เมื่อเซียวเฉินฟื้นแล้วก็นอนอยู่บนเตียง พันผ้าพันแผลไว้ทั้งตัว เห็นได้ชัดว่าร่างของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลจากการต่อสู้
เซียวเฉินแยกเขี้ยว
“ซี้ด...เจ็บจัง...”
ขยับนิดเดียวก็กระเทือนาแ เขาเจ็บจนสูดปากตลอด
เซียวเฉินหมดสติไปสามวัน ในที่สุดก็ฟื้น
“เ้ายังรู้จักเจ็บหรือ?” ด้านนอกมีเสียงโกรธเกรี้ยวดังขึ้น มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์เดินเข้ามา เมื่อเห็นเซียวเฉินได้สติแล้ว ดวงตาก็ฉายแววยินดี แต่ใบหน้ายังขุ่นเคือง
“รู้ชัดๆ ว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซือถูอู่ เหตุใดยังต้องอวดเก่ง? สมควรตายนัก” มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์นั่งอยู่ข้างเตียง ทุบเขาหนึ่งที เจ็บจนเซียวเฉินร้องโอ๊ย
เซียวเฉินค่อยๆ ระบายลมหายใจแล้วจึงเอ่ยว่า “หากเขาไม่มาล่วงเกินข้าก่อน ข้าก็คร้านจะสนใจเขา”
“ในเมื่อแตะต้องข้าก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน แม้ว่าข้าถูกเขาทุบตีจนปางตาย แต่เขาก็ถูกข้าตัดแขนไปข้างหนึ่ง ไม่สิ พวกเราถือว่าสู้เสมอกัน”
เซียวเฉินไม่ได้บอกว่าซือถูอู่วางแผนจัดการเขา ฉวยโอกาสหลังจากเขาผ่านมาสองศึกแล้วซุ่มโจมตีเขา
เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ ขอบตาของมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ก็แดงก่ำ
ดวงตาที่มองเซียวเฉินมีโทสะ
“สู้เสมอกัน เ้ารู้หรือไม่ว่าสู้เสมอของเ้าต้องนำสิ่งใดมาแลกเปลี่ยน เผาศักยภาพแฝงให้ลุกไหม้ เ้าบ้าหรือเปล่า? สู้ไม่ได้ทำไมไม่หนี รอจนมีความสามารถแล้วค่อยไปทวงคืนไม่ได้หรือ? ทำไมเ้าดื้อรั้นขนาดนี้เสมอเลย!”
เซียวเฉินอึ้งงัน มองมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์แบบใจสั่นสะท้าน
“เ้ารู้ได้อย่างไร?”
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์สูดจมูกแล้วเอ่ยเสียงขึ้นจมูก “อาจารย์บอกข้า”
เห็นมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์เป็ห่วงตนเอง หัวใจของเซียวเฉินรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ครั้งหนึ่งเขาเคยไม่มีสิ่งใดเลย มีเพียงท่านแม่ที่รักและทะนุถนอมเขา แต่ตอนนี้เขามีมิตรสหายและมีคนที่เป็ห่วงเขาแล้ว
“ลำบากเ้าแล้ว”
เนิ่นนาน เซียวเฉินจึงเอ่ยช้าๆ
เขารู้แล้วว่าตนเองออกจากกิจกรรมล่าสัตว์ก่อนกำหนด ส่วนมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ก็ออกจากกิจกรรมก่อนกำหนดเพราะตนเองเป็สาเหตุ เซียวเฉินรู้สึกผิดต่อมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์อยู่บ้าง
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ไม่ได้เอ่ยอะไร มองเซียวเฉินแวบหนึ่ง จากนั้นหันกายจากไป
“เ้าพักผ่อนดีๆ เถอะ...”
หลังเดินออกนอกห้อง มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ก็กระซิบว่า
“ตาทึ่ม...”
ภายในห้อง เซียวเฉินกำลังรักษาอาการาเ็ เขามีความสามารถในการรักษาอาการาเ็เหนือกว่าคนธรรมดาหลายเท่าเพราะคัมภีร์หงสาานิรวาณ
เปลวเพลิงรุนแรงห้อมล้อมเขาไว้ เผาไหม้ทุกสิ่งบนร่างของเขาจนสิ้น จากนั้น าแบนร่างก็หายดีด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเนื้อ
พริบตา เวลาก็ผ่านไปสามวัน
เซียวเฉินเปลี่ยนเป็คึกคักเปี่ยมพลัง อาการาเ็ทั้งหมดก็หายดีดังเดิม แต่เขารู้ว่าอาการาเ็ภายในยังไม่ฟื้นฟูโดยสมบูรณ์ ศึกนั้น เขาจ่ายค่าตอบแทนมากไป เกินกว่าที่เขาจะแบกรับไหว
หากไม่มีคัมภีร์หงสาานิรวาณคุ้มครองกาย เกรงว่าเวลานี้ตนเองคงเป็คนพิการไปแล้ว
ดวงตาของเซียวเฉินลึกล้ำ
“ซือถูอู่ ข้าต้องฆ่าเ้าให้ได้...”
ภายในที่พัก เซียวเฉินโคจรคัมภีร์หงสาานิรวาณชำระและหล่อเลี้ยงอาการาเ็ของตนเองรอบแล้วรอบเล่า แต่กลับมีผลน้อยนิด เื่นี้ทำให้เซียวเฉินมีสีหน้าหนักใจ
หากอาการาเ็ไม่หายดี จะสร้างความเสียหายที่เรียกคืนไม่ได้ต่ออนาคตของเขา
ตูม!
ภายในร่างกายของเซียวเฉินส่งเสียงทึบหนักๆ อย่างต่อเนื่อง เซียวเฉินหลั่งเหงื่อดุจสายฝน อดทนต่อความเ็ปในร่างกาย ฝึกวิชาอย่างต่อเนื่องดังเดิม หนึ่งชั่วยามต่อมา เหงื่อก็ชุ่มเต็มเสื้อ ทว่าเขายังคงดื้อรั้น
เสื้อเปียกแล้วแห้ง แห้งแล้วเปียกอีก จนกระทั่งสิบชั่วยามต่อมา อาทิตย์ใกล้อัสดง เซียวเฉินจึงหยุด
“ท่าทาง มีเพียงบรรลุนิรวาณขั้นสามจึงเป็ไปได้ว่าข้าจะฟื้นฟูโดยสมบูรณ์” เซียวเฉินถอนหายใจ แต่นิรวาณขั้นสามนั้นยากเย็นเพียงใด เหตุไฉนจะบรรลุได้ง่ายๆ!
แต่เขาไม่มีทางเลือก
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันนี้คือเวลาที่กิจกรรมล่าสัตว์สิ้นสุดลง เซียวเฉินบรรลุขั้นแปดชั้นฟ้าในเวลาหนึ่งเดือน ทว่าใน่นี้ เขาได้ยินข่าวเื่หนึ่ง
ทุกคนที่ติดตามซือถูอู่ไปทำร้ายเซียวเฉินในกิจกรรมล่าสัตว์ถูกทุบตีอย่างหนักหนึ่งยก ในบรรดานั้นรวมถึงเยี่ยเฉินซึ่งอยู่อันดับเจ็ดบนผังชางหวงด้วย
เซียวเฉินได้ยินข่าวนี้ก็ยิ้ม
“เชี่ยนเอ๋อร์ต้องเป็คนทำแน่ๆ”
หนึ่งเดือนนี้ เซียวเฉินพยายามเสมอมา แต่ถูกม่านขวางกั้นมาโดยตลอด ะโข้ามไปไม่ได้สักที พอจะบรรลุก็ถูกะเืกลับอย่างรุนแรง ทำเอาเซียวเฉินเ็ปจนไม่อยากมีชีวิตอยู่
ดุจอัคคีร้อนแรงเผากาย
แต่เซียวเฉินแน่วแน่เพียงใด ไม่ได้ล้มเลิกมาโดยตลอด เขาตัดสินใจจะทะลวงนิรวาณขั้นสาม ดังนั้น ในระยะเวลาสั้นๆ ต่อมา เซียวเฉินพยายามฝึกวิชาโดยไม่ออกไปข้างนอก
ในความน่าเบื่อแฝงความแน่วแน่
เวลาล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว
พริบตาก็ผ่านไปอีกหนึ่งเดือน เซียวเฉินยังไม่มีความเคลื่อนไหวดังเดิม ทว่าในระยะเวลาสั้นๆ นี้ มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ก็ไม่เคยมาหาเขาและเลือกที่จะเก็บตัวฝึกวิชาเช่นกัน เพราะนางถูกลงโทษให้กักบริเวณ
สาเหตุเนื่องจากทุบตีสหายร่วมสำนัก
เซียวเฉินไม่รู้เื่ทุกอย่างเลยสักนิด
ตูม!
วันนี้ จู่ๆ ที่พักของเซียวเฉินก็มีแสงเพลิงพวยพุ่งตรงดิ่งสู่นภากาศ เผาไหม้เมฆาจนแดงเป็แถบ ส่วนเซียวเฉินในเวลานี้ กำลังรับการทดสอบอันไร้เทียมทาน
อัคคีเทวะเผากาย
เซียวเฉินเ็ปจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ก็ยังยืนหยัดดังเดิม
“ขอเพียงผ่านไปได้ ก็เป็นิรวาณขั้นสามแล้ว...”
“ยืนหยัด...”
“เซียวเฉิน เ้าทำได้ เ้าทำได้”
เซียวเฉินปลุกใจตนเองอย่างต่อเนื่อง เขารู้สึกได้ว่าร่างกายเบาสบายและเปี่ยมพลังอย่างไม่เคยเป็มาก่อน ในที่สุดเขาก็รู้สึกโล่งใจ เพราะเขาทำได้แล้วจริงๆ
เขาบรรลุนิรวาณขั้นสาม
พรวด!
พ่นโลหิตสดออกมาคำหนึ่ง เซียวเฉินรู้สึกได้ว่าตนเองผ่านการชำระล้างจากอัคคีเทพหงสาจนฟื้นฟูกลับมาเป็ดังเดิม และถึงขั้นเหนือกว่าเดิม
เซียวเฉินตื่นเต้นอย่างยิ่ง
จากนั้นดวงตาก็มีเจตนาสังหารพวยพุ่ง
“ซือถูอู่ ความแค้นระหว่างพวกเราก็สมควรจัดการได้” ว่าแล้ว เซียวเฉินก็สาวเท้ายาวๆ มุ่งไปยังที่พักของซือถูอู่
เห็นใบหน้าของเซียวเฉินเต็มไปด้วยความเยียบเย็นและเจตนาสังหาร
ทุกคนพากันหลีกทาง ไม่มีใครกล้ายั่วโทสะเขา
ดูท่า ครั้งนี้ซือถูอู่คงหนีไม่รอดเงื้อมมือของเซียวเฉิน มิเพียงไม่ได้สังหารเขา กลับยังถูกเขาตัดแขนไปข้างหนึ่งด้วย บัดนี้ยังไม่ฟื้นฟูโดยสมบูรณ์ เกรงว่าเซียวเฉินคงไม่ปล่อยซือถูอู่ไปง่ายๆ
ทุกคนพากันวิพากษ์วิจารณ์
คนที่ในอดีตมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับซือถูอู่ก็ไม่กล้าออกมา เพราะเซียวเฉินทำให้พวกเขาหวาดกลัวจริงๆ ทว่ามู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ทำให้พวกเขาพรั่นพรึงยิ่งกว่า
มีคนจากไปทันที เหมือนไปตามคนมา
แต่เซียวเฉินกลับไม่แยแส
เพราะเขาจะฆ่าแค่ซือถูอู่!
เซียวเฉินยืนถือกระบี่อยู่นอกประตูห้องของซือถูอู่ เอ่ยเสียงชืดชา “ซือถูอู่ ไสหัวออกมา”
ซือถูอู่ที่อยู่ภายในห้องใสุดขีด แต่ไม่ได้ส่งเสียง
ครู่ต่อมา เซียวเฉินก็พังประตูเข้าไปทันที
ซือถูอู่ที่อยู่ในห้องมองเซียวเฉินด้วยสีหน้าหวาดกลัวและตื่นตระหนก ถึงกับมีเหงื่อหยดจากหน้าผาก ไหนเลยยังมีมาดของอันดับห้าบนผังชางหวง!
เซียวเฉินมองเขาแล้วเอ่ยช้าๆ “ข้าเคยพูดว่า หากเ้าฆ่าข้าไม่ได้ ข้าจะฆ่าเ้าเสีย เ้ายังจำได้หรือไม่?”
ซือถูอู่รีบถอยหลัง
“เซียวเฉิน ที่นี่คือสถานศึกษา มิใชู่เาต้าฮวง เ้ากล้าหรือ?”
เซียวเฉินยิ้มเย็น
“เ้าดูข้ากล้าหรือไม่”
กระบี่ยาวในมือออกจากฝัก ประกายกระบี่วูบวาบ จ่อกระบี่ใส่ซือถูอู่
จากนั้น ปราณกระบี่ดุดันเหิมเกริม อานุภาพกระบี่แผ่ไพศาล
“ใบไม้ร่วงพันสารท ประกายวาบห่านป่าตื่น!”
ฉั๊วะ!
สิ้นแสงเจิดจรัส ซือถูอู่ล้มอยู่กลางสีเื โลหิตสดกระจายทั่วพื้น ทุกคนเงียบกริบเหมือนจักจั่นยามเหมันต์ มองเซียวเฉินเดินออกมาด้วยสีหน้าสงบนิ่งอย่างหวาดหวั่นพรั่นพรึง
เซียวเฉิน สังหารซือถูอู่แล้ว!
เขากล้าสังหารคนในสถานศึกษา!
เ้าคนบ้านี่!
เซียวเฉินก้าวเท้ายาวๆ จากไป เสียงดังสะท้อน
“เซียวเฉินเป็ฆาตกร!”
หลังเซียวเฉินจากไป ก็มีชายชราผู้หนึ่งเดินมาช้าๆ เห็นซือถูอู่ตายอยู่ในที่พักของตนเองก็มีสีหน้าเคร่งขรึม
“ใครทำ?”
มีคนเอ่ย “เซียวเฉิน...”