่น้อยจึงไม่จำเป็ต้องทำร้ายชีวิตน้อยๆ ของพวกมัน สู้มุ่งตรงไปยังหุบเขาชั้นที่เก้าเลยดีกว่า!
ร่างของข้าวาบไหวเข้าไปในป่าใหญ่ก่อนจะได้ยินเสียงน้ำตกดังขึ้นมามันเป็น้ำตกอันขาวบริสุทธิ์ที่เกิดจากพายุเมื่อวานเมื่อมองจากตรงนี้ไปจะเหมือนกับผ้าสีขาวที่ตกลงมาจากยอดเขาแต่กลับมีเสียงน้ำดังขึ้นมาอย่างชัดเจน
ตาทิพย์เบิกกว้างแต่กลับไม่พบว่ามีกลิ่นอายลมหายใจของมนุษย์อยู่บริเวณนี้เลยแสดงว่าหลังจากที่เกิดพายุฝนเมื่อวานก็ไม่มีใครผ่านมาทางนี้และกลิ่นอายของมนุษย์ที่เคยมีอยู่ก็ถูกพายุฝนเมื่อวานซัดหายไปหมดแล้ว
แต่แล้วข้าก็รับรู้ได้ถึงพลังบางอย่าง...
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ประมาณห้าเมตรกลิ่นอายพลังที่รุนแรงก็ชัดเจนขึ้นจนสามารถบอกตำแหน่งได้ต้นตอของกลิ่นมาจากตรงนั้น มาจากใต้น้ำตกนั่นแน่ๆ!
ข้ารีบถอดตะกร้าไม้ไผ่และเสื้อผ้าออกแล้วกระโจนลงน้ำก่อนความรู้สึกหนาวเย็นจะแทรกซึมเข้ามาทุกอณูรูขุมขน ให้ตายเถอะน้ำในนี้เย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งเสียอีก!ข้าลืมตาขึ้นก่อนจะว่ายดำดิ่งลงไปหาแสงสีครามที่กำลังทอประกายอยู่ใต้น้ำ
เมื่อข้าว่ายเข้าไปใกล้ก็พบว่ามันคือรากของพืชชนิดหนึ่ง ซึ่งมีพลังิญญาอยู่เต็มเปี่ยมจนแผ่ประกายแสงสีครามออกมาดูเหมือนว่าจะมีการจดบันทึกไว้ในตำราสารพัดหญ้าแผ่นดินใหญ่ว่าเป็รากบัวหิมะยาสมุนไพรที่หายากยิ่งเมื่อดึงออกมาแล้วจะต้องใช้ทันทีไม่อย่างนั้นสรรพคุณของมันจะหายไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อใช้แล้วสรรพคุณจะเทียบเท่ากับโสมโลหิตอายุหกร้อยปีครึ่งท่อนมีคนโบราณเคยกล่าวไว้ว่า ‘ครึ่งกำปั้นของรากบัวสรรพคุณมากกว่าโสมโลหิตหนึ่งกำปั้นนั้นราคาสูงเท่าซื้อเมือง’ แต่ของแบบนี้จะต้องใช้ความบังเอิญเท่านั้นเพราะหายากมากๆ ทว่ารากบัวตรงหน้าของข้าตอนนี้มีขนาดใหญ่กว่ากำปั้นของข้าเสียอีกดังนั้นสรรพคุณของมันจะต้องมีมากจนเกินคาดเดา
ข้าพยายามเก็บอาการดีใจของตัวเองเอาไว้ขณะอยู่ใต้น้ำรากบัวหิมะเป็สิ่งที่เกิดและโตอยู่ใต้ดินทำให้ยากต่อการค้นพบได้ง่ายๆแต่นึกไม่ถึงว่ามันจะถูกน้ำตกซัดจนโผล่พ้นดินและแผ่ซ่านพลังิญญาที่น่าเหลือเชื่อนี้ออกมาแถมข้ายังบังเอิญมาเจอเข้าอีกต่างหากรู้สึกว่าโชคของข้าจะดีเกินหน้าเกินตาคนอื่นเกินไปแล้ว!
พอว่ายไปถึงฝั่งก็พบว่ารากบัวหิมะเริ่มละลายหายไปแล้วดังนั้นข้าจะทนรอต่อไปอีกไม่ได้!
พอกัดลงไปในปากก็เหมือนกัดลงบนก้อนน้ำแข็งที่เย็นเยือกแต่เมื่อกลืนลงคอกลับเหมือนกลืนไฟลงไปทำให้ความร้อนแผ่ไปทั่วร่างกายจนยากที่จะทนรับไหวแต่ถึงจะอย่างนั้นข้าก็อ้าปากแล้วกัดคำที่สองเข้าไปอีกหลายคำจนหมดพลังิญญาและพลังไฟลุกท่วมร่าง หากข้ายังรอต่อไปจะต้องตัวแตกตายเพราะพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนเป็แน่!
ข้ารีบจนไม่ทันได้สวมเสื้อผ้าและนั่งขัดสมาธิอยู่ด้านหลังน้ำตกที่ไหลกระหน่ำซึ่งที่แห่งนี้มีความปลอดภัยเพราะเมื่อมีน้ำตกบังอยู่ก็จะไม่มีใครมองเห็นข้าที่อยู่ด้านในได้พอตั้งฐานพลังก็ดูเหมือนว่าพลังิญญาจะแทบทนรอไม่ไหวจึงทำให้เข้าสู่การฝึกฝนเคล็ดวิชาาได้อย่างรวดเร็ว
พลังขั้นที่ห้า พลังวาตะพิฆาต!
ภายใต้การใช้ตาทิพย์ทำให้ข้าสามารถมองเห็นภาพในร่างกายที่เหมือนมีเสียงของการสู้รบดังสนั่นพลังที่ได้รับจากรากบัวหิมะกลั่นตัวกลายเป็พลังิญญาซึ่งพลังิญญาก็ถูกพลังของเคล็ดวิชาาขั้นที่ห้าเข้าหลอมกลายเป็พลังลมที่รุนแรงจนจุดประภพิญญาสั่นไหวและมีลมพายุกระโชกแรงเกิดขึ้นอีกรอบ
เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งก้านธูปิัของข้าก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อถึงขนาดที่ว่ามีแสงสีครามแผ่ออกมาจากิัและกลายเป็ลมหมุนเล็กๆ วนไปตามพลังของเคล็ดวิชาาในตัว
เพียงชั่วครู่ก็รู้สึกว่าพลังของข้าเพิ่มขึ้นมา ก่อนจะสะบัดวาดแขนทั้งสองข้างออกทำให้มีลมพัดผ่านตัว
และนี่คือพลังระดับต้นของเคล็ดวิชาาขั้นที่ห้า ‘พลังวายุเลื่อนไอเย็น’
ข้าดีใจมากเพราะนึกไม่ถึงว่าการฝึกฝนของเคล็ดวิชาาจะพัฒนาเร็วขนาดนี้ดูเหมือนว่าจะเป็ผลมาจากรากบัวหิมะทั้งหมดและตอนนี้ก็รู้สึกว่าร่างกายกำลังอ่อนแอเนื่องจากพลังของลมปราณเหลือน้อยลงให้ตายเถอะ! เป็ถึงรากบัวหิมะแต่สรรพคุณกลับหมดไปอย่างรวดเร็วทั้งที่เพิ่งฝึกเคล็ดวิชาาได้ไม่นานฉะนั้นไอ้พวกคำอวดอ้างก็เป็แค่คำพูดเกินจริงสินะ!
จังหวะนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงขู่ฟ่อๆ ดังขึ้นมามีสัตว์ิญญากำลังมุ่งหน้ามาทางนี้!
ข้าใช้มือกั้นน้ำตกตรงหน้าให้เป็ร่องก่อนจะมองผ่านไปก็เห็นว่ามีงูขนาดเท่าแขนกำลังเลื้อยวนอยู่ตรงตะกร้าไม้ไผ่และเสื้อผ้าของข้าแถมมันยังใช้หัวดันปลาเค็มของข้าไปมา เหมือน้าจะกินลงไปทั้งหมด
ให้ตายเถอะ อย่ายุ่งกับปลาเค็มของข้านะ!
งูตัวนั้นมีลายดำเหมือนกันทั้งตัวโดยส่วนหัวมีรูปสามเหลี่ยมซึ่งบ่งบอกว่าเป็งูที่มีพิษร้ายแรงอีกทั้งลำตัวยังยาวเหยียดและกลมดิ๊กเพราะโตเต็มวัยแล้ว
งูวงแหวนเงิน สัตว์ิญญาระดับสาม!ซึ่งถือเป็หนึ่งในสัตว์มีพิษโบราณที่ยังคงมีชีวิตอยู่
มันไม่เพียงเป็สัตว์ที่มีพิษรุนแรงแต่ยังมีพละกำลังมากจนน่าในอกจากพิษที่ร้ายแรงในอันดับต้นๆ ของงูพิษแล้วร่างขนาดเท่าท่อนแขนของมันยังสามารถรัดคนที่อยู่ในขั้นเทวิญญาให้กระดูกแตกละเอียดจนตายได้ซึ่งทางหุบเขาหลิงหยุนมักจะมีข่าวแบบนี้ถูกเล่าขานกันอย่างไม่ขาดสาย
และเมื่อเห็นว่ามันมีลำตัวที่แข็งแกร่งบวกกับส่วนหัวที่มีพลังิญญาอยู่เต็มเปี่ยมจึงทำให้รู้ว่ามันเคยกินผู้ฝึกฝนิญญาไปแล้วหลายรายแน่นอนแต่ที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้มันกำลังกินปลาเค็มของข้าอยู่ รนหาที่ตายชัดๆ!
ซุ่ม!
ข้าเหาะพุ่งออกมาจากน้ำตกด้วยเพลงขาเมฆาหมอกและพุ่งจากน้ำตกไปหามันเป็เส้นตรงพร้อมกับวาดมือออกเพื่อเรียกกระบี่คมจันทราออกมาแล้วฟาดฟันไปที่มันด้วยเพลงกระบี่อันรุนแรง
เชร้ง!!
นึกไม่ถึงว่าคมกระบี่ของข้าจะแค่ฟันลงบนเกล็ดที่กว้างขนาดเท่าฝ่ามือแต่ไม่ได้ลึกลงถึงชั้นิัของมัน
ฟ่อ ฟ่อ...
เมื่อถูกโจมตีก็แผ่สัญชาตญาณของสัตว์ร้ายออกมา โดยการยกหัวขึ้นสูงพร้อมกับอ้าปากกว้างแล้วพุ่งเข้ามาหาข้าและพ่นพิษที่ร้อนระอุออกมา
ถ้าเป็เมื่อก่อนข้าคงจะเกรงกลัวต่อการโจมตีแบบนี้อยู่บ้างแต่ตอนนี้มันไม่ใช่!
กระบี่คมจันทราฟันลงไปอย่างรวดเร็วพร้อมด้วยพลังของเคล็ดวิชาาขั้นที่ห้าพลังวาตะพิฆาต!
ถึงแม้จะเหมือนลมเย็นที่พัดผ่านแต่กลับทำให้พิษที่พ่นออกมาถูกพัดลงไปในน้ำตกจนปลาลอยตายเกลื่อนไปหมดพิษของมันช่างร้ายกาจจริงๆ!
ฉึบ!
ข้าใช้กระบี่ซึ่งปลิวไปตามแรงลมเฉียดลงไปยังส่วนบนทำให้ส่วนหัวของมันขาดออกจากลำตัวก่อนที่เือันเย็นเยือกของมันจะพุ่งกระจายไปทั่วบริเวณ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้