ขณะที่มุ่งหน้าไปตามผืนน้ำ หนิงเทียนก็วางแผนลดความเสี่ยงด้วยการเลี่ยงบริเวณที่อสูรน้ำอาศัยอยู่
แม่น้ำยาวร้อยจั้งหมุนวนราวัั์ที่พุ่งทะยานไม่หยุดหย่อน คลื่นในแม่น้ำโหมกระหน่ำ ฝูงปลาตัวเล็กๆ ม้วนตัวไปตามคลื่น
“รากบ่มเพาะอสูร?”
ร่องรอยความสงสัยปรากฏขึ้นในดวงตาของหนิงเทียน
“แดนลับนี้ตั้งอยู่บนตีนเขาไป่หลิงซึ่งเป็ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับจื๋อซิวเชื้อสายรากพฤกษา เช่นนั้นจะมีรากอสูรอยู่ได้อย่างไร?”
เขาครุ่นคิดก่อนจะเริ่มรู้สึกว่า บริเวณนี้แตกต่างจากพื้นที่ส่วนอื่นๆ
เมื่อมองข้ามไปอีกฟากของแม่น้ำ หนิงเทียนก็พร้อมที่จะลองดูอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาฉลาดขึ้นจึงส่งบงกชสีมรกตไปสำรวจสถานการณ์ก่อน
คลื่นในแม่น้ำโหมซัด บงกชสีมรกตเริงระบำอย่างสง่างามบนเกลียวคลื่น ทันทีที่ไปถึงกลางแม่น้ำ อสูรน้ำก็โผล่ขึ้นมาสะบัดหางใส่จนบงกชสีมรกตปลิวไปไกล
“บ้าเอ๊ย! นี่จะไม่ยอมให้ข้าผ่านไปใช่หรือไม่?” หนิงเทียนสาปแช่งก่อนจะเรียกบงกชสีมรกตกลับมา แล้วค่อยๆ เคลื่อนไปตามริมฝั่งเพื่อทดสอบปฏิกิริยาของอสูรกลางแม่น้ำ
เขายืนอยู่บนใบบัวและเดินทวนน้ำไป ซึ่งกลางแม่น้ำมีอสูรที่ปรากฏตัวให้เห็นเป็ครั้งคราว และคลื่นที่ซัดกระหน่ำเป็พักๆ อย่างต่อเนื่อง
“ดูเหมือนว่าการพยายามลอบข้ามพรมแดนจะล้มเหลว เช่นนี้ก็คงเหลือเพียงการบังคับเท่านั้น”
หนิงเทียนสังเกตอสูรน้ำแล้วคาดว่ามันยาวประมาณห้าจั้ง นี่น่าจะเป็อสูรปลาที่มีพละกำลังมหาศาลและยากที่จะรับมือ
หนิงเทียนคิดอยู่นานก่อนจะหยิบหอกนาคามรกตออกมา เขาหลั่งไหลพลังทั้งหมดเข้าไปจนหอกยาวแปดจั้ง ซึ่งสามารถใช้ต่อกรกับอสูรปลาได้
“ได้ มาลองสู้กันสักตั้ง”
ทันทีที่ขับเคลื่อนกายาสุวรรณะนิรันดร์ พลังงานและเืลมก็ลุกไหม้ เส้นสีทองกระจายทั่วร่างราวกับเพชร ทั้งยังคงกระพันต่อกระบี่และปืนด้วย
บงกชสีมรกตหันหน้าต้านคลื่นลมที่สูงเกือบสองจั้ง แม้จะเป็เพียงร่างเงาแต่ก็สามารถดูดซับพลังแห่งฟ้าดินและพัฒนาไปสู่การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้
หนิงเทียนยืนอยู่บนใบบัว หอกในมือเปล่งประกายด้วยแสงสีเขียว มวลน้ำตรงหน้าม้วนขด ทันใดนั้นอสูรปลาก็โผล่ออกมาจากคลื่น เกล็ดหลังของมันส่องแสงแวววาวราวชุดเกราะ
คลื่นขนาดใหญ่ก่อตัวเป็กำแพงม่านน้ำด้วยการสะบัดหาง ก่อนจะกระแทกใส่หนิงเทียน
“ฝีมืออ่อนหัดเกินกว่าจะคิดต่อต้านข้า!”
หนิงเทียนไม่ได้เจาะทะลวงม่านน้ำ เพราะเขารู้ว่าอสูรปลาซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง หากแทงหอกเข้าไป เขาก็จะถูกโจมตีเข้าอย่างจัง
บงกชสีมรกตเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มันแหวกว่ายอย่างว่องไว และทันทีที่ม่านน้ำปิดลง อสูรปลาร่างมโหฬารไม่ต่างจากเนินเขาก็ผุดขึ้นจากน้ำ เมื่อมันอ้าปากพ่นเสาวารีออกมา หนิงเทียนก็ลอยไปไกลหลายสิบจั้งทันที
“ให้ตายเถอะ! มีกลยุทธ์เช่นนี้อยู่ด้วยหรือ?”
เขาเปียกโชกไปทั้งตัว ั้แ่กลายเป็ผู้บำเพ็ญนี่เป็ครั้งแรกที่เขาปะทะกับอสูร ซึ่งเขายังขาดประสบการณ์อีกมาก
บงกชสีมรกตแกว่งไปมา พยายามเตือนให้หนิงเทียนรีบหลบในแม่น้ำ ทว่าเขากลับแผดเสียงคำราม จิติญญาการต่อสู้พุ่งสูงขึ้น ก่อนจะแทงหอกในมือด้วยดวงตาที่ลุกเป็ไฟ
อสูรปลาไล่ตามคลื่นมาอย่างรวดเร็ว เสาวารีหนักนับพันตัน แม้จะไม่อาจสร้างความเสียหายให้กายาสุวรรณะนิรันดร์ แต่ก็สามารถทำให้เขากระเด็นและล้มลงได้
บงกชสีมรกตเคลื่อนไปด้านข้างแล้วะโราวกับกำลังเดินบนพื้นราบ คอยนำทางให้หนิงเทียนหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับอสูรปลาครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังช่วยมองหาโอกาสที่จะเข้าใกล้
“ฆ่ามัน!” หนิงเทียนะโเสียงดังพร้อมแทงหอกใส่หลังอสูรปลา
พลันเกิดประกายแสงพวยพุ่งออกมา ซึ่งสว่างไสวเป็พิเศษ
“เกล็ดแข็งเพียงนั้นเชียว?”
บงกชสีมรกตหลบการโต้กลับของอสูรปลา เนื่องจากมันมีเกล็ดที่แข็งแกร่ง หอกนาคามรกตจึงไม่อาจสร้างความเสียหายใดได้เลย
หนิงเทียนหมุนตัวทะยานขึ้นฟ้าก่อนจะแทงหอกลงไป ใบบัวที่ยื่นออกมาใต้ฝ่าเท้าทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่บนบก และไม่ต้องกังวลว่าจะร่วงลงไปในแม่น้ำ
อสูรปลากรีดร้องพร้อมก่อคลื่นสูงหลายร้อยจั้ง เมื่อหางปลาเหวี่ยงสะบัด น้ำในแม่น้ำก็ไม่ต่างจากก้อนหินทรงพลังนับหมื่นจิน[1]
“จงสลายไป!” หนิงเทียนคำราม ลวดลายสีทองปรากฏบนหมัด ซึ่งเต็มไปด้วยพลังมหาศาล เขาะเิคลื่นน้ำออกไปพร้อมเสียงดังกึกก้อง
ร่างของเขาอาบไปด้วยคลื่นจากแม่น้ำ จากนั้นก็วิ่งเข้าหาอสูรปลาแล้วปล่อยหมัดซ้ายหอกขวา ก่อนจะกระเด็นไปไกลครั้งแล้วครั้งเล่า
“ข้าไม่เชื่อ! ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะจัดการเ้าปลาตัวจ้อยนี้ไม่ได้!”
ด้วยพรจากกายาสุวรรณะ พลังของหนิงเทียนก็เพิ่มสูงขึ้น เขาดูเหมือนอสูรร้ายโบราณหันหน้าท้าคลื่นลม พร้อมเข้าจู่โจมอสูรปลาจากด้านหลังและขอดเกล็ดของมันจนหมดสิ้น
อสูรปลาคำรามแล้วพุ่งเข้าหาเขาอย่างบ้าคลั่งด้วยแรงอารมณ์
“ที่แท้เ้าก็โกรธเป็ เช่นนั้นก็ดี!” หนิงเทียนเบี่ยงตัวหลบ เขากวาดหอกในมือแทงหลังปลา ซึ่งสั่นะเืไปถึงอวัยวะภายในของมัน
เมื่อหันกลับมา ดวงตาของหนิงเทียนก็ส่องสว่างราวคบเพลิง ทันใดนั้นเขาก็ทิ้งร่างลงบนหลังของอสูรปลา แล้วแทงหอกอย่างรุนแรง
อสูรปลากรีดร้องด้วยความเ็ป ร่างอันใหญ่โตบิดตัวอย่างรุนแรง พยายามจะเหวี่ยงหนิงเทียนออกไป
“ตายเสียเถอะ!” ดวงตาของหนิงเทียนเต็มไปด้วยความดุร้าย มือทั้งสองข้างทิ้งน้ำหนักเพื่อกดหอก จากนั้นก็เปิดใช้ทักษะยุทธศาสตร์ครอง์เพื่อคุมน้ำเต้าเจ็ดสี
น้ำเต้าขนาดเล็กและละเอียดอ่อนเรืองแสงสีเงินจางๆ ก่อนจะร่วงลงบนหัวของอสูรปลาราวกับขนนก
เมื่อรู้สึกถึงอันตราย อสูรปลาก็ดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง น้ำเต้าเล็กๆ ที่ไม่โดดเด่นกลับหนักยิ่งกว่าเขาไท่ซานตรงนั้นเสียอีก ทั้งยังบดขยี้กะโหลกโดยตรงจนศีรษะของมันแหลกสลาย สายโลหิตหลั่งริน
หนิงเทียนคำรามอย่างเดือดดาล กายาสุวรรณะนิรันดร์เคลื่อนตัวไปสู่จุดสูงสุด เส้นลมปราณของเขาปูดโปน พลังมหาศาลท่วมท้นจนเขาสามารถใช้หอกในมือแทงอสูรปลาได้
หนิงเทียนดึงน้ำเต้าเจ็ดสีกลับคืนมา อสูรปลาในแม่น้ำพยายามดิ้นร่างอย่างทรมานอยู่พักหนึ่งก่อนจะนิ่งไป
บงกชสีมรกตแกว่งไปมาแล้วหยั่งรากเข้าไปในร่างของอสูรปลา หนิงเทียนจึงบังเอิญพบกับเม็ดยาซึ่งเปี่ยมด้วยสรรพคุณ
“อันนี้กินได้หรือไม่?”
เขาไม่มีความรู้ในด้านนี้ แต่ก็เลือกใช้ยุทธศาสตร์ครอง์ ลวดลายิญญาประสานกันบนฝ่ามือ จากนั้นก็กลืนเม็ดยาเข้าไปในเส้นลมปราณแรก ซึ่งสามารถดูดซับและขัดเกลาพลังได้อย่างรวดเร็ว
“ช่างเป็พลังที่บริสุทธิ์เสียจริง รู้สึกได้เลยว่าพลังิญญาของข้าเพิ่มขึ้นมหาศาล”
หนิงเทียนเปิดกำไลหยกหยวนและใส่ร่างอสูรปลาเข้าไป เขาวางแผนว่าจะนำมันไปขายในราคาดีๆ หลังออกจากที่นี่ได้
เมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว หนิงเทียนก็เริ่มข้ามแม่น้ำอีกครั้ง ทันทีที่มาถึงใจกลางแม่น้ำ เขาก็พบกับอสูรน้ำอีกตนหนึ่ง
“จะบ้าตาย! ข้าไม่อยากเล่นกับเ้าแล้ว” หนิงเทียนดึงหอกแล้วต่อสู้พร้อมหลบหนี เพื่อรีบข้ามไปอีกฝั่ง
คลื่นในแม่น้ำซัดสาด อสูรน้ำตนนั้นปรากฏขึ้นและขวางทางเขาไว้
“ให้ตายเถอะ! อีกด้านหนึ่งคืออะไร? เหตุใดพวกเ้าถึงพยายามขัดขวางทุกวิถีทางเช่นนี้?”
บงกชสีมรกตหันกลับมาแล้วขยับออกสิบจั้ง พร้อมแหวกว่ายไปมาเพื่อหนีอสูร ส่วนหนิงเทียนก็พยายามหลีกเลี่ยงอันตรายอย่างเต็มที่ เขาถูกขังอยู่กลางน้ำกว่าครึ่งชั่วยาม และในที่สุดก็สามารถข้ามฝั่งไปได้
...
ยามนี้ท้องนภาในแดนลับเริ่มสว่างขึ้นแล้ว หนิงเทียนยืนอยู่ริมแม่น้ำ เป็เวลาห้าวันแล้วนับั้แ่เขาเข้าสู่แดนลับ พื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยตรงหน้าทำให้เขารู้สึกเหงาอย่างอธิบายไม่ถูก
ยังมีผู้ใดอยู่ที่นี่อีกบ้าง?
เขาจ้องมองป่าทึบด้วยความสงสัยว่าต้นไม้สูงหลายสิบจั้งเหล่าจะมีอสูรซ่อนอยู่หรือไม่
หนิงเทียนถือหอกเดินเข้าไปพร้อมบงกชสีมรกตเพื่อสำรวจดินแดนใหม่แห่งนี้
ลมแม่น้ำเย็นสบายโบกพัดให้ต้นหญ้าและดอกไม้พลิ้วไสว ทันทีที่เข้าใกล้ป่าทึบ ปราณกระบี่ก็พุ่งทะลุอากาศจนหนิงเทียนต้องหลบอย่างรวดเร็ว
วินาทีต่อมาก็เกิดใบหญ้าปลิวว่อน ดอกไม้ใบไม้สั่นะเื กิ่งก้านเริงระบำ และเถาวัลย์กวาดทั่วบริเวณ พฤกษาอสูรทั้งหมดมีชีวิตขึ้นมาพร้อมเข้าโจมตีเขาอย่างดุเดือด
“การแสดงความแข็งแกร่งหรือ? ขอดูหน่อยเถิด!” ดวงตาของหนิงเทียนเป็ประกายก่อนจะกวาดหอกในมือ การโจมตีทุกรูปแบบพุ่งเข้ามาอย่างล้นหลาม ทำให้เสื้อผ้าของเขาขาดเป็ชิ้นๆ จนเห็นเส้นสีทองอร่ามบนิั
เถาวัลย์ตวัดเข้ามาราวแส้ศักดิ์สิทธิ์ พลังนับหมื่นจินพุ่งเข้าหาหนิงเทียนอย่างรวดเร็ว ต้นหญ้าเล็กๆ ล้วนปล่อยปราณกระบี่ทำลายแขนเสื้อของหนิงเทียน และทิ้งรอยเืไว้บนแขนของเขา
ทันทีที่ดอกไม้สะพรั่งบาน ห้วงอากาศก็ปั่นป่วน คลื่นกระแทกที่มองไม่เห็นทำให้ทวารทั้งเจ็ดของหนิงเทียนสั่นะเื จนเขาหลั่งโลหิตและกรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราด ส่วนต้นไม้ใหญ่ก็ผลัดใบราวคมมีด ทั้งยังจู่โจมหนิงเทียนและเกือบแทงทะลุร่างของเขาแล้ว
พฤกษาอสูรในที่แห่งนี้ทรงอานุภาพอย่างยิ่ง แม้หนิงเทียนจะพยายามสู้อย่างเต็มที่ แต่ก็ถูกปราบปรามด้วยมวลพลังที่น่าพรั่นพรึง
“ทะลวงพันชั้น!” เขาคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
ทั่วร่างเปล่งประกายด้วยแสงสีทองราวแท่งเหล็กศักดิ์สิทธิ์ กายาสุวรรณะนิรันดร์พุ่งสูงถึงขีดสุด เขาทุบต้นหญ้าจนแหลกละเอียดด้วยหมัดเดียว แล้วทะลุทะลวงดอกไม้ด้วยหอกนาคามรกต
เถาวัลย์เกี่ยวกระหวัดรัดข้อเท้าของหนิงเทียน พลังแห่งการผูกมัดนั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง ทว่าเพียงเขาดีดนิ้ว ฟากฟ้าก็คำรามลั่น และทันใดนั้นเองใบมีดก็ปรากฏขึ้นพร้อมพุ่งตัดเถาวัลย์ทันที
หนิงเทียนหมุนตัวขึ้นไปในอากาศ มือขวาจับหอกแน่น เขาจ้องมองต้นไม้ใหญ่แล้วะโด้วยเสียงกัมปนาท พลันหอกในมือกลายเป็แสงสีเขียว และแทงทะลุลำต้นจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
“ตาย!” หนิงเทียนฟาดมือเปล่าพร้อมบงกชสีมรกต ยุทธศาสตร์ครอง์ปลดปล่อยกลิ่นอายแห่งความก้าวร้าวรุนแรง ก่อนจะเริ่มปราบปรามเหล่าพฤกษาอสูร
เนื่องจากยังอยู่ในขอบเขตที่ไม่สูงนัก พลังกำราบของหนิงเทียนจึงค่อนข้างอ่อนแอ ทว่าทุกครั้งที่เขาใช้พลังก็จะเป็การพัฒนาและมีข้อได้เปรียบเล็กน้อย
ทะลวงพันชั้นถูกใช้ไม่หยุดหย่อน ทั้งยังดุร้ายราวกับสัตว์ป่า เขาทุบดอกไม้รอบตัวจนร่วงโรย และต้นไม้ใบหญ้าต่างก็ส่งเสียงโหยหวน
ป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยพืชพรรณมากมาย เถาวัลย์ทอดยาวเข้ามาแทนที่ต้นไม้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเคลื่อนตัวมาล้อมร่างของหนิงเทียน
บงกชสีมรกตดูดกลืนพลังิญญาฟ้าดินเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับการต่อสู้ของหนิงเทียน ส่วนกายาสุวรรณะนิรันดร์ก็กำลังถูกทดสอบ จิติญญาการต่อสู้ของเขาจึงลุกโชนไม่ดับสูญ
ลึกเข้าไปในป่าทึบมีคลื่นผันผวนอันแปลกประหลาด ทั้งยังมีดวงตาสีทองซีดคู่หนึ่งคอยสอดส่องสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลา
หลังจากดึงหอกกลับมา จิติญญาอันทรงพลังของหนิงเทียนก็หลุดลอยไป เม็ดยาของอสูรปลาจึงถูกขัดเกลาอย่างรวดเร็ว เมื่อเืลมทะยานขึ้นฟ้า จิติญญาแห่งการต่อสู้ก็พลุ่งพล่านยิ่งกว่าเดิม
ทันใดนั้นหนิงเทียนก็ััได้ถึงกลิ่นอายแปลกปลอมที่จ้องมองเขาอยู่ ซึ่งทำให้แผนที่จิติญญาในเส้นลมปราณแรกเกิดปฏิกิริยาอย่างกะทันหัน
“ผู้ใด? ออกมาเดี๋ยวนี้!” หนิงเทียนกวาดหอกขับไล่เหล่าพฤกษาอสูร แล้วมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง
ห่างออกไปไม่ไกลนัก ดอกไม้และต้นไม้ต่างร่วงโรย เถาวัลย์หยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว และความเศร้าโศกที่อธิบายไม่ได้ก็ปกคลุมทั่วบริเวณ
จิตใจของหนิงเทียนเริ่มตึงเครียดเล็กน้อย เสียงประหลาดดังขึ้นในความว่างเปล่า ราวกับมีงูิญญาพ่นวาจามาจากทาง้า
เขาค่อยๆ ขยับไปด้านข้างสามจั้ง ทันใดนั้นหอกนาคามรกตในมือก็พุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเงยหน้ามองตามไปก็พบดวงตาขนาดใหญ่คู่หนึ่งซึ่งทำให้เขาหวาดกลัว
มันคือดวงตาสีทองซีดของงูเหลือมั์ มีเส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งจั้งและลำตัวที่ไม่ทราบว่ายาวเพียงใด ทว่าดวงตาเ็าคู่นี้ก็เผยให้เห็นความโเี้ตามสัญชาตญาณของสัตว์ร้าย และหนิงเทียนก็รู้สึกราวกับว่าตนกำลังตกเป็เหยื่อของมัน ซึ่งทำให้เขาอารมณ์ไม่ดีอย่างยิ่ง
เ้าตัวใหญ่นี้รับมือยากกว่าอสูรปลาในแม่น้ำเสียอีก ใช้หอกเพียงอย่างเดียวคงไม่อาจต้านมันได้เป็แน่
งูั์ค่อยๆ ลดศีรษะลง ร่างยาวสีแดงส่งเสียงกรีดร้องอันแหลมคม ซึ่งสามารถสร้างความวิตกกังวลให้คนที่จิตใจไม่เข้มแข็งได้
หนิงเทียนจ้องมองศัตรูขนาดมหึมา พลางขบคิดว่าจะจัดการมันอย่างไร เนื่องจากการเผชิญหน้านั้นเป็วิธีที่สิ้นคิดอย่างยิ่ง และจำเป็ต้องใช้ไหวพริบเมื่อประสบพบเจอกับสัตว์ร้ายเช่นนี้
ทันใดนั้นงูั์ก็โน้มตัวลงมาพร้อมอ้าปากเตรียมงับ
“โอกาสมาแล้ว!” ความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในใจของหนิงเทียน เขาเก็บหอกนาคามรกตอย่างเร็วที่สุดแล้วทะยานขึ้นฟ้า จากนั้นก็พุ่งเข้าไปในปากของงูั์
นี่คือการกำจัดถึงที่ เหมาะสำหรับผู้ที่แสวงหาความตายอย่างแข็งขัน ซึ่งงูเหลือมั์ก็ไม่คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะทำเช่นนั้น มันจึงกลืนหนิงเทียนเข้าไปทันที
กลิ่นคาวคละคลุ้งทำให้เขารู้สึกพะอืดพะอมอย่างมาก แต่ก็ต้องพยายามอดทนเอาไว้
หลังจากเข้าไปในท้องของงูั์แล้ว เขาก็เปิดกำไลหยกหยวนเพื่อหยิบหอกนาคามรกตออกมาแทงมันอย่างดุเดือด
งูเหลือมั์คำรามอย่างไม่พอใจ มันสะบัดร่างท่อนบนกระแทกกับต้นไม้ใหญ่โดยตรง ซึ่งทำให้หนิงเทียนได้รับาเ็สาหัสที่ท้องทันที
“กายาสุวรรณะ! มาให้ข้าสังหารเสียดีๆ!”
เืพุ่งทะลักออกจากทวารทั้งเจ็ด หอกนาคามรกตร่ายรำอย่างโกรธเกรี้ยว พร้อมแทงทะลุอวัยวะภายในของงูั์จนร่างของเขาโชกไปด้วยเื
งูั์แผดเสียงบาดหู ร่างที่ยาวกว่าร้อยจั้งดิ้นพล่านกระแทกพื้น พยายามทำให้ผู้บุกรุกที่อยู่ด้านในได้รับการกระทบกระเทือนจนถึงแก่ความตาย
หนิงเทียนกัดฟันแล้วพลิกกายาสุวรรณะนิรันดร์อย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะยืนหยัดสู้กับเ้างูเหลือมั์ต่อไป
---------------------------------------
[1] จิน (斤) เป็หน่วยวัดน้ำหนักของจีน โดย 1 จินมีน้ำหนักเท่ากับ 500 กรัม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้