ในเวลานี้เอง ิอวี่ก็สามารถััได้ว่า พลังชีวิตภายในไข่ัเปลือกสีขาวเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ พลังชีวิตประมาณเจ็ดส่วนค่อยๆ รวมตัวกันอยู่้าลายเส้นอักขระสีขาว!
ิอวี่รู้ดีว่า มันเป็ผลที่เกิดจากลายเส้นอักขระแปลกๆ ที่เฮยจีปล่อยออกมา
หากเป็คนอื่นคงใมาก เพราะในความรู้ความเข้าใจของพวกเขา ไม่มีใครสามารถปล่อยลายเส้นอักขระเพื่อดูดเอาพลังงานภายในไข่ัออกมาได้ พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมีลมปราณบริสุทธิ์ของตัวอ่อนอสูรอยู่ภายในด้วย!
ในความเป็จริงแล้ว ลมปราณบริสุทธิ์ของตัวอ่อนอสูรเป็ลมปราณที่ฝึกพลังชีวิต มันมีแหล่งพลังงานชีวิตและจิติญญาของัทะเลทรายอยู่ด้วย พูดได้เลยว่า ลมปราณบริสุทธิ์ของตัวอ่อนอสูรเป็สารอาหารหลักในตัวอ่อนของั
ลมปราณบริสุทธิ์ทั้งหมดล้อมอยู่ภายในไข่ั เริ่มแรก มันยังมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปก็จะค่อยๆ แผ่กระจายไปทั่วใบ
ใน่ระยะนี้จะเรียกว่าการเพาะเลี้ยงไข่ั
หลังจากที่ลมปราณบริสุทธิ์ของตัวอ่อนอสูรกระจายเต็มใบ ตัวอ่อนก็จะเริ่มดูดซับลมปราณบริสุทธิ์นั้นเพื่อใช้สร้างร่างกาย เมื่อดูดจนหมดแล้วตัวอ่อนัก็จะเริ่มเป็ตัว จากนั้นเปลือกไข่จะแตกแล้วมุดออกมาจากไข่
ใน่ระยะนี้จะเรียกว่าการเจริญเติบโตของไข่ั
ไข่ัที่อยู่ตรงหน้าของิอวี่นั้นเพิ่งจะเข้า่เจริญเติบโตได้ไม่นาน ลมปราณบริสุทธิ์รอบๆ จึงยังเต็มอยู่ เขาััได้ว่า ลมปราณบริสุทธิ์ที่อยู่ในภายในไข่ัประมาณเจ็ดส่วนถูกลายเส้นอักขระประหลาดตรงหน้าดูดไปหมดแล้ว
มันไม่ทำให้ไข่ัแตก แต่จะทำให้เติบโตได้ช้าลงเท่านั้น
เมื่อลมปราณบริสุทธิ์ลดน้อยลง ไข่ัก็จะกลับไปสู่่เพาะเลี้ยงใหม่ เมื่อลมปราณบริสุทธิ์กระจายเต็มอีกครั้ง ก็จะเข้าสู่่เจริญเติบโตใหม่อีกครั้ง
ซึ่งแน่นอนว่า หากดูดลมปราณบริสุทธิ์อยู่ตลอด ก็จะส่งผลกระทบต่อตัวอ่อน ดังนั้น การดูดลมปราณบริสุทธิ์ทำได้มากสุดก็ไม่เกินหนึ่งถึงสองครั้ง หากทำมาเกินไปกแล้ว ต่อให้ตัวอ่อนของไข่ัฟักตัวเป็ัทารกได้ ก็ไม่อาจพัฒนาอะไรต่อไปได้ จะมีคุณภาพร่างกายที่แย่มาก
ลายเส้นอักขระสีขาวบนไข่ัมารวมตัวกัน จากนั้นก็ก่อตัวเป็ทรงกลมสีขาวและค่อยๆ ลอยตัวขึ้นตรงหน้าของิอวี่
ิอวี่เห็นได้อย่างชัดเจนว่า รอบๆ แสงสีขาวทรงกลมมีโซ่สีดำละเอียดพันอยู่ ราวกับจะกดทับลมปราณบริสุทธิ์ให้อยู่ด้านใน
ถึงจะอย่างนั้น ิอวี่ก็ยังััได้ว่าแสงสีขาวทรงกลมนั้นมันมีพลังงานลมปราณอยู่มาก
แสงสีขาวทรงกลมสั่นอยู่อย่างต่อเนื่อง และเหมือนจะมีเสียงร้องเบาๆ เปล่งออกมาด้วย ...
มันเป็ลมปราณบริสุทธิ์ที่ห่อหุ้มจิตสำนึกิญญาอสูรอยู่!
ลมปราณบริสุทธิ์สามารถช่วยฝึกร่างกายให้กับิอวี่ทำให้พลังฝีมือของเขาก้าวหน้าไปอีกขั้น จิตสำนึกของอสูรจะทำให้ิอวี่เข้าถึงสัจธรรรมที่แท้จริงของทักษะการต่อสู้เสวียนระดับต้นโลหิตัคชสารได้เร็วยิ่งขึ้น!
ในเวลานี้เอง ิอวี่ก็มองไปยังเส้นแสงสีดำที่ห่อหุ้มแสงสีขาวทรงกลมอยู่ ด้านในมันมีแสงระยิบระยับแปลกๆ เปล่งออกมาด้วย!
“อือ ... ”
ในเวลานี้เอง ทั่วทั้งเส้นทางมิติก็เริ่มเกิดการสั่นไหว ิอวี่รู้ดีว่าพวกเขากำลังจะทะลุออกไปที่ปากทางูเาไฟแล้ว
เขาจึงรีบเก็บลมปราณบริสุทธิ์ของตัวอ่อนและไข่ัเข้าไปในเกราะแขนเฮยจินอย่างรวดเร็ว!
ภายในมิติสั่นไหวแรงมากขึ้น ไม่กี่อึดใจเท่านั้น ิอวี่ก็รู้สึกว่าภาพที่ปรากฏในสายตามันเริ่มบิดเบี้ยว หลังจากที่เวียนหัวตาลายสักพัก ก็มีแสงสว่างจ้าเข้าสู่ดวงตาของเขา
ที่แท้พวกเขาก็ถูกส่งออกมาจากมิติหนึ่งสู่อีกมิติ และกำลังบินลอยต่ำอยู่กลางอากาศ
ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้ม แต่ว่ามันไม่ใช่สนามรบร้างโบราณ เพราะที่ห่างออกไปนั้นมีูเาไฟที่เป็สัญลักษณ์บอกให้ิอวี่ได้รับรู้ว่า ตอนนี้เขากลับมาที่ชายเขตแดนของสำนักเทพอัคคีแล้ว
“ศิษย์ที่ออกมาจากสนามรบร้างโบราณ รีบมารวมพลกันที่ด้านล่างของูเาไฟ”
ในเวลานี้เอง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจนิอวี่ต้องหันไปมอง
ที่ลานกว้างขนาดใหญ่ห่างออกไปจากูเาไฟไม่ไกลนัก มีผู้ดูแลสามคนกำลังเงยหน้ากวักมือเรียกิอวี่ให้ลงไปอยู่
ิอวี่ก็ไม่ลังเล สั่งให้เ้าวิหคปีกมืดบินลงไปด้านล่างหาผู้ดูแลพร้อมกับเิหยูเยียนในทันที
ผู้ดูแลทั้งสามคนล้วนแต่สวมชุดสีแดงเพลิงเหมือนกัน ที่หน้าอกของทั้งสามคนมีคำว่า “หรง” “จั่ว” “เลี่ยน” แปะอยู่
“พวกเ้าเป็ศิษย์ของสายไหน ชื่ออะไรกันบ้าง?”
ผู้ดูแลสายหรงเหยียนจ้องมาที่ิอวี่ด้วยท่าทางดุดัน สีหน้าจริงจังมาก
ผู้ดูแลพวกนี้ปกติล้วนแต่ยุ่งอยู่กับการทำภารกิจ ไม่ค่อยได้ไปสนใจเด็กที่เข้ามาใหม่เท่าไร เว้นแต่ว่าจะเป็ศิษย์ที่มีชื่อเสียงมาก พวกเขาถึงจะคุ้นหน้าคุ้นตา
ครั้งนี้ พวกเขาสามคนเป็ผู้ดูแลที่ถูกคัดมาจากสายที่แตกต่างกันเพื่อเฝ้าพวกศิษย์ชั้นยอดกลับออกมา เพราะจะให้ผู้าุโใหญ่เฝ้าอยู่ตลอดสิบสองชั่วยามเลยก็ไม่ได้ ดังนั้นถึงได้มอบหมายให้ผู้ดูแลทั้งสามมาทำแทน
อีกทั้งผู้ดูแลทั้งสามคนก็ไม่ได้มีหน้าที่แค่เฝ้าอย่างเดียว พวกเขายังต้องนับและสรุปผลการเข้าไปในสนามรบร้างโบราณของศิษย์ชั้นยอดแต่ละคนด้วย หลังจากคำนวณผลลัพธ์ของแต่ละคนได้แล้วก็จะจัดอันดับแล้วก็โอนถ่ายค่าผลงานให้
“เราเป็ศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียน ข้าชื่อิอวี่ นางชื่อเิหยูเยียน” ิอวี่มองไปที่เิหยูเยียน แล้วก็หันกลับมาตอบตามความเป็จริง
“อือ”
ผู้ดูแลสายหรงเหยียนพยักหน้าอย่างไร้อารมณ์ จากนั้นก็เอาสมุดบันทึกออกมาแล้วพูดว่า “เอาสมบัติหรือว่าอสูรที่พวกเ้าได้มาจากสนามรบร้างโบราณออกมา ต้องยืนยันให้ได้ว่าพวกเ้าเป็คนฆ่าพวกมัน เช่นอวัยวะ หรือว่าหัว ไม่ก็อย่างอื่น แล้วก็เอาของล้ำค่าที่พวกเ้าได้ออกมาด้วย จำนวนกับมูลค่าข้าจะคำนวณแล้วแปลงเป็ค่าผลงานให้กับพวกเ้า”
“เอ่อคือว่า ... ” ิอวี่ขมวดคิ้ว ตลอดทางเขาคิดแต่จะทำตามแผนการที่เขาวางเอาไว้ เลยไม่ได้ไปชิงสมบัติในตัวอสูรอะไรเลย
ถึงแม้เขาจะฆ่าศิษย์ของสายหรงเหยียนกับจั่วเหยียนตลอดทาง ชิงของบนตัวของพวกเขามาก็มาก แต่เขาก็ไม่กล้าเอาออกมาเลย
หากผู้ดูแลของสายหรงเหยียนจะให้เขาเอาออกมาให้ได้ พวกเขาก็จะต้องจำได้แน่นอน
ถึงแม้บนตัวของิอวี่จะยังมีสมบัติ ของล้ำค่า หัวอสูร หัวใจ เกราะเกล็ดอะไรอีกมากมาย แต่เขาจะเอามันออกมาไม่ได้เด็ดขาด
ดังนั้นิอวี่ก็ทำได้แค่ตอบออกไปอย่างจนใจว่า “ไม่เจออสูรอะไรเลย ดังนั้น เลยไม่ได้อะไรมา เพราะตามหาร่องรอยของไข่ัอย่างเดียว”
“แล้วนางล่ะ ไม่มีเลยเหมือนกันหรือ?”
“ไม่มี”
“ได้ ค่าผลงาน ศูนย์ ไปได้แล้ว”
ผู้ดูแลสายหรงเยียนนั้นกลับไม่ได้มีความใอะไรเลย เขาเขียนลงบนสมุดบันทึกว่า “ศูนย์” สองตัวใหญ่ๆ แล้วก็โบกมือไล่ทั้งสองคน แล้วก็หันไปมองที่ทางออกบนอากาศอีกครั้ง ไม่ได้ไปสนใจอะไรพวกของิอวี่อีก
ผู้ดูแลของสายเลี่ยนเหยียนที่อยู่ด้านหลังนั้นกลับขมวดคิ้วแน่น
เขาไม่ได้โง่ ิอวี่กับเิหยูเยียนเป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สองทั้งคู่ พวกเขาฆ่าอสูราาขั้นที่หนึ่งได้แน่ แต่กลับกลับออกมามือเปล่า นั่นก็แสดงว่า ของบนตัวของพวกเขานั้นน่าจะถูกคนอื่นชิงเอาไปหมดแล้ว
ไม่ต้องคิดก็รู้ ศิษย์ของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนชิงเอาไปแน่นอน!
ผู้ดูแลสายเลี่ยนเหยียนก็รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเหมือนกัน แต่เขาก็จนใจ คนที่น่าสงสารก็มักมีเหตุผลของมันเสมอ พวกิอวี่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย นั่นก็เพราะความสามารถของพวกเขายังไม่ถึงขั้น ก็เหมือนกับศิษย์ของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนที่เพราะมีความสามารถที่แข็งแกร่ง พวกเขาก็มีสิทธิที่จะชิงของของคนอื่น
หลังจากที่คิดทบทวนแล้ว เขาก็มองไปที่พวกของิอวี่ด้วยความเห็นใจ แต่ก็ไม่ได้อยากไปปลอบใจอะไร
ถึงแม้จะเป็คนในสายเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้คุ้นเคย พูดไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
“ยังยืนอยู่ตรงนี้ทำไม อย่าขวางทางได้ไหม ไปยืนรอกับพวกเพื่อนของพวกเ้าทางนั้นไป”
ระหว่างที่ผู้ดูแลสายเลี่ยนเหยียนกำลังคิด ผู้ดูแลของสายหรงเหยียนก็มองไปที่ิอวี่แบบไม่สบอารมณ์ เขาเงยหน้าไปทางเทือกเขาที่ห่างออกไป จากนั้นก็ใช้หลังมือโบกไล่
“ข้าพูดจบแล้ว”
น้ำเสียงของิอวี่เ็าลงในทันที “ระวังท่าทางการพูดของเ้าด้วย”
“หือ?”
ผู้ดูแลสายหรงเหยียนจ้องมาที่ิอวี่ด้วยความโมโห เขาเป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สี่ ลมปราณเทวะสี่ดวงถูกปล่อยออกมากดดันิอวี่ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เ็าว่า “เ้าพูดจากับผู้ดูแลแบบนี้น่ะหรือ? เ้าอยากตายแล้วหรือไง”
แต่ละคำที่ผู้ดูแลสายหรงเหยียนพูดออกมาเต็มไปด้วยพลังลมปราณที่แข็งแกร่ง กดดันิอวี่จนเขารู้สึกว่าิญญาของเขาหนักอึ้งและเริ่มเวียนหัว
ศิษย์ของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนดูถูกศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียน ผู้ดูแลเองก็เช่นกัน เวลาอยู่ต่อหน้าคนของสายเลี่ยนเหยียนพวกเขามักจะรู้สึกว่าโดดเด่นมากกว่า
มันเป็ความคิดที่ผู้าุโใหญ่กรอกใส่หัวของพวกเขา มันเป็รูปแบบของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียน เหมือนความรู้สึกดูแคลนระหว่างเผ่าพันธุ์
ทัศนคติแบบนี้ช่างเน่าเฟะและผิดเพี้ยนเสียจริง!
ิอวี่หรี่ตาลงเล็กน้อย ััได้ถึงความเป็ปรปักษ์ เขามองไปที่ผู้ดูแลสายหรงเหยียนด้วยความเ็า ท่าทางไม่ได้ยอมอ่อนข้อเหมือนกัน “เื่ของฝีปากใครก็พูดได้ แต่ก็มีหลายคนที่เก่งแต่ปาก เ้าคิดแบบนั้นไหม?”
ถึงแม้คำพูดของิอวี่จะเรียบง่ายไม่ได้ตะคอกะโเสียงดัง แต่ภายใต้ความเรียบง่ายนั้นกลับมีความโกรธที่เป็ดั่งพายุแฝงอยู่!
ในสนามรบร้างโบราณ เขาเห็นคนของสายหรงเหยียนแล้วก็สายจั่วเหยียนรังแกคนของสายเลี่ยนเหยียนต่อหน้าต่อตา ถึงแม้ิอวี่จะบอกกับตัวเองว่าต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ได้ แต่การถูกดูถูกดูแคลนหลายต่อหลายครั้ง มันทำให้ิอวี่สั่งสมอารมณ์โกรธเอาไว้มาก ทำให้ในเวลานี้ยากที่จะใจเย็นลงได้!
“เ้า!”
ผู้ดูแลสายหรงเหยียนตะคอกออกมาด้วยความโกรธ เขาปล่อยพลังลมปราณทั้งหมดเพื่อข่มขู่กดดันิอวี่!
การต้านพลังลมปราณที่บ้าคลั่งของผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สี่ ิอวี่ที่เป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สองยากที่จะต้านทานได้ เขาส่งเสียงจากลำคอออกมา รู้สึกว่าเืลมกำลังปั่นป่วนและปวดหน้าอกนิดๆ
ตอนที่เผชิญหน้ากับัทะเลทราย ิอวี่ขี่วิหคัปีกมืดหนีอย่างรวดเร็ว และเว้นระยะห่างจากัทะเลทราย แต่ในเวลานี้อยู่ห่างจากผู้ดูแลสายหรงเหยียนแค่หนึ่งเมตร พลังกดดันนั่นมันทำให้เขาไม่อาจรับไหว
แต่ถึงจะอย่างนั้น ิอวี่ก็ไม่ได้ขยับไปไหนเลย
ผู้ดูแลสายเลี่ยนเหยียนที่อยู่ด้านหลังทนดูต่อไปไม่ไหว แต่เขาเองก็ลังเล หากช่วยิอวี่ เขาอาจจะต้องผิดใจกับผู้ดูแลสายหรงเหยียน ดูเหมือนไม่คุ้มค่าเลย ...
ระหว่างที่เขากำลังลังเล ค่ายกลขนส่งบนกลางอากาศก็ฉีกออกเป็ช่องสีดำม่วงและมีเงาจำนวนหนึ่งออกมาจากด้านใน
คนพวกนั้นทำให้ทุกคนหันไปมอง
“รอก่อนเถอะ”
ผู้ดูแลสายหรงเหยียนจ้องมาที่ิอวี่ จากนั้นก็เดินกระแทกไหล่ของเขาไปจนเกือบล้ม
ในเวลานี้เอง ผู้ดูแลของสายหรงเหยียนก็เดินไปรับกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่อยู่ด้านหน้า
พวกของโอวหยางเต้าอวี่กลับมาแล้ว!
“ฮ่าฮ่า เต้าอวี่ ยินดีต้อนรับกลับมานะ ลำบากแล้ว เหนื่อยไหม?”
ท่าทางของผู้ดูแลสายหรงเหยียนนั้นดูกระตือรือร้นกับโอวหยางเต้าอวี่มาก เขาพูดว่า “พวกเ้าบินลงมาก่อน แล้วข้าจะนับจำนวนของวิเศษกับอสูรที่พวกเ้าได้ แล้วค่อยสรุปค่าผลงานให้กับพวกเ้า”
“อือ”
โอวหยางเต้าอวี่อารมณ์ไม่ค่อยจะดีเท่าไร เขาแค่พยักหน้าแล้วก็บินลงมา
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ซูอี้หรานที่อยู่ด้านข้างกลับตาโตแล้วชี้ไปทางด้านหน้า จากนั้นก็ตะคอกออกมาว่า “ท่านพี่ ดูนั่น เ้าสวะิอวี่!”
“อะไรนะ?”
พวกโอวหยางเต้าอวี่ได้ยินซูอี้หรานพูด สายตาแต่ละคนมองไปทางที่เขาชี้ ก็เห็นิอวี่กับเิหยูเยียนยืนอยู่ที่พื้นทรายไม่ไกลออกไป
“ข้าจะดูสิว่าคราวนี้เ้าจะหนีไปไหนได้!”
ซูอี้หรานตื่นเต้นจนเกือบจะตกลงมาจากบนเหยี่ยวทะเลทราย เขาไม่สนใจอาการาเ็ทั่วตัว อยากจะรีบพุ่งลงไปฆ่าิอวี่ให้ตาย โอวหยางเต้าอวี่เองก็มุ่งหน้าลงไปทางผู้ดูแลสายหรงเหยียนเพื่อสังหาริอวี่ทันทีเหมือนกัน
พวกเขาไม่ได้อยากจะพูดอะไรกับิอวี่อีกแล้ว แต่คิดจะลงมือเลยเพื่อระบายความแค้นที่มีออกมาให้หมด
ในสถานการณ์แบบนี้ ิอวี่แทบไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ ถึงแม้โอวหยางเต้าอวี่จะได้รับาเ็มาจากการต่อสู้กับัทะเลทราย แต่อูฐที่หิวตายก็มีร่างกายที่ใหญ่กว่าม้าอยู่ดี จะเอาชนะิอวี่นั้นมันไม่ใช่เื่ยากอะไรเลย
ิอวี่ขมวดคิ้วหนักมาก เดิมเขาสามารถสั่งให้ทาสเพลิงสู้ไปด้วยกันกับเขาได้ แต่เพราะก่อนหน้านี้เขาใช้ทาสเพลิงไปแล้ว มันจึงยังอยู่ใน่ก่อตัวใหม่ และด้วยความสามารถของิอวี่กับเิหยูเยียนในตอนนี้ ก็สู้พวกโอวหยางเต้าอวี่ไม่ได้ด้วย
ถ้าเช่นนั้น ก็คงต้องหลบเลี่ยงไปก่อน
ในใจของิอวี่ก็เลยคิดที่จะหนี เขาจับแขนของเิหยูเยียนแล้วถอยหลัง!
แต่ในเวลานี้เอง ก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูจริงจังและมีอานุภาพดังขึ้นมา
“ใครอนุญาตให้พวกเ้าลงมือกับศิษย์ของข้า!”
แสงสีแดงถูกยิงพุ่งมาจากที่ไกล!
