มักจะมีพวกคนที่ไม่ชอบซ่งอวี้อ้างเหตุผลว่าไม่สบายแล้วมาหานางที่เรือน บอกว่าให้นางช่วยดูอาการ แต่หลังจากนั้นไม่ว่าซ่งอวี้จะยินยอมหรือไม่ยินยอมก็จะพูดถึงหลี่เฉิง
สำหรับคนประเภทนี้ ซ่งอวี้รับเงินค่ารักษาด้วยสีหน้านิ่งเฉย ค่ารักษาของนางราคาถูกกว่าหมอในเมืองเล็กน้อย การรับค่ารักษาเช่นนี้ไม่มีผู้ใดกล่าวหาว่านางผิดได้ ในทางเดียวกันนางยังสามารถกำจัดเื่ยุ่งยากเช่นนี้ได้อีกด้วย
แต่ว่าคนเหล่านี้ชินกับการทำความดีของซ่งอวี้แล้ว เวลานี้ซ่งอวี้เก็บค่ารักษา ย่อมไม่พอใจ พวกเขาบุกไปหาผู้ใหญ่บ้าน ทั้งยังบอกว่าเป็คนในหมู่บ้านเดียวกัน ก่อนหน้านี้นางรับรักษาโดยไม่คิดเงิน เวลานี้นางมีชื่อเสียงขึ้นมาเพียงเล็กน้อยก็ยื่นมือมาขอเงิน ไม่รู้สึกละอายแม้แต่น้อย
เมื่อคำพูดนี้ดังไปถึงหูของซ่งอวี้ ซ่งอวี้เพียงแค่ยิ้มบางๆ ไม่เก็บมาใส่ใจแม้แต่น้อย กลับกลายเป็ป้าหวังถลกแขนเสื้อขึ้นช่วยสู้แทนซ่งอวี้ ทำให้พวกคนที่พูดพล่ามอับอายจนหน้าและใบหูแดงก่ำ ไม่กล้าพบเจอผู้คนอีก
เพราะเื่เหล่านี้ จึงทำให้ความสัมพันธ์ของซ่งอวี้และป้าหวังแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ซ่งอวี้รู้ว่าป้าหวังรักและเอ็นดูจังเฉี่ยวหวาลูกสาวของตนเอง จึงไปเยี่ยมบ่อยๆ คอยให้คำแนะนำเื่อาหารการกิน ทั้งยังนำสมุนไพรบำรุงร่างกายไปให้เป็ครั้งคราว นำยาสมุนไพรที่แปรรูปเสร็จแล้วไปให้นางโดยเฉพาะ สมุนไพรเ่าั้เพียงชงดื่มเป็ประจำก็พอแล้ว
ป้าหวังมีความสุขยิ่งนัก
ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ข้อนี้ซ่งอวี้ทำตามหลักทำนองคลองธรรมอย่างมาก นางดีกับป้าหวังยิ่งกว่าที่ดีกับลูกของป้าหวังเสียอีก แววตาของป้าหวังที่มองซ่งอวี้เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ถึงขั้นเป็ห่วงเื่ชีวิตคู่ของซ่งอวี้
แต่ว่านี่คือคำพูดในตอนหลัง เวลานี้หลี่เฉิงเพิ่งหายตัวไปไม่นาน ป้าหวังไม่กล้าพูดถึงเื่อื่น นางพยายามเลี่ยงไม่ให้ซ่งอวี้ะเืใจ ทำได้เพียงลอบมองหาบุรุษดีๆ เพื่อหวังว่าซ่งอวี้จะได้แต่งงานกับคนจิตใจดี
ผ่านไปหลายวัน ซ่งอวี้ปรับตัวกับการหายไปของหลี่เฉิงได้มากแล้ว อย่างน้อยเบื้องหน้าก็มองไม่ออกว่านางกำลังเสียใจ
ซ่งอวี้นับเวลา วันนี้เป็วันสุดท้ายของสัญญาครึ่งเดือนระหว่างตนกับท่านจ้าว ด้วยเหตุนี้นางจึงวางงานในมือแล้วรีบมุ่งหน้าเข้าไปในเมือง
หนึ่งชั่วยามให้หลัง ซ่งอวี้ก็ยืนอยู่หน้าร้านยาถงอันแล้ว
"เชิญแม่นางซ่งขอรับ ท่านจ้าวรอแม่นางนานแล้ว แม่นางรีบเข้าไปเถอะ" ยังไม่ทันที่ซ่งอวี้จะได้เดินเข้าไปด้านใน ลูกศิษย์สายตาดีของร้านยาก็เดินมาต้อนรับนางด้วยรอยยิ้ม เชิญนางเข้าไปในห้องโถงด้วยความสุภาพ
"เ้าหนูซ่งมาแล้วหรือ? รีบมาดูเร็วเข้า เหลือเชื่อยิ่งนัก!” ไม่รอซ่งอวี้เดินไปใกล้สวนด้านหลัง ท่านจ้าวก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของนางแล้ว ร้องเรียกนางให้เข้าไปด้านใน
ซ่งอวี้รู้ดี คาดว่าประสิทธิภาพของสมุนไพรที่ผ่านการแปรรูปของนางคงจะเป็ที่ประจักษ์แล้ว เวลานี้ท่านจ้าวกำลังตรวจดูาแของสุนัขตัวนั้น
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ เป็จริงตามคาด
ท่านจ้าวเดินวนรอบกรงขัง สีหน้าของเขาฉายความตกตะลึง "เมื่อครึ่งเดือนก่อนตอนที่เ้าบอกข้า ข้าไม่เชื่ออย่างสุดใจ สมุนไพรที่ผ่านการแปรรูปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอะไรกัน? พูดจาเหลวไหลสิ้นดี! แต่ครึ่งเดือนให้หลัง ข้ากลับทำได้เพียงหัวเราะเยาะตนเองที่โง่เขลายิ่งนัก"
เพิ่มประสิทธิภาพของยาอะไรกัน? เห็นได้ชัดว่าเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
สุนัขสองตัวเหมือนกัน าแชนิดเดียวกัน สุนัขตัวที่เขารับผิดชอบยังคงถูกดามกระดูกข้างที่หักเอาไว้ ทว่าสุนัขตัวที่ซ่งอวี้รับผิดชอบกลับสามารถเดินได้แล้ว แม้จะเดินกะเผลกเล็กน้อยแต่ก็ดีกว่าตัวที่เขารับผิดชอบหลายเท่า
หลายครั้งที่พบเจอกัน สีหน้าของท่านจ้าวคงความปราดเปรื่อง ไม่เคยเห็นสีหน้าหลงใหลเช่นนี้ของเขามาก่อน ซ่งอวี้เม้มริมฝีปากเกือบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่
"ท่านจ้าวไม่จำเป็ต้องทำเช่นนี้ นี่เป็เพียงเื่เล็กน้อยเท่านั้น" ซ่งอวี้ถ่อมตนมาก นางเรียนศัลยแพทย์ หากแข่งการรักษาแพทย์แผนจีน แม้จะมีนางสิบคนก็ไม่อาจแข่งกับท่านจ้าวได้ เวลานี้ได้รับคำชื่นชมจากท่านจ้าว อาศัยประสิทธิภาพของยาแปรรูปแล้ว
เอาความคิดของผู้อื่นมา นางจะมีสิทธิ์ใดในการน้อมรับคำชม
แต่เื่ของตนเองมีเพียงตนเองเท่านั้นที่รับรู้ ท่านจ้าวไม่รู้ รู้เพียงว่านางมีความทระนง แต่ไม่ได้โอหัง แม้เขาจะชื่นชมนาง แต่สีหน้าของนางไม่ฉายความทระนงแม้แต่น้อย ดีกว่าคนทั่วไปไม่รู้ตั้งกี่เท่า
อืม...นี่คือเื่เข้าใจผิดที่แสนงดงาม เหตุเพราะต่างฝ่ายต่างไม่รู้ความคิดของกันและกัน เช่นนั้นก็ปล่อยให้เข้าใจผิดต่อไป
"เ้าเองก็ไม่ต้องถ่อมตนเช่นนี้ การเรียนรู้ไม่มีผู้ใดมาก่อนมาหลัง ผู้ประสบความสำเร็จเท่านั้นที่คืออาจารย์ เ้ามีความสามารถ ทั้งยังมีพร์ ควรค่าที่จะได้รับคำชื่นชมจากข้า รับคำชมไว้เถอะ"
ท่านจ้าวในเวลานี้ ไม่ว่าจะมองซ่งอวี้อย่างไรก็เอ็นดูยิ่งนัก
รักษาคนมานานสิบปี ท่านจ้าวเคยพบเจอผู้ร่ำรวยมามากมาย ทั้งยังถูกผู้มีอำนาจนับไม่ถ้วนสนับสนุนให้เป็ใหญ่ กล่าวได้ว่าเขาเคยผ่านความรุ่งโรจน์ต่างๆ มาทุกอย่าง จึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งเหล่านี้แล้ว
เวลานี้ผู้ที่อยากจะได้คำชื่นชมจากเขา เกรงว่าจะมีเพียงคนเช่นซ่งอวี้ที่มากความสามารถในการรักษาเท่านั้น อีกทั้งท่านจ้าวดูออกว่าไม่เพียงด้านสมุนไพรเท่านั้นที่ซ่งอวี้มีพร์ยิ่งกว่าคนทั่วไป ด้านการรักษาก็เช่นเดียวกัน แค่ว่าไม่มีอาจารย์ดีๆ คอยให้คำแนะนำ เรียนรู้เพียงผิวเผินด้วยตนเอง หากได้รับคำชี้แนะดีๆ วันข้างหน้าต้องเป็หมอที่เลื่องชื่ออย่างแน่นอน
โชคดีที่ซ่งอวี้ไม่รู้ว่าท่านจ้าวกำลังคิดสิ่งใด มิเช่นนั้นเกรงว่านางคงไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี
นางเป็ถึงนักศึกษาแพทย์ที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่กลับถูกผู้อื่นเข้าใจว่าเป็คนหนุ่มสาวที่เรียนรู้ด้วยตนเองไม่มีอาจารย์คอยพร่ำสอน ซึ่งก็คือคนที่ไม่มีการศึกษา
ก็ได้ สำหรับการแพทย์แผนจีน ข้อดีเพียงข้อหนึ่งของนางคือมาจากโลกยุคปัจจุบันจึงมีความรู้ที่ล้ำสมัย เื่การจับชีพจรและฝังเข็มหมอท้องถิ่นเชี่ยวชาญกว่านางมาก ดังนั้นระยะนี้ซ่งอวี้เองก็กำลังคิดว่าจะพัฒนาความสามารถของตนเองอย่างไร
นางอยากจะยืนหยัดในสังคมแห่งนี้ ย่อมต้องมีความถนัดสักด้านหนึ่ง เทียบกับการเรียนรู้ด้านอื่นๆ สู้เรียนรู้การรักษาแผนจีน แล้วนำมาประยุกต์ใช้กับความรู้ที่ร่ำเรียนมาเมื่อครั้นเรียนมหาวิทยาลัยยังจะดีเสียกว่า เพียงเท่านั้นคงเพียงพอให้นางกลายเป็หมอเลื่องชื่อในยุคสมัยนี้แล้ว
นี่ถือเป็เื่บังเอิญหรือ? ท่านจ้าวมีความคิดจะรับซ่งอวี้เป็ลูกศิษย์ ทางด้านซ่งอวี้ก็มีใจอยากจะฝากตัวเป็ลูกศิษย์ของท่านจ้าว ทั้งสองมีเจตนาเดียวกัน เื่ต่อจากนี้จึงราบรื่น
ตอนที่ท่านจ้าวพูดอ้อมค้อมบอกว่าซ่งอวี้มีพร์ด้านการรักษา อยากจะช่วยชี้แนะให้นาง ซ่งอวี้เข้าใจความหมายของท่านจ้าวทันที ‘เขาอยากจะรับตนเป็ลูกศิษย์ สืบทอดความรู้ให้ตน’
"ข้าซ่งอวี้ เป็เพียงหญิงชาวบ้านด้อยความรู้ที่มีความเข้าใจวิชาแพทย์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะไม่สร้างเื่ยุ่งยากให้ท่านจ้าวหรือเ้าคะ?" ซ่งอวี้อยากจะตอบตกลงทันที แต่นางจำต้องตระหนักถึงปัญหาของความเป็จริง ยกตัวอย่างเช่น...เช่นบุรุษสูงศักดิ์ สตรีต่ำต้อย
หลายอย่างที่บุรุษทำแล้ว ไม่ถูกติฉินนินทา ทั้งยังไม่มีผู้ใดพูดวิจารณ์ แต่เมื่อเปลี่ยนเป็สตรี จะกลายเป็ว่าไม่รักษาคุณธรรมหญิง ทำลายประเพณีอันดีงาม
คนในยุคสมัยนี้ แม้ตนจะเป็สตรีแต่ก็มีความคิดเช่นนี้ ดังนั้นซ่งอวี้กลัวว่าตนจะเป็ต้นเหตุทำให้ท่านจ้าวเสื่อมเสียชื่อเสียง
ซ่งอวี้ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่นางกังวลสำหรับท่านจ้าวแล้วเป็เพียงเื่เล็กน้อย
ท่านจ้าวโบกมือแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจ "คนเป็หมอรักษาคนไข้ ในสายตาข้าไม่แบ่งแยกชายหญิง หากตอนรักษาคนไข้ต้องกังวลเื่เหล่านี้ แล้วชีวิตของคนไข้เล่า? หรือว่าขนบธรรมเนียมต่างๆ สำคัญยิ่งกว่าชีวิตคน?"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้