ชิงิพยักหน้า "โอเค"
ฉันชะงักไปรู้สึกว่าทุกคนจะไม่มีความฮึกเหิมเอาซะเลย
เจียงเหยี่ยนยังคงยืนดูดเืจากถุงที่ตอนนี้ถุงเืนั้นได้กลายไปถุงสตรอว์เบอร์รีไปซะแล้ว "ดูสถานการณ์ก่อนถ้าหากไม่สู้สักยกสองยกอาจารย์หยางไม่ปล่อยเราไปแน่ๆ"
"อือ อือ" เหมาเหมากำชายเสื้อแน่น "อาจารย์หยางน่ากลัวเกินไปแล้วพวกเราแกล้งทำเป็าเ็ก็ได้"
"ดีเลย!" ซืออีนั่วชูมือขึ้นมาด้วยความดีใจเป็ครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นเขามีท่าทางดีใจขนาดนี้
ฉันมองหน้าทุกคนอย่างไม่ค่อยสบายใจ "โกหกแบบนี้...ไม่ดีมั้ง"
แต่ละคนนิ่งเงียบขึ้นมาพร้อมกันเหมาเหมา ซืออีนั่ว และชิงิ หันไปทางเจียงเหยี่ยนสีหน้าของเจียงเหยี่ยนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาหมุนตัวเดินออกไป "ไปดูกันเถอะ" พูดจบ ก็เดินเข้าไปในอพาร์ตเมนต์
แต่ไหนแต่ไรฉันก็พอจะดูออกว่าเจียงเหยี่ยนดูเหมือนจะเป็หัวหน้ากลุ่มในบรรดารูมเมตที่ไร้ความสามารถนี้ทุกคนคอยแต่พึ่งพาเขา อย่างเช่นว่าทุกคนให้เขาทำหน้าที่ในการออกสิทธิ์ออกเสียงและหลายครั้งที่ทุกคนล้วนฟังคำสั่งของเขา
หรืออาการไม่เห็นด้วยที่ฉันแสดงออกไปเมื่อครู่นี้จะทำให้เขาโกรธ
แต่ว่า ฉันไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย แบบนี้ฉันจะรู้สึกว่ามันคือการดูถูกตัวเองอย่างมากที่สุด
ฉันมองอพาร์ตเมนต์ที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าลักษณะของอพาร์ตเมนต์เก่ามาก ราวกับว่าได้สร้างมาั้แ่ต้นยุค 90 หรืออาจจะสร้างมาก่อนนั้นทางด้านทิศเหนือคือทางเดินยาวและไม่มีระเบียงดังนั้นทุกคนจึงนำเสื้อผ้าและของกระจุกกระจิกต่างๆ มาวางซ้อนกันไว้ตรงบริเวณนั้นดูเหมือนว่าจะมีห้องเรียงกันอยู่แปดห้อง และมีทั้งหมดห้าชั้น
เหมาเหมาและคนที่เหลือเดินตามเจียงเหยี่ยนเข้าไปข้างในตึกแล้วฉันจึงเดินตามหลังพวกเขาเข้าไป
ด้านหน้าของฉันคือซืออีนั่วฉันถามเขาด้วยความสงสัย "พวกเธอรู้ใช่ไหมว่าต้องทำอะไร"
ซืออีนั่วหันหน้ามาหาฉันอย่างกล้าๆกลัวๆ ใบหน้าที่ก้มอยู่นั้นยิ่งก้มต่ำเข้าไปอีก"มีข้อมูลบอกอยู่ในโทรศัพท์แล้วครับ"
งั้นเหรอฉันนี่ไม่มีประสบการณ์เลยจริงๆ ด้วย
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู จริงด้วยมีข้อความบอกไว้ในโทรศัพท์
ภารกิจ:ไล่ผี
สถานที่: อพาร์ตเมนต์เจียฟ่าง ห้อง 403
คู่ต่อสู้: หลินเชี่ยนหรู
อายุ:20 ปี
ความคืบหน้าทางภารกิจ: ทีมไร้ความสามารถถึงที่หมายแล้ว
ให้ตายเถอะน่า...แม้แต่เ้าหน้าที่ก็ยังเรียกพวกเราว่าทีมไร้ความสามารถเหรอเนี่ย
พอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นว่าเจียงเหยี่ยนยืนอยู่หน้าประตูห้อง 403 อย่างที่ข้อมูลในโทรศัพท์บอกไว้จริงๆ
ห้องข้างๆต่างพากันเปิดประตูออกมามองพวกเราด้วยสายตาที่สงสัยปนประหลาดใจ
"ก๊อก ก๊อก ก๊อก" เจียงเหยี่ยนเคาะประตู บานประตูเปิดออกพร้อมกับใบหน้าของหญิงวัยกลางคนที่อยู่ในสภาพอิดโรยและขอบตาดำคล้ำ เธอมีอาการงุนงงในตอนที่เห็นพวกเราและเป็เจียงเหยี่ยนที่พูดขึ้นมา "เราเป็หมอ"
ผู้หญิงคนนั้นเบิกตากลมโตขึ้นมาทันที "เื่นั้นใช่ไหม"
"อืม" เจียงเหยี่ยนพยักหน้า เธอจึงรีบเปิดประตูให้พวกเราเข้าไปในห้อง"เชิญค่ะ เชิญค่ะ"
พวกเขาเดินเข้าไปข้างในห้องภายในห้องมืดสลัวผิดปกติ เหมือนกับดึงผ้าม่านมาปิดบังแสงเอาไว้
หลังจากที่ซืออีนั่วเดินเข้าไปแล้วจากนั้นฉันจึงเดินตามหลังเขาเข้าไป และทันทีที่เข้าไปในห้องฉันก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นฉุนผิดปกติลอยเข้ามากระทบที่จมูก ความรู้สึกที่เย็นะเือย่างบอกไม่ถูกทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวไปทั่วทั้งร่างและฉันรู้สึกว่าจี้ที่อยู่ตรงหน้าอกมันเริ่มร้อนขึ้นมาทีละนิดซึ่งมันไม่เคยเป็แบบนี้มาก่อนเลย
ฉันคิดมาตลอดว่ามันเป็เพียงแค่จี้ธรรมดาเท่านั้นแต่ดูจากตอนนี้แล้ว น่าจะไม่ใช่อย่างที่คิด
ฉันยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูไม่เดินเข้าไปในห้องนั้น
เจียงเหยี่ยนและคนอื่นที่เหลือมีสีหน้าสงสัยเมื่อเห็นว่าฉันยังไม่เดินเข้ามาในห้อง "เสี่ยวหลัน รีบเข้ามาสิ"
ฉันขมวดคิ้วมุ่น "ทำไมกลิ่นมันแปลกขนาดนี้"
"กลิ่นอะไร" ทุกคนสงสัย
ฉันอึ้งไป "พวกเธอไม่ได้กลิ่นเหรอ"
พวกเขาชะงักไปเหมือนกัน
ชิงิหันไปทางเจียงเหยี่ยน "ััพิเศษงั้นเหรอ"
เหมาเหมาและซืออีนั่วต่างก็พากันหันมามองฉันพร้อมกัน
เจียงเหยี่ยนยังคงมองหน้าฉันพร้อมครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ก็อาจจะเป็ไปได้มนุษย์บางคนจะมีเศษเสี้ยวของจิติญญาที่เหลืออยู่ที่จะทำให้รับรู้ถึงภูตผีปีศาจเหล่านี้ได้เสี่ยวหลัน เธอสามารถมองเห็นผีได้หรือเปล่า"
ฉันส่ายหัว "แต่บางครั้งฉันรู้สึกได้ว่ามันมีอะไรบางอย่างแปลกๆผ่านตัวฉันไป"
เจียงเหยี่ยนมองหน้าฉันยิ้มๆ "เป็เหตุการณ์ปกติน่ะ เธอรีบเข้ามาเถอะ"
"โอเค" ฉันอดกลั้นต่อกลิ่นเหม็นนั้นและเดินเข้าไปในห้องในตอนที่ผู้คนจากห้องข้างๆ พากันมามุงดู ฉันก็ปิดประตูลงทันที
"ลูกสาวของคุณล่ะ" เจียงเหยี่ยนถามหญิงวัยกลางคนที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงคนนั้นเธอรีบชี้มือไปทางประตูของห้องห้องหนึ่งที่ถูกปิดสนิท "อยู่ข้างในนั้นขอร้องละ พวกคุณจะต้องช่วยลูกสาวฉันให้ได้นะ"
เจียงเหยี่ยนยื่นมือออกไปวางบนบ่าของเธอ "คุณวางใจเถอะพวกเรามาที่นี่ก็เพื่อช่วยเธอ"
ให้ตายสิผีที่เอาแต่ดูดเืพูดกับมนุษย์ว่าฉันมาเพื่อช่วยลูกสาวของคุณช่างดูไม่เข้ากันเอาซะเลย
เหมาเหมาประคองผู้หญิงคนนั้นให้นั่งลงที่โซฟาเก่าๆ "อีกเดี๋ยว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามคุณลุกออกจากโซฟานี้เด็ดขาด"
"รู้แล้ว รู้แล้ว" เธอนั่งอยู่ที่โซฟา มือสองข้างจับโซฟาตัวเก่าไว้แน่น
เหมาเหมาเริ่มลงมือแปะแผ่นยันต์ที่ฉันอ่านไม่ออกลงไปรอบๆโซฟา ดูๆ ไปแล้ว ก็ไม่เกิดประโยชน์สักเท่าไร
ห้องที่มืดสลัวนี้ดูรกรุงรังไปหมดพื้นที่เล็กๆ ภายในห้องเต็มไปด้วยสิ่งของที่วางระเกะระกะอยู่ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่หลังหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะกินข้าวตรงกลางตู้เสื้อผ้าคือกระจกไว้แต่งตัว
เจียงเหยี่ยนมองหน้าทุกคน "พร้อมหรือยัง"
"อื้ม" ทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน จากนั้น เขาก็เปิดประตู ภาพที่สะท้อนเข้าสู่สายตาของฉันมันอย่างกับฉากในหนังผีเื่หมอผี เอ็กซอร์ซิสต์ เลย!
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งมัดติดไว้กับเตียงในปากมีผ้ายัดไว้ เธอดิ้นไปมาอยู่บนเตียงพร้อมส่งเสียงต่อสู้อื้ออึงดังออกมา "อื้อ อื้อ"
ฉันยืนอ้าปากค้าง นี่ผีกลืนร่างจริงๆเหรอเนี่ย!
ที่ประเทศจีน จะไม่เรียกว่าผีกลืนร่างแต่เราจะเรียกว่าถูกผีเข้า แต่ฉันว่าการถูกผีกลืนร่างกับถูกผีเข้ามันแตกต่างกัน ในหนังผีแต่ก่อนจะเป็ผีที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรกและต่อมาก็จะเป็ผีตามตำนานที่เล่าขานกันมา
แต่หนังยังไงมันก็คือหนังถึงฉันจะดูมาเยอะ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะเข้าใจในเื่ของการขับไล่ผี
ฉันเดินตามทุกคนเข้าไปสีหน้าของทุกคนดูเคร่งเครียดตามๆ กัน เจียงเหยี่ยนมองมาทางฉัน "เสี่ยวหลัน ปิดประตู"
"โอเค" ฉันรีบปิดประตู ผ้ายันต์อะไรก็ไม่มีแต่ถ้าฉันไม่ทำอะไรเลยมันก็รู้สึกแปลกๆ อีกฉันหยิบเอาปากกาและสมุดขึ้นมาวาดรูปไม้กางเขนจากนั้นก็ใช้น้ำลายติดกระดาษไว้บนประตู
และในตอนนั้น เจียงเหยี่ยน เหมาเหมาชิงิ และซืออีนั่ว ก็เข้าไปยืนอยู่ข้างเตียงของเด็กผู้หญิงคนนั้นแล้วเธอดูไม่ปกติจริงๆ ด้วย
ดวงตาของเธอเบิกโพลงจ้องหน้าเจียงเหยี่ยนและทุกคนพร้อมกับหัวเราะแปลกๆ "หึหึหึหึ..."
หรือว่าเธอจะเป็บ้า ฉันคิดอยู่ในใจ
"ส่งพวกเธอมาแค่ไม่กี่คนเองงั้นเหรอ..." จู่ๆ เด็กผู้หญิงคนนั้นก็พูดขึ้นมาในลำคอ ทั้งๆที่ในปากของเธอมีผ้ายัดเอาไว้แท้ๆ แต่เธอกลับพูดออกมาได้และน้ำเสียงนั้นจะเป็เสียงผู้ชายก็ไม่ใช่จะเป็เสียงผู้หญิงก็ไม่เชิง
เจียงเหยี่ยนมองสำรวจใบหน้าของเธอและหันไปมาทุกคนอีกครั้ง "ทุกคนคิดว่ายังไงอันตรายไหม"
ทุกคนส่ายหัว บ้าไปแล้วนี่พวกเธอกำลังทำแบบประเมินความเสี่ยงอยู่รึไง
ซืออีนั่วจับผ้าพันคอสีขาวไว้แน่นผ้าพันคอค่อยๆ กลายเป็ร่างของเสี่ยวไป๋ เขาพูดขึ้นมาอย่างหวาดกลัว "น่าจะโดนผีเข้า..."
"อื้อ!" ชิงิก็พยักหน้า
"งั้นก็น่าจะใช้กระดาษยันต์จัดการได้" เหมาเหมาเอากระดาษยันต์ออกมา กรีดนิ้วลงไปและะโขึ้นเสียงดัง "ถอยออกมา!"
"ปึง!" เธอแปะกระดาษยันต์นั้นลงไปที่หน้าผากของเด็กสาวคนนั้น ทันใดนั้นเด็กสาวคนนั้นก็ส่งเสียงกรีดร้องขึ้นมาทันที "กรี๊ดดดดดดด"
เสียงเล็กแหลมที่กรีดร้องนั้นดังะเืเลือนลั่นจนผ้าในปากของเธอขาดกระจุยเสียงนั้นแหลมจนแสบแก้วหูไปหมด ทุกคนยกมือขึ้นปิดหู "เพล้ง! เพล้ง!" กระจกในห้องทั้งหมดแตกละเอียดฉันหันไปมองกระดาษที่วาดรูปไม้กางเขนแปะไว้ที่ประตูอีกครั้ง และก็พบว่ามันฉีกขาดกระจัดกระจายเป็ผุยผงทันทีเพราะเสียงกรีดร้องนั้น
นี่มันอาการผีเข้าจริงๆ เหรอพวกเธอแน่ใจใช่ไหม
ต่อให้รูปไม้กางเขนที่ฉันวาดมันจะช่วยอะไรไม่ได้แต่ที่สามารถทำให้กระดาษแผ่นหนึ่งแหลกละเอียดเป็ผุยผงได้นี่มันเป็พละกำลังของปีศาจชนิดไหนกัน!