หลังจากที่แท่งน้ำแข็งตกลงมาหมาป่าั์สีขาวที่อยู่ตรงหน้าก็มีเงาร่างสีขาวสว่างไสวปรากฏขึ้นมาทันที.......... มันคือเงาร่างสีขาวโปร่งใส มีร่างกายอันใหญ่โต ขนสีขาวราวหิมะ และปากหมาป่าที่ยาวกว่าครึ่งใบหน้า และยังมีดวงตาของหมาป่าที่ทอประกายแปลกประหลาดจ้องมาที่พวกเขาด้วย
ทันทีที่เงาร่างโปร่งใสนั้นปรากฏขึ้นมาคนทั้งสามคนก็รับรู้ได้ถึงมันพร้อมๆกัน ลักษณะเงาของหมาป่าคล้ายคลึงกับร่างสีขาวใหญ่โตที่นอนนิ่งไม่ไหวติงตัวนั้นมาก
และเมื่อเงาร่างสีขาวราวหิมะปรากฏตัวออกมาเสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นมาข้างหูของคนทั้งสามพร้อมๆกัน
“ติ๊ง! หมาป่าหิมะน้ำแข็งเดิมทีแล้วชอบเดินเตร็ดเตร่ไปทั่วดินแดนหิมะน้ำแข็งเป็อย่างยิ่ง มันเดินทางไปอย่างอิสระและไม่ทิ้งสิ่งใดไว้ด้านหลัง มันอาศัยอยู่ในส่วนลึกที่สุดของถ้ำหมาป่าน้ำแข็งเพื่อสืบทอดลูกหลานรุ่นต่อไปที่ไม่ได้ถือกำเนิดมานานหลายปี การตั้งท้องและการถือกำเนิดของมอนมอนสเตอร์ระดับเซียนจะมีขั้นตอนที่ยาวนาน ร้อยปีก่อนในที่สุดหมาป่าหิมะน้ำแข็งก็ได้ให้กำเนิดหมาป่าหิมะน้ำแข็งตัวน้อยขึ้นมา.......... แต่ระหว่างที่หมาป่าหิมะน้ำแข็งตัวน้อยถือกำเนิดขึ้นมาหมีน้ำแข็งเกราะทองซึ่งเป็มอนสเตอร์เซียนชั้นต่ำเลเวล 60 ตัวหนึ่งก็ได้เข้ามาในถ้ำหมาป่าหิมะโดยไม่ทันตั้งตัวและได้ต่อสู้กับหมาป่าหิมะน้ำแข็ง............”
“................พลังของหมาป่าหิมะน้ำแข็งที่อยู่ในสถานะใกล้คลอดนั้นต่ำกว่าปกติอยู่มาก แต่ท้ายที่สุดมันก็ยังคงโค่นล้มหมีน้ำแข็งเกราะทองลงไปได้ด้วยพลังและจิตตั้งมั่นในการปกป้องที่แข็งแกร่ง แต่การต่อสู้ในครั้งนั้นทำให้หมาป่าหิมะน้ำแข็งตัวน้อยที่ถือกำเนิดขึ้นมาในตอนที่การต่อสู้จบลงาเ็สาหัส มันถือกำเนิดขึ้นมาและกำลังจะตาย.......... และาแที่หมาป่าหิมะน้ำแข็งได้รับนั้นก็สาหัสมาก.......... เมื่อมันให้กำเนิดหมาป่าหิมะน้ำแข็งตัวน้อยเรียบร้อยแล้วมันจึงตายจากไป”
“แม้ว่าร่างหมาป่าหิมะน้ำแข็งจะตายไปแล้ว แต่ความทรงจำของมันก็ยังคงยึดติดอยู่กับลูกน้อยที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมาและกำลังจะตาย สิ่งนี้ทำให้ดวงจิตของมันไม่อาจจากไป และภายใต้ความปรารถนาที่แข็งแกร่ง ดวงจิตที่ไม่ยอมสลายไปและพลังที่เคยเป็ของมันจึงหลอมรวมกันจนกลายเป็ “ิญญา” ดวงหนึ่ง และก็เป็ิญญาดวงนี้เองที่กัดกินพลังของมันที่ใช้ปกป้องหมาป่าหิมะน้ำแข็งตัวน้อยเพื่อรักษาชีวิตห้วงสุดท้ายของมันเอาไว้ และเมื่อพลังของหมาป่าหิมะน้ำแข็งถูกใช้ไปจนหมดก็จะเป็เวลาที่ชีวิตของหมาป่าหิมะน้ำแข็งตัวน้อยต้องจบลงเช่นกัน หาก้าให้หมาป่าหิมะน้ำแข็งตัวน้อยมีชีวิตอยู่ต่อไป......... มีวิธีเดียวก็คือทำให้มันยอมรับมนุษย์ผู้มาจากต่างแดนเป็เ้านาย เพราะเมื่อกลายเป็สัตว์เลี้ยงของมนุษย์ผู้มาจากต่างแดน แม้ว่าพลังของมอนสเตอร์ระดับเซียนจะลดลง แต่การมีชีวิตอยู่ต่อไปของมันจะขึ้นอยู่กับชีวิตของอีกฝ่าย ไม่เพียงจะไม่ตายในทันที แม้กระทั่งตายไปแล้วมันก็ยังสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อย่างไร้ข้อจำกัด”
“แม้ว่าดวงจิตของหมาป่าหิมะน้ำแข็งจะยังคงอยู่ แต่มันก็ได้ตายไปแล้ว และยังไม่อาจไปจากถ้ำหมาป่าหิมะแห่งนี้ได้ มันเฝ้ารอคอยมนุษย์ผู้มาจากต่างแดนสักคนให้มาถึงถ้ำหมาป่าน้ำแข็งมาโดยตลอด การช่วยชีวิตและพาลูกของมันออกไปจากที่นี่จะทำให้มันสามารถปล่อยวางทุกอย่างลงได้ แต่ขณะเดียวกันด้วยธรรมชาติของการปกป้องทำให้มันกังวลว่าลูกของตัวเองจะตกไปอยู่ในมือของคนชั่ว กลายเป็ทาสที่ถูกทารุณและรังแก........ ดังนั้นเพื่อทำความปรารถนาของหมาป่าหิมะน้ำแข็งให้สำเร็จและช่วยเหลือแม่ลูกหมาป่าหิมะน้ำแข็ง ผู้เล่นจะต้องได้รับการยอมรับจากหมาป่าหิมะน้ำแข็งเสียก่อน”
เสียงแจ้งเตือนยาวเหยียดหยุดลงตรงนั้น คนทั้งสามฟังเสียงแจ้งเตือนที่ดังขึ้นมาจนเข้าใจชัดเจน เงาร่างโปร่งใสครึ่งร่างตรงหน้าที่แท้ก็คือ “ิญญา” ของหมาป่าหิมะน้ำแข็งที่ตายไปแล้ว การโจมตีที่เพิ่งโจมตีใส่เย่เทียนเซี่ยเมื่อกี้ก็มาจากมันนั่นเอง
ขณะที่สำรวจมันอย่างตั้งใจในที่สุดพวกเขาก็พบว่าเงาร่างขนาดใหญ่มหึมานั้นปลดปล่อยประกายแปลกๆออกมาด้วย สิ่งที่แฝงอยู่ในนั้นก็คือความระแวดระวังครึ่งหนึ่งส่วนอีกครึ่งก็คือความปรารถนาอันซับซ้อนและการข้อร้องอีกครึ่งหนึ่ง........ สำหรับแม่ทุกคนแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลกตลอดกาลก็คือลูกของเธอ ิญญาของสิ่งมีชีวิตตัวนี้มีความเป็แม่ประทับอยู่ภายในส่วนลึกโดยธรรมชาติโดยไม่แบ่งแยกเผ่าพันธุ์ ไม่แบ่งแยก่เวลาและสถานที่ด้วย............
“เทียนเซี่ย แล้วจะทำยังไงดี?” ซูเฟยเฟยถามเสียงเบา
“ได้รับการยอมรับจากหมาป่าตัวนั้น......... อาจจะเป็การโน้มน้าวมันหรือเปล่า?” จั้วพั่วจวินครุ่นคิดแล้วพูดออกมา จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “จะว่าไปแล้วถ้าได้รับการยอมรับจากมันก็หมายความว่าจะได้ลูกหมาป่าหิมะน้ำแข็งเป็สัตว์เลี้ยงน่ะสิ......... หมาป่าหิมะน้ำแข็งตัวนั้น.........” จั้วพั่วจวินกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะพูดออกมาด้วยดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า “คงไม่ใช่มอนสเตอร์ระดับเซียนหรอกมั้ง!? ถ้าเป็อย่างนั้นมันก็เกินไปแล้ว!!”
เย่เทียนเซี่ยลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาเสียงต่ำ “ฉันจะลองดู” จากนั้นเขาก็ก้าวไปด้านหน้าสองก้าว
ดวงตาทั้งสองข้างของหมาป่าหิมะน้ำแข็งล็อคเป้ามาที่ร่างของเขา ร่างของมันค่อยๆเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆเพื่อป้องกันด้านหลังของตัวเองเอาไว้............ เพื่อปกป้องสถานที่ซ่อนตัวของลูกหมาป่าหิมะน้ำแข็งตัวน้อยที่อยู่ด้านหลัง ในดวงตาของแม่หมาป่าที่จ้องมองมาแผ่รังสีแห่งความหวาดระแวงออกมา
เย่เทียนเซี่ยหยุดฝีเท้าไม่เดินต่อไปด้านหน้าอีก ดวงตาของเขาสบประสานกับดวงตาของหมาป่าหิมะน้ำแข็งอย่างสงบนิ่ง หลังจากหยุดนิ่งอยู่สักพักเขาก็เปิดปากพูดออกมา “ท่านเป็แม่ผู้ยิ่งใหญ่ เพื่อลูกของตัวเองแล้วแม้จะต้องสละชีวิต แต่จิติญญาของท่านก็ยังคงอยู่เพื่อปกปักรักษาที่นี่มาเป็เวลากว่าร้อยปี ความรู้สึกที่ท่านมีต่อลูกของท่านทำให้มนุษย์อย่างพวกเราประทับใจมาก......... ดังนั้นผมยินดีที่จะช่วยท่านดูแลลูกของท่าน และสาบานต่อท่านว่าเขาจะเป็คู่หูของผมตลอดไป เขาจะไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง ผมจะไม่มีวันรังแกเขา ดังนั้นขอให้ท่านวางใจแล้วส่งเขามาให้ผมเถอะครับ”
เย่เทียนเซี่ยพูดออกไปยาวเหยียด ความคิดที่เขาอยากจะแสดงออกมาก็ล้วนแสดงออกมาจนหมดแล้ว หลังจากพูดจบเขาก็รอคอยอยู่อย่างเงียบๆเป็เวลานาน...........
ดวงตาของหมาป่าหิมะน้ำแข็งยังคงล็อคเป้ามาที่เย่เทียนเซี่ย มันไม่ได้โจมตีเขาแต่ลึกลงไปในดวงตาของมันยังคงมีความกังวลและหวาดระแวง มอนสเตอร์ระดับเซียนจะมีไอคิวค่อนข้างสมบูรณ์ มันจะต้องเลือกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอนาคตและชีวิตของลูกน้อยของมัน เพื่อลูกน้อยของมัน มันต้องทิ้งอะไรหลายสิ่งหลายอย่าง แล้วมันจะเชื่อเย่เทียนเซี่ยเพียงเพราะคำพูดไม่กี่ประโยคของเขาแล้วรีบส่งลูกหมาป่าหิมะน้ำแข็งตัวน้อยให้เขาได้อย่างไร
เทียบกับเส้นทางกระดูกน้ำแข็งก่อนหน้านี้ ด่านสุดท้ายของภารกิจระบบครั้งนี้ถือว่าเป็ด่านที่ยากที่สุด ภารกิจพิเศษที่คล้ายกับภารกิจโน้มน้าวนี้ก็คือก้าวสำคัญที่สุดที่เป็ก้าวสุดท้ายในการ “ช่วยเหลือหมาป่าหิมะน้ำแข็ง” หากอยากผ่านด่านนี้ก็จะต้องได้รับความเชื่อใจจากหมาป่าหิมะน้ำแข็งโดยไม่มีข้อกังขา........... ความยากของมันถือว่าอยู่ในขั้นสุดเลยทีเดียว
สิ่งที่มัน้าไม่ใช่การบังคับ......... แต่เป็เหมือนกับที่ญาญ่าบอกเอาไว้ มันต้องใช้ “ความฉลาด”
ไม่สำเร็จ.......... เย่เทียนเซี่ยไม่ได้คิดว่ามันคือเื่เกินความคาดหมายอะไรเลย ถ้าทำแบบนี้แล้วสามารถทำภารกิจนี้สำเร็จได้เลยก็คงจะง่ายเกินไปแล้ว เพราะแต่ละคนก็สามารถพูดออกมาตามความ้าของภารกิจได้น่าฟังกว่าประโยคที่เย่เทียนเซี่ยเพิ่งพูดออกไปเมื่อกี้เป็รอยเท่า และพวกเขาจะจริงใจหรือหลอกลวงก็ล้วนไม่อาจรู้ได้เลย หมาป่าหิมะน้ำแข็งที่มีไอคิวค่อนข้างสูงคงไม่มีทางเชื่อคำพูดพวกนั้นง่ายๆแน่นอน
ดังนั้นจึงจำเป็ต้องหยิบยื่นสิ่งที่มีคุณค่ามากพอจะทำให้มันเชื่อถือได้ออกมา
จั้วพั่วจวินที่อยู่ด้านหลังะโออกมา “นี่! ท่านวางใจเถอะ พี่รองของผมเป็คนพูดคำไหนคำนั้น ผมบอกท่านได้เลยว่าพี่รองของผมคือคนที่เก่งกาจที่สุดในบรรดาผู้เล่นทั้งหมด ถ้าให้ลูกของท่านไปกับพี่รองจะถือเป็ตัวเลือกที่ดีที่สุด ท่านดูสิ พวกเราน่าจะเป็คนกลุ่มแรกที่มาถึงที่นี่ใช่ไหมล่ะ? ถ้าท่านไม่วางใจพวกเรา จะรอคนกลุ่มต่อไปมาถึงที่นี่ก็คงไม่ง่ายแล้วล่ะ”
คำพูดของจั้วพั่วจวินทำให้ดวงตาของหมาป่าหิมะน้ำแข็งเปล่งกระกายแห่งการต่อสู้ขึ้นมา แต่ทันใดนั้นมันก็ถูกความหวาดระแวงและความกังวลจากส่วนลึกเข้ามาแทนที่
เย่เทียนเซี่ยยกมือขึ้นไปทางด้านหลังเป็สัญญาณให้จั้วพั่วจวินไม่ต้องพูดอะไรต่อไปแล้ว เขาครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วก็อุ้มเหยาเหยาที่ยืนอยู่ข้างเท้าของเขาขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดจากนั้นก็ใช้มือลูบหัวมันเบาๆ “นี่คือเพื่อนของผมชื่อเหยาเหยา หรืออีกชื่อนึงก็คือจิ้งจอกหิมะทมิฬ ชื่อจิ้งจอกหิมะทมิฬนี้ผมไม่รู้ว่าท่านเคยได้ยินมาก่อนหรือเปล่า แม้ว่ามันจะดูตัวเล็กมากๆ แต่ความสามารถในการปกป้องเพื่อนพ้องของมันกลับแข็งแกร่งที่สุด ถ้าลูกของท่านอยู่ข้างกายผม พวกมันก็จะกลายเป็เพื่อนที่ดีที่สุดของผม ผมกับเหยาเหยาจะปกป้องลูกของท่านไปด้วยกัน.......... ขอให้เชื่อผมเถอะ”
เงียบ.......หมาป่าหิมะน้ำแข็งยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
“พวกเราสามคนมาถึงถ้ำหมาป่าน้ำแข็งแห่งนี้ พวกเราต้องทนกับความหนาวเย็นเพื่อข้ามผ่านเส้นทางกระดูกน้ำแข็ง........ บางทีความเย็นขนาดนั้นอาจจะเป็เื่ไร้สาระสำหรับท่าน แต่สำหรับพวกเราสามคนแล้วมันเหมือนกับนรกชัดๆ แต่พวกเราก็ยังคงกัดฟันทนมาถึงที่นี่ จุดประสงค์ที่เรามาถึงที่นี่มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็คือช่วยให้ความปรารถนาของท่านสำเร็จลุล่วง เพื่อช่วยชีวิตลูกของท่าน ขอให้ท่านเชื่อใจพวกเราและให้ลูกของท่าน.........ได้รับอิสระเร็วขึ้นอีกหน่อยเพื่อที่เขาจะได้ัักับโลกภายนอกเร็วๆด้วย ถ้าท่านยอมแพ้เพราะกังวลมากเกินไป บางทีอาจจะเป็การทำลายความหวังของเขาก็ได้นะครับ”
เห็นได้ชัดว่าคำพูดสุดท้ายของเย่เทียนเซี่ยส่งผลต่อหมาป่าหิมะน้ำแข็งเป็อย่างมาก ร่างของมันสั่นไหวอย่างรุนแรง เย่เทียนเซี่ยรอการตอบกลับของมันอย่างเงียบๆ แต่ไม่ว่าจะรอต่อไปเท่าไรมันก็ยังคงมีแต่ความเงียบอยู่เช่นเดิม
“นี่! ท่านเชื่อพวกเราเถอะ ถ้าไม่อย่างนั้นสถานที่แบบนี้ฉันคงไม่กล้าเข้ามาอีกเป็ครั้งที่สองแล้วนะ ถ้าถึงตอนนั้นไม่มีคนมาที่นี่เพื่อช่วยลูกของท่านก็อย่ามาโทษพวกเราก็แล้วกัน” จั้วพั่วจวินพูดออกไปอย่างกังวล เมื่อมองเย่เทียนเซี่ยที่ยังคงอดทนพูดกับมันทีละประโยค จั้วพั่วจวินที่มีนิสัยค่อนข้างใจร้อนก็แทบจะมีกองไฟลุกท่วมขึ้นมาในใจของเขา
“พี่จั้ว” ซูเฟยเฟยส่ายหน้าแล้วพูดออกมา “อย่าพูดอย่างนั้นกับแม่หมาป่าสิ มันระแวงขนาดนั้น.........ก็เพราะมันคือแม่คนหนึ่ง และด้านหลังของมันก็คือลูกของมันนะ”
“...............” จั้วพั่วจวิน
“เทียนเซี่ย ให้ฉันพูดกับมันหน่อยได้ไหม?” ซูเฟยเฟยมองเย่เทียนเซี่ยพูดกับแม่หมาป่า ทว่าไม่รู้เพราะอะไรเย่เทียนเซี่ยกลับพบประกายความเศร้าสร้อยจากดวงตาของเธอ หัวใจของเขากระตุกวูบจากนั้นเขาก็พยักหน้าช้าๆแล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว
ซูเฟยเฟยเดินไปด้านหน้าแล้วไปยืนตรงตำแหน่งที่เย่เทียนเซี่ยเคยยืนอยู่ก่อนหน้านี้ เธอมองหมาป่าหิมะน้ำแข็งที่มีแววตาดิ้นรนแล้วพูดออกไปด้วยเสียงแ่เบา “ท่าน........เป็แม่ที่ยิ่งใหญ่มากๆคนหนึ่ง เหมือนกับแม่ของฉัน........ บางทีแม่ทุกคนบนโลกใบนี้คงเป็แม่ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งนั้น เพื่อลูกของท่านแล้ว แม้ว่าท่านจะตายไปแล้วท่านก็พยายามดิ้นรนจะอยู่ต่อ ท่านใช้พลังและความเชื่อมั่นเฮือกสุดท้ายของตัวเองปกป้องเขา........ ส่วนแม่ของฉันก็ใช้ชีวิตของเธอแลกกับชีวิตของฉันเหมือนกัน.........”
“.............” หมาป่าหิมะน้ำแข็ง
ซูเฟยเฟยกยิ้มอ่อน ทว่าในดวงตาของเธอกลับพร่ามัวด้วยหยาดน้ำตา “เพราะเคยมีแม่มาก่อน ดังนั้นฉันถึงรู้ว่าลูกที่มีแม่มีความสุขมากขนาไหน......... และเพราะไม่มีแม่อีกแล้ว ฉันถึงรู้ว่า..........ลูกที่ไม่มีแม่.........น่าสงสารขนาดไหน ลูกของท่านมีความสุขมากเพราะแม่ของเขายอมสละทุกอย่างมากมายเพื่อเขา แต่เขาก็น่าสงสารมากเช่นกัน เพราะแม่ของเขาต้องจากเขาไปั้แ่เขายังเป็เด็ก............... เหมือนตอนที่ฉันยังเป็เด็กเช่นกัน”
ความทรงจำที่เธอไม่อยากคิดถึงมันมากที่สุดและาแที่เ็ปที่สุดถูกตัวเธอเองหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่ามันจะผ่านไปหลายปีแล้วซูเฟยเฟยก็ยังคงถูกความเ็ปและความโหยหาที่มาพร้อมกับคืนนั้นอัดแน่นอยู่เต็มอก ความโศกเศร้าที่แทบจะหายใจไม่ออก เมื่อพูดประโยคสั้นๆนั้นจบลงน้ำตาที่คลอหน่วยอยู่ในดวงตาของเธอก็ไหลรินออกมา เมื่อมันหยดลงบนพื้นก็กลายเป็คริสตัลที่ถูกความเย็นแช่แข็ง
“ส่งลูกของท่าน........ มาให้ฉันได้ไหม? พวกเรามีประสบการณ์เหมือนกัน มีแม่ที่มีความรักอันยิ่งใหญ่เหมือนกัน........ ดังนั้นพวกเราล้วนรู้ดีว่าอีกฝ่ายขาดอะไรไป อีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ พวกเราจะกลายเป็เพื่อนที่ดีที่สุด คู่หูที่ดีที่สุด.....ดีไหม?”
คำพูดของซูเฟยเฟยสวยงามกว่าคำพูดของเย่เทียนเซี่ยหลายเท่า ง่ายกว่ามาก......... และสิ่งที่มากกว่าก็คือน้ำตาและความรู้สึกที่ยากจะควบคุมซึ่งมาจากความทรงจำของเธอ
ดวงตาของหมาป่าหิมะน้ำแข็งมืดมนลง แล้วทันใดนั้นแสงสว่างสีขาวกลุ่มหนึ่งก็ลอยออกมาจากศพของหมาป่าหิมะน้ำแข็งที่นิ่งงันอย่างช้าๆตรงไปยังตำแหน่งที่ซูเฟยเฟยยืนอยู่............