เวลานี้พลันมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น ดวงตาของเซินสือเย่เบิ่งกว้างอย่างฉับพลันเขาฝืนกล่าวออกมา “คน คนของนาง กำลังบุกเข้ามา เ้า เ้าซ่อนข้าไว้ก็พอแล้ว”
เจตนาของเขาคือไม่ได้้าเพิ่มความลำบากให้กงอี่โม่เขาคิดจะขอซ่อนตัวเพียงคืนนี้ วันพรุ่งนี้เขาจะเข้าไปในวัง เขาเชื่อว่าสตรีนางนั้นต้องไม่กล้าบุกเข้ามาในวังอย่างแน่นอน!
เวลานี้กงอี่โม่พลันคิดได้ว่าชาติที่แล้วเซินสือเย่เสียชีวิตอย่างไรว่ากันว่าเขาาเ็ไปทั้งร่าง เขาไปเคาะประตูวังั้แ่เช้าขณะที่หมอหลวงกำลังรักษาเขาอยู่นั้น บิดาของเขากลับพาคนบุกเข้ามาก่อนที่จะบุกเข้ามานั้น ผิงอ๋องได้ไปกราบทูลฮ่องเต้แล้วเขากล่าวว่าลูกทรพีของเขาถือโอกาสตอนเมาขืนใจบุตรสาวตระกูลหลี่ที่อยู่จวนข้างๆทำให้นางฆ่าตัวตายั้แ่เช้าตรู่ ส่วนเขาก็ถูกคนอื่นทุบตีจนาเ็สาหัสคาดไม่ถึงว่าสุดท้ายจะเข้ามาซ่อนตัวในวังเช่นนี้
กอปรกับตระกูลหลี่เข้ามาร้องเรียนด้วยน้ำเสียงเ็ปฮ่องเต้กริ้วจัดจึงสั่งให้ผิงอ๋องมาคุมตัวบุตรชายของตนไปที่คุกแล้วให้รอรับการลงโทษ
ทว่าขณะที่เซินสือเย่ผู้น่าสงสารกำลังเดินทางไปที่คุกนั้นเนื่องจากการรักษาไม่ได้ผล เขาจึงเสียชีวิตระหว่างทาง
สิบปีต่อมา ตระกูลหลี่กระทำผิดจึงถูกเนรเทศเขาไปขอความช่วยเหลือที่จวนผิงอ๋อง ทว่าผิงอ๋องปฏิเสธการช่วยเหลือตระกูลหลี่โกรธจัด เขาจึงเปิดโปงเหตุการณ์ในอดีต...ผิงอ๋องเฟยทำร้ายซื่อจื่อาเ็สาหัสจนเสียชีวิต
เมื่อย้อนคิดในตอนนี้ เกรงว่าผิงอ๋องจะไม่อาจปฏิเสธความเกี่ยวข้อง! ตอนนั้นเซินสือเย่มีาแเต็มร่างต้องเกิดจากการลงมือโหดของผิงอ๋องเฟยในคืนก่อนหน้าอย่างแน่นอน! ทว่าวันถัดมาผิงอ๋องไม่สนใจสิ่งใดเขากลับจับตัวเซินสือเย่ตามคำกล่าวหาของตระกูลหลี่เห็นได้ชัดว่าเขา้าอำพรางความจริงให้กับภรรยาของเขาผู้นั้น!
ส่วนสุดท้ายที่กล่าวว่าการรักษาไม่ได้ผลจนเสียชีวิต!
ว่ากันว่าพยัคฆ์ร้ายไม่กินลูกของตนดูเหมือนว่าผิงอ๋องจะไม่ธรรมดาจริงๆ!
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เซินสือเย่จึงร้อนใจมาก! เขาเห็นกงอี่โม่ไม่ขยับตัว คิดว่านางกำลังลำบากใจ ใช่! ตอนนี้นางเป็เพียงสามัญชนคนหนึ่งแล้วนางจะช่วยเขาต่อกรกับจวนผิงอ๋องได้อย่างไร?
ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นยืน ขณะที่กำลังกล่าวว่าเดี๋ยวเขาจะหนีออกไปเองนั้นเขากลับรู้สึกอยากอาเจียนเพราะได้กลิ่นคาวเืบนร่างของตนสีหน้าของเขาจึงซีดขาวยิ่งกว่าเดิม!
น่าหงุดหงิดจริงๆ ไม่มีใครช่วยเขาได้เลยจริงๆ หรือ?
เวลานี้กงอี่โม่ขยับตัวแล้ว นางอุ้มเซินสือเย่ขึ้นมาจากนั้นจึงแตะปลายเท้าะโตัวลอยข้ามหลังคาขึ้นไป้านางมุ่งหน้าไปทางทิศหนึ่งอย่างรวดเร็ว
“เ้าจะพาข้าไปไหน?”
เซินสือเย่นิ่งงัน จากนั้นจึงร้อนใจมาก เขาเ็ปไปทั้งร่างแล้วเขายังกลัวเืจนแทบเป็ลม แต่เพราะความอดทนของเขาเขาจึงกัดฟันมุ่งหน้ามาถึงที่นี่!
กงอี่โม่หยุดร่างอยู่ใต้หลังคาบ้านแบบจีนที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งลับตาแห่งหนึ่งจากนั้นจึงวางตัวเขาลง เมื่อเห็นแนวคบไฟที่อยู่เป็แถวด้านล่างดวงตาของนางจึงเป็ประกาย จากนั้นจึงหยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากช่องว่างมิติเวลา
ฮ่องเต้พระราชทานรางวัลดีๆ มากมายให้นางทว่าสิ่งที่ถูกนางเก็บไว้ในช่องว่างมิติเวลาล้วนเป็ของชั้นเลิศในบรรดาของดีๆทั้งหลาย! นี่คือยาหุยชุนเป็สิ่งล้ำค่าของแคว้นเล็กๆ แคว้นหนึ่งที่อยู่สุดแดนทักษิณขอแค่ยังมีลมหายใจสุดท้าย ไม่ว่าอย่างไรยานี้ก็สามารถรักษาจนหายดี!
เมื่อเซินสือเย่ทานไปแล้ว เขารู้สึกร้อนไปทั้งร่างความรู้สึกวิงเวียนอยากอาเจียนก็หายไป เพียงแต่ตอนนี้เขามีาแภายนอกเขาจึงยังคงไร้เรี่ยวแรง
“เ้าคิดจะพาข้าไปที่ไหน?” เขาถามเสียงต่ำ ครั้งนี้เขาดูมีเรี่ยวแรงมากขึ้นเล็กน้อยทว่าดวงตาที่เคยเป็ประกายกลับดูหม่นหมอง ริมฝีปากก็ซีดขาว
“ก็ต้องไปจวนผิงอ๋องน่ะสิ!” กงอี่โม่มองไปยังทิศหนึ่งโดยไม่มีการหันหน้ากลับมาน้ำเสียงไม่ได้แสดงความรู้สึกชัดเจน
เซินสือเย่ใ!
“เ้าบ้าไปแล้วหรือ?! เ้า เ้ารู้ไหม? ข้าต้องสละคนไปมากเท่าไรกว่าจะหนีออกมาได้?”
กงอี่โม่เหลือบมองเขาชั่วครู่ น้ำเสียงเคร่งขรึม
“ท่านไม่อยากรู้หรือว่าเพราะเหตุใดเมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้แต่กลับไม่มีใครเข้ามาห้ามปราม? แล้วย่าของท่านก็รักท่านขนาดนี้ทว่าคืนนี้กลับไม่ปรากฏตัวแม้แต่น้อย ท่าน ท่านไม่เป็ห่วงนางหรือ?”
กงอี่โม่รู้ดี ชาติที่แล้วเมื่อเซินสือเย่เสียชีวิตไปแล้วท่านย่าของเขาก็เสียชีวิตตามไปในเวลาไม่นานด้วยสาเหตุ ‘ตรอมใจมากเกินไป’
เมื่อคิดถึงท่านย่าที่แก่ชราผมขาวโพลน เซินสือเย่พลันหมดคำพูดเวลานี้กงอี่โม่กลับคลี่ยิ้มอย่างสวยงาม
ทั้งๆ ที่ใบหน้าด้านข้างของนางยังคงอ่อนเยาว์ไร้เดียงสาทว่าท่ามกลางแสงจันทร์ รอยยิ้มของนางกลับมีสีสันอย่างน่าประหลาด! เป็ความงดงามที่สะดุดตายิ่งกว่าพระจันทร์เต็มดวงเื้ัของนางเสียอีก
กระบี่เล่มหนึ่งเคลื่อนออกมาจากชายแขนเสื้อของกงอี่โม่นางตวัดกระบี่ มองไปทางจวนผิงอ๋องพร้อมยิ้มอย่างเ้าเล่ห์
“แล้ว... ท่านบอกว่านางกำลัง ‘บุกเข้ามา’ ไม่ใช่หรือ?”
นางคลี่ยิ้มอวดฟันขาวสะอาด ราวกับจิ้งจอกเ้าเล่ห์เลยทีเดียว
“ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมพวกเราจึงไม่......ลุยกลับไปล่ะ?”
——
“ทูลผิงอ๋องเฟย เมืองบูรพาหาไม่เจอ!”
“ไอ้พวกไร้ประโยชน์! จับคนาเ็ไม่ได้แล้วจะกลับมาทำไม? ทำไมยังไม่ไสหัวออกไปตามหาอีก!” มีคนคนหนึ่งคุกเข่าอยู่กับพื้นทว่าสตรีที่นั่งอยู่้ากลับทำหน้าบิดเบี้ยว!
คนผู้นั้นรีบถอยออกไปทว่าแม่นมชราผู้หนึ่งกลับเดินเข้าไปหาอย่างระมัดระวัง “อ๋องเฟยอย่าเพิ่งโกรธท่านอ๋องกล่าวว่าหากเขาหนีไปได้จริงๆ ก็ไม่ต้องกังวล ท่านอ๋องยังมีแผนอื่นสุดท้ายต้องทำให้สัตว์เดรัจฉานตัวนั้นตายไปอย่างแน่นอน!”
คำพูดของนางทำให้ใบหน้าของผิงอ๋องเฟยดีขึ้นเล็กน้อย นางเอ่ยถาม“แล้วท่านอ๋องล่ะ?”
“ท่านอ๋องไปปรึกษากับจวนตระกูลหลี่ที่อยู่ติดกันเพื่อเตรียมแผนสำรองอีกไม่นานน่าจะกลับมา” แม่นมกล่าว
ผิงอ๋องเฟยสบถหนึ่งคำ ท่ามกลางแสงไฟใบหน้าที่เคยงดงามกลับดูน่ากลัวยิ่งนัก เมื่อคิดว่านางใช้คนจำนวนมากแต่กลับตามจับไอ้คนไร้ประโยชน์หนึ่งคนไม่สำเร็จ! นางไม่มีทางยอมกลืนความโกรธเช่นนี้ลงไปได้เลย!
“หึ อย่าให้ข้าจับได้ล่ะ มิฉะนั้น”
“มิฉะนั้น... มิฉะนั้นอะไรหรือ?”
เสียงเสนาะหูเสียงหนึ่งพลันดังขึ้นจากภายนอก เมื่อฟังดูแล้วกลับเป็เสียงของสาวน้อยคนหนึ่ง
ผิงอ๋องเฟยใจนใบหน้าถอดสี นางรีบพาคนเดินออกไปดู
“ท่านก็รอดูอยู่ที่นี่ล่ะดูว่าข้าจะช่วยทวงคืนความยุติธรรมให้ท่านอย่างไร!” กงอี่โม่วางเซินสือเย่ซ่อนไว้ด้านในูเาจำลองนางเลิกคิ้วคลี่ยิ้ม
เซินสือเย่ตะลึงมาตลอดทางทำไมเขาจึงกลับมาที่นี่ได้อย่างงุนงงเช่นนี้ล่ะ?
เมื่อได้ยินคำพูดของนางแล้ว เขาพลันทำสีหน้าแปลกประหลาด “ไม่ดู ข้ากลัวเื!”
นับั้แ่เสด็จแม่ของเขาสวมชุดนางงิ้วร้อง‘ฉ้อปาอ๋องอำลาสนมอวี๋จี’ จนสุดท้ายปาดคอเสียชีวิตต่อหน้าของเขาแล้ว ทุกครั้งที่เห็นเืกระเซ็นเขาจะรู้สึกหวาดกลัวอยากอาเจียน หรือแม้กระทั่งวิงเวียนจนหมดสติไป! มี์เท่านั้นที่รู้ว่าตลอดทางที่ผ่านมาเขาต้องกัดปลายลิ้นนับครั้งไม่ถ้วนก็เพื่อฝืนตัวเองหนีออกมาท่ามกลางการปกป้องจากผู้อื่น
กงอี่โม่กลอกตาใส่ ทว่าทางด้านผิงอ๋องเฟย นางพาทหารออกมาแล้ว
“ไม่ดูก็ต้องดู! มิฉะนั้นข้าจะควักลูกตาท่าน!”
เมื่อกล่าวเสียงโหดแล้ว นางจึงะโตัวลอยออกไปนอกูเาจำลอง
อ๋องเฟยออกมาด้วยท่าทางดุดัน ทว่าเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็ใครแล้วใบหน้าของนางจึงบิดเบี้ยวมากยิ่งขึ้น!
“กงอี่โม่? ทำไมเ้าจึงอยู่ที่นี่? หรือว่าไอ้ลูกทรพีคนนั้นซ่อนตัวอยู่กับเ้า?!” นางเคยเจอกงอี่โม่มาก่อนและนางก็เคยเข้าไปประจบโดยการกล่าวชื่นชมอีกฝ่ายจากนั้นจึงมีการดูแลกงอี่โม่ตลอดงานเลี้ยงกลางคืนในครั้งนั้น ทว่าแล้วอย่างไรล่ะ? ตอนนี้กงอี่โม่เป็เพียงสามัญชนเท่านั้น!
“ดูเหมือนว่าเ้ายังไม่เจียมตัวนะเ้ารู้ไหมว่าการบุกรุกจวนท่านอ๋องมีโทษปะาชีวิต!”
กงอี่โม่มองอีกฝ่ายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเื้ัของอีกฝ่ายยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่เตรียมปกป้อง ทว่ามีจำนวนไม่มากก็แค่สิบกว่าคนเท่านั้น นางสามารถจัดการได้ภายในเวลาไม่นาน
“ท่านรู้หรือไม่ว่าเวลามีการจับตัวประกันหากตัวประกันเห็นใบหน้าโจรแล้วจะถูกจัดการอย่างไร?” นางกระชับกระบี่ในมือ เลิกคิ้วมองอีกฝ่าย
นางเอ่ยปากราวกับกำลังตั้งคำถามที่ไม่สำคัญ
ทว่าใบหน้าของอีกฝ่ายกลับตะลึงงันในชั่วพริบตากงอี่โม่ลูบใบหน้าของตนพร้อมถอนหายใจ
“ก็ไม่มีหนทางอื่นเพราะท่านเห็นใบหน้าของข้าแล้ว ข้าก็เลยทำได้เพียง......ฆ่าปิดปาก
!
”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้