ตอนที่ 2
Part: ดิส
สวัสดีครับ ผมชื่อดิส ดนุพัฒน์ ดิ เตชวิรุฬห์ อายุ 22 ปี สูง 190 ซม. น้ำหนัก 80 กก. คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้า ปี 4 มหาวิทยาลัย SS
หล่อ รวย เฟรนลี่ คารมดีและโสด ด้วยนิสัยและบุคลิกของผมที่มีความเฟรนลี่ค่อนข้างเลยทำให้น้อยคนนักที่จะรู้จักตัวตนจริง ๆ ของผม และเวลาที่ผมโกรธจะนิ่งและเงียบทันทีเพื่อเก็บความพรุ่งพล่านของอารมณ์ตัวเองเอาไว้
งานอดิเรกของผมก็กินเหล้า ทำอาหารบางครั้ง แล้วแต่อารมณ์ แข่งรถ เอาผู้หญิงแต่บางครั้งก็เอาผู้ชายเพราะผมเป็ไบ ตอนนี้ผมก็เป็เ้าของร้านอาหารชื่อดังใจกลางกรุงเทพ สาเหตุที่เปิดร้านอาหารก็เพราะมัมของผมชอบ
ตระกูล “ดิ เตชวิรุฬห์” มีทายาท 4 คน คือ ดาส เดรก ดิสและเดฟ และผมเป็ทายาทคนที่ 3 ของตระกูล
ตระกูล “ดิ เตชวิรุฬห์” ทำธุรกิจเกี่ยวกับพวกคาสิโนและมีส่งอาวุธบ้างบางครั้ง แต่อาวุธส่วนใหญ่รับมาจากเพื่อนแด๊ดอีกที ผมก็ไม่ได้สนใจเื่ค้าอาวุธเท่าไหร่เพราะมันคืองานอดิเรกของแด๊ดแต่บางครั้งผมก็ต้องไปส่งของแทน หากแด๊ดไม่ว่าง
แต่อาชีพหลักจริงๆของตระกูลคือ ฆ่าคน ตระกูลของเราเป็ตระกูลนักฆ่า
ตระกูลนักฆ่าของผมสืบเชื่อสายมาจากฝั่งแด๊ดเพราะแด๊ดดี๊ผมเป็คนอังกฤษ นามสกุลคือ ดิ เมลเลอร์ ส่วนมัมของผมก็เป็คนไทยธรรมดาสามัญชนแต่ฐานะทางบ้านก็ถือว่ารวยแบบไม่ธรรมดา
ั้แ่บรรพบุรุษมาแล้วครับที่ครอบครัวแด๊ดทำอาชีพนี้และยังคงสืบต่อมาถึงรุ่นผม เป็นักฆ่าก็จริงแต่ไม่ใช่การรับจ้างฆ่าแบบทั่ว ๆ ไปจะฆ่าใครก็ฆ่าไม่ใช่นะครับ
ถ้าใครอยากจ้างคนในตระกูลของผมไปฆ่าใครสักคน อย่างแรกคือเงินต้องมากพอ และทุกอย่างต้องเป็ความลับ หากใครแพร่งพรายก็จะถูกเก็บทันที โดยไม่ฟังเหตุผลใดๆทั้งสิ้น เพราะหากข้อมูลรั่วไหลมันจะเป็อันตรายต่อพวกเราทั้งตระกูล งานส่วนใหญ่ที่ได้รับมอบหมายไม่เคยมีคำว่าพลาด โดยเฉพาะงานที่ผมเป็คนลงมือเอง ถึงผมจะยังอายุไม่เยอะแต่ประสบการณ์การผ่านชีวิตมาถึงวันนี้ทุกอย่างหล่อหลอมให้ผมแข็งแกร่งได้อย่างตอนนี้ ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณแด๊ดที่คอยสอนทุกๆ อย่าง จนผมได้เป็มือซุ่มยิงที่แม่นที่สุดของตระกูล ดิ เมลเลอร์ จนเป็ที่ร่ำลือกันในชื่อ The die เพราะในวงการนี้ไม่มีใครใช้ชื่อจริงกันหรอกครับ จริงอยู่ที่เราเป็นักฆ่า มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ถูกล่า เพราะไม่ใช่แค่เราที่จะฆ่าคนอื่นแต่คนอื่นก็จะฆ่าเราเช่นกัน
ครอบครัวเรามัมกับแด๊ดจะให้ลูกมีอิสระเต็มที่ในการเลือกเรียนเลือกใช้ชีวิต เหมือนกับที่ผมเลือกเรียนวิศวะ และผมเป็ไบ ทุกคนในครอบครัวยอมรับได้ แต่แด๊ดของผมขอเพียงแค่เราต้องรู้ว่าเราคือใคร เราต้องทำอะไรเพื่อตระกูล เพราะหากแด๊ดวางมือเมื่อไหร่พวกเราต้องช่วยกันดูแลทุกอย่างแทนแด๊ด
ผมมีเพื่อนสนิทแค่สองคนเท่านั้นคือก๊าซกับจอม ทุกคนคงสงสัยใช่ไหมละครับ ทั้ง ๆที่ผมเป็คนเฟรนลี่และคารมดีแล้วทำไมถึงมีเพื่อนน้อย คงต้องบอกว่าเป็เพราะอาชีพหลักของผมละมั้งเลยทำให้ไม่สามารถคบใครได้ ยกตัวอย่างเช่นผมมีเพื่อนเพิ่มเข้ามาอีกคนนึงแล้วเพื่อนคนนั้นบังเอิญมารู้ความลับของตระกูลเข้าผมก็จำเป็ที่จะต้องกำจัดเพื่อนคนนั้นให้หายไปเพื่อความปลอดภัยของตระกูล
ส่วนไอ้ก๊าซกับไอ้จอมนี่ก็เป็ลูกชายของอาผมพูดง่ายๆก็คือลูกพี่ลูกน้องนั่นแหละครับ เลยไม่มีปัญหาอะไร พวกเราถูกเลี้ยงมาด้วยกันั้แ่เด็ก และพวกเราก็ไปเรียนไฮสคูลด้วยกันที่อังกฤษ พวกเราทั้งสามคนเพิ่งจะกลับมาอยู่ที่ไทยตอนเรียนปีหนึ่ง ไอ้ก๊าซกับไอ้จอมมันเป็ทั้งเพื่อนและพี่น้องที่รู้ใจผมมาก บางครั้งยังรู้ใจผมมากกว่าพี่น้องแท้ๆของผมซะอีก และบางครั้งพวกมันยังช่วยงานผม จะว่าไปพวกมันสองคนก็ถือว่าเป็คนแม่นปืนทั้งสองคนเลยนะ
ที่ผมเล่าประวัติตัวเองได้ขนาดนี้ไม่ใช่ผมว่างหรอกครับ แต่ตอนนี้ผมกำลังขับลูกรัก Lamborghini Veneno Roadster ของผมไปทะเลที่สุราษฎร์ธานี สาเหตุคือไอ้ัน้องบ้ามันจัดรับน้องนอกสถานที่ที่นั่น และยังสั่งอีกน่ะว่าผมต้องไปให้ได้ พอผมบอกว่าไม่ว่างมันก็อ้างเหตุผลที่น่าฟังขึ้นมาทันที
“พี่จะไม่มาจริงๆ เหรอ ขนมหวานเพียบเลยนะพี่”
ก็เราสองคนรู้จักกันมานาน แถมมันยังเป็น้องรหัสผมอีก นอกจากไอ้ก๊าซกับไอ้จอมก็มีไอ้ักับไอ้ไนท์นี่แหละที่ผมสนิทด้วยที่สุด มันเลยพูดเกลี้ยกล่อมผมทันที
และประโยคนั้นนั่นแหละที่ทำให้ผมต้องนั่งอยู่ในลูกรักตอนนี้ เห้อออออออออ! เบื่อชิปหาย
ส่วนไอ้ก๊าซกับไอ้จอมก็ขับตามหลังผมมาคนละคัน และคันสุดท้ายที่ตามมาก็เป็ลูกน้องคนสนิทของผม
และพวกผมก็มาถึงที่พัก เดินไปแจ้งชื่อที่ลอบบี้ได้เลยเพราะไอ้ัจัดการเื่ห้องไว้ให้พวกผมเรียบร้อยแล้ว และเป็ที่น่าพอใจอย่างมากไอ้ัน้องรักมันจัดห้องให้พวกผมเป็พลูวิลล่าทั้งหมดเลย ดูจากเลขห้องแล้วก็ไม่ได้อยู่ห่างจากมันสักเท่าไหร่ พอได้คีย์การ์ดมาแบ่งให้พวกแม่งพวกเราก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน ผมปล่อยลูกน้องตามสบายแต่พวกมันก็คงคอยดูแลผมไม่ห่างมากเหมือนเดิม
นี่ก็เหลือเวลาอีกตั้งสองชั่วโมงถึงจะได้เวลาเริ่มกิจกรรมผมเลยนอนหลับพักผ่อนเอาแรงสักนิด
ผมตื่นมาก็ได้เวลาเข้าร่วมกิจกรรมกับน้อง ๆ พอดี ผมเดินไปรวมกับพวกเพื่อนที่อยู่ห้องข้างๆ ห้องจัดกิจกรรม ผมเห็นพวกมันก็ออกความเห็นกันอยู่ยังตกลงกันไม่ได้สักที
“ไง ทุกคน?” ผมทักทายยิ้มๆ ตามสไตล์คนเฟรนลี่
“ไอ้ดิสกูนึกว่ามึงจะไม่มาซะแล้ว สัสสส!” ไอ้แก้วสาวห้าวแห่งปี
“ก็มาแล้วนี่ไงว่ะ หรือพวกมึงมองไม่เห็นกูว่ะ?” ผมตอบพร้อมรอยยิ้มกวนๆ
“ไอ้ก๊าซไอ้จอมมึงก็ไม่บอกน่ะว่ามันมาด้วย ปล่อยให้กูคิดตั้งนาน” ไอ้ริชคนเก่งของรุ่น
“อ้าว ก็พวกมึงไม่ได้ถาม” เป็ไอ้ก๊าซครับที่สวนกลับไปทันควัน
“แล้วมีอะไรให้กูทำว่ะ?” ผมถามพวกแม่งออกไป
“เออๆ ชั่งมันๆ ไอ้ดิสมึงมาก็ดีแล้ว มึงเลยขึ้นไปพูดกับน้อง ๆ ปีหนึ่ง ให้ความรู้กับพวกน้อง ๆ มัน พูดเชี้ยไรก็ได้ที่มีประโยชน์หน่อยน่ะมึง” ไอ้ริช
“อ่าวแล้วทำไมต้องเป็กูว่ะ?” ผมถามพวกมันพร้อมทำมือชี้มาที่ตัวเอง
“มึงเป็ประธานรุ่นสัสส เผื่อมึงลืม” ไอ้แก้วด่าผมครับ
“เออว่ะ กูลืม” ผมตอบยิ้มกวนตีนใส่พวกมัน
“งั้นมึงก็คิดล่ะกันว่าจะพูดอะไร ร้องเพลงให้น้องมันฟังด้วยสัก 1 เพลง ซื้อเวลาให้ปีสามได้เตรียมตัว” ไอ้ริชพูดสั่งออกมา นอกจากฆ่าคนที่ถนัดก็คงจะเป็ร้องเพลงกับทำอาหารล่ะมั้งครับ
“เออๆ แค่นี้ใช่ไหมว่ะ เดี๋ยวกูจัดให้” ผมพูดพร้อมยิ้มทะเล้นส่งไปให้พวกแม่ง พวกมันก็ส่ายหัวเอือมกับนิสัยของผม
“อย่าเป็เล่นน่ะมึง อีก 5 นาทีจะได้เวลาแล้ว” ไอ้แก้วพูดย้ำอีกครั้ง
“เออๆ”
พอถึงเวลาที่ต้องเข้าห้องประชุมเชียร์ พวกเราปีสี่ก็เดินเข้าไปอย่างสง่าแต่ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความดุดันเก๊กขรึมใส่พวกน้อง ๆ ทุกคนดึงหน้าตึงอะครับ ฮ่าๆๆ ไม่เว้นแม้แต่ผม พวกน้อง ๆ ก็ทำความเคารพพวกเรา จากนั้นผมในนามตัวแทนรุ่นก็พูดให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยและการคบเพื่อนพี่น้อง สอนนิด ๆ หน่อย ๆ
พอพูดจบผมก็ลงจากเวที พวกปีสามก็ออกไปเตรียมตัวที่ด้านนอก ส่วนผมก็เดินไปยังด้านหลังของห้องประชุมที่ตอนนี้มีพวกเพื่อน ๆ เตรียมเครื่องดนตรีพร้อม ผมเดินมาถึงพวกมันก็เริ่มทันที ผมร้องเพลงโซซัดโซเซให้พวกน้อง ๆ ฟัง เนื่องจากผมคิดว่าเพลงนี้มีความหมายดีสำหรับคนที่เรียน วิศวะทุกคน
เมื่อผมร้องเพลงจบลง ผมก็บอกให้น้อง ๆ ออกไปรับเกียร์รุ่นที่ชายหาด น้อง ๆ ก็ทยอยออกกันไปเรื่อย ๆ แต่ก็มีอยู่กลุ่มนึงที่รอออกเป็กลุ่มสุดท้ายนั้นก็คือกลุ่มของเมียไอ้ั ผมก็หันไปยิ้มให้พวกมันทั้งกลุ่ม และในกลุ่มนั้นไม่น่าเชื่อว่าจะมีไอ้น้องไทม์อยู่ด้วย ผมก็มองมันอย่างทักทายมันก็พยักหน้านิด นิดเดียวจริง ๆ ครับทุกคน น้องมันแม่งไม่ชอบพูดนิ่งขรึมและเ็าพอ ๆ กับพี่ดาสพี่ชายผม ทุกคนไม่ต้องสงสัยน่ะครับว่าทำไมถึงรู้จักกัน ก็แด๊ดผมกับแด๊ดมันเป็เพื่อนซี้กัน แถมพี่ชายของมันผมก็รู้จักดีเพราะเราอายุเท่ากัน ผมมองไอ้น้องริวอย่างล้อเลียน ที่มันดันไปรักไอ้ัน้ำแข็งนั่น ก่อนจะมองไปยังคนสุดท้ายเห็นเพื่อน ๆเรียกมันว่าไอ้คิม คงจะชื่อคิมล่ะมั้งครับ หน้าตาน่ารัก หล่อสะอาดสะอ้านมาดคุณชายชัด ๆ หล่อน่ารัก ตัวขาว ปากชมพู แก้มขาวอมชมพูนิดๆ ตาตี่หน่อยๆ รวมๆแล้วโครตน่ารักสเป็กผมเลยครับ กูอยากได้ครับ ผมยิ้มหล่อให้น้องมันไปหนึ่งที ยิ้มที่ใคร ๆ เห็นแล้วต้องตกหลุมรักแน่นอน น้องมันก็ยิ้มตอบกลับมาอย่างเป็มิตร แล้วพวกน้อง ๆ มันก็เดินออกไป
ไอ้ก๊าซกับไอ้จอมมันมองผมอยู่นานแล้วครับ แล้วพวกมันก็เดินมาหาผมพร้อมอ้าปากแซวผมทันที
“จ้องตาเป็มันเลยน่ะมึง หึๆ” ไอ้ก๊าซพูดพร้อมหัวเราะในลำคอ
“อยากได้ล่ะสิ สเป็กมึงนี่หว่า” ไอ้จอมก็แซวตามมาอีก
“เบื่อพวกมึงจริงๆ รู้ทันกูตลอด เออกูอยากแดกน้อง” ผมตอบพวกมันไปอย่างเซ็งๆ
“แดกเล่นๆ หรือแดกถาวรว่ะ ดูจากสายตามึงแล้วกูไม่แน่ใจว่ะ?” ไอ้จอมถามผมทีเล่นทีจริง
“ไม่รู้ว่ะ ขอลองแดกดูก่อนล่ะกัน เดี๋ยวกูค่อยตอบพวกมึง” ผมตอบพวกมันยิ้มๆ
“แดกดี ๆ ละกันสัส เดี๋ยวติดใจโงหัวไม่ขึ้น” ไอ้ก๊าซ
“คนอย่างกูอะน่ะจะก้มหัวให้ใคร ไม่มีทาง!” ผมตอบอย่างมั่นอกมันใจ
“กูจะรอดูวันที่มึงกลืนน้ำลายตัวเองว่ะ ฮ่าๆๆๆ” ไอ้ก๊าซว่าพร้อมหัวเราะเยาะผม
“ให้ถึงวันนั้นก่อนค่อยมาหัวเราะกูละกัน” ผม
“เออๆ ไปๆ ไปนั่งแดกเหล้ากันดีกว่าว่ะ” ไอ้จอม
จากนั้นพวกเราสามคนก็เดินไปที่ริมชายหาดเห็นพวกไอ้เกมส์กับพวกน้องคิมนั่งอยู่แต่ไม่เห็นไอ้ักับเมียมันสงสัยคงจะไปจู๋จี๋กันสองคน
“ไปนั่งโต๊ะไอ้เกมส์ไปพวกมึง” ผมชวนพวกมันทันที
“แหม๋ ทันทีเลยน่ะมึง” ไอ้จอม
“เก็บหน้าเก็บตามึงหน่อยก็ดีสัส เดี๋ยวน้องมันกลัวแล้วจะอดแดก” ไอ้ก๊าซมันว่าผม เห้ยผมแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ
“หน้ากูแสดงออกชัดขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ?” ผมถามพวกมันพร้อมทำหน้างงใส่
“เออ! / เออ! แม่งยังกับราชสีห์จ้องตะครุบเหยื่อเลยมึง หน้าอย่างเหี้ยมแววตานี่โคตรเ้าเล่ห์สัส ” เออมาพร้อมกันเชียวพวกมันแถมไอ้จอมยังว่าผมอีก
“ถึงน้องมันจะไม่ให้แดก กูก็มีวิธีของกู” ผมพูดยกยิ้มร้ายพร้อมแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง
“หน้าตาชั่วร้าย สัส” ไอ้จอม
“น่ากลัวชิปหายสัส กูเริ่มสงสารน้องคนนั้นแล้วว่ะ” ไอ้ก๊าซพูดพร้อมทำหน้าแหย๋ๆ
“เออๆ ไปๆ” ผมพูดปันพร้อมเดินไปทางโต๊ะที่พวกน้อง ๆนั่งอยู่
พอมาถึงโต๊ะพวกน้อง ๆ ก็ขยับที่ให้พวกผมนั่งทันที พร้อมกับชงเหล้ามาเสิร์ฟ ผมก็รับมาดื่ม พวกน้อง ๆ กลุ่มของเมียไอ้ัมันก็แนะนำตัวให้พวกผมรู้จัก แต่จริงๆ ทั้งกลุ่มผมสนใจอยู่คนเดียว แถมมันยังนิสัยเหมือนผมอีกเฟรนลี่สัส ๆ ยิ้มง่าย หัวเราะร่าเริงตลอด แถมพูดมากด้วย ดูแล้วเพลินดีเพราะมันดูมีเสน่ห์ในตัวของมันเอง
“ไอ้ัหายหัวไปไหนว่ะไอ้เกมส์?” ผม
“ผมเห็นมันเดินทำเอ็มวีอยู่ริมทะเลนู้น” ไอ้เกมส์ตอบ ผมก็พยักหน้ารับ
“ทำเหมือนตัวเองเป็พระเอก ผมหล่อกว่าตั้งเยอะ” ไอ้นิค
“ถ้ามึงหล่อ อย่างกูนี่โคตรหล่ออ่ะ” ไอ้บอส
“ไอ้ริวเพิ่งตามพี่ัไปเมื่อกี้เองครับ” ไอ้น้องเรียลกิ
“ไอ้ริวมันโง่วะพี่ พี่ัให้เกียร์มามันยังไม่รู้เื่เลยครับ ผม ไอ้แดนและไอ้ไทม์ต้องด่าถึงจะรู้เื่เลยเพิ่งตามไปอย่างที่ไอ้เรียลว่า” ไอ้ซันแอบนินทาเพื่อนมันครับ
“เออโง่จริง เป็กูน่ะรีบวิ่งไปกอดเลยมึง จูบไปอีกสักสองที” ไอ้น้องคิมพูอย่างเห็นด้วยกับที่ไอ้น้องซันพูด
“ขนาดนั้นเลย ให้เกียร์แล้ว?” ผมใช้คำถามแรกที่ดูกำกวมเพราะจริงๆ ผมตั้งใจจะถามไอ้น้องคิมนั่นแหละครับ เว้นช่องว่างคำพูดนิดนึงแล้วถามต่อถึงเื่เกียร์ ทุกคนเลยเข้าใจว่าผมพูดถึงเื่ั ยกเว้นไอ่เพื่อนตัวดีข้างๆผม
“ครับ พี่ัแม่งโคตรหลงอะพี่” ไอ้เรียลกิ
“สงสัยไอ้ัมันเจอตัวจริงแล้วว่ะ” ไอ้ก๊าซ
“คงงั้น” ผม
“แน่นอนอยู่แล้วพี่นั่นเพื่อนผมนะ ถ้าไม่จริงจังนะ หึ” ไอ้น้องคิมพูดพร้อมทำหน้าจริงจัง พอน้องมันทำหน้าแบบนี้ยิ่งดูน่ารักเข้าไปอีก โคตรน่าฟัดว่ะ
“น้ำแข็งละลายว่ะ” ไอ้จอม
“ไหนว่ะพี่ ผมเห็นยังเต็มแก้วอยู่เลย” ไอ้เรียลกิ พูดอย่างงงไอ้นี่ก็ไม่ทันมุกของไอ้จอมเอาซะเลย
“ไม่ใช่น้ำแข็งในแก้ว พี่จอมมันหมายถึง น้ำแข็งที่หัวใจไอ้ัต่างหากล่ะ” ไอ้บอสตอบ
“อ๋อออออ เป็มุกนี่เอง แหะๆ โทษน่ะพี่ผมตามไม่ทัน” ไอ้เรียลกิพูดอย่างขำๆ
“หึๆ” ไอ้จอมหัวเราะในลำคอ
“กูว่ามันจะสวีทกันนานไปล่ะสัส เราไปแอบดูมันดีกว่าว่ะ” ไอ้นิคพูดเสนอขึ้นมา
“ไป ๆ พี่ ไป” ไอ้คิมตอบอย่างกระตือรือร้นที่จะได้ไปเสือก
“กูไปด้วยพี่ กูอยากดูฉากเลิฟซีนว่ะ” ไอ้เรียลกิ
“เออๆ ไปกัน ๆ” ไอ้บอส
“พวกพี่ไปป่ะ?” ไอ้นิคยังหันมาชวนไปเสือกด้วยอีก
“ไปเหอะพวกกูรออยู่นี่แหละ บอกพวกมันด้วยรีบๆมา” ผม
จากนั้นพวกมันก็ลุกออกไปที่ริมทะเลกันทันที เหลือแค่ผม ไอ้ก๊าซ ไอ้จอม ไอ้ซัน ไอ้แดนและไอ้อาร์ตครับ ส่วนไอ้ไนท์กับไอ้ไทม์โดนลากไปครับทั้ง ๆ ที่เ้าตัวทำหน้าเอือมกับนิสัยเด็ก ๆ ของพวกเพื่อน ๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้