หานโม่รู้สึกกลัดกลุ้มเล็กน้อย
เฉินเซวียนเป็เพียงบ่าวรับใช้ในตระกูลหานแต่กลับมีพลังที่แข็งแกร่งมากกว่าที่นางคิด นางมาเกิดใหม่หลายเดือนมากแล้ว แต่พลังของนางยังไม่สามารถผ่านไปสู่ระดับเสวียนซือได้ ความคืบหน้าเท่านี้ทำให้หานโม่ไม่ค่อยพอใจ
ก๊อกๆ ๆ......
ทันใดนั้นประตูห้องพักของหานโม่ก็ถูกเคาะอย่างกะทันหัน
หานโม่เตรียมพร้อมทันที
นางเพิ่งมาพักที่นี่ได้ไม่นาน แล้วจะมีใครมาหาถึงหน้าประตูห้องได้อย่างไรกัน?
นางก้าวไปเปิดประตูอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นผู้ที่อยู่ด้านนอกประตู ท่าทีของหานโม่ก็ผ่อนคลายลงทันที
“เป็ท่านนี่เอง”
ผู้ที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูคือ ตี้เฉิน
หานโม่เบี่ยงตัวหลบไปด้านข้างเพื่อหลีกทางให้ตี้เฉินเข้ามา "ท่านมีตาทิพย์หูทิพย์หรือ? ทำไมถึงรู้ว่าข้าอยู่ที่นี่?"
ตี้เฉินหัวเราะและพูดว่า "บางทีข้าคงมีเป็แน่”
หานโม่กลอกตาขึ้น้า
แม้ว่านี่จะเป็โลกแฟนตาซี แต่คงไม่มีผู้ใดที่มีเล่ห์เหลี่ยมชั่วร้ายเท่าเขาแน่!
“ท่านมาทำอะไร?" หานโม่เปลี่ยนเื่
ตี้เฉินกวาดสายตามองหานโม่ขึ้นลง เมื่อแน่ใจแล้วว่านางไม่ได้รับาเ็ร้ายแรงใดๆ เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก "ข้าเอายามาให้เ้า"
เขาหงายฝ่ามือออกปรากฏเม็ดยาสีขาวหนึ่งเม็ดวางนิ่งอยู่บนนั้น
หานโม่ชำเลืองมองตี้เฉิน "ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าาเ็?"
ทันท่วงทีไปเสียทุกครั้งเช่นนี้ หานโม่คิดจริงๆ แล้วว่าตี้เฉินติดตั้งเครื่องติดตามไว้บนตัวนาง
"เพียงแค่นับนิ้วข้าก็รู้แล้ว รีบกินเสีย ยาตัวนี้รักษาได้เพียงาแภายนอกของเ้าเท่านั้น ส่วนอาการาเ็ภายในนั้นต้องใช้ลมปราณช่วยกระตุ้นตัวยาถึงจะสามารถรักษาได้อย่างสมบูรณ์" ตี้เฉินป้อนเม็ดยาถึงปากของหานโม่
ระยะห่างที่ใกล้ชิดกันเช่นนี้ทำให้หานโม่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย นางถอยหลังก้าวหนึ่งแล้วเอื้อมไปหยิบยาที่อยู่ในมือของตี้เฉินมา
เมื่อนิ้วเรียวของหานโม่ััโดนฝ่ามือของตี้เฉิน ทั้งคู่ก็พลันหยุดชะงัก
นิ้วของหานโม่เย็นเล็กน้อย ส่วนฝ่ามือของตี้เฉินอบอุ่นพอๆ กับรอยยิ้มของเขา ทันทีที่ทั้งสองัักันพวกเขาต่างก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของกันและกัน
"เ้ารีบกินยาเข้าเถอะ" ตี้เฉินคิดว่ามือของหานโม่เย็นเป็เพราะอาการาเ็ ดังนั้นเขาจึงเร่งให้หานโม่รีบกินยา
หานโม่ไม่ได้คิดอะไรมากมาย นางเอายาของตี้เฉินใส่ปากและกลืนลงไปทันที
ทันทีที่กลืนยาเข้าไป ความอบอุ่นสายหนึ่งก็ไหลไปตามแขนขาของนาง ภายในร่างกายที่รู้สึกอึดอัดราวกับถูกกดทับด้วยอะไรบางอย่างกลับรู้สึกโล่งจนหานโม่อยากถอนหายใจ
แต่นางกลั้นเอาไว้
เมื่อตี้เฉินเห็นเช่นนี้ก็ลุกขึ้นเดินมายังด้านหลังของหานโม่ เขาวางฝ่ามือทั้งสองข้างลงบนแผ่นหลังบาง หานโม่ยังไม่ทันขยับตัวออกเพื่อเว้นระยะห่างจากคนตรงหน้า พลังงานมหาศาลก็ได้ไหลบ่าเข้ามาในร่างกายของนางราวกับจะผลักูเาพลิกทะเลก็ไม่ปาน
"อะ......" หานโม่ส่งเสียงออกมาเพียงคำเดียวสั้นๆ ลมปราณทั่วทั้งร่างของนางก็ถูกลมปราณของตี้เฉินชักนำและเริ่มไหลเวียนมากัน
จุดตันเถียนของหานโม่เริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมา
พลังปราณผสมกับฤทธิ์ของยารักษาอาการาเ็ที่ตี้เฉินให้นางกินผสมรวมกันแล้วไหลอย่างต่อเนื่องเข้ามาในตันเถียนของหานโม่ กำแพงกั้นระดับชั้นที่หานโม่มองไม่เห็นโอกาสทะลวงผ่านไปได้เลยนั้น คาดไม่ถึงว่ามันจะคลายตัวลงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม หนึ่งอาทิตย์ก่อนงานประลองจะเริ่มขึ้น หานโม่ใช้เวลาทั้งอาทิตย์ในการโคจรลมปราณและรู้ชั้นกำแพงนั้นไม่มีแนวโน้มที่จะนางฝ่าไปได้ ทำให้อดรู้สึกหดหู่บ้างไม่ได้
ตี้เฉินถอนฝ่ามือออก พลังลมปราณที่ไหลราวกับคลื่นทะเลในมหาสมุทรก็กลับคืนสู่ร่างของเขา หานโม่รู้สึกถึงระดับขั้นของตี้เฉินไม่ได้ แต่นางรู้ว่าตี้เฉินนั้นแข็งแกร่งเป็อย่างยิ่ง!
"ข้าได้ยินมาว่าเ้าตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลหานแล้วหรือ?" หลังจากที่ตี้เฉินถอนฝ่ามือออกก็ถามขึ้นมา
หานโม่รู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ผ่อนคลายลง
คนผู้นี้รับรู้ได้ทุกครั้งที่นางเกิดเื่หรือได้รับาเ็ จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะรู้เื่นี้ด้วย
“ใช่ ตอนนี้คนตระกูลหานคงจะเกลียดข้าไปแล้ว"
หานโม่ยังไม่รู้เื่ที่หานซินสาดน้ำโคลน [1] ใส่นาง ไม่เช่นนั้นนางคงไม่มีทางใช้คำว่า "คงจะ" เป็แน่
ตี้เฉินพยักหน้า "ไม่เป็ไร ตระกูลหานไม่ได้น่ากลัว ส่วนเ้าเองก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะในสายตาของพวกเขานอกจากเ้าแล้วทุกคนก็คือคนในครอบครัวเดียวกัน"
หานโม่เมื่อได้ฟังคำพูดของตี้เฉิน นางรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เขารู้ว่านางกำลังกังวลเื่อะไรอยู่ แต่ในไม่ช้าก็รู้สึกโล่งใจ
ดูเหมือนว่าไม่มีสิ่งใดที่ตี้เฉินไม่สามารถแก้ไขได้
“สาวใช้ของเ้าออกจากตระกูลหานไปแล้วตามแผนการของเ้า " ตี้เฉินกล่าว
หานโม่ไม่แปลกใจเลยเมื่อตี้เฉินเอ่ยถึงแผนการของนาง จึงพยักหน้าแล้วเอ่ยว่า "เดิมทีนางก็ไม่ได้อยู่ในสถานะคนของตระกูลหานอยู่แล้ว"
ตี้เฉินหัวเราะ "เ้าปฏิบัติต่อคนของเ้าได้ดีมาก"
หานโม่ชำเลืองมองตี้เฉินโดยที่ไม่เอ่ยอะไรออกมาอีก
ตอนที่นางลืมตาตื่นขึ้นมาบนโลกนี้ มีเพียงเสี่ยวเยว่เท่านั้นที่คอยอยู่เคียงข้างและจงรักภักดีต่อนาง แม้ว่าหานโม่จะไม่ได้พานางไปสู่จุดสูงสุดของความแข็งแกร่งด้วยกัน แต่ตอนนี้นางก็ทำเท่าที่ทำได้แล้ว
ก่อนหน้าที่หานโม่จะเข้าร่วมการประลองของตระกูลหาน นางบอกเสี่ยวเยว่ไว้แล้วว่าให้ถือโอกาสตอนที่คนตระกูลหานจดจ่ออยู่กับงานประลองครั้งนี้หนีออกมาจากตระกูลหาน หานโม่ยังได้ทิ้งเงินไว้ให้เสี่ยวเยว่จำนวนหนึ่งอีกด้วย ตราบใดที่เสี่ยวเยว่ไม่โชคร้ายเจอคนเลว นางก็สามารถใช้ชีวิตต่อจากนี้อย่างสงบและเป็สุขได้
"จริงสิ เ้า้าไปยังสถานศึกษาของตี้ตูใช่หรือไม่?" อยู่ๆ ตี้เฉินก็ถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน
หานโม่หันมาให้ความสนใจกับคำถามของคนตรงหน้าอีกครั้ง นางเงยหน้าขึ้นมองตี้เฉินและเอ่ยถามว่า "สถานศึกษาของตี้ตู? คืออะไรงั้นหรือ?"
ความประหลาดใจฉายชัดในดวงตาของตี้เฉิน
เขารู้มาตลอดว่าหานโม่แตกต่างจากผู้คนมากมายในโลกใบนี้ เมื่อได้ยินคำศัพท์แปลกๆ ออกมาจากปากของหานโม่ ตี้เฉินก็ยิ่งมั่นใจว่าหานโม่ต้องไม่ใช่คนของที่นี่แน่นอน
อย่างน้อยก็ไม่ใช่คนในทวีปนี้
"สถานศึกษาของตี้ตูไม่ได้มีแค่แห่งเดียว แต่มันเป็ชื่อที่ใช้เรียกสถานศึกษารวมๆ สถานศึกษาของตี้ตูมีทั้งหมดสามสิบหกแห่ง สิบสามแห่งจำกัดไว้สำหรับเชื้อพระวงศ์ เป็สถานศึกษาที่ขึ้นตรงต่อราชวงศ์โดยตรง องค์ชายหลายพระองค์ก็เล่าเรียนในสถานศึกษาเหล่านี้ สถานศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดสามแห่งคือสถานศึกษาจั้นหวง สถานศึกษาเฟิงฮวา และสถานศึกษาเซิ่งหลัน"
ตี้เฉินเอ่ยอย่างช้าๆ
หานโม่พยักหน้า "การรับสมัครผู้เข้าศึกษาที่สถานศึกษาตี้ตูเริ่มแล้วงั้นหรือ?"
ตี้เฉินไม่เอ่ยเื่นี้ขึ้นมาในทันที แสดงว่าสิ่งนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับการประลองแน่
ตี้เฉินตกตะลึงจนพูดไม่ออก หลังจากนั้นเพียงไม่นานเขาก็ยิ้มออกมา "ไม่ใช่ นี่เ้าไม่รู้หรือว่าผู้ที่ชนะการประลองของตระกูลหานในครั้งนี้สามารถเข้าร่วมการสอบคัดเลือกของสถานศึกษาตี้ตูได้"
คราวนี้กลายเป็หานโม่ที่ตกตะลึง
หานโม่เข้าร่วมการประลองของตระกูลหานได้จากการยื่นเงื่อนไขกึ่งบังคับให้หานเฉินต้งยินยอม ในความคิดของเขาหานโม่ก็คงทำได้ไม่เลว แต่ไม่ได้คาดคิดว่านางจะได้รับชัยชนะ
ดังนั้นเมื่อเขารู้ว่าสุดท้ายแล้วผู้ชนะเป็หานโม่ จึงไม่แปลกที่หานเฉินต้งจะแค้นเคืองยิ่งนัก
หานโม่ไม่เคยสนทนากับผู้อื่น ดังนั้นนางจึงไม่รู้เกี่ยวกับเื่นี้
ตี้เฉินเห็นสีหน้าของหานโม่ก็รู้ได้ทันทีว่าเื่ราวเป็มาเช่นไร เขาหัวเราะออกมาทันที "ตอนนี้เ้าหลุดพ้นจากตระกูลหานแล้ว การพักอาศัยในเมืองหลิงหยวนต่ออาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก สถานศึกษาตี้ตูไม่ใช่สถานที่ที่ตระกูลหานจะยื่นมือเข้าไปยุ่งได้ หากเ้าไปที่นั่นแล้วพัฒนาพลังปราณของเ้า เ้าก็สามารถหลบซ่อนจากตระกูลหานได้ เมื่อใดที่เ้ามีพลังมากพอแล้วก็ไม่สายเกินไปที่จะกลับมาเผชิญหน้ากับพวกเขาอีกครั้ง”
หานโม่พยักหน้า "ข้าจะคิดอย่างรอบคอบ”
........................................................................
เชิงอรรถ
[1] สาดน้ำโคลน หมายถึง ใส่ร้ายป้ายสี
