World of Fate ก็เป็เช่นเดียวกันกับเกมเสมือนจริงเกมอื่นๆนั่นก็คือมันไม่มีกลางคืนที่แท้จริง ทว่าท้องฟ้าในโลกจริงนั้นค่อยๆ มืดลงแล้ว นั่นหมายถึงยามวิกาลกำลังมาเยือน
ทางด้านตะวันตกของที่ราบลั่วเฟิงเป็ที่เก็บเลเวลของกิลล์พันธมิตรแดนเทพ
เมื่อชื่อของพันธมิตรแดนเทพปรากฏออกไปพื้นที่โดยรอบอันกว้างใหญ่ก็ไม่มีผู้เล่นคนไหนกล้าเหยียบย่างเข้ามาอีกเลยเพราะพวกเขาทั้งหมดล้วนหวาดกลัวเนื่องจากรู้ดีว่าชื่อๆนี้หมายถึงอะไร แต่ในขณะที่ไม่มีใครคาดคิด แม้แต่หัวหน้าพันธมิตรแดนเทพเองก็เป็หนึ่งในนั้น
“นายน้อยครับ........ เมื่อกี้นี้ ชื่อของเซี่ยเทียนขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 ในรายการแล้วครับ!” แดนเทพอิ่งปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของจ้างเสิน ตามมาด้วยสีหน้าตื่นตะลึงก่อนจะรายงานออกมา เนื่องจากพันธมิตรแดนเทพกำลังให้ความสนใจกับเซี่ยเทียน ดังนั้นั้แ่ที่รายการจัดอันดับเลเวลประกาศออกมาพันธมิตรแดนเทพจึงได้ค้นหาชื่อของเซี่ยเทียนเป็อย่างแรก หลังจากนั้นพวกเขาจึงพบว่าเลเวลของคนๆนั้นอยู่อันดับที่ 178 ของรายการจัดอันดับเลเวล
แต่หลังจากผ่านไปเพียงไม่นานเมื่อแดนเทพอิ่งเปิดดูรายการจัดอันดับเลเวลอีกครั้งเขาก็พบว่าชื่อของเซี่ยเทียนได้ขึ้นมาอยู่ลำดับที่ 7 แล้ว เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
คนที่สามารถเข้ามาอยู่ในรายชื่อร้อยคนแรกได้จะต้องเป็คนที่มีพลังอันแข็งแกร่งและมีคุณสมบัติบ้าเก็บเลเวลด้วย ไม่มีทางที่ใครจะขยับขึ้นมาภายในระยะเวลาอันสั้นขนาดนี้ได้ ในเกมนี้ไม่มีใครหยุดพักเลยแม้แต่คนเดียว แต่ชายที่มีชื่อว่าเซี่ยเทียน ผู้ที่สามารถผ่านการทดสอบระดับนรกด้วยตัวคนเดียวก็ได้ก้าวผ่านผู้แข็งแกร่งไปทีละคนๆจนได้ไปยืนอยู่ในจุดที่สูงขึ้นราวกับมีเทพคอยช่วยเหลือ
เป็ไปได้อย่างไร........ เขาใช้วิธีการอะไรกันแน่........
“ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 3 แล้วงั้นเหรอ?” กริชสีเงินในมือของจ้างเสินวาดออกไปเป็เส้นสีเงิน พลังชีวิตของกิ้งก่าขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าก็ว่างเปล่าก่อนจะล้มลงบนพื้น เขาหันกลับมาขมวดคิ้วเป็ปมแน่น แล้วจึงเปิดดูรายการจัดอันดับเลเวล อันดับเลเวลของเซี่ยเทียนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนมาอยู่ในอันดับที่คาดไม่ถึงราวกับปาฏิหาริย์จนเขาไม่สนใจไม่ได้
สายตาของเขากวาดมองหน้าต่างรายการจัดอันดับเลเวลครั้งหนึ่งคิ้วของจ้างเสินที่ขมวดมุ่นก็คลายออกทันที สายตาของเขาจ้องมองไปยังตำแหน่งบนสุดที่ไม่มีการเคลื่อนไหว
การตอบสนองของจ้างเสินทำให้แดนเทพอิ่งแปลกใจจนเขาต้องเอ่ยถามขึ้นมา “นายน้อยครับ มีอะไรเหรอครับ ไม่ใช่ว่า....”
“นายเปิดดูอันดับเลเวลเอาเองแล้วกัน” จ้างเสินพูดออกมาโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ หลังจากนั้นจึงหันหลังกลับไปอย่างช้าๆก่อนจะขมวดคิ้วแน่นแล้วมองตรงไปด้านหน้า “เซี่ยเทียน......” เขาพึมพำชื่อนี้ออกมา เขาคือคนที่ทำให้จ้างเสินไม่สนใจไม่ได้แล้ว
แดนเทพอิ่งเปิดดูอันดับเลเวลตามคำบอกของนายน้อย สายตาของเขากวาดมองจากด้านล่างไปยัง้า ขึ้นไปอีก...... ขึ้นไปอีก........
“ท......ที่หนึ่ง!?” เมื่อมองชื่อที่อยู่อันดับที่ 1 อย่างชัดเจนดวงตาของแดนเทพอิ่งก็เบิกกว้างขึ้น ก่อนจะะโออกมาด้วยความตกตะลึงโดยอัตโนมัติ
รายการจัดอันดับเลเวล : อันดับที่ 1 เซี่ยเทียน เลเวล : 11 อาชีพ : ไม่มี!
“เป็ไปไม่ได้........ จะเป็ไปได้ยังไง........ เมื่อกี้เขาเพิ่งจะอยู่อันดับที่สามเอง!” แดนเทพอิ่งพูดตะกุกตะกัก เขาใจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอยู่พักใหญ่ และก็เป็อีกครั้งที่เขาไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ก่อนหน้านี้หนึ่งนาทียังเป็อันดับที่ 3 อยู่เลย เพียงพริบตาเดียวก็ก้าวข้ามอันดับที่ 1 กับ 2 ไปจนสามารถชื่อแรกในรายการจัดอันดับเลเวลได้....... มันไม่ใช่การเลื่อนอันดับจากอันดับที่สิบล้านสามมาถึงอันดับที่สิบล้านหนึ่งนะ และก็ไม่ใช่การเลื่อนอันดับจากอันดับที่ 103 มาอยู่ที่อันดับ 101 ด้วย...... แต่มันคือการเลื่อนจากที่ 3 มาเป็ที่ 1 มันไม่มีทางที่จะสำเร็จได้ภายในเวลาสั้นๆแบบนี้แน่!
“เขาน่าจะเพิ่งฆ่าบอสไปสักตัวในระยะเวลาสั้นๆนี้ ถึงได้รับค่าประสบการณ์มหาศาลแบบนั้น” จ้างเสินที่ยืนหันหลังให้เขาอยู่พูดขึ้นมาเบาๆ เขาเงยหน้าขึ้นช้าๆแล้วพูดออกมาเสียงต่ำ “ที่ฉันค่อนข้างสนใจก็คือทำไมเขาถึงไม่มีอาชีพ มันเป็เพราะเขาจงใจไม่ไปเปลี่ยนอาชีพ........ หรือมันเป็เพราะสาเหตุอื่น...... อิ่ง ให้คนในพันธมิตรของเราตามหาเบาะแสของเขามาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันอยากรู้จักคนๆนี้ให้มากที่สุด”
“ครับ.....”
ผู้นำแรคคูนน้อยสามดาวตัวหนึ่งถูกจัดการจนล้มลงภายใต้การโจมตีเพียง 12 ครั้งของเย่เทียนเซี่ย แล้วร่างกายใหญ่โตนั่นก็ล้มลงบนพื้นดินพร้อมกับส่งเสียงร้องต่ำออกมา
เย่เทียนเซี่ยถอนหายใจเบาๆ เขาไม่ได้รีบร้อนเดินไปเก็บไอเทมที่ตกอยู่บนพื้น แต่กลับใช้คำสั่งทางความคิดเรียกรายการจัดอันดับเลเวลออกมา หลังจากนั้นก็มองไปยังชื่อของตัวเองที่ถูกจัดไว้ในอันดับที่หนึ่งของรายการจัดอันดับเลเวลอย่างพึงพอใจ
ผู้เล่นธรรมดาพยายามแทบตายยังยากที่จะมีตัวตนในรายชื่อนั่น แต่สำหรับเขาแล้วมันกลับง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ค่าประสบการณ์ที่มาจากบอสสามดาวเลเวล 15 ตัวหนึ่งทำให้เขาก้าวข้ามไปอยู่อันดับที่หนึ่งของรายชื่อได้ท่ามกลางความใของผู้เล่นนับไม่ถ้วน
ผู้นำของแรคคูน (มันต่างจากจ่าฝูงแรคคูนไหมเนี่ย? ต่างไหม? ต่างรึเปล่า....... น่าจะต่างนะ ก็มีจ่าฝูงตัวนึง แล้วก็ผู้นำตัวนึงไง.... อืม ไม่มีอะไรต่างจริงๆด้วย แล้วทำไมตัวนึงสองดาวตัวนึงสามดาวล่ะ? ผมจะไปรู้ได้ไงเล่า! คำถามยุ่งยากแบบนี้ไม่ต้องมาถามผมเลยนะ) ดรอปของออกมาทั้งหมดเป็ไอเทมสองชิ้น ชิ้นหนึ่งเป็ไอเทมขาวเลเวล 15 ที่เขากะจะขายให้ร้านขายไอเทม ส่วนอีกชิ้นเป็เกราะขาระดับทองแดงอันหนึ่ง
เกราะขาทรหด : ไอเทมระดับทองแดงเลเวล 15
เงื่อนไขการใช้ : อาชีพที่เน้นการโจมตีระยะประชิดเลเวล 15, พลังป้องกัน +15, พละกำลัง +5, ความแข็งแกร่ง +5, นี่คือเกราะขาที่ดูแข็งแกร่งดี น่าจะมีความสามารถในการป้องกันที่ไม่เลว
“ติ๊ง! มีคนะโเรียกท่านจากโลกจริงค่ะ ้าจะออกจากเกมหรือไม่คะ?”
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นข้างหู เย่เทียนเซี่ยเก็บเกราะขาเกลับเข้าไปในกระเป๋าแล้วคำนวณเวลาว่าหลังจากนี้จะออกจากระบบตอนไหน
ภาพที่ปรากฏในสายตาของเย่เทียนเซี่ยเพิ่งจะแจ่มชัดเขาก็มองเห็นเงาร่างเพรียวบางร่างหนึ่ง หญิงสาวคนนั้นใส่เสื้อสีม่วงและกำลังก้มลงมามองเข้าที่นอนอยู่บนโซฟา รูปร่างของเธอสง่างามและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ และเสื้อสีม่วงนั้นก็ยังรัดแน่นกระชับหน้าอกของเธอให้ดูโดดเด่นจนแทบจะปิดบังหน้าอกอวบอิ่มของเธอเอาไว้ไม่อยู่จนทำให้คนมองกังวลว่าก้อนกลมๆสองลูกที่อยู่ตรงหน้านี้จะแตกออกมาหรือเปล่า มืออ่อนนุ่ม ผิวอันนิ่วนวล แขนเรียวขาวเหมือนหิมะ เอวบางอ้อนแอ้น โดยเฉพาะสองขาที่งดงามไร้ที่ติของเธอ ทุกครั้งที่ปรายตาไปมองเขาก็จะรู้สึกว่ามันช่างเจริญหูเจริญตาจริงๆจนส่วนลึกในจิตใจของเขาอยากจะเอามือไปลองลูบไล้ััมันสักครั้ง ร่างกายอันอ่อนนุ่มของเธอกระเพื่อมไหวตามแรงหายใจของเธอ ร่ายกายแบบนี้แทบจะเรียกได้ว่าไร้ที่ติชวนให้สายตาของคนมองจินตนาการไปถึงไหนต่อไหน
เมื่อมองเห็นเย่เทียนเซี่ยลืมตาขึ้นมาซูเฟยเฟยที่แอบมองเขาอยู่เป็เวลานานก็เผยท่าทางสับสนเหมือนถูกจับได้ออกมา แต่เธอก็รีบปรับสีหน้าให้เป็ปกติอย่างรวดเร็ว เธอยืดตัวขึ้นแล้วเอาสองแขนกอดหน้าอกไว้ ก่อนจะลูบจมูกแล้วพูดออกมา “นี่ก็ค่ำแล้วนายเพิ่งจะออกมาแบบนี้ไม่กลัวจะหิวตายหรือไง”
เย่เทียนเซี่ยบิดี้เีแต่ไม่ได้ตอบอะไรออกไป เขาทำเพียงแค่เงยหน้ามองนาฬิกาดิจิตอลบนหนังถึงได้รู้ว่าตอนนี้เป็เวลาสองทุ่มแล้ว เขายืนขึ้นแล้วก็รู้สึกได้ว่าบริเวณรอบๆนั้นแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ค่อนข้างมาก
กลิ่นที่เขาเคยชินแทบจะหายไปจนหมด แม้ว่าจะยังคงหลงเหลืออยู่บ้างเพราะไม่สามารถกำจัดมันไปได้หมดในระยะเวลาอันสั้น แต่ส่วนมากก็ถูกกลบไว้ด้วยกลิ่นน้ำหอมบางเบา เย่เทียนเซี่ยกวาดสายตามองไปรอบๆ พื้นห้องที่เคยรกรุงรังก่อนหน้านี้หายไปไม่มีเหลือและยังมองไม่เห็นจุดดำๆที่เคยมีก่อนหน้านี้เลยแม้แต่จุดเดียว กระจกทุกบานที่สามารถมองเห็นได้เปลี่ยนเป็สะอาดวาววับเหมือคริสตัล ไม่เพียงแค่ตรงนี้แม้แต่โต๊ะตรงหน้าเขาที่เคยมีสิ่งของวางระเกะระกะไปหมดก็ถูกเก็บกวาดจนสะอาดเอี่ยม ทีวีที่เคยถูกปกคลุมไปด้วยชั้นฝุ่นหนาเตอะก็ถูกเช็ดทำความสะอาดไปทุกซอกทุกมุมจนสะอาดสะอ้าน
ในฐานะที่เป็เ้าของบ้านเขารู้ได้ทันทีว่าก่อนหน้านี้ห้องของเขามันรกแค่ไหน แต่ตอนนี้สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของเขามันเรียบร้อยจนทำให้เขาแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง มันสะอาดเรียบร้อยจนเหมือนกับหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว
