รุ่งเช้าในตลาดที่เคยคึกคัก บัดนี้กลับเงียบงันกว่าทุกวัน พ่อค้าแม่ค้าหลายคนหายไป บางแผงถูกทุบพัง บางแผงมีรอยไหม้ เหมือนเกิดเหตุวุ่นวายตลอดคืนก่อน
ลี่ฮวาเอ๋อร์นั่งนิ่งอยู่หลังร้าน ไม่ได้ตั้งเตาหมูปิ้งเช่นเคย
เย่หลิงเดินเข้ามาด้วยใบหน้าตึงเครียด “มีข่าวจากสายลับในพรรคเงามาร…พวกมันรู้แล้วว่าตำราอยู่ที่เ้า และกำลังส่งจอมยุทธ์ระดับ ‘เงาโลหิต’ มาด้วยตัวเอง”
“เงาโลหิต?” เซียวเหวินหลงที่กำลังลับกระบี่อยู่เงยหน้าขึ้น สีหน้าเคร่งขรึมทันที “คนนั้นมัน...เคยสังหารอาจารย์ข้าในพริบตาเดียว!”
ฮวาเอ๋อร์เบิกตากว้าง รู้สึกเหมือนเืในกายเย็นเฉียบ “แปลว่า...ข้าไม่มีทางสู้ได้เลย”
“ไม่มี” เย่หลิงพูดตรง ๆ “แต่มันยังมีทางหนี”
เซียวเหวินหลงวางกระบี่ลง “ต้องรีบออกจากตลาดนี้ภายในคืนนี้ ใช้เส้นทางลับของพ่อค้าชายแดนที่จะขนเกลือออกทางทิศตะวันตก”
ลี่ฮวาเอ๋อร์นิ่งไปนาน ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วเปิดลังไม้ใต้แผงหมูปิ้ง ภายในคือห่อผ้ากลิ่นควันถ่านอ่อน ๆ และสมุดตำราที่ถูกพันด้วยหนังสัตว์อย่างแ่า
“ข้าจะไป…แต่ข้าจะไม่ทิ้งสิ่งนี้ไว้ที่นี่แน่นอน”
ในขณะที่พวกเขาเตรียมของอยู่นั้น เสียงฝีเท้าเร่งร้อนดังใกล้เข้ามา
“เ้าหน้าที่เมืองมาแล้ว!” เด็กยามวิ่งมาบอก
แต่เซียวเหวินหลงกลับขมวดคิ้ว “ไม่ใช่พวกเ้าหน้าที่…จังหวะเดินแบบนั้นคือ...ยอดฝีมือยุทธภพ”
เสียงฝีเท้าหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้นจากหน้าร้าน
“ลี่ฮวาเอ๋อร์...หากไม่ออกมา ข้าจะเผาตลาดนี้จนไม่เหลือเศษหมูแม้แต่ชิ้นเดียว!”
เสียงนี้เย็นะเื ราวกับน้ำแข็งพันปี แต่แฝงด้วยแรงกดดันมหาศาล จนกระทั่งแผงหมูปิ้งบางส่วนเริ่มสั่นเองแม้ไม่มีลม
ลี่ฮวาเอ๋อร์หันไปสบตาเซียวเหวินหลงและเย่หลิง
“ไปกันเถอะ…ก่อนที่หมูปิ้งจะกลายเป็เถ้าถ่าน”
ท้องฟ้าถูกเมฆหมอกบดบัง กลิ่นคาวเืแผ่ซ่านมาก่อนที่เงาร่างหนึ่งจะปรากฏ
ชายในชุดดำทั้งตัว สวมหน้ากากครึ่งใบ ดวงตาแดงฉานราวสัตว์ป่า
เขาคือ เงาโลหิต มือสังหารอันดับหนึ่งแห่งพรรคเงามาร
"ข้าให้เวลาสามลมหายใจ" เสียงเขาเย็นเฉียบ
"หากเ้าหญิงแม่ค้าหมูปิ้งยังไม่ออกมา ข้าจะเริ่มจากเด็ก ๆ ในตลาดนี้ก่อน"
ลี่ฮวาเอ๋อร์ที่ซ่อนตัวอยู่หลังร้าน กัดริมฝีปากแน่น
เสียงเด็กวิ่งเล่น เสียงแม่ค้าหัวเราะ เสียงเหล็กกระทบกันของกระทะผัดผัก
เสียงเหล่านี้จะไม่มีอีก หากนางไม่ตัดสินใจเสียที
“เ้าไปก่อน” ลี่ฮวาเอ๋อร์หันไปบอกเซียวเหวินหลง
“พาข้าหนี?” ชายหนุ่มถามกลับ
“เปล่า ข้าจะถ่วงเวลา พวกเ้าต่างหากที่ต้องไปให้ถึงชายแดน แล้วส่งตำราให้คนที่ไว้ใจได้ที่สุด”
เซียวเหวินหลงกัดฟันแน่น “เ้าไม่มีพลังยุทธ์พอจะต้านเขาได้!”
“แต่ข้ามี...หมูปิ้ง” นางหยิบไม้เสียบหมูที่หมักด้วยสูตรใหม่ซึ่งบ่มไว้ร่วมเดือน
กลิ่นหอมฉุนและเปลวปราณค่อย ๆ แทรกผ่านเนื้อหมูอย่างประหลาด
เย่หลิงตาเบิกโพลง “เ้าฝึกสำเร็จแล้ว?!”
ลี่ฮวาเอ๋อร์พยักหน้า “ตำราเพลิงปรุงยุทธบทที่สาม... ‘หมูปิ้งะเิิญญา’”
เสียงของเงาโลหิตดังขึ้นอีกครั้ง “หมดเวลาแล้ว”
ทันใดนั้น ลี่ฮวาเอ๋อร์ถีบแผงลอยหมูปิ้งให้พังเป็ชิ้น ๆ ควันจากเตาเก่าพวยพุ่งขึ้นบดบังสายตาศัตรู
นางพุ่งออกไปด้วยความเร็วเหนือคาด ปามือหมูปิ้งไม้แรกตรงใส่พื้นเบื้องหน้าศัตรู
ตูม!
เสียงะเิเปลวไฟแดงฉานกระจายออกมา เงาโลหิตชะงักเล็กน้อย
“นี่มัน...หมูปิ้งหรืออาวุธลับกันแน่!”
“ข้าเตือนแล้วว่าอย่าดูถูกหมูปิ้ง!” ฮวาเอ๋อร์ะโ แล้วปามือไม้อีกชุดที่ทำให้ฝุ่นตลบไปทั่ว
ใน่ชุลมุน เซียวเหวินหลงกับเย่หลิงฉวยโอกาสพาลี่ฮวาเอ๋อร์หลบออกทางหลังร้าน
เสียงะโของพ่อค้าประปราย
เสียงหมาเห่าจากตรอกข้าง
เสียงฝีเท้าที่เริ่มไล่ล่าจากแนวหลัง
การหนีตายจากตลาด...เพิ่งจะเริ่มต้น
ลี่ฮวาเอ๋อร์ วิ่งพรวดออกจากซอกซอยตลาดเก่า โดยมีเซียวเหวินหลงและเย่หลิงนำทาง ทุกฝีเท้าของพวกเขาเต็มไปด้วยแรงกดดัน เงาโลหิตอาจตามมาทุกเมื่อ!
“เลี้ยวซ้ายตรงหน้า! มีช่องลับหลังโรงเกลือ!” เย่หลิงะโ
ขณะนั้นเอง เสียงกรีดแหลมของแส้พิเศษแหวกอากาศดัง เพี๊ยะ! พุ่งเข้าหาพวกเขา เซียวเหวินหลงเบี่ยงตัวรับไว้ด้วยกระบี่ เกิดประกายไฟแลบผ่านกลางตรอกแคบ
“เร็วเข้า!” เขาะโ
ลี่ฮวาเอ๋อร์หอบหายใจแต่ไม่หยุดวิ่ง มือหนึ่งยังคงกำไม้หมูปิ้งที่เหลือไว้แน่น
เมื่อพวกเขาทะลุเข้าหลังโรงเกลือ ประตูลับถูกเปิดออก เผยให้เห็นอุโมงค์แคบ ๆ ที่มืดสนิท เย่หลิงเป็คนลงไปก่อน เซียวเหวินหลงตาม และลี่ฮวาเอ๋อร์เป็คนปิดฝาไม้ไว้ท้ายสุด
ทันทีที่ฝาปิดลง ความเงียบปกคลุม แต่ไม่ช้าก็ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ้า
เสียงฝาไม้เปิดพรวด…แต่ภายในอุโมงค์ว่างเปล่าแล้ว
พวกเขาวิ่งลึกเข้าไปในอุโมงค์ มุ่งสู่ทางออกที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำสายลับทางตะวันตก
ในขณะที่เงาโลหิตยืนนิ่งอยู่บนพื้นดินเบื้องบน เขาหยิบเส้นไหมเส้นหนึ่งขึ้นมาจากช่องรอยรั่วของฝาไม้
“ตำรานั่น…มันยังอยู่กับนาง” เขากระซิบกับตัวเอง ก่อนหันไปสั่งเงามารอีกสองคน
“รายงานกลับไป...เป้าหมายหลบหนีผ่านอุโมงค์ ส่งคนปิดเส้นทางน้ำทุกสายภายในสามวัน”
---
ด้านในอุโมงค์
“เหลืออีกแค่ห้าลี้...พ้นเขตเมืองเราก็จะปลอดภัย” เย่หลิงกล่าวอย่างไม่แน่ใจนัก
แต่เซียวเหวินหลงยังคงขมวดคิ้ว “เร็วเกินไป...มันเงียบเกินไป”
ทันใดนั้น…พื้นใต้เท้าเริ่มสั่นไหว!
เสียง ครืน…ครืน…! ดังจากด้านหลัง คล้ายมีบางอย่างกำลังวิ่งไล่ตามพวกเขาในความมืด
ลี่ฮวาเอ๋อร์หันกลับไป—แสงสีแดงวาบสะท้อนจากเงาสีดำที่ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว!
“พวกมันตามเข้ามาแล้ว!!”
เสียงฝีเท้าดังสนั่นภายในอุโมงค์มืดมิด เงามืดเคลื่อนใกล้เข้ามาทุกลมหายใจ ลี่ฮวาเอ๋อร์หอบหายใจหนัก ใบหน้าเปื้อนฝุ่นถ่าน แต่ดวงตากลับไม่ยอมแพ้
“เร็วเข้า! อีกไม่ถึงห้าร้อยก้าวจะถึงประตูเหล็ก!” เย่หลิงะโนำ
เซียวเหวินหลงชักกระบี่ออกมาปัดลูกดอกพิษที่พุ่งจากเื้ั “มันยิงจากความมืดได้! ฮวาเอ๋อร์ ระวัง!”
ฟึ่บ!
ลี่ฮวาเอ๋อร์พลิกตัวหลบฉิวเฉียด มือยังคงกำไม้หมูปิ้งที่เหลือไว้สองไม้ แ่าจนเืซึมออกจากฝ่ามือ
“ข้าไม่หนีแล้ว!” นางะโ “พวกเ้าวิ่งต่อไป!”
“อย่าโง่! เ้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใช้พลังภายในแบบใด!” เซียวเหวินหลงตวาด
แต่สายเกินไป…ลี่ฮวาเอ๋อร์หยุดวิ่งแล้วหันกลับ ดวงตาเต็มไปด้วยแรงอาฆาตและความมุ่งมั่น นางกัดฟันแน่นก่อนขว้างหมูปิ้งไม้แรกกลับไปในเงามืดเื้ั!
ตูม!
เปลวไฟะเิเป็เส้นสีทอง พวยพุ่งตัดอุโมงค์ราวกับฟันกระบี่เงียบ
เสียงกรีดร้องดังแว่ว เงาของนักฆ่าหัวแถวพรรคเงามารร่างหนึ่งทรุดลงทันที
“อีกไม้หนึ่ง…” ลี่ฮวาเอ๋อร์พึมพำ พลางขยับท่าร่างตามที่เคยฝึกจากตำรา
“สูตรไม้เสียบฟ้าผ่า...ขออย่าให้ะเิตัวเองเถอะ!”
หมูปิ้งไม้สุดท้ายพุ่งไปข้างหน้า หมุนวนกลางอากาศแล้วเปล่งแสงวาบสว่างทั่วอุโมงค์
ตูม!!!
คลื่นกระแทกทำให้อุโมงค์ส่วนหนึ่งถล่ม เงามารที่เหลือต้องรีบชะงักฝีเท้า หลบไม่ทันก็ถูกหินถล่มทับ
ลี่ฮวาเอ๋อร์ทรุดตัวลงกับพื้น หอบหายใจแรง เหงื่อและน้ำตาผสมกันบนใบหน้า
ขณะที่กำลังจะหมดสติ เซียวเหวินหลงก็หวนกลับมาอุ้มนางไว้
“โง่สิ้นดี...” เขาพึมพำเบา ๆ แต่แขนกลับโอบแน่นยิ่งกว่าครั้งใด
“ข้า...แค่ไม่อยากเสียของ...หมูปิ้งแพงนะ...” ลี่ฮวาเอ๋อร์กระซิบก่อนหลับตาลง
ภายในอุโมงค์ที่เงียบสงัด เสียงหายใจของลี่ฮวาเอ๋อร์ค่อย ๆ เบาลง มือของเซียวเหวินหลงยังกอดร่างนางไว้แน่น เขาทราบดีว่าในขณะนี้ ทุกวินาทีมีความหมาย เพราะเขารู้ว่าพวกศัตรูอาจไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
“หยุดพักก่อน” เย่หลิงหันมาพูดหลังจากตรวจสอบเส้นทางเบื้องหน้า เขามองไปที่เซียวเหวินหลง "พวกเราจะไม่ได้มีเวลาพักอีกนาน"
“แต่นาง...” เซียวเหวินหลงมองลี่ฮวาเอ๋อร์ที่หลับไปในอ้อมแขนของเขา
“ไม่เป็ไรหรอก พักสักครู่พอ” เย่หลิงพูดเสียงเบา "แต่เราต้องไปต่อให้เร็วที่สุด"
แม้จะเหนื่อยล้าและาเ็ แต่ลี่ฮวาเอ๋อร์กลับไม่ยอมให้ตัวเองหลับสนิท นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้น และมองไปที่หน้าของเซียวเหวินหลง
“ข้าทำได้แค่นี้หรือ?” นางพูดเสียงแ่เบา
เซียวเหวินหลงสบตานาง แววตาของเขาผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย "มันเพียงพอแล้ว...ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่มีอะไรที่มากไปกว่านี้"
นางมองไปที่มือของเขาที่ยังคงจับไม้หมูปิ้งไว้อย่างมั่นคง หมูปิ้งไม้แรกที่ใช้ะเิและไม้ที่สองที่ช่วยยับยั้งการไล่ล่ามาได้
“ขอโทษนะ…ข้าทำให้พวกเ้าเดือดร้อน” ลี่ฮวาเอ๋อร์กล่าวเสียงสั่นเครือ
“หยุดพูดเื่นี้” เซียวเหวินหลงตอบกลับในทันที เขาดึงนางเข้าไปในอ้อมกอด “เราทุกคนอยู่ที่นี่ด้วยกัน ไม่ต้องขอโทษ”
เย่หลิงเริ่มเคลื่อนตัวไปข้างหน้า พร้อมบอกให้พวกเขาเตรียมตัว “หากพวกมันบุกมาถึงที่นี่จริง ๆ ทุกคนต้องพร้อมหนีโดยเร็ว”
ลี่ฮวาเอ๋อร์พยักหน้าแล้วลุกขึ้นยืน ขณะที่มือของนางยังกำไม้หมูปิ้งไว้แน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่เคยมีมาก่อน
“ไปกันเถอะ” นางพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
เซียวเหวินหลงพยักหน้าและก้าวเดินไปข้างหน้า ก่อนจะชะงักและหันกลับมามองนาง “ระวังตัวให้ดี อย่าปล่อยให้หมูปิ้งหลุดมือเด็ดขาด”
นางยิ้มเล็กน้อย ก่อนพยักหน้า "จะไม่ปล่อยมืออย่างแน่นอน"
ทั้งสามคนเริ่มเดินลึกเข้าไปในอุโมงค์ พวกเขาต้องออกจากเส้นทางนี้ให้เร็วที่สุด และไปยังจุดหลบซ่อนที่ปลอดภัยกว่า
แต่ในขณะที่พวกเขากำลังจะไปถึงประตูเหล็กที่ปลายทาง เสียงฝีเท้าที่ตามมาด้วยความเร็วสูงดังขึ้นอีกครั้ง—เสียงของคนหลายคนกำลังวิ่งมา
“เร็วเข้า!” เย่หลิงเร่งเสียง ก่อนจะดึงประตูเหล็กขึ้นจากรอยปะทะที่เก่าแก่
แต่ก่อนที่พวกเขาจะผ่านประตูไปได้ เสียงก้าวเท้าหนัก ๆ ก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“หนีไป! อย่าให้พวกมันจับตัวเราได้!” เซียวเหวินหลงะโ
แต่ก็สายเกินไปแล้ว เมื่อเงามืดหนึ่งร่างมาปิดเส้นทางพวกเขาเสียก่อน
ประตูเหล็กใหญ่ถูกเปิดออกทันที เสียงกระดิ่งเบา ๆ ดังก้องในความมืดของอุโมงค์ แต่พวกเขายังไม่ทันได้ข้ามไป เสียงฝีเท้าที่ดังกระหึ่มก็ดังมาจากด้านหลัง
“หยุดไว้!” เสียงหนึ่งที่แข็งกร้าวตามมา ใบหน้าของเงามืดปรากฏขึ้นจากความมืด ข้างกายของเขาคือเงามารหลายคนที่พร้อมจะสังหาร
“มันคือ...ท่านพี่ซู!” เย่หลิงสั่งให้หยุดและหันไปพูดกับเซียวเหวินหลง “เราจะต้องหาทางออกจากที่นี่!”
เซียวเหวินหลงขยับกระบี่ในมือ ข่มความรู้สึกหวั่นไหว ก่อนจะหันไปถามลี่ฮวาเอ๋อร์ “มีแผนอะไรบ้าง?”
ลี่ฮวาเอ๋อร์ยิ้มบางๆ แล้วกวาดตามองดูหมูปิ้งไม้สุดท้ายในมือ “หากท่านซูไม่หยุดตามมาข้าก็จะต้องใช้ไม้เสียบนี้อีกแล้ว” นางพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ท่านพี่ซูขยับมือเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของเงามารเื้ั “เ้า...แม่ค้าหมูปิ้ง! มาทำให้ข้าต้องลำบากเช่นนี้ได้อย่างไร”
“เพราะหมูปิ้งนี้ไงล่ะ” ลี่ฮวาเอ๋อร์ยิ้มกว้าง มองไปยังหมูปิ้งในมือก่อนจะยักไหล่ “ใครจะรู้ว่ามันจะกลายเป็อาวุธเด็ดในยุทธภพ”
“อย่าทำตัวตลก” ท่านพี่ซูยิ้มเย็น "แต่ข้าจะให้โอกาสเ้า ครั้งนี้แค่หายไปจากชีวิตข้า"
ลี่ฮวาเอ๋อร์มองท่านพี่ซูแล้วพยักหน้า “จะให้หายไปหรอ? ก็ได้...แต่ต้องทำให้พวกท่านสำนึกเสียก่อน”
ทันใดนั้น นางชูไม้หมูปิ้งขึ้นสูง ใช้พลังภายในจากตำราพลิกกระบวนท่า ‘หมูปิ้งฟ้าผ่า’ อีกครั้ง
“อั๊ก!” ท่านพี่ซูถูกแรงะเิจากหมูปิ้งชนเข้าทำให้เซลล์ร่างกายของเขารู้สึกเจ็บแปลบ ท่านพี่ซูล้มลงไปในทันที ท่ามกลางฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจายไปทั่ว
“เร็ว! ไปก่อน!” เย่หลิงร้องเตือน และทั้งสามรีบวิ่งผ่านช่องทางออกที่เปิดไปสู่ถนนใหญ่
หลังจากวิ่งผ่านออกมา พวกเขาหยุดพักในที่ซ่อนชั่วคราว ใกล้กับแม่น้ำ
เซียวเหวินหลงหันไปมองลี่ฮวาเอ๋อร์ “เ้ายังพอมีแรงอยู่ไหม?”
ลี่ฮวาเอ๋อร์หัวเราะเบาๆ “ข้า...ไม่ทิ้งหมูปิ้งของข้าไปหรอกนะ” นางหยุดหอบหายใจแล้วยิ้มให้กับทั้งสอง “ไปที่ชายแดนกันเถอะ…เรามีเวลาไม่มากแล้ว”
ก่อนที่พวกเขาจะเคลื่อนตัวออกไป เสียงก้าวเท้าของทหารพรรคเงามารดังใกล้เข้ามาอีกครั้ง แต่คราวนี้พวกเขามีทางหนีทัน
“ข้าจะใช้ท่านพี่ซูเป็เครื่องรบกวน ให้พวกเขาไปสนใจเสียบ้าง” ลี่ฮวาเอ๋อร์บอกเสียงมั่นใจ
“เร็วเข้า!” เซียวเหวินหลงกระตุ้น และพวกเขาก็เริ่มวิ่งไปตามทางลับสู่ชายแดน
การหลบหนีในครั้งนี้ยังไม่จบ แต่พวกเขาก็มีแผนใหม่ที่ต้องใช้ในเส้นทางข้างหน้า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้