ระหว่างที่ซื้อขายพูดคุยกันอยู่นั้น ก็เริ่มมีผู้คนเมียงมองมาที่ร้านด้วยความสนใจ แต่ยังไม่กล้าเข้ามาดูใกล้นัก บางคนเมื่อเห็นชายชราจิ้มเนื้อไก่กินและสรรเสริญถึงความอร่อยก็เริ่มกลืนน้ำลายตาม
"ท่าทางน่าอร่อยนะ แต่แพงจัง"
"ไม่แพง ๆ ไก่ชิ้นใหญ่มาก ที่สำคัญอร่อยมาก ๆ ด้วย" ชายชรารีบหันมาช่วยโฆษณาให้ทันที
"คุณน้าคะ พี่ ๆ ข้างหลังด้วย ลองเข้ามาชิมดูก่อนได้เลยค่ะ ไม่ซื้อไม่ว่าค่ะ จานนี้สูตรต้นตำรับ ส่วนอีกจานสูตรสมุนไพร ชิมได้เยอะตาม้าได้เลยค่ะ" เมื่อเห็นคนเริ่มมุงเยอะขึ้นแต่ไม่กล้าเข้ามาดูใกล้ ๆ อนงค์กานต์จึงเดินออกมายืนหน้าแผงขายและหยิบจานไก่สำหรับชิมเดินไปให้พวกเขาชิมถึงที่
เมื่อพวกเขาได้ชิมก็พากันส่งเสียงชื่นชมถึงความอร่อย และเดินเข้ามาสั่งคนละชิ้น สองชิ้น บางคนไม่มีเงินสำหรับซื้อในวันนี้ก็ตั้งใจว่าจะกลับมาซื้อในวันหน้าให้ได้
ไก่ทอดทั้งสองสูตรขายดีพอ ๆ กัน อนงค์กานต์และตามภาภรณ์ช่วยกันใส่ถุงและรับเงินมือเป็ระวิง ส่วนกานต์ก็เร่งทอดอย่างเต็มที่ หน้าแดง เหงื่อโชกเนื่องจากอยู่หน้าเตาเป็เวลานาน แต่กานต์ก็มีกำลังใจที่ดีมาก เนื่องจากเห็นยอดขายไก่ทอดที่ขายดีเป็เทน้ำเทท่า ไก่ทอดต้องใช้ระยะเวลา 15-20 นาทีต่อรอบ แต่ทุกคนก็ยินดีรอ ยังไม่ถึงเจ็ดโมงครึ่งดี ไก่ทอดเจ็ดสิบกว่าชิ้นก็ขายหมดไปในพริบตา บางคนได้ยินเสียงพูดคุยถึงความอร่อยก็เร่งมาที่ร้านแต่ไม่ทันเพราะหมดก่อน จึงได้แต่บ่นเสียดาย บางคนถึงกับจองล่วงหน้าสำหรับวันพรุ่งนี้เลยทีเดียว
ในที่สุดพวกเขาก็ได้นั่งพักเสียทีหลังจากยืนขาแข็งอยู่เกือบสองชั่วโมง ทั้งหมดนั่งหมดสภาพ หน้าแดง เหงื่อท่วม เนื่องจากขยับร่างกายตลอดเวลา ประกอบกับเป็ฤดูร้อน อากาศร้อนกว่าปกติทำให้หมดแรงได้ง่าย
"ั้แ่เรามานั่งขายของในตลาดกับแม่ นี่เป็ครั้งแรกเลยนะที่ยุ่งจนหมดแรง" ตามภาภรณ์ยังมีแรงหัวเราะเสียงดัง "แต่สนุกสุด ๆ รู้สึกดีมากเลย พรุ่งนี้เค้าจะมาอีก" เธอกล่าวอย่างตั้งมั่น
"ไม่ต้องมาก็ได้นะลูก อาเห็นหนูเหนื่อยแบบนี้อาเกรงใจ" กานต์รู้สึกไม่ดี
"เกรงใจอะไรกันคะ ครูกานต์ พี่สนับสนุนให้มาทุกวัน ถือเป็ประสบการณ์ที่ดีมากสำหรับชมพู อีกหน่อยถ้าโตขึ้นจะได้รับงานแทนพี่กับสามีได้" หงส์เดินมาหาที่ร้านและได้ยินคำพูดของกานต์พอดี จึงเอ่ยบอกเสียงดัง
"พี่จะให้ชมพูมาช่วยจนกว่าอนงค์จะแข็งแรงมาร้านได้นะคะ และอย่าพูดถึงเงินค่าจ้างของแกนะคะ ไม่งั้นพี่โกรธ" หงส์ท้วงและหัวเราะร่วน " แต่ถ้าอยากให้จริง ๆ ให้เป็ไก่ทอดแทน" เมื่อได้ยินตามภาภรณ์ก็หัวเราะเสียงดังไปกับแม่ด้วย พลางยกมือสนับสนุน "อันนี้หนูเห็นด้วย หนูขอเป็ไก่ทอดวันละชิ้นนะคะ หนูชอบมากเลย"
"ไก่ทอดอร่อยจริง ๆ ค่ะครูกานต์ 4 ชิ้นที่ชมพูเอาไปให้ตอนนี้หมดเกลี้ยงเลย พี่ทันได้กินชิ้นเดียว ส่วนเฮียไช้นี่เหมาไปเองเลย 2 ชิ้นไม่แบ่งใคร" เธอนินทาสามีอย่างขำ ๆ "อีกชิ้นให้ลูกจ้างสามคนแบ่งกันกิน ไม่เกิน 5 นาทีหมดเกลี้ยง มีพูดกันอีกด้วยว่าอร่อยเหมือนไม่ใช่ไก่ที่ตัวเองสับขายทุกวัน"
"ต้องยกประโยชน์ให้นิดเค้าครับ สูตรนี้มาจากนิด" กานต์เอ่ยเสียงภูมิใจ "ลำพังผมกับนง คงคิดไม่ได้แบบนี้"
"จริงเหรอจ๊ะ นิดเก่งจริง ๆ ลูก ไปหาสูตรมาจากไหน ป้าไม่เคยเห็นไก่ทอดแบบนี้มาก่อนเลย ทั้งกรอบทั้งอร่อย"
"หนูเห็นในโทรทัศน์ค่ะ เลยจดสูตรมาลองทำ" อนงค์กานต์ยิ้มเขิน เธอรู้สึกเขินจริง ๆ ที่ต้องแต่งเื่อยู่ตลอดเวลา
"หนูเก่งมากเลยลูก ที่กล้าลองทำมาขายแบบนี้ ดูสิ มาได้วันเดียว คนพูดถึงกันทั้งตลาด"
"แต่ครูกานต์กับนิดไม่คิดจะเพิ่มจำนวนไก่อีกหน่อยเหรอ วันนี้เจ็ดโมงกว่า ๆ ของก็หมดแล้ว คนเพิ่งเข้าตลาดเอง และรับรองได้เลย พรุ่งนี้คนจะรุมเยอะกว่านี้แน่"
ทั้งสองนั่งมองหน้ากันอยู่ครู่ "ผมก็คิดอยู่เหมือนกันครับพี่ แต่อาจยังเพิ่มมากไม่ได้ เพราะตอนนี้มีเตาทอดเตาเดียว จะซื้อเตาเพิ่มตอนนี้ก็คงยังไม่เหมาะ ต้องรอดูจำนวนลูกค้าสักอาทิตย์ว่าเปลี่ยนแปลงไปในทางไหน จะได้ไม่ลงทุนเสียเปล่า"
หงส์พยักหน้าอย่างเข้าใจ "ดีแล้วค่ะ คิดไว้รอบ ๆ ด้าน"
"พ่อ ถ้าจะเพิ่มอีก 5 ตัวพ่อทอดไหวไหมจ๊ะ" อนงค์กานต์นั่งคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนหันไปถามความเห็นของผู้เป็พ่อ เพราะเป็คนทอด ต้องเอาที่พ่อรับไหวและไม่เหนื่อยมากเกินไป
"พ่อว่าไหวอยู่นะ เพิ่มอีก 40 ชิ้น ใช้เวลาไม่มากเกินไป" กานต์เห็นพ้องด้วย "งั้นวันนี้พวกเราสั่งไก่เพิ่มเป็ 15 ตัวนะครับ เดี๋ยวเก็บของแล้วผมจะตามไปรับที่ร้าน"
"ได้ค่ะ พี่จะให้เด็กหั่นไก่ไว้ให้ ชมพูจะไปร้านกับแม่เลยไหม หรืออยู่คุยกับนิดก่อน" หงส์หันไปถามบุตรสาวที่กำลังดูดน้ำหวานอยู่ข้าง ๆ
"ผมขออนุญาตพาชมพูไปนั่งกินขนมและไอติมที่ร้านหน้าตลาดก่อนครับ วันนี้มาช่วยงานจนหมดแรงเลย ต้องพาไปกินขนมแก้เหนื่อยก่อน ขากลับผมพาชมพูไปส่งที่ร้านเอง"
หงส์เอ่ยปากอนุญาตและเดินกลับไปที่ร้านเพื่อไปเตรียมไก่ไว้รอ
