เหอชูซานขดตัวอยู่บนที่นั่งไม่ยอมลงจากรถจึงถูกชย่าลิ่วอีจับคอเสื้อแล้วลากออกมา—— เขาใช้มือซ้ายที่พันผ้าพันแผลในการจับ เหอชูซานจึงไม่กล้าขัดขืนสุดแรง
เขาสะพายกระเป๋า เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ถูกชย่าลิ่วอีลากจนเซถลา “พี่ลิ่วอี พี่ลิ่วอี! พี่มาทำอะไรที่นี่?”
“วันนี้พี่ลิ่วอีของนายจะพาไปสนุก พานายไปเปิดหูเปิดตาสักหน่อย” ถึงแม้ชย่าลิ่วอีจะพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง แต่กลับไม่ได้มองมาที่เขาเลยแม้แต่นิดเดียว ชย่าลิ่วอีก้าวขาลากเขาเข้าไปในห้องโถงที่ตกแต่งอย่างหรูหราอลังการ
“ผมไม่้า…”
“หุบปาก” ชย่าลิ่วอีพูดด้วยน้ำเสียงเ็า
“พี่ลิ่วอี ผมไม่อยาก…”
“หุบปาก!” ชย่าลิ่วอีตะคอกเสียงเย็น
“ผมไม่เข้าไป!” เหอชูซานะโเสียงดังยิ่งกว่า!
เขาไม่กล้าแตะต้องมือที่าเ็ของชย่าลิ่วอี จึงได้แต่ยกมือขึ้นในท่าทางแปลกๆ ก่อนจะเปลี่ยนไปกอดแขนของชย่าลิ่วอีไว้แน่น พร้อมทั้งหยุดฝีเท้ากะทันหัน!
กระเป๋าใบเล็กหล่นลงบนพื้นที่สะอาดเป็เงาจนเกิดเสียง ‘ปัก!’ ดังสนั่น!
ผู้จัดการพาเด็กสาวหลายคนเดินออกมาต้อนรับผู้มาใหม่ เมื่อเห็นแต่ไกลว่าเป็ลูกพี่ใหญ่ เขาจึงตั้งใจเข้าไปทักทายด้วยความกระตือรือร้น ทันใดนั้นก็เห็นทั้งสองคนหยุดนิ่งอยู่ที่ทางเดิน บรรยากาศระหว่างทั้งคู่ก็ดูแปลกๆ เขาจึงรีบปรามเด็กสาวที่กำลังส่งเสียงเจื้อยแจ้ว แล้วหยุดยืนดูอยู่ห่างจากทั้งคู่ไม่กี่ก้าว
ชย่าลิ่วอีหันกลับมามองเหอชูซานด้วยสีหน้าเรียบเฉย เหอชูซานจ้องกลับไปด้วยท่าทีไม่ยอมแพ้ เท้าทั้งสองข้างยืนมั่นคงราวกับม้าศึก ท่าทางองอาจไม่หวั่นไหว
สายตาสองคู่ปะทะกันในอากาศอย่างเงียบงัน ราวกับได้ยินเสียงบรรยากาศที่กำลังเย็นลงจนแข็งตัวดังเอี๊ยดอ๊าด [1]
ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนต่างต่อสู้กันอย่างเงียบๆ ด้วยการใช้สติปัญญา กลอุบาย และความเงียบ แต่ในตอนนี้เมื่อสบตากัน ทุกอย่างก็กระจ่าง—— เล่ห์เหลี่ยมของนาย การเสแสร้งของฉัน ทุกอย่างถูกเปิดเผยต่อหน้ากัน!
เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เหอชูซานยังรู้สึกกังวลใจ ถึงอย่างนั้นก็ยังพอมีความหวังอยู่บ้าง ทว่าเพียงพริบตาเดียวเขาก็ถูกปฏิบัติเช่นนี้เสียแล้ว! ความรู้สึกผ่อนคลายและความคลุมเครือเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่หายไปเร็วกว่าฟองสบู่ที่แตกเสียอีก!
เขารู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าลงกลางใจ ชย่าลิ่วอีไม่เพียงแค่ทำลายความหวังของเขา แต่ยังชัดเจนว่ามองเขาเป็แค่เด็กน้อยที่ไม่เคยมีประสบการณ์และกำลังสับสนในเื่ความรักระหว่างผู้ชาย เขารู้สึกเ็ปใจ สายตาจึงเต็มไปด้วยความคับข้องใจและโกรธเกรี้ยว ในขณะที่ชย่าลิ่วอีอดทนต่อการััของเขามาตลอดทางด้วยความหงุดหงิดใจ เมื่อเห็นว่าเหอชูซานยังกล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขา สีหน้าของเขาก็ยิ่งเ็าขึ้น
“เหออาซาน นายเป็ผู้ชายหรือเปล่า? ไม่มีความ้าแบบปกติบ้างหรือ?” ชย่าลิ่วอีเยาะเย้ย
“ผมไม่ทำเื่แบบนี้!” เหอชูซานพูด “ผมไม่มาที่... ที่ต่ำทรามแบบนี้!”
“ฮึ! สถานที่แบบนี้ไม่คู่ควรกับนายหรือ? หรือมันทำให้ภาพลักษณ์ของนักศึกษาอย่างนายแปดเปื้อน? ฉันเป็เ้าของที่นี่! ฉันมากินดื่มที่นี่ทุกวัน! ถ้านายดูถูกสถานที่แห่งนี้ ทำไมถึงยังตามฉันมาตลอดล่ะ?!”
เหอชูซานกัดฟันอยู่นานก่อนจะพูด “พี่ไม่ใช่ พี่ไม่ใช่คนแบบนั้น”
ชย่าลิ่วอีเยาะเย้ยออกมา แล้วหันไปพูดกับผู้จัดการ “ไปเรียกเสี่ยวเหอออกมา!”
ผู้จัดการรีบไปหาเสี่ยวเหอด้วยตัวเอง แต่ระหว่างทางก็คว้าตัวพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งมากระซิบกระซาบให้เขารีบไปตามผู้จัดการใหญ่กลับมาแก้ไขสถานการณ์ในตอนนี้โดยด่วน “โอ๊ย! ผู้จัดการใหญ่! หัวหน้าใหญ่พาเด็กนักศึกษามาป่วนที่ร้านของตัวเองแล้ว!”
เสี่ยวเหอที่ปกติจะรับบทสาวใสบริสุทธิ์ในงาน วันนี้เธอไม่ได้รับแจ้งข่าวว่าหัวหน้าใหญ่จะมาเยือน เธอจึงใส่กระโปรงนักเรียนญี่ปุ่นมานั่งดื่มกับนักธุรกิจหลายคน พอถูกเรียกตัวด่วนแบบไม่ได้ทันตั้งตัว เธอจึงรีบมาในสภาพที่แต่งหน้าอ่อนๆ แต่ลิปสติกที่มุมปากกลับเลอะเป็รอยแดง ทำให้มองไกลๆ แล้วดูเหมือนผีดูดเืจากตำนานโรงเรียนญี่ปุ่น
เธอรีบเร่งก้าวเท้าตามผู้จัดการมาด้วยความรวดเร็ว พอเข้ามาใกล้ๆ ก็เห็นได้ชัดว่าเธอมีใบหน้าสะอาดสะอ้าน ดูน่ารักและเรียบร้อย ทันทีที่เข้ามาใกล้ ชย่าลิ่วอีก็จับเธอเข้ามากอดอย่างหยาบคาย เขาจับคางของเธอและบังคับให้เงยหน้าขึ้น
“เห็นไหม? นี่คือคนที่ฉันเคยมีอะไรด้วย หน้าตาก็โอเคนะ แต่บนเตียงน่าเบื่อไปหน่อย ทำอะไรก็มีแต่เสียงเดิมๆ ฉันชอบคนที่มีสีสันมากกว่านี้ แต่สำหรับคนที่ยังรักษาความบริสุทธิ์อย่างนายแล้ว คงเหมาะสมดี! คืนนี้ให้เธอสอนนายแล้วกันว่าผู้ชายเขาต้องทำยังไง! เสี่ยวเหอ พาเขาเข้าไปสิ!”
เสี่ยวเหอเชื่อฟังและก้าวขึ้นมาเพื่อจับมือเหอชูซาน ทว่าเหอชูซานกลับผลักมือของเธอออกทันที “อย่าแตะต้องฉัน!”
เสี่ยวเหอรูปร่างผอมบางและอ่อนแอ เมื่อถูกผลักก็เซจนแทบจะล้มในทันที โชคดีที่ชย่าลิ่วอีคว้าเอวเธอไว้ทัน เหอชูซานก้มลงไปหยิบกระเป๋าบนพื้นขึ้นมา “ผมจะกลับแล้ว”
เขาหันหลังเดินจากไป ได้ยินเสียงะโอย่างโกรธจัดของชย่าลิ่วอีดังไล่ตามมาจากด้านหลัง
“หยุดอยู่ตรงนั้น!”
เหอชูซานหยุดเดิน
“อารมณ์เสียใส่ฉันอย่างนั้นหรือ?! อยากมาก็มา อยากไปก็ไป คิดว่าที่นี่เป็ห้องน้ำสาธารณะหรือไง?!”
“พี่ต่างหากที่ลากผมเข้ามา” เหอชูซานไม่ได้หันกลับไปมอง
“ฉันอนุญาตให้นายไปแล้วหรือ?! ฟังให้ดีนะ เหออาซาน! ถ้าวันนี้นายกล้าปฏิเสธเธอ ฉันจะให้คนจับเธอถอดเสื้อผ้าแล้วโยนออกไปกลางถนนให้หมากิน!”
เมื่อเสี่ยวเหอได้ยิน เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ ทว่าเมื่อมองไปที่ชย่าลิ่วอี เธอก็เข้าใจในทันที จึงหันไปมองเหอชูซานด้วยแววตาที่น่าสงสาร!
“พี่ไม่ทำเื่แบบนั้นหรอก” เหอชูซานกอดกระเป๋าแน่นแล้วเดินต่อ
“ถอดเสื้อผ้าเธอออก ตบเธอสักสิบที แล้วก็โยนเธอออกไป!” ชย่าลิ่วอีพูด
บอดี้การ์ดสองคนก้าวออกมาตามคำสั่งและเริ่มถอดเสื้อผ้าของเสี่ยวเหอต่อหน้าผู้คน เสี่ยวเหอร้องไห้โฮเสียงดังขณะที่บอดี้การ์ดฉีกกระโปรงและชั้นในของเธอ เธอคุกเข่าพยายามดิ้นรนสุดชีวิต เธอคว้ารองเท้าหนังของชย่าลิ่วอีแล้วร้องไห้อย่างน่าสงสาร จากนั้นเธอก็คลานไปกอดขาเหอชูซานแล้วร้องขอความช่วยเหลือ “พี่ชายช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วย... ฮือ ฮือ…”
เสี่ยวเหอปาดน้ำตาพลางส่งสายตาให้บอดี้การ์ดที่คุ้นเคย บอดี้การ์ดตั้งใจจะยกมือขึ้นทำท่าเท่านั้น แต่เมื่อเห็นสัญญาณของเธอ เขาจึงต้องตบลงไปจริงๆ อย่างรวดเร็วและทรงพลัง!
เหอชูซานเหลือบไปเห็นเงาการเคลื่อนไหวบนกำแพง เขารีบหันกลับไปขวางเสี่ยวเหอไว้จึงโดนบอดี้การ์ดตบเข้าที่หน้าผากอย่างแรง!
เสียง “เพียะ!” ดังมาจากทางเดินให้ได้ยินอย่างชัดเจน
ดวงตาของชย่าลิ่วอีซึ่งยืนห่างออกไปไม่กี่ก้าวกระตุก เขารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง! ฝ่ามือของบอดี้การ์ดที่เต็มไปด้วยพลังนี้ทรงพลังกว่าการตบหน้าปลอมๆ ที่เขาเคยทำกับเหอชูซานมากนัก!
เมื่อเขาเห็นเหอชูซานโดนตบปลิวจนออกไป ก็รีบวิ่งเข้าไปรับเขาทันทีโดยสัญชาตญาณ!
เขาเกือบจะก้าวขายาวๆ ของเขาออกไปแล้ว โชคดีที่เสี่ยวเหอทำหน้าที่ของเธออย่างเต็มที่ เข้าไปคว้าเหอชูซานไว้ได้ก่อนที่ลูกพี่ชย่าจะลงมือ!
เธอโผเข้ากอดเหอชูซานแน่นราวกับคว้าฟางเส้นสุดท้าย พลางใช้ตัวของเธอบังลูกพี่ใหญ่ที่เกือบจะเผลอปล่อยไก่ออกมา แล้วเอาหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางถูเสื้อผ้าของเหอชูซานจนเลอะไปทั่วพร้อมกับร้องไห้โฮ “ฮือๆ... ฉันกลัว... ฮือ…”
ชย่าลิ่วอีค่อยๆ ถอยเท้ากลับไปอย่างเงียบเชียบ เขามอบรางวัลพนักงานดีเด่นให้เสี่ยวเหอในใจ พร้อมกับสบถเบาๆ—— แม่งเอ๊ย! คนรอบข้างฉันมีแต่พวกตอแหลทั้งนั้นเลย!
เหอชูซานมึนงงอยู่ครู่หนึ่งจึงได้สติ เขาใช้มือยันกำแพง แล้วพยายามดึงตัวเองออกมาจากอ้อมกอดที่อบอุ่นของเสี่ยวเหออย่างเคอะเขิน
“มัวทำอะไรอยู่! ตีต่อสิ!” ชย่าลิ่วอีเห็นว่าเขาไม่เป็อะไร จึงะโเร่งต่อ
บอดี้การ์ดสองคนยังคงพุ่งเข้าใส่ด้วยความดุดัน เสี่ยวเหอซึ่งอยู่ใกล้เหอชูซานมากที่สุดในตอนนี้ได้ยินเสียงถอนหายใจที่แ่เบาของเขาอย่างชัดเจน
เหอชูซานกางแขนออกและโอบกอดเสี่ยวเหอไว้ในอ้อมแขน
“ไปกันเถอะเสี่ยวเหอ ไปที่ห้องของเธอกัน”
เขาไม่แม้แต่จะชายตามองชย่าลิ่วอีอีกเลย เหอชูซานประคองเสี่ยวเหอเดินกลับไปยังห้องของเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย
แสงนีออนหลากสีสันระยิบระยับตามทางเดินด้านหน้าช่างคล้ายกับสภาพจิตใจที่สับสนวุ่นวายของเขาในตอนนี้เหลือเกิน เขาถูกตบหน้าอย่างแรงจนความกระตือรือร้นและความหุนหันพลันแล่นทั้งหมดแหลกสลาย เขาตระหนักได้ถึงความผิดพลาดก่อนหน้านี้อย่างลึกซึ้งแล้ว
เขาโลภมากเกินไป หุนหันพลันแล่นเกินไป ไร้เดียงสาเกินไป คนที่เขาเผชิญหน้าอยู่นั้น ภายใต้ความแข็งแกร่งและความก้าวร้าว เขามีความเปราะบางและความ้าที่จะหลีกเลี่ยงความรู้สึกโดยกำเนิด คนคนนี้สามารถมอบชายที่เขารักมาเป็สิบปีให้กับคนอื่นได้ แล้วเหอชูซานเป็ใครกันล่ะ?
เขาเริ่มต้นผิด ทว่าเขาไม่รังเกียจที่จะเริ่มต้นใหม่
……
ชุยตงตงมาถึงหอถานเซียงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ก่อนที่ร่างกายจะโผล่เข้ามาในเขตออฟฟิศ เสียงของเขาก็มาถึงก่อนแล้ว “หัวหน้า! ได้ยินมาว่าคืนนี้พี่บังคับคนดีให้ขายตัว!”
ชย่าลิ่วอีนั่งอยู่บนเก้าอี้ของเธอ จิบไวน์แดงที่เธอซ่อนเอาไว้ ขาเรียวยาวของเขาวางอยู่บนโต๊ะ ชย่าลิ่วอีผู้มีใบหน้าซีดเซียวนั่งเงียบอยู่แบบนั้น ไม่พูดอะไรสักคำ
ชุยตงตงโยนบุหรี่ใส่เขาด้วยความสะใจ ยังคงเยาะเย้ยหัวหน้าต่อไป “พี่ไม่ได้มาหาเสี่ยวเหอตลอดทั้งปี แต่ทันทีที่มา พี่ก็จับเธอแก้ผ้าแล้วตั้งใจจะโยนเธอออกไป แถมยังหาผู้ชายบริสุทธิ์มาเป็ชู้รักคนใหม่ให้เธออีก โหดร้ายเกินไปไหม?”
“ฉันไม่เคยทำไม่ดีกับเธอเลย” ชย่าลิ่วอีพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ยิ่งไปกว่านั้น ฉันเห็นเธอดูมีความสุขกับการแสดงมาก”
“ฉันบอกว่ามันโหดร้ายเกินไปสำหรับเด็กคนนั้น” ชุยตงตงพูด
ชย่าลิ่วอีคาบบุหรี่ เขาเงยหน้าขึ้นจ้องเธอกะทันหัน ทว่าชุยตงตงกลับยักไหล่แล้วทำสีหน้ารู้ทันราวกับจะบอกว่า “ไม่ต้องมาแอ๊บ ฉันรู้น่า”
ชย่าลิ่วอีใช้ปลายนิ้วดีดเถ้าบุหรี่อย่างหงุดหงิด “เธอจะไปรู้อะไร!”
“ฉันรู้ว่าเด็กคนนั้นชอบนาย” ชุยตงตงพูด
“บ้า! อย่าพูดจาเหลวไหลนะ!”
“เฮ้อ เสี่ยวลิ่วจื่อ!” ชุยตงตงเบียดตัวเข้าไปข้างเก้าอี้ โอบไหล่เขาไว้ แล้วตบบ่าพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พี่ตงตงของนายก็เป็ผู้หญิงนะ นายรู้ไหมว่าสัญชาตญาณของผู้หญิงคืออะไร? ฉันรู้มานานแล้วว่าเด็กคนนั้นคิดอะไรอยู่!”
“...” ชย่าลิ่วอี
“ตอนนั้นที่เขาเสี่ยงชีวิตเพื่อซ่อนนายไว้ พรางตัวเพื่อส่งข่าวให้นาย ถ้าเขาจะบอกว่าเป็เพราะนายเคยช่วยชีวิตเขาไว้มันก็พอฟังขึ้น แต่่เวลาหลังจากนั้นอีกเป็ปีล่ะ? เขาเป็ถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง อนาคตสดใส แต่กลับมาคลุกคลีอยู่กับพวกมาเฟียทุกวัน—— ถ้าไม่ใช่เพราะชอบนาย ก็คงเป็สายตำรวจแล้วล่ะ”
“ไร้สาระ!” ชย่าลิ่วอีพูด “นั่นเพราะฉันอารมณ์ดีเลยรับมันมาเป็ลูกน้อง! มันมาเพื่อสร้างความสุขให้กับหัวหน้าของมันต่างหาก!”
ชุยตงตงยักไหล่อีกครั้งอย่างจนปัญญา เธอต้องงัดไม้ตายออกมา “นี่ วันนั้นที่เราดู 《The Godfather》 ด้วยกัน ตอนที่ฉันกลับมาจากห้องน้ำ ทุกคนจ้องอยู่ที่หน้าจอ มีแต่เขาที่จ้องนายอยู่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่…”
“...” เื่นี้ชย่าลิ่วอีไม่เคยสังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย!
เชิงอรรถ
[1] เสียงบรรยากาศที่กำลังเย็นลงจนแข็งตัวดังเอี๊ยดอ๊าด คือ การบรรยายถึงบรรยากาศที่แน่นขนัดและตึงเครียดจนเหมือนกับเวลาชะงักและหยุดนิ่ง