นางรู้สึกว่าบุรุษขี้เหร่ของตัวเองผู้นี้เป็หนังสือเล่มหนา ทุกครั้งที่พลิกหน้าจะได้ค้นพบและเรียนรู้กระไรใหม่ๆ
ทั้งที่เจียงหงหย่วนยังอายุไม่ถึงยี่สิบแต่กลับเหมือนสุราที่บ่มมานาน ยิ่งชิมยิ่งหอม
หลินหวั่นชิวอดจูบไปที่ลูกกระเดือกของเขาไม่ได้
ัับางเบาราวกับแมลงปอแตะน้ำ ถอยกลับรวดเร็วดังสายฟ้า
แต่เพียงเท่านี้ก็เพียงพอให้ร่างกายเจียงหงหย่วนชาไปครึ่งเสี้ยวประหนึ่งกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน
“ธนูดอกเดียวได้นกสามตัวต่างหาก!” เสียงเขาทุ้มลง ส่งคลื่นแม่เหล็กให้จั๊กจี้หู
เพราะเื่นี้ทำให้ภรรยาตัวน้อยเป็ฝ่ายยุแหย่เขาบ้างแล้ว!
เท่ากับยิงธนูดอกเดียวได้นกสามตัวไม่ใช่หรือ
“จับดูสิ ลูกธนูขึ้นสายแล้วด้วย” เจียงหงหย่วนคว้ามือหลินหวั่นชิว ดึงมืออ่อนนุ่มราวกับไร้กระดูกไปวางบนธนูที่โวยวายจะยิงของตัวเอง
อุ่นร้อน
และ…
ใหญ่จนน่ากลัว…
หลินหวั่นนึกชิวเสียใจขึ้นมา ออกแรงดึงมือตัวเองกลับ “หย่วนเกอ ท่านบอกว่าจะให้ข้านวดไหล่ไม่ใช่หรือ? ข้านวดให้…”
ท่ามกลางความมืด ดวงตาเจียงหงหย่วนดำมืดดุจบ่อน้ำลุ่มลึกที่สามารถกลืนกินได้ทุกอย่าง
“เอาสิ” เขาปล่อยมือหลินหวั่นชิว พลิกตัวนอนคว่ำ
“ขึ้นมานั่งเลย เอียงตัวทำไม่ได้แรง” หลินหวั่นชิวคุกเข่าข้างตัวเขา แต่เพิ่งจะเอื้อมมือออกไปก็ได้ยินเจียงหงหย่วนพูด
แสงจันทร์ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา ใบหน้าใต้แสงจันทร์ของหลินหวั่นชิวแดงระเรื่อ
นางกัดปากอย่างชั่งใจ ก่อนตัดสินใจก้าวขึ้นไปนั่งคร่อมบนหลังเขา
ลมหายใจเจียงหงหย่วนติดขัด…
หลินหวั่นชิวออกแรงนวดคอ ท้ายทอย และไหล่ทั้งสองข้าง
กล้ามเนื้อของชายฉกรรจ์แข็งมาก นางรู้สึกเหมือนกำลังบีบก้อนเหล็ก
ใต้แสงจันทร์ แผ่นหลังเขาตึงเกร็ง สามารถมองเห็นลายกล้ามเนื้อผ่านเสื้อผ้าชั้นเดียว มีมาดของชายชาตรี
นางนึกถึงแผลที่เคยเห็นบนร่างของเขาเมื่อก่อน ขณะช่วยนวด มือเผลอลูบแผลเป็พวกนั้นผ่านชั้นเสื้อผ้าอย่างไม่รู้ตัว…ลูบไปตามความทรงจำในหัว
ั้แ่กินโอสถชำระไขกระดูก ความจำนางดีขึ้นมาก แม้จะเคยเห็นแค่แวบเดียวก็จำแผลทุกจุดบนหลังเจียงหงหย่วนได้อย่างชัดเจน
ทันใดนั้น สีหน้าหลินหวั่นชิวก็เปลี่ยนไป นางพลิกตัวลงจากเตียงไปจุดตะเกียง
เจียงหงหย่วนหันไปมอง นอกจากแสงตะเกียงแล้ว ภาพที่สะท้อนในดวงตาลุ่มลึกก็มีแต่นาง
หลินหวั่นชิวถอดเสื้อผ้าเขาออก ตอนที่เจียงหงหย่วนเห็นว่าสายตานางมองมาทางแผลที่ถูกลูกธนูบริเวณไหล่…เขาถึงเสียใจว่าเหตุใดตัวเองไม่ติดกระดุมให้แน่น
จู่ๆ…
แผลเขาก็เปียกชื้น
หนึ่งหยด สองหยด…หยดน้ำร่วงลงบนไหล่เขาเป็สาย
มันคือน้ำตาของภรรยาตัวน้อย
“ภรรยาจ๋า…” เจียงหงหย่วนอยากพลิกตัวแต่ถูกหลินหวั่นชิวกดไว้
อย่าขยับ
ปลายนิ้วเย็นเฉียบของนางวางลงบนไหล่เขาเบาๆ ลูบผ่านแผลบนไหล่ไปมา
เป็แผลใหม่
สะเก็ดแผลสีชมพูยังคงมีโลหิตซึมออกมาเล็กน้อยแต่แผลนี้ราวกับเข็มที่ปักเข้าตรงกลางใจของหลินหวั่นชิว
นางปวดใจ
ชายฉกรรจ์ผู้นี้ขึ้นเขาไปล่าสัตว์ทั้งที่มีเงินเดือนประจำ เขาทำเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูนาง
นางรู้ว่าเขาอยากให้ตัวเองสุขสบาย
แต่นี่มันเอาชีวิตเข้าแลกแล้ว!
“ภรรยาจ๋า…แค่แผลเล็กน้อย ไม่ได้เป็กระไรมาก” เจียงหงหย่วนปวดใจเช่นกัน เหตุใดเขาประมาทเช่นนี้ ปล่อยให้ภรรยาตัวน้อยรู้เสียได้
“ยังเจ็บหรือไม่?” หลินหวั่นชิวถาม
“ไม่เจ็บแล้ว หายเจ็บตั้งนานแล้ว จริงๆ นะ” เจียงหงหย่วนรีบตอบ
“นี่ไม่ใช่แผลที่เกิดจากสัตว์” หลินหวั่นชิวพูด “ถูกธนูยิงใช่หรือไม่?” นางถาม “ท่านเจอสิ่งใดมาบนเขา?”
“เจอโจรูเา” เจียงหงหย่วนนิ่งเงียบสักพัก ในที่สุดก็ตัดสินใจบอกความจริง
แม่นางน้อยของเขาเป็คนฉลาด ปิดบังไม่ได้
นางมีแต่จะยิ่งเสียใจถ้าโกหก
“โจรูเา?” เสียงหลินหวั่นชิวดังขึ้นและสั่นเครือเล็กน้อย
“อืม แต่ข้าฆ่าพวกเขาหมดแล้ว โชคดีที่รอบนี้มีหน้าไม้ที่เ้าให้มา” เจียงหงหย่วนหันมาลุกขึ้นนั่ง โอบเอวหลินหวั่นชิวเข้ามาในอก
“หน้าไม้ที่เ้าให้มาใช้ดีมาก ยิงต่อเนื่องฟิ้วๆ หนึ่งดอกตายหนึ่งคน”
“ข้าฆ่าคนตาย เ้ากลัวหรือไม่?”
เจียงหงหย่วนเกยคางบนศีรษะหลินหวั่นชิว ถามอย่างระมัดระวัง
ฆ่าคน…นี่เป็เพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น วันหน้าเขายังต้องฆ่าอีก
“ข้าสนแค่ชีวิตท่าน” หลินหวั่นชิวตอบเสียงเบา “หย่วนเกอ รับปากข้านะ ข้าจะไม่ก้าวก่ายเื่ของท่าน แต่ว่า…ท่านโปรดจำไว้ด้วยว่ายังมีข้าอยู่ ท่านต้องมีชีวิต”
นางอยากบอกเจียงหงหย่วนว่าอย่าไปล่าสัตว์ อย่าไปทำเื่อันตราย
แต่เช่นนั้นจะต่างกระไรกับขังเสือไว้ในกรง?
เจียงหงหย่วน…ไม่เคยห้ามไม่ให้นางทำกระไรเช่นกัน
คำพูดในใจติดค้างในลำคอ ทำอย่างไรก็พูดไม่ออก
“อืม วางใจเถิด มีเ้าอยู่ ข้ายังตายไม่ลง” เขาพูด
ใบหน้าชายฉกรรจ์มีรอยยิ้ม หากหลินหวั่นชิวเห็นคงไม่รู้สึกว่าเขาน่ากลัวสักนิด
ตรงกันข้าม รอยยิ้มนี้เป็ดังสายลมอบอุ่นในฤดูใบไม้ผลิ พัดไปที่ใด มวลผกาแบ่งบานที่นั่น
“เ้ายังไม่มีลูกให้ข้า ข้ายังไม่ได้แต่งภรรยาให้ลูกชาย ยังไม่ได้หาลูกเขยให้ลูกสาว ยังไม่ได้อุ้มหลานอุ้มเหลน จะยอมตายได้อย่างไร!”
“ภรรยาจ๋า…ไม่ว่าหน้าไม้หรือกริช เ้าก็ไม่ได้เป็คนให้ข้าทั้งนั้น จำไว้นะ” เจียงหงหย่วนกำชับหลินหวั่นชิว เขารู้ว่าภรรยาตัวเองมีความลับหลายอย่าง แม่ชีที่ตายไปกับวัดที่ผุผังไม่อาจแบกรับความลับเหล่านี้
นางไม่บอก เขาก็จะไม่ถาม
แต่เขาไม่อยากให้นางเปิดเผยต่อหน้าผู้อื่น
เดิมคนไร้ซึ่งความผิด หากมีหยกกลับเป็โทษ[1] ตอนนี้เขายังไม่มีกำลังปกป้องนางมากพอ ไม่อาจให้นางใช้ชีวิตอิสระโดยไม่ต้องปิดบังกระไรได้
แววตาเจียงหงหย่วนจมลง
ชาตินี้ เขาไม่เพียงแต่จะกำจัดอันตรายที่ซ่อนอยู่ แต่จะแข็งแกร่งขึ้นให้มากที่สุดด้วย
แข็งแกร่งจนไม่มีผู้ใดกล้าอยากได้ภรรยาตัวน้อย
แข็งแกร่งจนภรรยาตัวน้อยไม่ต้องปิดบังหน้าตาตัวเองตอนออกจากบ้าน
เขา…
ยังไม่คู่ควรกับภรรยาตัวน้อย
เขา…
ต้องพยายามให้คู่ควรกับนาง
“อื้ม” หลินหวั่นชิวกอดเอวเขาแน่น ขานรับเสียงเบา “ให้ท่านคนเดียว” นางเอ่ย
คนที่ทำให้นางทุ่มเทแบบไม่สนใจผลที่ตามมาได้คงมีแต่บุรุษผู้นี้
บุรุษที่เป็เหมือนลูกหมาป่าน้อย
เชิงอรรถ
[1] เดิมคนไร้ซึ่งความผิด หากมีหยกกลับเป็โทษ(匹夫无罪,怀璧其罪) แต่เดิมกล่าวถึงชาวบ้านยากไร้ไม่มีเหตุผลใดที่จะมีของมีค่า(หยก)ไว้ได้ เว้นแต่จะไปขโมยมา ต่อมาใช้เปรียบเทียบถึง ผู้มีความสามารถ แต่ความสามารถนั้นกลับเป็ภัยต่อตน
