จวนเหนียน
มีโคมไฟประดับทั่วทุกหนทุกแห่งในจวน ในยามเช้า สาวใช้และคนใช้มากมายที่จวนองค์หญิงใหญ่ชิงเหอส่งมา ยุ่งวุ่นวายกันั้แ่เช้า
ภายในเรือนหรูอี้ จ้าวอิ้งเสวี่ยเองก็ตื่นเช้าเช่นกัน
วันนี้นางยังคงสวมชุดขาวทั้งตัว ชุดผ้าไหมสีขาว สวมทับด้วยชุดคลุมกันหนาวสีขาวและสวมผ้าคลุมหน้าสีขาวั้แ่ศีรษะลงมา ปกปิดใบหน้าที่ถูกทำลาย จ้าวอิ้งเสวี่ยนั่งอยู่ด้านหน้ากระจกทองเหลือง มองทะลุผ่านผ้าผืนบางอย่างแน่วแน่ ดวงตาราวกับจะตาย ทว่ากลับมีความสั่นไหวลังเล
“ท่านหญิง วันนี้พวกเราไม่ต้องไปเถิด”
ผิงเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง เฝ้ามองจ้าวอิ้งเสวี่ยที่เตรียมตัวเสร็จแล้ว เมื่อคืนนี้ท่าทีเ็ปอย่างบ้าคลั่งของจ้าวอิ้งเสวี่ยยังคงติดอยู่ในหัวนาง วันนี้เป็วันเกิดของคุณหนูรองจะต้องมีคนมากมายมาที่นั่นอย่างแน่นอน หากท่านหญิงอิ้งเสวี่ยปรากฏตัวออกไปเช่นนี้ คงหนีไม่พ้นต้องตกเป็เป้าสายตาแปลกๆ ของคนเ่าั้อย่างเลี่ยงไม่ได้ นางรับเื่เลวร้ายมามากเกินไปแล้ว หากคำพูดหยาบคายพวกนั้นเข้ามาอีก...
“ไม่ไปได้อย่างไร?” จ้าวอิ้งเสวี่ยเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้ง ทำให้ผู้คนที่ได้ยินรู้สึกหวาดกลัว
ครั้นถ้อยคำนั้นหลุดออกไป จ้าวอิ้งเสวี่ยไม่สนใจผิงเอ๋อร์อีก นางลุกยืนขึ้นและค่อยๆ เดินออกไปนอกเรือนหรูอี้ ภายใต้ผ้าคลุมผืนนั้น ความหนาวเหน็บสะท้อนออกมาจากดวงตาคู่นั้น ทำให้ผู้คนสั่นไหวอย่างหวั่นกลัว
ครั้นเอ่ยจบ ผิงเอ๋อร์อึ้งไปครู่หนึ่ง ครั้นรู้สึกตัว นางไม่กล้ารอช้าแม้แต่น้อย รีบวิ่งตามจ้าวอิ้งเสวี่ยออกไปทันที
จ้าวอิ้งเสวี่ยเดินออกจากเรือนหรูอี้ เหนียนเฉิงที่อาศัยอยู่เรือนข้างๆ มีสาวใช้คอยประคอง เดินกะโผลกกะเผลกออกไปเช่นกัน ทั้งตัวสวมใส่ชุดคลุมผ้าไหม ดูอารมณ์ดีเหลือล้น ครั้นเห็นจ้าวอิ้งเสวี่ย ทั้งตัวพลันชะงักงันไปครู่หนึ่ง ความหวาดกลัวผาดผุดในดวงตาโดยที่แทบไม่รู้ตัว ทว่าเพียงพริบตา ในใจของเหนียนเฉิงก็กลับมารู้สึกลำพองใจอีกครั้ง
เมื่อคิดถึงความเ็ปของจ้าวอิ้งเสวี่ยทุกวันนี้ ในใจของเหนียนเฉิงก็ยิ่งรู้สึกมีความสุขอย่างที่สุด และวันนี้...
อา!
เหนียนเฉิงยิ้มเยาะในใจ ทว่ายังคงรักษาสีหน้าไว้ ไม่ลืมสิ่งที่ท่านแม่กับอีหลานมอบหมาย เพียงครู่ต่อมา สายตาที่มองจ้าวอิ้งเสวี่ยพลันแปรเปลี่ยนเป็ความหวาดกลัวและรังเกียจราวกับเห็นสัตว์ร้ายก็ไม่ปาน เขาหันหลังหนีไป และก้าวเดินออกไปด้านนอกอย่างเร่งรีบ
จ้าวอิ้งเสวี่ยจ้องมองแผ่นหลังนั้น หลายวันมานี้ ััของชายผู้นั้นยิ่งปรากฏชัดเจนในความคิดของนาง ในใจนางรู้สึกรังเกียจเคียดแค้น อาการคลื่นไส้ที่มาพร้อมกับความโหดร้ายนั้นขย้อนขึ้นมาจนนางทนไม่ไหว และอาเจียนออกมา...
“ท่านหญิง...”
ผิงเอ๋อร์มองดูอาการของจ้าวอิ้งเสวี่ย เมื่อคืนนางเองก็เป็เช่นนี้ แท้จริงท่านหญิงของนางเป็อะไรกันแน่?
จ้าวอิ้งเสวี่ยอาเจียนออกมาครู่ใหญ่ นางยังคงอาเจียนแบบไม่มีอะไรออกมา ทว่ามันเป็เพียงปฏิกิริยาตอบสนองของจิตใจต่อความทรงจำอันน่ารังเกียจเ่าั้ ครั้นสงบลงเล็กน้อยแล้ว จ้าวอิ้งเสวี่ยจึงเริ่มก้าวเดินใหม่ ไปยังโถงรับรองแขกด้านหน้า
แต่เมื่อผิงเอ๋อร์เห็นหน้าตาและอาการของจ้าวอิ้งเสวี่ยแล้ว มิรู้เพราะเหตุใด ในใจนางกลับรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
ณ โถงรับรองแขกจวนเหนียน บรรดาแเื่มากมายมาถึงแล้ว
ในหอชิงยวี่ เหนียนยวี่ยังคงนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง กระจกทองเหลืองสะท้อนใบหน้าของสตรีผู้หนึ่ง คิ้วสีนิล ดวงตาราวดวงดาวสุกสกาว ผิวกายขาวนวลเนียน ปกตินางมักจะดูงดงามตลอดเวลา วันนี้ภายใต้การแต่งกายอย่างหรูหรา จึงยิ่งดูต่างไปจากปกติอย่างคาดไม่ถึง ความสง่างามและเสน่ห์ที่ดึงดูดอย่างเป็เอกลักษณ์ ทำให้บุรุษที่เพิ่งเดินผ่านประตูเข้ามาพลันตกตะลึงเล็กน้อย เมื่อมองเห็นนางจากด้านหลังและเงาสะท้อนจากกระจก
“ชิวตี๋หรือ?”
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเบาบาง เหนียนยวี่จึงเอ่ยเรียก ทว่าครั้นเอ่ยจบ กลิ่นกล้วยไม้อ่อนๆ ในอากาศพลันลอยแตะมาที่ปลายจมูก เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว กลิ่นนี้...
นางรู้จักกลิ่นดี!
ชาติก่อน นางชอบกลิ่นนี้มาก แต่ชาตินี้นางเกลียดกลิ่นนี้อย่างที่สุด!
“ท่านอ๋องหลี…” เหนียนยวี่ลุกขึ้นและหันกลับไปมองของผู้ที่เดินเข้ามา เป็จ้าวเยี่ยนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เขามาทำอะไรที่นี่ในเวลานี้?
“เ้าแต่งกายเช่นนี้ช่างดูงดงามยิ่งนัก” รอยยิ้มแย้มบานบนใบหน้าของจ้าวเยี่ยน ใบหน้าหล่อเหลาอ่อนโยนไร้พิษภัย ดวงตาคู่นั้นจ้องมองเหนียนยวี่อย่างไม่ละสายตาและไม่เขินอายแม้แต่น้อย เหนียนยวี่ไม่ได้เจอนางมานานแล้ว สตรีผู้นี้ยิ่งยากจะละสายตามากขึ้นเรื่อยๆ
งดงาม?
จ้าวเยี่ยนไม่ตระหนี่ที่จะเอ่ยชื่นชม ทว่าเหนียนยวี่กลับไม่พอใจคำชมเช่นนี้
“ที่นี่ดูเหมือนจะไม่ใช่สถานที่ที่ท่านอ๋องหลีควรมา แขกควรอยู่ที่โถงรับรอง แน่นอนว่าประเดี๋ยวคงมีคนมาเรียกท่านอ๋อง ขออภัยที่เหนียนยวี่ไม่ได้ไปด้วย” เหนียนยวี่กล่าวอย่างแ่เบา ั้แ่ไหนแต่ไร นางไม่เคยแสดงสีหน้าดีๆ ให้กับชายผู้นี้ ความไม่สบายใจวนเวียนอยู่ในหัวใจของนางั้แ่เมื่อวาน ทำให้นางยิ่งไม่มีความคิดอยากจะรับมือกับชายคนนี้
แต่ดูเหมือนว่า จ้าวเยี่ยนจะคุ้นเคยกับความเ็าและการตีตัวออกหากของเหนียนยวี่แล้ว วันนี้เขาอารมณ์ดี จึงก้าวเท้ายาวไปข้างหน้าและหยิบจี้หยกสีม่วงใต้เสื้อคลุมออกมา เขาในยามนี้ไม่คิดปิดบังความรู้สึกของตนเองที่มีต่อเหนียนยวี่อีกต่อไป “วันนี้เป็วันเกิดของเ้า นี่คือจี้หยกที่ข้าขัดขึ้นเอง ข้าทำมันขึ้นมาเป็พิเศษเพื่อเป็ของขวัญวันเกิดให้เ้า ลองดูสิ เ้าชอบหรือไม่?”
ั์ตาคู่นั้นฉายแววอ่อนโยนและความรู้สึกลึกซึ้งของเขา น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาราวกับกำลังกระซิบบอกคนรัก
เหนียนยวี่มองจี้หยกพลางมองชายตรงหน้า ของขวัญวันเกิดงั้นหรือ?
หึ ท่านอ๋องหลีผู้นี้ ช่างทุ่มเทเสียจริง!
เหนียนยวี่สบตาจ้าวเยี่ยน มิรู้เพราะเหตุใด ประกายไฟั์ตาของจ้าวเยี่ยนในวันนี้ ถึงดูแตกต่างไปจากวันวาน
ราวกับว่ามีแผนการบางอย่างอยู่ในใจเขา แม้แต่การกระทำเสแสร้งตามปกติ ยังมีร่องรอยความผ่อนคลาย
นี่นางเห็นภาพลวงตาหรือ?
“หยกสีม่วงเป็ประโยชน์กับผู้คน หากวางไว้ที่หน้าอกจะช่วยปกป้องหัวใจ เปิ่นหวางจะสวมให้เ้า” ขณะที่จ้าวเยี่ยนเอ่ย ร่างสูงก้าวเดินเข้าไปใกล้เหนียนยวี่มากขึ้นเรื่อยๆ สายตาที่มองเหนียนยวี่เป็ประกายระยิบระยับ
ยามที่บุรุษผู้นั้นก้าวเข้ามาใกล้ เหนียนยวี่กลับก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวทันที
มือของจ้าวเยี่ยนที่ถือจี้หยกพลันแข็งค้าง ปฏิกิริยานั้นอยู่ในสายตาของเหนียนยวี่ มุมปากนางพลันแย้มยิ้มเสี้ยวหนึ่ง พริบตาต่อมา นางยกมือขึ้นคว้าจี้หยกในมือของจ้าวเยี่ยนอย่างรวดเร็ว
ในขณะนี้ จี้หยกตกมาอยู่ในมือของเหนียนยวี่แล้ว จ้าวเยี่ยนขมวดคิ้ว ทว่ากลับทำเพียงจ้องมองเหนียนยวี่ถูจี้หยกในมือ มองสำรวจอย่างละเอียด ั์ตานางเป็ประกาย เต็มไปด้วยความชื่นชอบอย่างเห็นได้ชัด
จ้าวเยี่ยนเลิกคิ้ว เป็อย่างที่คิด สตรีกับหยกงามย่อมไม่มีทางปฏิเสธ เหนียนยวี่เองก็ไม่มีข้อยกเว้น
“หยกชิ้นนี้…ดูเหมือนว่าจะมีค่ามาก เป็เื่ยากสำหรับท่านอ๋องหลีที่จะได้มันมานะเพคะ”
ดวงตาของเหนียนยวี่จดจ่อกับจี้หยกสีม่วงอย่างไม่ละสายตา หยกสีม่วงเดิมทีเป็ของหายาก นางจำได้ว่า ชาติก่อน ฉางไทเฮามีจี้หยกสีม่วงแกะสลักอยู่ชิ้นหนึ่ง นางหวงแหนมันมาก คิดดูแล้ว หยกชิ้นนั้นก็เป็หยกที่ขัดมันแล้วเช่นกัน
ชาตินี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเยี่ยนจะมอบสิ่งนี้ให้นางแทนอย่างนั้นหรือ?
หึ เขาทุ่มเทกับนางมากถึงเพียงนี้ จุดประสงค์ของเขา...
“ไม่ผิดนัก ในใต้หล้าแห่งนี้ จี้หยกชิ้นนี้มีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ดังนั้นจี้หยกชิ้นนี้จึงเป็ของที่ประเมินค่าไม่ได้” จ้าวเยี่ยนเลิกคิ้ว คำพูดของเขาเผยอารมณ์ภาคภูมิใจเล็กน้อย เขาชอบสะสมหยกงาม และ ‘หยกงาม’ ชิ้นนี้ตรงหน้า...
มองดูประกายสดใสในดวงตาของเหนียนยวี่ สะท้อนโครงหน้างามและเสน่ห์ดึงดูดที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ จ้าวเยี่ยนจึงมิอาจห้ามความรู้สึกตัวเองได้ “หยกชิ้นนี้เหมาะสมกับยวี่เอ๋อร์เป็อย่างยิ่ง”
เื่ราวที่แทบจะกลายเป็บทสนทนารัก ทำให้เหนียนยวี่รู้สึกใขึ้นมาเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้
ความทรงจำในชาติก่อน ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว...
ยวี่เอ๋อร์ สักวันหนึ่งข้าจะทำให้เ้ากลับมาใช้ชีวิตแบบอิสตรี และแต่งเ้าให้เป็ภรรยาข้า คอยเคียงข้างกันตลอดไป...
ยวี่เอ๋อร์ รอให้ข้าได้ขึ้นครองตำแหน่งนั้น ข้าจะให้เ้าเป็ผู้ปกครองวังหลัง จะมีแค่ข้ากับเ้าสองคนร่วมกันปกครองทั่วทั้งูเาเจียงชาน แคว้นเป่ยฉี
ยวี่เอ๋อร์ รอพวกเรามีลูกแล้ว...