ใบหน้างดงามเผยให้เห็นอาการขวยเขินแก้มนวลแดงระเรื่อ หลินเมิ้งหยาจึงหยุดแกล้งว่าที่พี่สะใภ้ของตนเอง
สายตาของหูลู่หนานพลันหันมาจ้องมองเรือนร่างของตนเอง
มิมีใครพูดเื่งานดูตัวในวันนั้นอีกทว่าหัวใจของหลินเมิ้งหยายังคงรู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อย
หูลู่หนานมิเหมือนคนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้น แม้ฮูหยินเยว่จะถูกนางหยุดเอาไว้ได้ทว่าฮูหยินเยว่กลับยังไม่ตัดใจ
หากนางบีบบังคับพี่เยว่ถิงไปแต่งงานกับองค์ชายรองแห่งซีฟานอีกครั้งเกรงว่าหลินเมิ้งหยาจะไร้ซึ่งหนทางช่วยเหลือ
“ข้าเขียนจดหมายถึงพี่ชายแล้วหวังว่าเขาจะกลับมาเร็ว ๆ นี้”
หลินเมิ้งหยากระซิบเสียงเบาขณะเดียวกัน สีหน้าของเยว่ถิงยิ่งแดงก่ำ
“เ้านี่หนาแซวข้าอยู่เรื่อย หรือเ้าไม่รู้ว่าตัวเองก็กลายเป็คนดังของต้าจิ้นไปแล้ว?”
เม้มปากแอบหัวเราะแต่ถึงกระนั้นมุมปากที่หยักขึ้นทำให้รู้ได้ว่านางกำลังยิ้ม
เด็กคนนี้นี่หนาอย่าคิดว่านางจะไม่รู้เื่ของนางกับท่านอ๋องเมื่อคืนตอนนี้เื่นั้นกลายเป็ข่าวดังของต้าจิ้นไปแล้ว
ใครจะรู้เล่าว่าองค์ชายผู้แสนเ็าแห่งต้าจิ้นหลังจากแต่งงานแล้วจะรักและเอ็นดูชายาของตนเองขนาดนี้
หลินเมิ้งหยาแม้จะโง่แต่กลับเป็คนโง่ที่มีความสุขมาก เื่ดี ๆ มักเกิดขึ้นกับนางเสมอ
“ยังมีข่าวอะไรอีกหรือข้าจำได้ว่าข้ากลายเป็คนดังั้แ่แต่งงานกับท่านอ๋องแล้วนี่นา อีกอย่างไม่มีใครล่วงรู้ความรู้สึกที่แท้จริงที่ท่านอ๋องมีต่อข้าหรอก”
เยว่ถิงคิดอยากแกล้งแซวหลินเมิ้งหยาให้อาบม้วนแต่กลับสังเกตเห็นสายตาอิจฉาริษยาที่กำลังจ้องมองมา
เลิกคิ้วขึ้นมองเห็นสายตาของหลินเมิ้งหวู่ที่กำลังจับจ้องมองมา
นับั้แ่วันที่หลินเมิ้งหวู่คลอดออกมานางและแม่ของนางพร้อมที่จะแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากหลินเมิ้งหยา
ของที่เยว่ถิงส่งมอบให้หลินเมิ้งหยาเป็พิเศษมักจะถูกผู้หญิงคนนี้แย่งไปเสมอ
ดังนั้นเยว่ถิงจึงมิได้รู้สึกยินดียินร้ายกับเด็กคนนี้เสียเท่าไร
“ใช่แล้วความรู้สึกที่ท่านอ๋องมีต่อเ้า ใช่ว่าใครก็ได้จะได้รับมัน”
เยว่ถิงเป็คุณหนูที่ถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างดีเื่บางเื่นางก็มิอาจเอ่ยออกมาได้
ทว่าหลินเมิ้งหยามิใช่คนที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัดดังนั้นน้ำเสียงจึงไร้ซึ่งความเกรงใจ
“คนบางคนมักใหญ่ใฝ่สูงคิดจะแย่งชิงของที่ไม่ใช่ของตนเอง น่ารังเกียจจริง ๆ”
คำพูดของหลินเมิ้งหยาทำให้สีหน้าของหลินเมิ้งหวู่เปลี่ยนไป
หลังจากสูดลมหายใจลึกๆ หลินเมิ้งหวู่หันหน้ากลับ
วันนี้เป็วันที่แปลกประหลาดเหลือเกินโดยเฉพาะหลินเมิ้งหวู่ แม้จะถูกหลินเมิ้งหยายั่วยุซึ่งหน้า แต่นางกลับไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวแต่กลับหันหน้าไปมองการแข่งขันต่อท่าทีสงบนิ่งของนางทำให้หลินเมิ้งหยารู้สึกแปลกใจ
แปลกจริงเหตุใดวันนี้คุณหนูรองจึงไม่พูดตอบโต้?
เหล่าสาวใช้รู้สึกแปลกใจทั้งที่ตอนอยู่ในจวน หลินเมิ้งหวู่มิเคยเชื่อฟังคำพูดของใครเลย
เยว่ฉีมองทางหลินเมิ้งหวู่และหลินเมิ้งหยาด้วยสีหน้าประหลาดใจทั้งสองคนเป็พี่น้องกัน แต่เหตุใดจึงมองไม่เห็นสายสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องเลย
“พี่หลินเหตุใดท่านกับหลินเมิ้งหวู่จึงต่างกันนัก?”
แอบกระตุกชายเสื้อของหลินเมิ้งหยาเยว่ฉีเป็เด็กสาวไร้เดียงสา
ลูกสาวทั้งสองของสกุลเยว่ล้วนมีกิริยามารยาทงดงามอีกทั้งยังว่านอนสอนง่าย
กอปรกับแม่ของพวกนางเป็คนเด็ดขาดดังนั้นพวกนางจึงไม่เคยมีประสบการณ์ดังเช่นหลินเมิ้งหยา
“ไม่ได้มีแม่คนเดียวกันดังนั้นจึงไม่เหมือนกัน”
แม่ของหลินเมิ้งหยาอ่อนโยนและใจเย็นแม้จะอาศัยในจวนเพียง่เวลาสั้น ๆ ทว่าคนรับใช้ล้วนชื่นชมนางทั้งสิ้น
ไม่เหมือนซ่างกวนชิงนางรู้จักเพียงวิธีตบตีทรมานผู้อื่นเท่านั้น แม้แต่ความสงสารก็ไม่มีให้
อย่าว่าแต่คนอื่นเลยขนาดนางที่เป็ลูกเลี้ยงยังถูกนางทำร้ายจนเกือบตาย
ดังนั้นนางจะเหมือนแม่เลี้ยงของนางได้อย่างไร?
“ก็จริงข้าคิดว่าพี่หลินสวยกว่านางมาก”
แม้จะมีพ่อคนเดียวกันทว่าหลินเมิ้งหยาและหลินเมิ้งหวู่กลับมีความสวยงามไม่เหมือนกัน
คนหนึ่งทั้งสวยและสง่างาม
อีกคนเพียงแค่มีโครงหน้าที่งดงามชวนมองเท่านั้น
เยว่ฉีหันซ้ายหันขวามองใบหน้าของทั้งคู่นางมั่นใจว่าหลินเมิ้งหยาเหมือนกับท่านลุงหลินมาก
หลินเมิ้งหวู่ที่ได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่กำมือแน่นสายตาจับจ้องมองทางกระดานคะแนน
แม้จะโกรธเกรี้ยวเป็อย่างมากแต่เพราะฮองเฮารับสั่งกับนางด้วยตนเองว่าจะต้องมาเข้าร่วมงานล่าสัตว์ในครั้งนี้อีกทั้งยังต้องคิดหาวิธีดึงดูดความสนใจจากองค์ชายรัชทายาทจากซีฟานให้ได้
มิเช่นนั้นนางคงไม่มีทางมาที่แบบนี้หรอก
“ท่านแม่พวกนาง...”
หมุนตัวหลินเมิ้งหวู่เดินเข้าไปหาซ่างกวนชิงที่กำลังดูการแข่งขันเมื่อเทียบกับลูกสาวที่กำลังหมดความอดทนแล้ว ซ่างกวนชิงสงบนิ่งกว่ามาก
มองดูการแข่งขันตรงหน้านิ่งประหนึ่งคนหูหนวก
“หวู่เอ๋อร์เ้าเหมือนกับพวกนางอย่างนั้นหรือ?”
น้ำเสียงยังคงเย่อหยิ่งเสมอต้นเสมอปลายในสายตาของซ่างกวนชิง พวกนางทั้งสามคนเป็เพียงเศษขยะเท่านั้น
มิอาจเทียบได้กับลูกสาวของตนเองสายเืบริสุทธิ์ สง่างามและชาญฉลาด
“ก็จริงเ้าค่ะข้าไม่เหมือนกับพวกนาง”
แม้หลินเมิ้งหวู่จะอยากตอบโต้กลับแต่ถ้าครั้งนี้นางยังทำงานพลาด เกรงว่าฮองเฮาจะไม่มีทางให้โอกาสนางอีก
“เ้าวางใจเถิดเสด็จป้าของเ้าพูดกับข้าแล้วคราวนี้จะทำให้เ้ากลายเป็ชายาขององค์ชายรัชทายาทให้ได้ เ้าจะต้องจะเอาไว้ใช่ว่าใครจะขึ้นเป็ชายาขององค์ชายรัชทายาทได้ อีกอย่างองค์ชายรัชทายาทผู้นั้นยังหล่อเหลา สง่างาม มีสายเืบริสุทธิ์ของชนชั้นสูงเหมาะสมกับเ้ายิ่งนัก”
คิดไม่ถึงเลยว่าเพราะการปฏิเสธของหลินเมิ้งหวู่คราวที่แล้วจะทำให้สาวใช้ของหลินเมิ้งหยาแย่งชิงตำแหน่งนั้นไป
สามีที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ใครไม่เอาก็โง่แล้ว
ดังนั้นเมื่อฮองเฮาเอ่ยว่าจะให้โอกาสกับหลินเมิ้งหวู่อีกครั้ง ทั้งสองจึงยอมรับมัน
ทว่าหลินเมิ้งหวู่ต้องออกแรงมากพอสมควรเพื่อดึงดูดความสนใจขององค์ชาย
“ท่านแม่องค์ชายคนนั้นจะพึงใจในตัวข้าจริงหรือ?”
การแสดงของหลินเมิ้งหวู่ในงานเลี้ยงคราวแล้วสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของนางเอาไว้
อีกทั้งยังตบตีกับชายารองจนใบหน้าบวมเปล่งยิ่งไปกว่านั้นนางทำให้ตนเองต้องขายหน้าระหว่างแสดงเต้นรำ
แม้แต่คนหน้านาเช่นนางยังอดไม่ได้ที่หน้าแดงก่ำ
หากถูกองค์ชายรัชทายาทแห่งซีฟานรังเกียจเพราะเื่เ่าั้นางยอมตายเสียดีกว่า
“วางใจเถิดฮองเฮาเผยสถานะของเ้าให้ฮ่องเต้ิรับรู้แล้ว ดังนั้นขอเพียงเ้าแสดงตัวเื่ราวจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน”
ซ่างกวนชิงจะต้องทำให้เขามาเป็ลูกเขยให้ได้ดังนั้น น้ำเสียงจึงค่อนข้างมั่นใจ
หลินเมิ้งหวู่หันมองทางชายที่กำลังควบม้าหัวใจกระตุกระรัว
หากนางได้ขึ้นเป็ชายาแห่งซีฟานก็ถือว่าไม่เลว
คะแนนถูกประกาศออกมาอย่างต่อเนื่องผลคะแนนที่ออกมาใน่เช้าสูงลิ่ว
หลินเมิ้งหยาและสาวใช้นั่งอยู่บนเก้าอี้มองดูสัตว์ที่ถูกกองพะรเนินเทินทึก รู้สึกสนใจเล็กน้อย
สัตว์เ่าั้ส่วนใหญ่เป็เพียงไก่ฟ้าและกระต่ายพ่อครัวจากวังหลวงนำสัตว์เ่าั้ไปล้างจนสะอาดก่อนจะนำไปทำอาหารกลางวันอันแสนโอชะ
แม้หลินเมิ้งหยาจะไม่เห็นด้วยกันการฆ่าสัตว์แต่ก็ถูกบรรยากาศคึกครื้นนำพาจนเกิดอารมณ์ร่วม
เหล่าชายหนุ่มเพียรพยายามแสดงความสามารถของตนเองออกมา
แม้แต่หลงเทียนหยู๋ที่มีใบหน้าเ็าเองก็ถูกการแข่งขันของพวกผู้ชายทำให้ต้องแสดงความสามารถของตนเองออกมา
เวลาใน่เข้าหลงเทียนหยู๋จับสัตว์ได้เป็จำนวนมาก ทว่าสัตว์ที่เขาได้มาล้วนยังมีชีวิตไม่เหมือนสัตว์ของผู้อื่นที่ถูกยิงจนตาย
เขาผูกตาข่ายไว้กับธนูดังนั้นสัตว์ที่ถูกจับได้จึงยังมีชีวิตอยู่
เพราะฉะนั้นคะแนนของเขาจึงติดอันดับหนึ่งในสามของผู้มีคะแนนสูงสุด
“ท่านอ๋องของพวกเราทั้งกล้าหาญและหล่อเหลาว่าไหมเ้าคะนายหญิง”
ป๋ายซ่าวแอบหัวเราะคิกคักซุกซนเอ่ยแถวพระชายาหลายวันมานี้นางดูออกว่าพระชายาและท่านอ๋องเข้ากันได้ดี ราวกับเป็คน ๆ เดียวกัน
หากมิใช่เพราะได้เห็นกับตาตัวเองคงไม่มีใครเชื่อหรอกว่า ท่านอ๋องผู้มักจะแสดงสีหน้าเ็าดุจน้ำแข็งจะอ่อนโยนเมื่ออยู่ต่อหน้าพระชายา
“เ้านี่หนาป๋ายจื่อ รีบไปหยิบขนมมาอุดปากนางเอาไว้”
ใบหน้าของหลินเมิ้งหยาร้อนผ่าว
แต่เมื่อนึกได้ว่าสุดท้ายแล้วผู้ชายที่เพียบพร้อมคนนี้มิใช่ของนางมุมปากพลันกระตุกยิ้มขมขื่น
ช่างเถิดจะคิดมากทำไมกัน
“พวกเขามาแล้วพวกเราไปดูกันเถอะ”
เยว่ฉีที่จับจ้องมองทางป่าหนาทึบตลอดเวลาร้องบอกเสียงดัง
หลินเมิ้งหยารีบหันหน้าไปจนกระทั่งได้เห็นร่างสูงยาวพุ่งออกมาด้านหน้าสุดหัวใจของนางรู้สึกอบอุ่นอ่อนหวานอย่างบอกไม่ถูก
เขามักจะโดดเด่นเสมอมิต่างอะไรจากสายฟ้าที่ทุกคนพร้อมที่จะร้องะโขานชื่อของเขา
นี่คือความสามารถพิเศษของหลงเทียนหยู๋ไม่ว่าใครก็มิอาจปฏิเสธได้ อีกทั้งยังมิมีใครเก่งกาจเท่า
พริบตาเดียวหลงเทียนหยู๋ควบม้ารวดเร็วราวกับกำลังบิน ก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าหลินเมิ้งหยา
ทิ้งสัตว์ที่ถืออยู่ในมือลงะโลงจากหลังม้า ใบหน้าท่าทางหล่อเหลาทำให้หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะหลงใหล
หลินเมิ้งหยายิ้มก่อนจะเข้าไปต้อนรับ
“ท่านอ๋องเหนื่อยไหมเพคะ?”
เอ่ยถามด้วยความใส่ใจเสมือนคู่สามีภรรยาที่รักใครกันดี
แม้จะมีเหงื่อหยาดเหงื่อโทรมกายทว่ากลับส่ายหน้า มือหน้าโบกสะบัด หลินขุ๋ยรีบน้ำกรงเล็กกรงหนึ่งมายื่นให้
ในกรงเล็กกรงนั้นมีสัตว์ตัวเล็กสีขาวนอนขดตัวอยู่
หลินเมิ้งหยามองสำรวจที่แท้มันคือลูกสุนัข
“นี่คือสุนัขพันธุ์ไหนหรือ?”
ลูกสุนัขตัวนี้เพิ่งจะถูกคลอดออกมาได้เพียงไม่นานแม้แต่เสียงร้องยังน่ารัก
“มันคือหมาป่า”
นับั้แ่วินาทีแรกที่ได้เห็นหมาป่าน้อยตัวนี้มิรู้ว่าทำไม หลงเทียนหยู๋จึงรู้สึกคุ้นเคยกับมันนัก
พ่อแม่หมาป่าถูกฆ่าตายเพราะการล่าสัตว์ในคราวนี้ดังนั้นจึงเหลือมันเพียงตัวเดียว
ขณะที่กำลังแก่งแย่งลูกหมาป่าตัวน้อยนี่หลงเทียนหยู๋แสดงความสามารถของตนเองออกมาเต็มที่
เหตุเพราะดวงตาใสซื่อของลูกสุนัขตัวนี้คล้ายคลึงกับดวงตาของใครบางคนในจวนของเขามิมีผิด
เขาจึงนำมันกลับมามอบให้หลินเมิ้งหยา
ผลปรากฏว่านางชอบมาก
“หมาป่า?ทำไมหมาป่าน่ารักมากขนาดนี้กันนะ”
หลินเมิ้งหยานำลูกหมาป่าออกมาอุ้มแม้สัตว์จะดุร้ายมากสักเพียงไหน ทว่าเมื่อพวกมันยังเล็ก พวกมันกลับน่ารักมาก
