ความลับของคุกกลืนอสูรอยู่ใกล้แค่เอื้อม
แต่หลัวเลี่ยรู้ถึงขีดจำกัดพลังของตนเองดี อย่าคิดไปถึงระยะทางหลายสิบจั้งเลย ตามความคิดของเขาแล้ว ระดับความหนาวเย็นที่ผ่านมานั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาทนไม่ได้ แต่ระดับความเย็นที่สุดที่ถูกแช่แข็งเป็เวลาหลายปีข้างในนี้มีความเย็นที่มากกว่าปกติมาก และภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มันเป็ไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถฝ่าไปได้
อย่างที่สอง แม้ว่าจะสามารถฝ่าเข้าไปได้ แต่ข้างในนั้น ใครจะรู้ว่ายิ่งลึกจะยิ่งเย็นกว่าตอนนี้มากแค่ไหน ถ้าเขาเข้าไป แล้วเขาจะไม่ถูกแช่แข็งเป็ไอศกรีมหรือ
ความแข็งแกร่งของเขามีขีดจำกัดแค่สิบห้าจั้งเท่านั้น และจากการคาดการณ์แล้ว ตำแหน่งปัจจุบันของเขาน่าจะอยู่ที่จุดลึกประมาณครึ่งลี้ ในจุดนี้แค่ไม่แข็งตายเขาก็แปลกใจมากแล้ว
ดังนั้นหลัวเลี่ยจึงเป็กังวล
ทำอย่างไรดี?
ที่หอเซียวเหยาในเมืองหลวงมีคนหนุ่มสองคนกำลังดื่มกันอยู่
คนหนึ่งคือผู้ดูแลสาขาของหอเซียวเหยาประจำแคว้นเป่ยสุ่ย ชื่อของเขาคือฮวนเกา่ อายุยี่สิบเจ็ดปี การที่สามารถมีตำแหน่งสูงขนาดนี้ด้วยวัยเท่านี้ ไม่ได้เป็เพียงการแสดงออกถึงความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงภูมิหลังที่แข็งแกร่งด้วย
และอีกคนเป็บุตรชายของอ๋องชวนหลง...ชงจ้านหยวน!
“พี่ชง หมากของท่านครานี้วางได้แยบยลนัก” เกา่จิบสุราในมือและยกนิ้วให้ชงจ้านหยวน
ชงจ้านหยวนถอนหายใจ และกล่าวว่า “ถึงแผนการครั้งนี้จะมีความละเอียดรอบคอบมาก แต่ข้าก็ไม่คาดคิดเลยว่าไอ้สารเลวหลัวเลี่ยจะมีตราัเงินเซียวเหยาอยู่ในมือ สิ่งนี้เกือบทำให้แผนของข้าพังแล้ว โชคดีที่หลานฉายหลิงพูดว่า นางเห็นว่าสถานะของหลัวเลี่ยในหอเซียวเหยานั้นผิดปกติ ทำให้ข้าคิดได้ แล้วรีบมาหาพี่เกา่ก่อน มิฉะนั้นคงเกิดเื่ใหญ่แล้ว โชคดีที่ข้ามีท่านอยู่ จึงระงับเื่ตราัเงินเซียวเหยาไว้ได้ มิฉะนั้นแผนของข้าคงล้มเหลว และอาจย้อนกลับมาทำร้ายตัวข้าเองด้วย”
“แสดงว่าพระเ้าเข้าข้างท่านแล้ว” เกา่หัวเราะเสียงดัง
“ใช่ ใครจะคิดว่าพี่เกากับข้าจะเป็คนรู้จักกันมานาน และยังนับถือกันดั่งพี่น้อง” ชงจ้านหยวนกล่าว
เมื่อพูดถึงเื่นี้ ทั้งสองพบกันเมื่อสองปีที่แล้ว ในเวลานั้นชงจ้านหยวนมาพร้อมกับอาจารย์ที่ชงโหวหู่จัดให้เพื่อออกไปฝึกฝน แต่สุดท้ายเขาได้ช่วยชีวิตเกา่โดยบังเอิญ ั้แ่นั้นมาพวกเขาก็กลายเป็เพื่อนกัน
ทั้งสองคนชนแก้วและพูดคุยกัน หลังจากดื่มสุราไปสองถึงสามแก้ว ทั้งคู่ก็มีอาการเมามายเล็กน้อย
เกา่กล่าวว่า “จ้านหยวน ท่านเคยมีบุญคุณช่วยชีวิตข้าไว้ หนี้ชีวิตนี้ข้าต้องตอบแทน ครั้งนี้ข้าเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยท่านจากการระงับคำสั่งของตราัเงินเซียวเหยา ท่านควรรู้ว่าเื่นี้เกี่ยวกับชื่อเสียงและเกียรติยศของหอเซียวเหยา หากมีคนรู้เื่นี้ แม้ว่าข้าจะเป็ศิษย์ของผู้าุโในสาขาใหญ่ ข้าก็อาจถูกปะาได้ ฉะนั้นแผนการครั้งนี้ของท่านต้องไม่ให้เกิดการผิดพลาดอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสวี่ยปิงหนิงผู้นั้น”
“วางใจเถิด เสวี่ยปิงหนิงผู้นั้นไม่แน่ว่าจะตายไปแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ นางจะสามารถทำอะไรได้ ฮ่าๆ ต้องขอบคุณความลึกลับของหอเซียวเหยาของพวกเ้า ที่แม้แต่ตาเฒ่าในคณะผู้าุโยังไม่รู้จักตราัเงินเซียวเหยา แล้วเื่นี้จะแพร่ออกไปได้อย่างไร” ชงจ้านหยวนกล่าว
“แล้วหลิวหงเหยียนและหลัวเลี่ยเล่า” แม้ว่าเกา่จะดูเมาเล็กน้อย แต่เขาก็ระมัดระวังมาก
ชงจ้านหยวนพูดอย่างภาคภูมิใจ “หลิวหงเหยียนมั่นใจในตัวเองเกินไป แท้จริงแล้วแผนเดิมของข้าคือมุ่งเป้าไปที่นางเป็พิเศษ แต่เพราะหลัวเลี่ยนำตราัเงินเซียวเหยาออกมา ทำให้ข้าเปลี่ยนแผนการใหม่ หลังจากที่หลิวหงเหยียนรู้เื่นี้ นางคงคิดจะขอความช่วยเหลือจากหอเซียวเหยา แล้วเราจะใช้โอกาสนี้ตลบหลังนาง”
“สำหรับหลัวเลี่ยนั้น ฮ่าๆ พี่เกา ท่านคิดว่าหลัวเลี่ยจะสามารถพลิกชะตาได้หรือ? ตอนนี้เขาน่าจะถูกแช่แข็งไปแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาสามารถอยู่ได้นานที่สุดคือสามถึงห้าวัน ถึงเวลานั้นเขาจะอยู่ภายใต้การควบคุมของข้าอย่างสมบูรณ์ ถ้าข้าจะให้เขาตาย เขาก็ต้องตาย ถ้าข้าจะให้เขามีชีวิตอยู่ เขาก็ต้องอยู่รับใช้ข้า จากนั้นข้าก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากการมีชีวิตหรือความตายของเขา เพื่อจัดการกับคนเก่าๆ ที่ยังภักดีกับอ๋องหนานหลี่ในกองทัพ ด้วยวิธีนี้เราจะสามารถจัดการกับกองกำลังเดียวในมือของหลิวหงเหยียน ที่สามารถใช้ต่อกรกับตระกูลชงของข้าได้อย่างง่ายดาย และการบังคับให้นางสละราชสมบัติก็เป็เื่ง่ายแล้ว”
เกาชงส่ายหัว “ยุ่งยากเสียจริง จำเป็ต้องเสียเวลาขนาดนี้ด้วยหรือ?”
ชงจ้านหยวนตอบ “ไม่มีทางอื่นแล้ว แคว้นเป่ยสุ่ยอ่อนแอ และแคว้นรอบข้างต่างก็จับตามองอยู่ ไม่ว่าจะเป็หลิวหงเหยียนหรือพวกเรา ล้วนลงมือมากไม่ได้ หากก่อให้เกิดความขัดแย้งภายใน จะทำให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่นมากกว่า ดังนั้นพวกข้าจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้อยู่ในขอบเขตที่ปลอดภัย หากสังหารเสวี่ยปิงหนิงโดยตรง มีแต่จะทำให้หลิวหงเหยียนประกาศเปิดศึก นี่คือข้อเสียของความเป็แคว้นเล็กๆ”
“ช่างยุ่งยากโดยแท้” เกา่กล่าว “ไม่พูดถึงเื่นี้แล้ว หากท่านแน่ใจว่าจะไม่เปิดโปงความจริงที่ว่า ข้าปกปิดเื่ที่ตราัเงินเซียวเหยาถูกทำลายก็เพียงพอแล้ว มาดื่ม”
“ดื่ม!”
หลัวเลี่ยใช้ความคิดอย่างหนัก เขาใช้เวลาเกือบสองวัน และในที่สุดก็คิดวิธีแก้ปัญหาได้
เขาเดินกลับไปทางเดิม ก่อนตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีใครเปิดประตู เขาจึงใช้น้ำแข็งที่แตกแล้วอุดรูอีกครั้ง เนื่องจากมันเย็นเกินไป จึงใช้เวลาอันสั้นในการเกิดเป็น้ำแข็งอีกครั้ง และเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ทางเดินภายในนี้ก็ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก และถ้าใครไม่ดูให้ดี ก็อาจจะหาไม่เจอด้วยซ้ำ
ย้อนกลับไปที่เริ่มต้นทางเดินอีกครั้ง
เขาหยิบตราหยกเชื่อมิญญาออกมา และเข้าไปโลกภพจิตั
เกิดแสงวาบขึ้น
แล้วหลัวเลี่ยก็ปรากฏตัวอีกครั้งในโลกภพจิตัด้วยชื่อ ‘มีัอยู่ในเป้า’
ตอนนี้ในโลกภพจิตันั้น ‘มีัอยู่ในเป้า มีชื่อเสียงอย่างมาก หลายคนยังคงสืบหาที่มาของเขา และส่งคำเชิญไปให้เขา
ทันทีที่เขาปรากฏตัว เขาก็ได้รับความสนใจ
หลายคนคิดว่าเขากำลังจะไปที่สนามประลองัอีกครั้ง พวกเขาทั้งหมดจึงวางแผนที่จะไปที่นั่นเพื่อคว้าที่นั่ง
หลัวเลี่ยปฏิเสธคำเชิญของทุกคน และเดินเข้าไปในถนนที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในโลกภพจิตั
ทุกสิ่งในโลกภพจิตัอยู่ระหว่างความเป็จริงและโลกที่สร้างขึ้น หากไม่มองดีๆ ก็อาจจะคิดว่าที่นี่เป็อีกโลกหนึ่งจริงๆ บนถนนที่จอแจ มีร้านค้ามากมาย ทุกคนสามารถหาและซื้อทุกอย่างที่มีอยู่ในดินแดนเหยียนหวงได้ที่นี่
เขาเดินเข้าไปในร้านค้าบางแห่งเป็ครั้งคราว และซื้อของออกมาเล็กน้อย
สำหรับความเข้าใจของหลัวเลี่ยเกี่ยวกับโลกภพจิตันั้นนับว่าเป็ศูนย์ ดังนั้นในสายตาของคนอื่น เขาจึงกลายเป็คนที่กำลังทำความรู้จักกับโลกภพจิตั
อย่างที่ทุกคนทราบดี หลัวเลี่ยทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ
เช่นตอนนี้ที่ดูเหมือนว่าเขากำลังเดินเล่นไปรอบๆ แต่จริงๆ แล้วเขากำลังมองหาหอเซียวเหยาในภพจิตัอยู่
แม่ภพจิตัจะใหญ่มาก แต่ก็ไม่ใหญ่จนเกินไป
แม้จะใหญ่มาก แต่พื้นที่ที่เป็เมืองนั้นไม่ได้ใหญ่
เพราะในย่านที่เจริญไม่ใหญ่ ดังนั้นจึงไม่ง่ายเลยที่จะตั้งร้านค้าที่นี่
แม้แต่หอเซียวเหยาก็มีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น และไม่มีความสามารถที่จะสร้างสาขาเพิ่มเติมได้
หอเซียวเหยาแห่งนี้ก็เหมือนกับสาขาอื่นๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบโดยตรงของสำนักงานใหญ่ ท้ายที่สุดเขากำลังเผชิญหน้ากับผู้คนจากดินแดนเหยียนหวงทั้งหมด
หลังจากนั้นไม่นานหลัวเลี่ยก็มาถึงหอเซียวเหยา
เขาไม่ได้เข้าไป แต่กลับเดินวนไปรอบๆ ประตู เอามือไพล่หลัง หน้าบึ้ง มองดูความเจริญรุ่งเรืองอยู่ด้านหน้าหอเซียวเหยาด้วยความประหลาดใจ ท่าทางนั้นใครๆ ต่างมองออกว่ามีสิ่งผิดปกติ และจะไม่เป็เื่เลยหากเป็บุคคลธรรมดา แต่บุคคลนี้คือมีัอยู่ในเป้า ที่เมื่อเร็วๆ นี้กลายเป็อีกคนหนึ่งที่มีอิทธิพลในภพจิตั จึงเป็เื่ยากที่จะไม่ดึงดูดความสนใจ
การกระทำนี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนในหอเซียวเหยา
พวกเขาส่งผู้ดูแลสาขาที่มีสถานะสูงออกมา
ผู้ดูแลนี้แม้ว่าสถานะจะไม่สูงเป็พิเศษ แต่ผู้ดูแลที่นี่ถูกแบ่งระดับโดยใช้พลังวรยุทธ์เป็เกณฑ์ เช่นผู้ดูแลสาขาแคว้นเป่ยสุ่ยคือเกา่ ยังต้องมาต้อนรับผู้ดูแลของสาขานี้ เพราะหากนับแล้วพลังของเขาเป็เพียงระดับกลาง และระดับของผู้าุโสาขานี้นั้นสูงกว่า
“คุณชาย ไม่ทราบว่ามีเื่อะไรที่ข้าพอจะช่วยเหลือท่านได้บ้าง” ผู้ดูแลกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
หลัวเลี่ยโบกมืออย่างผู้มีอำนาจเหนือกว่า “เ้าทำไม่ได้ บอกให้ผู้าุโของเ้าออกมาต้อนรับข้า”
ใบหน้าของผู้ดูแลบิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงรอยยิ้มเอาไว้ได้ ที่มาของ ‘มีัอยู่ในเป้า’ นั้นลึกลับเกินไป ไม่อาจระบุถึงเื้ัของเขาได้ แม้แต่องค์หญิงสามแห่งเผ่าัเขายังสามารถเอาชนะได้ง่ายๆ “ผู้าุโของเราติดเื่สำคัญอยู่ ตอนนี้ไม่อาจออกมาพบได้”
หลัวเลี่ยตะคอก “เื่สำคัญ? ได้ ดูเหมือนว่าเื่ตลกที่ข้าจะนำมาแจ้งแก่พวกเ้าจะไม่สำคัญสินะ ถ้าเป็เช่นนั้น ก็ลืมมันซะเถอะ” เขาหันหลังกลับและจากไป ได้แต่พึมพำในใจ ให้ตายเถอะ ข้าอยู่ในคุกกลืนอสูรนานจนไม่มีใครสนใจเช่นนั้นหรือ ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นที่ภายนอกแน่ บางทีคนในหอเซียวเหยาที่สาขาเมืองหลวงอาจเป็คนของตระกูลชงไปแล้ว หากพวกนั้น้าทำร้ายข้าเล่า เช่นนั้นข้าจะยังไม่เผยอะไรออกไป จนกว่าผู้าุโจะออกมาเชิญข้าด้วยความจริงใจ อืม เช่นแสดงความจริงใจด้วยการให้ข้าเข้าไปด้านในของหอเซียวเหยาก็แล้วกัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้