ยังไม่ทันจะเสร็จเื่ทางนี้ ที่ทำให้นางสติแตกยิ่งกว่าก็คือมู่ชิงเซียวปรากฏกายออกมาในเวลานี้และทันได้เห็นสภาพอันน่าอเนจอนาถของนาง
สีหน้าของหลันเยว่หรูเสมือนเช่นคนที่เป็ทุกข์เพราะเสียบิดา นางหมุนตัวแล้วคิดจะวิ่ง ใครเลยจะรู้ว่านางเหยียบถูกเศษกระเบื้องแตกแผ่นหนึ่งแล้วลื่น คนทั้งคนหกล้มคะมำไปข้างหน้าราวกับสุนัขกินปัสสาวะ!
หลันเยว่หรูจับกบอยู่บนพื้น นางประคองเอวของตนเองร้องโอดโอยด้วยความเ็ป “เอวของข้า ขยับไม่ได้...”
ช่างเป็ความโชคร้ายที่ไม่อาจบรรยายได้จริงๆ ยามนี้ความคิดอยากตายก็บังเกิดขึ้นกับนางแล้ว เหตุใดเื่ร้ายๆ จึงเกิดกับนางเพียงคนเดียวนะ
มู่ชิงเซียวตวัดสายตามองนางปราดหนึ่ง เขาตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วถามสาวใช้ว่า “แม่นางเฟิงเล่า นางอยู่ที่ใด?”
สาวใช้ “อยู่ อยู่ที่อุโมงค์น้ำแข็งเ้าค่ะ”
ร่างของมู่ชิงเซียวหายไปราวกับสายลมวูบหนึ่งทันทีที่สิ้นเสียง
หลันเยว่หรูแทบจะอาเจียนเป็เืเมื่อเห็นเงาร่างจากไปอย่างรีบเร่ง นางหกล้มอยู่ตรงนี้เขากลับไม่ถามไม่ไถ่ แต่กลับไปใส่ใจคนที่วางยาพิษท่านปู่ของเขา นางเคียดแค้นใจอย่างที่สุด!
ช่างโชคร้ายเหลือเกิน ก็แค่จัดการสั่งสอนเฟิ่งเฉี่ยนไปเท่านั้นมิใช่หรือ เหตุใดจึงเกิดเื่ไม่ดีขึ้นมากมายเช่นนี้
นางเป็มหันตภัยร้ายอย่างแท้จริง!
มู่ชิงเซียวรีบเร่งเดินไปยังอุโมงค์น้ำแข็ง องครักษ์ขวางเขาเอาไว้ “คุณชายรอง ฮูหยินมีคำสั่ง ห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าไปขอรับ”
“พวกเ้าถอยไป! แม่นางเฟิงเป็คนที่ฝ่าาส่งมา เหตุใดพวกเ้าจึงนำตัวนางไปกักขังไว้ในอุโมงค์น้ำแข็งกัน” มู่ชิงเซียวคิดจะบุกเข้าไปข้างใน “หากพวกเ้ายังไม่ถอยไปอีก ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”
ทว่าองครักษ์ที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูนั้นมีฝีมือไม่สามัญ พวกเขาขวางมู่ชิงเซียวเอาไว้ “คุณชายรอง พวกเราทำตามคำสั่งที่ได้รับมา ท่านอย่าได้สร้างความลำบากใจให้พวกเราเลย!”
มู่ชิงเซียวรู้ว่าผู้ที่ออกคำสั่งพวกเขาก็คือมารดาของตน เขาจึงะโเข้าไปข้างใน “แม่นางเฟิง เ้าอยู่ข้างในเป็อย่างไรบ้าง”
ในอุโมงค์น้ำแข็ง ร่างของเฟิ่งเฉี่ยนขดเป็ก้อนกลมๆ นางหนาวจนตัวสั่น ริมฝีปากกลายเป็สีม่วง ได้ยินเสียงของมู่ชิงเซียว นางรีบวิ่งออกมาะโที่ข้างประตู “มู่ คุณชายมู่ มี...มีข่าวของฝ่าาแล้วหรือไม่”
มู่ชิงเซียวตอบกลับไปว่า “ข้าไม่รู้ ข้าถูกท่านแม่ขังไว้ตลอดเวลา เพิ่งจะหนีออกมาเมื่อสักครู่นี้เอง...แต่เ้าอย่าได้ร้อนใจ ข้าจะไปขอร้องมารดาข้าเดี๋ยวนี้ ให้นางปล่อยเ้าออกมา!”
ฟังจากเสียงฝีเท้า เขาดูเหมือนกำลังจะจากไป เฟิ่งเฉี่ยนรีบะโเรียกเขาไว้ “ช้าก่อน!”
นางรู้ว่าที่หลันเยว่หรูถึงขั้นกล้าลงมือทำเช่นนี้เป็เพราะได้รับการอนุญาตเป็นัยๆ จากมู่ฮูหยิน อีกทั้งนางยังทำร้ายบุตรสาวของมู่ฮูหยิน มู่ชิงเซียวไปขอร้องนางในเวลานี้ นางย่อมไม่มีทางใจอ่อน ไม่แน่ว่าอาจจะโกรธเคืองเขาด้วยเหตุนี้ก็เป็ได้
“คุณชายมู่ รีบไปหาฝ่าา ให้เขามาช่วยข้า ให้เร็วที่สุด!”
หากไม่เร็วละก็ นางเกรงว่าตัวเองจะรอไม่ไหว
มู่ชิงเซียวได้ยินเช่นนั้นจึงรีบตอบว่า “ได้ ข้าจะไปหาฝ่าาเดี๋ยวนี้ เ้าจะต้องรอจนข้ากลับมานะ!”
มู่ชิงเซียวไปแล้ว ทิ้งเฟิ่งเฉี่ยนไว้ต่อสู้กับความหนาวเย็นเพียงลำพัง
นางขดกายอยู่มุมหนึ่งของอุโมงค์น้ำแข็ง สั่นสะท้าน ความหนาวเหน็บนั้นราวกับเข็มที่แทงเข้าไปในร่างกายของนางทีละเล่มๆ แทงผ่านชั้นิัเข้าไปถึงกระดูก!
หนึ่งชั่วยามผ่านไป...
สองชั่วยามผ่านไป...
เรี่ยวแรงถูกเวลาที่ค่อยๆ ผ่านไปดูดกลืนไปจนหมด เืที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายเริ่มไหลเวียนช้าลงๆ...
ใบหน้าของเฟิ่งเฉี่ยนซีดขาวปานกระดาษ กระบอกตาของนางเริ่มกลายเป็สีเขียวคล้ำ สมองของนางสะลึมสะลือ หายใจไม่ค่อยออก มีเพียงความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวเท่านั้นที่ทำให้นางยังอดทนอยู่ได้!
ในที่สุด ราตรีอันมืดมิดค่ำคืนหนึ่งได้ผ่านพ้นไป ตามมาด้วยเสียงนกร้องต้อนรับวันใหม่ที่มาถึง
ในอดีตเมื่อนางออกปฏิบัติภารกิจ นางเคยเผชิญหน้ากับสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากเช่นนี้เหมือนกัน แต่นางยังคงรอดมาได้ ดังนั้นนางเชื่อเหลือเกินว่า ครั้งนี้ นางจะสามารถรอดไปได้เช่นกัน
แต่นางคงมองโลกในแง่ดีเกินไป โลกของความเป็จริงได้สร้างความะเืใจให้นางอย่างรุนแรง
ประตูอุโมงค์น้ำแข็งถูกเปิดออกอีกครั้ง หลันเยว่หรูที่ศีรษะถูกพันด้วยผ้าพันแผลสีขาวปรากฏกายหน้าประตู ด้านหลังนางมีบ่าวรับใช้กลุ่มหนึ่งหิ้วถังน้ำเข้ามา เมื่อเดินเข้ามาในอุโมงค์ทำให้พื้นที่ในอุโมงค์คับแคบไปทันใด
เฟิ่งเฉี่ยนลืมตาขึ้นมองอย่างงุนงง มีเสียงร้องเตือนจากสมองของนาง!
เอาอีกแล้วหรือ?
“สาดน้ำ! สาดให้เต็มที่!” หลันเยว่หรูออกคำสั่ง คนสิบกว่าคนเข้าล้อมรอบ น้ำขิงร้อนๆ ราวกับคลื่นทะเลที่โหมเข้าใส่ ระลอกแล้วระลอกเล่า สาดเข้ามาอย่างไม่รู้ทิศทาง!
เฟิ่งเฉี่ยนใช้กระทะหรูอี้บดบังใบหน้าของตัวเองเอาไว้สุดฤทธิ์ ทว่าส่วนอื่นๆ ของร่างกายไม่อาจหลบหลีกได้จึงอาบด้วยน้ำขิงร้อนๆ อีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้ นางมีโทสะขึ้นมาแล้ว “หลันเยว่หรู เ้าเสียสติไปแล้วหรือ เ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็ใคร?”
หลันเยว่หรูหัวเราะเสียงเย็น “ข้าไม่สนว่าเ้าเป็ใคร! คนที่ขวางทางข้า ทำลายเื่ดีๆ ของข้า ต่อให้เ้าเป็ฮองเฮา ข้าก็จะสาดเ้าแบบนี้อยู่ดี!”
เฟิ่งเฉี่ยนโกรธจนต้องขบฟันแน่น เดิมคิดจะใช้ฐานะของฮองเฮามากดข่มนาง แต่เวลานี้ดูแล้วคงใช้ไม่ได้ ไม่แน่ว่าหากนางรู้ฐานะของตนแล้วอาจกลัวนางกลับมาเอาคืนในวันหน้า สังหารคนปิดปากก็เป็ไปได้!
“ก็ได้ ข้ายอมแพ้แล้ว! ข้าบอกเ้าก็ได้ว่ายาถอนพิษอยู่ที่ไหน”
หลันเยว่หรูตะลึงงัน รีบยกขึ้นห้ามปรามบ่าวรับใช้ นางก้าวเข้าไปสองก้าว “รีบพูดมา ยาถอนพิษอยู่ที่ใด?”
เฟิ่งเฉี่ยนช้อนตาขึ้นมองผ้าพันแผลสีขาวบนศีรษะของนาง ก็นึกรู้ได้ทันทีว่ายันต์โชคร้ายที่นางแปะไว้บนร่างของนางออกฤทธิ์แล้ว!
เฟิ่งเฉี่ยนกวักมือเรียกนาง “เ้าเดินเข้ามาอีกหน่อย ข้าบอกเ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น!”
หลันเยว่หรูมีสีหน้าไม่ไว้ใจอย่างยิ่ง แต่ก็ยังยอมเดินเข้าไปอีกสองก้าว “พูดมา!”
เฟิ่งเฉี่ยนส่ายหน้า “เ้าไม่กล้าเข้าใกล้ กลัวข้าหรือ”
ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็กลยุทธ์ที่ใช้ในการยั่วยุ หลันเยว่หรูยังคงทนไม่ได้ ไม่รู้ว่านางจะมาไม้ไหน ดังนั้นจึงเดินเข้าไปอีกหนึ่งก้าว
เฟิ่งเฉี่ยนยื่นมือออกไปในเวลานี้เอง นางคว้าข้อมือของหลันเยว่หรูเอาไว้แล้วมองเข้าไปในดวงตาของหลันเยว่หรู “เ้าจำเอาไว้ ความเ็ปที่เ้าสร้างบนร่างกายของข้า วันหน้าข้าจะเอาคืนเป็สิบเท่า! ทางที่ดีที่สุดเ้าไหว้พระสวดมนต์ อย่าให้ข้าออกไปจากที่นี่ได้!”
เมื่อประสานสายตาเข้ากับดวงตาคมปลาบราวกับเข็มอาบยาพิษ หลันเยว่หรูสั่นสะท้านไปถึงจิติญญา นางออกแรงผลักเฟิ่งเฉี่ยนออก ในใจโหวงวูบอย่างร้ายกาจ นางะโสั่งให้บ่าวรับใช้สาดน้ำใส่เฟิ่งเฉี่ยนเสมือนระบายโทสะ “สาด! สาดต่อไป!”
นางะโไปพร้อมๆ กับก้าวถอยหลัง เท้านางพลันลื่น ตุบ นางล้มลงไปสี่ขาชี้ฟ้า!
บังเอิญบ่าวรับใช้คนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลังนาง เมื่อนางล้มลง บ่าวรับใช้ก็ล้มลงบนพื้นด้วย ถังน้ำในมือจึงหลุดออกไป โครม น้ำในถังสาดไปถูกอีกคนหนึ่ง หน้าอกของคนผู้นั้นถูกถังน้ำโจมตีจนร้องไอหยาเสียงดัง ร่างของเขาล้มลงถังน้ำจึงแฉลบออกด้านข้าง ราดรดลงบนร่างของหลันเยว่หรู!
เป็เื่เหนือความคาดหมาย คนอื่นๆ ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ละคนเริ่มทำอะไรไม่ถูก ถังน้ำทั้งหมดสาดเข้าใส่หลันเยว่หรูอย่างแม่นยำ น้ำขิงร้อนๆ สาดเข้าใส่ร่างของนางเพียงคนเดียว!
เฟิ่งเฉี่ยนยังมีกระทะหรูอี้บดบังใบหน้า หลันเยว่หรูได้เตรียมอะไรมาที่ไหนกัน ที่นางคาดไม่ถึงยิ่งกว่าก็คือ น้ำขิงที่ตนเองตระเตรียมมาอย่างยากลำบาก สุดท้ายกลับมาราดรดใส่ร่างของนางเอง!
ขณะที่ไม่ทันป้องกันอันใด ยังไม่รอให้หลันเยว่หรูลุกขึ้นมาจากพื้น น้ำขิงร้อนๆ ก็สาดใส่ใบหน้าของนางทันที!
นางถึงกับโง่งมไปชั่วครู่ กระทั่งรู้สึกปวดแสบปวดร้อนบริเวณผิวหน้า นางจึงหวีดร้องขึ้นมาอย่างเสียสติ “อ๊า—ใบหน้าของข้า!”
คนทั้งหมดได้แต่ตกตะลึง
เห็นเพียงหลันเยว่หรูนอนหงายอยู่บนพื้น ร่างกายเปียกชุ่ม ที่เห็นแล้วถึงกับใก็คือใบหน้าของนาง รูปโฉมงดงามของโฉมงามจอมเ็า มาบัดนี้ถูกน้ำร้อนลวกจนยู่รวมกัน ทั้งแดงทั้งบวม ผนวกกับองคาพยพทั้งห้าที่บิดเบี้ยวด้วยความเ็ป ทำให้คนแทบจะทนมองไม่ได้!
ใบหน้านี้ นับว่าถูกทำลายโฉมไปแล้ว!