เกิดใหม่ครั้งนี้ ขอเป็นเจ้าของที่ดินในยุค 90【แปลจบแล้ว】

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

ซูอินยังไม่ได้กลับไปที่ตระกูลสวีพร้อมกับสวีเหวินเหวิน แต่เลี้ยวไปที่ร้านชานมก่อนเพื่อทำงานตามปกติ

ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเธอ ว่าการที่เธอออกมาจากตระกูลหลิงไม่ใช่เป็๞แค่การประชดประชัน

สำหรับเธองานที่ร้านชานมถือเป็๲สิ่งสำคัญ

พี่หงยังคงงานยุ่งเหมือนเดิม เมื่อเห็นเธอมาถึงก็กำชับบอกให้ปิดร้านให้ตรงเวลาก่อนจะรีบขับรถออกไป ซูอินรับหรงหรงเ๯้าสุนัขปอมเมอเรเนียนมาไว้ในอ้อมแขน แล้วสวมผ้ากันเปื้อน เปิดร้านอย่างเป็๞ระเบียบ

ไม่รู้ว่าเธอรู้สึกไปเองหรือเปล่า ว่าระยะนี้ธุรกิจค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ

ประมาณสองทุ่มครึ่ง ใกล้เวลาปิดร้าน

ซูอินมองแก้วพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ เมื่อสัปดาห์ก่อนที่เธอเพิ่งมาทำงาน ทุกวันจะขายได้แค่ครึ่งแถว

ทว่าหลังจากที่เธอมาทำงานต้องเปิดใช้แก้วแถวใหม่ ซึ่งในตอนนี้เหลือเพียงสิบใบ

กิจการของร้านดีขึ้นจริงๆ

“คงเพราะอากาศร้อนทำให้เครื่องดื่มเย็นๆ ได้รับความนิยม”

คิดไปคิดมา ซูอินหาเหตุผลได้เพียงเท่านี้ สำหรับเธอรู้สึกดีใจมาก ไม่ต้องพูดถึงว่าพี่หงดีกับเธอแค่ไหน การที่เธอมาทำงานที่นี่แล้วกิจการค่อย ๆ ดีขึ้น ในใจเธอรู้สึกว่ามันคือหนึ่งในความสำเร็จ

กิจการดีขึ้นก็มักจะนำไปสู่หน้าที่รับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นด้วย…

ชาติก่อนเธอทำงานดูแลคฤหาสน์หรูซึ่งมีเนื้อที่เกือบหนึ่งพันตารางเมตร อีกทั้งยังเป็๲แม่ครัวให้ตระกูลหลิง งานในส่วนนี้เธอจึงคิดว่าไม่ใช่เ๱ื่๵๹ยากลำบาก

สำหรับเธอที่ต้องใช้สมองทั้งวันจากการเรียน เมื่อได้มาทำงานที่แทบไม่ต้องใช้สมองเช่นนี้ แค่ขยับมือชงเครื่องดื่ม ยืดกล้ามเนื้อ แถมยังได้เงิน พี่หงไม่พูดอะไรก็จ่ายเงินให้ ช่างสมบูรณ์แบบยิ่งนัก

แต่สิ่งที่ซูอินไม่รู้คือ การที่กิจการดีขึ้นไม่เกี่ยวข้องเลยกับสภาพอากาศ

เหตุผลที่แท้จริงมาจากเธอ

ใกล้กับถนนย่านการค้านี้มีโรงเรียนหลายแห่ง ๰่๥๹นี้มีข่าวแพร่สะพัดในหมู่หนุ่มๆ ว่า ร้านชานมตรงหัวมุมมีพนักงานสาวสวยมาใหม่ ผิวขาวผ่อง สวย รอยยิ้มหวานจับใจ

เหล่านักเรียนชายมัธยมปลายอายุสิบเจ็ดถึงสิบแปดปีที่เพิ่งเลิกเรียนก็รีบตรงดิ่งมาที่นี่ และเหมือนได้เห็นดาวโรงเรียนจากระยะไกล

เพื่อจะได้เห็นสาวน้อยคนสวย พวกเขาจึงเดินเข้ามาซื้อเครื่องดื่ม

จากนั้นเมื่อพบว่า สาวน้อยคนสวยทำให้ชานมดูหวานเป็๞พิเศษ บวกกับรอยยิ้มหวานจับจิต ก็ยิ่งทำให้รสชาติหอมหวานแทรกซึมเข้าไปในใจ

๰่๥๹สอบปลายภาค นอกจากทบทวนบทเรียนพวกเขาก็ไม่มีอะไรทำ เมื่อมีสาวน้อยหน้าตาน่ารักปรากฏตัว สำหรับนักเรียนมัธยมหลายคนรอบๆ บริเวณนี้ นี่จึงเป็๲สีสันที่หาได้ยากของชีวิตใน๰่๥๹การทบทวนที่น่าเบื่อ

ซื้อ ซื้อ ซื้อ!

จำเป็๲ต้องซื้อ!

ไม่ใช่แค่ผู้ชาย ผู้หญิงหลายคนก็มาเพราะความอิจฉา ในตอนแรกหัวใจเต็มไปด้วยจิตริษยา แต่เมื่อได้เห็นสาวน้อยร้านชานมกับรอยยิ้มหวาน สาวๆ จำนวนไม่น้อยก็เปลี่ยนความคิดทันทีและกลายมาเป็๞แฟนคลับ

เมื่อเทียบความชื่นชอบในการดื่มชานมกับเหล่านักเรียนชายที่๻้๵๹๠า๱มาดูสาวสวย พวกนักเรียนหญิงนั้นชอบดื่มชานมมากกว่า

วัตถุดิบทำชานมของร้านพี่หงเป็๞ของดี โดยแทบไม่ต้องใส่สารเติมแต่งใดๆ รสชาติกลมกล่อมไม่เหมือนใคร จึงพิชิตใจต่อมรับรสของสาวๆ ได้อย่างรวดเร็ว

นักเรียนมัธยมปลายเหล่านี้มีเงินไม่เยอะ ไม่สามารถซื้อเครื่องดื่มที่ร้านได้ทุกวัน แต่ด้วยจำนวนคนที่มาก ต่อให้นักเรียนคนหนึ่งมาซื้อแค่สัปดาห์ละครั้ง ก็เพียงพอที่จะทำให้กิจการเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

โดยปกติธุรกิจร้านชานมมีลูกค้าเป็๞คนหนุ่มสาวอยู่แล้ว ซูอินจึงไม่ได้สังเกต

แน่นอนว่าเคยมีคนกล่าวชมเ๱ื่๵๹ความงามของเธอ

ซูอินที่มองหน้าตัวเองในกระจกไม่ใช่คนหลงตัวเอง แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่ามันคือเ๹ื่๪๫จริง

ทว่าเธอก็ไม่ได้สนใจมันมากเท่ากับคิดถึงเ๱ื่๵๹การขาย

เมื่อทำความสะอาดร้านเสร็จ เธอเอาประตูเหล็กม้วนลง จากนั้นเดินไปตามเส้นทางที่ได้สอบถามมาอย่างแน่ชัดแล้ว

บ้านของสวีเหวินเหวินอยู่ไม่ไกลจากร้านชานมมากนัก เลี้ยวโค้งและเดินตรงไปเพียงสองร้อยเมตรก็ถึง

อยู่ที่โรงเรียน สวีเหวินเหวินเคยบอกว่าบ้านของตนโทรมมาก ถึงกระนั้นซูอินก็ยังตกตะลึงกับภาพเบื้องหน้า

เธอไม่คิดว่าย่านใจกลางเมืองที่เจริญที่สุดในเขตผิงจะมีตึกเก่าทรงกระบอกเช่นนี้อยู่ด้วย

อาคารที่ถูกสร้างราวๆ ปี 1950-1960 ในยามนี้ทรุดโทรม กำแพงลอกจนเห็นอิฐสีแดง หน้าต่างหลายบานผุพัง บานที่เปลี่ยนใหม่ก็มีลายแตกต่างกันออกไป บางครอบครัวไม่ได้เปลี่ยนกระจกหน้าต่างที่แตก  แต่ใช้แผ่นพลาสติกมาปิดแทน

ในชุมชนนี้เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างผิดกฎหมาย ถนนที่แออัดอยู่แล้วก็ยิ่งแคบ ต้นไม้เขียวชอุ่มสองข้างทางบดบังแสงจันทร์ เพิ่มบรรยากาศให้ดูน่ากลัว

สถานที่นี้…

ซูอินยืนอยู่หน้าปากทางชุมชน ไม่กล้าเดินเข้าไป

แต่ไม่นานก็นึกได้ว่า หลังสอบเสร็จอย่างไรเธอก็ต้องกลับชนบท

เธอเคยเห็นสิ่งต่างๆ นั้นแล้วตอนอยู่ที่ชนบทเมื่อครั้งเป็๲เด็ก ไม่แน่ว่าสถานที่ที่เธอต้องไปอยู่อาจเป็๲แบบนี้ก็ได้

ถือเสียว่าเป็๞การเตรียมใจให้ชิน ซูอินปลุกความกล้าก่อนจะเดินผ่านอาคารร้างผิดกฎหมาย แล้วเดินตามหาป้ายบ้านเลขที่

ชุมชนนี้ค่อนข้างใหญ่ อาคารประมาณร้อยกว่าหลังพยายามอย่างมากที่จะใช้พื้นที่เล็กๆ นี้ด้วยกัน โดยตั้งอยู่ระเกะระกะราวกับเขาวงกต

กว่าซูอินจะพบบ้านเลขที่ 49 ซึ่งเป็๞ที่ตั้งของตระกูลสวี ก็ใช้เวลาราวๆ สิบห้านาที

เธอกดกริ่ง สวีเหวินเหวินสวมรองเท้าแตะเดินออกมาต้อนรับเธออย่างอบอุ่น

สภาพความเป็๞อยู่ของตระกูลสวีไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด

๰่๥๹ไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการปรับปรุงพัฒนามาตรฐานการครองชีพให้ดีขึ้น หลายครอบครัวในชุมชนจึงย้ายไปยังอาคารที่มีขนาดกว้างขวางและสว่างไสวมากกว่าเดิม ทำให้ในอาคารทรงกระบอกที่ทรุดโทรมเหลือห้องว่างหลายห้อง เดิมมีสามครอบครัวในพื้นที่ที่ตระกูลสวีอาศัยอยู่ เมื่อสองครอบครัวย้ายออกไป ทั้งสามห้องจึงตกเป็๲ของตระกูลสวี ทำให้ไม่แออัด

ซูอินได้รับการปฏิบัติที่ค่อนข้างแปลกจากตระกูลสวี

ที่บอกว่าแปลกเพราะว่า สวีเหวินเหวินกับหยางอวี้หลานผู้เป็๲มารดาปฏิบัติต่อเธออย่างอบอุ่น แต่คุณย่าสวีที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟากับบิดาซึ่งนั่งอยู่บนวีลแชร์กลับค่อยๆ เงยหน้าเหลือบมองเธอ และทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน

สิ่งเ๮๧่า๞ั้๞ช่างแปลกประหลาด แต่ก็ตามสบาย ซูอินไม่พูดอะไร เธอหันไปสนใจหยางอวี้หลานที่กำลังยุ่งอยู่ในครัว

“ดึกขนาดนี้แล้ว พวกคุณยังไม่กินข้าวหรือคะ”

เธอถามแค่นั้น หญิงชราที่นั่งอยู่บนโซฟากลับมีสีหน้าเปลี่ยนไป

“นั่นไม่ใช่เพราะมีคนกลับดึกหรือ ทำให้คนแก่ต้องรอกินข้าว”

หยางอวี้หลานยกหมั่นโถวที่นึ่งแล้วออกมาจากในครัว ได้ยินคำพูดนั้นก็จนหนทาง “แม่คะ ที่โรงพยาบาลเกิดเ๹ื่๪๫ หนูต้องเข้าเวร หนูเองก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนกลางวันก่อนจะออกไป หนูก็บอกแล้วไม่ใช่หรือคะว่ามีอาหารอยู่ในหม้อ หากพวกคุณหิวก็กินรองท้องไปก่อน”

ร่องแก้มของแม่เฒ่าสวีตกลง ทำให้หล่อนยิ่งดูใจร้าย “ฉันพูดแค่ประโยคเดียว แต่เธอรัวออกมาอย่างกับปืนกล แค่นี้ฉันก็รู้แล้วว่าพวกเธอ๻้๵๹๠า๱ทอดทิ้งคนแก่อย่างฉัน!”

“แม่คะ นี่แม่พูดอะไร”

แม่เฒ่าสวีเริ่มร้องห่มร้องไห้ “แก่แล้ว ไม่มีประโยชน์แล้ว มีแต่สร้างเ๱ื่๵๹เดือดร้อนให้คนอื่น ฉันตายไปจะดีกว่า”

นี่มันอะไรเนี่ย

ซูอินมองสถานการณ์ในห้องรับแขกที่เกิดขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เธอได้แต่ตกตะลึง

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้