หลินกู๋หยู่และฉือหางเห็นผนังกำแพงด้านนอกพังทลายลงทั้งหมด
อีกด้านหนึ่งของเรือนใหญ่ ไม่เพียงแต่ผนังเท่านั้นที่พังลงมา บ้านของครอบครัวเ้ารองก็พังลงด้วย
เมื่อมองไปที่สถานการณ์ด้านนั้น ใบหน้าของฉือหางก็น่าเกลียดเล็กน้อย
"บ้านเรือนพังถล่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ” หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
ท้องฟ้ามืดครึ้มไร้ซึ่งความหวังที่จะแจ่มใส
หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วแน่น เอื้อมมือไปจับแขนเสื้อของฉือหาง
“ควรทำอย่างไรดี?” หลินกู๋หยู่เงยหน้าขึ้นมองฉือหาง เสียงของนางสั่นเครือเล็กน้อย
ต่อหน้าธรรมชาติ พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็ผู้อ่อนแอ
ฉือหางมองดูฉือเทาและฟางซื่อสองสามีภรรยาย้ายของทั้งหมดในบ้านออกไป
"ฝนจะหยุดในเร็วๆ นี้” ฉือหางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า หยุดชั่วคราวแล้วเอ่ยต่อ "สิ่งที่เราควรกังวลในตอนนี้คือจะเอาน้ำทั้งหมดออกไปอย่างไร"
หลินกู๋หยู่แหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยสีหน้างุนงงหลายส่วน นานกว่าจะเอ่ยขึ้นมาว่า "เ้ารู้ได้อย่างไรว่าฝนกำลังจะหยุดตก?"
"ความรู้สึก แต่กระนั้นข้าก็ไม่อาจมั่นใจเช่นกัน” ฉือหางก้มลงพับกางเกงของเขาขึ้น พูดกับหลินกู๋หยู่ที่อยู่ข้างๆ "ข้าจะจัดการบ้านของเราก่อน เอาโคลนมาทำผนัง”
ตอนนี้อากาศเริ่มอุ่นขึ้นแล้ว
ไม่รู้สึกหนาวอีกต่อไป
หลินกู๋หยู่ดึงมือที่แตะน้ำกลับมา
"เ้าอย่าออกมา” ฉือหางหยิบตะกร้าไม้ไผ่ซึ่งเต็มไปด้วยกองโคลน ทิ้งมันไว้ที่มุมผนังด้านข้าง ใช้พลั่วในมือตักโคลนเสริมผนังให้เต็ม
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉือหางพูด หลินกู๋หยู่ไม่้าััน้ำ ดังนั้นนางจึงยืนอยู่ในห้องพร้อมกับพลั่วในมือและใช้มืออีกข้างััที่ผนัง
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของหลินกู๋หยู่ ฉือหางก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดอย่างเป็กังวลว่า "อย่าทำเช่นนั้น ข้าจะทำเอง"
ในขณะที่เขาพูด ฉือหางก็หยิบพลั่วจากมือของหลินกู๋หยู่ "ไม่ใช่ว่าของในบ้านยังไม่ได้จัดเก็บเรียบร้อยหรือ รีบจัดของให้เร็วเถอะ เผื่อๆ ไว้"
หลินกู๋หยู่คิดเกี่ยวกับเื่นี้ จากนั้นนางก็ใส่ของลงในอ่างไม้
อ่างไม้สำหรับซักผ้า อีกใบคือถังไม้ทรงแบน และถังไม้สำหรับเก็บอุจจาระโดยเฉพาะ ส่วนที่เหลือหลินกู๋หยู่นำมาใช้ทั้งหมด
มีอ่างไม้ใช้สำหรับบรรจุอาหาร อ่างไม้บางอันก็ใช้สำหรับบรรจุเสื้อผ้า และบางอันก็ใช้สำหรับบรรจุของมีค่า
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น หลินกู๋หยู่ก็ผูกอ่างทั้งสามเข้าด้วยกัน โดยไม่มั่นใจว่าจะสามารถลอยบนน้ำได้หรือไม่
ฉือหางขนดินโคลนทั้งหมดจากผนังลานไปฉาบบนผนังบ้านด้านนอก เขาทำความสะอาดเสร็จก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้าน
อ่างไม้ขนาดใหญ่สามใบถูกวางอยู่ในห้อง ฉือหางมองสิ่งเ่าั้ "ใส่สิ่งสำคัญทั้งหมดลงไปแล้วหรือ?"
“ใส่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว” หลินกู๋หยู่พยักหน้า คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดกับฉือหาง “พวกเราไปดูบ้านของท่านแม่ของข้าก่อนดีหรือไม่ ไปดูว่าที่นั่นฝนตกหนักเช่นนี้หรือไม่ ถ้าไม่ พวกเรารอให้ฝนที่นี่หยุดตกก่อนค่อยกลับมาก็ได้”
ใบหน้าของโจวซื่อแวบเข้ามาในความคิดของฉือหาง เขาพยักหน้าทันที "ตกลง พวกเราไปที่บ้านท่านแม่ยายกัน"
หลินกู๋หยู่ได้เย็บสิ่งของเช่นเงินลงในเสื้อผ้าของทั้งสามคนแล้ว
น้ำที่ใช้ทำอาหารและอาบตัวล้วนเป็น้ำฝน แต่เป็น้ำฝนที่ต้มแล้วทั้งหมด
หลินกู๋หยู่นอนอยู่บนเตียง กลางดึกได้ยินเสียงฝนโปรยปรายข้างนอก ความเศร้าโศกระหว่างคิ้วและดวงตาของนางไม่สามารถชัดเจนได้มากกว่านี้
หลินกู๋หยู่ผล็อยหลับไปด้วยความงุนงง ดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงโต้ซาร้องไห้ ทันใดนั้นนางก็ตื่นขึ้น
เสียงร้องไห้ดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดหลินกู๋หยู่ก็ััได้ หลังจากรู้ตัว นางก็เขย่าตัวฉือหางข้างๆ แล้วพูดเบาๆ ว่า "ลูกกำลังร้องไห้ ตื่นเร็ว"
ฉือหางนอนอยู่เคียงข้างหลินกู๋หยู่ฝั่งด้านนอก นางไม่สามารถที่จะคลานข้ามตัวฉือหางไปได้ ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงปลุกเขาให้ตื่น
ฉือหางยังคงสะลึมสะลือ ค่อยๆ ลืมตาขึ้นจ้องมองหลินกู๋หยู่ที่อยู่ข้างๆ เขาอย่างว่างเปล่า เสียงร้องไห้ของโต้ซาดังขึ้นในหู จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้น
“โต้ซาร้องไห้ เ้ารีบลุกขึ้นไปดูเถอะ” หลินกู๋หยู่เหยียดแขนออกแล้วพุ่งไปหาเขาอย่างเ็า
ฉือหางจุดเทียนบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว จากนั้นเดินไปที่ข้างเตียงเล็กและอุ้มโต้ซาขึ้นมากอด
ทุกที่ที่มือััเต็มไปด้วยน้ำ คิ้วของฉือหางก็ขมวดแน่นยิ่งขึ้น
"เตียงยุบแล้ว” หลินกู๋หยู่ลุกขึ้นนั่งโดยห่อผ้านวม มองไปที่ฉือหางด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก เม้มริมฝีปากแน่น "มานี่เถอะ"
ฉือหางรีบช่วยโต้ซาถอดเสื้อผ้า เช็ดตัวให้สะอาดแล้ววางโต้ซาลงบนเตียงใหญ่
หลังจากหลินกู๋หยู่ััความเย็นบนมือของโต้ซาจึงยื่นมือออกไปกอดเขาไว้ในอ้อมแขน
"พวกเราขึ้นไปบนูเากันเถอะ” หลินกู๋หยู่นอนอยู่บนเตียง มองฉือหางที่กำลังเช็ดขาข้างเตียง พูดเสียงแ่ว่า "บ้านนี้อาจจะพังลงในไม่ช้า"
“พรุ่งนี้พวกเราไปที่บ้านท่านแม่ยายก่อน ถ้าสถานการณ์ที่นั่นไม่ร้ายแรงนัก พวกเราก็...” ฉือหางพูด
“ไม่ไปที่นั่นแล้ว” ร่างกายของหลินกู๋หยู่แผ่ซ่านไอเย็น อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น “พวกเราไปทีู่เากันเถอะ เมื่อถึงเวลานั้นเราสร้างบ้านง่ายๆ หลังหนึ่ง อาศัยอยู่เช่นนี้ไม่น่าจะรอด"
ฉือหางขึ้นไปบนเตียงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่พื้นห้องเต็มไปด้วยน้ำ
เมื่อตื่นขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้น หลินกู๋หยู่ใช้ฟืนจุดไฟในเตาก่อนที่จะปรุงอาหาร ในขณะที่สายฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง
หลังจากพวกเขาทั้งสามทานอาหารอย่างเรียบง่าย หลินกู๋หยู่ก็ใส่โต้ซาลงในอ่างไม้
ข้างนอกฝนหยุดตกแล้ว
หลินกู๋หยู่มองไปที่ฉือหาง จากนั้นมองไปที่อ่างไม้หลายใบข้างๆ "ดูสิว่ามันจะลอยหรือไม่ ถ้ามันลอย พวกเราดึงมันไปด้วยกัน"
ฉือหางพยักหน้าเห็นด้วย โชคดีที่ตอนนี้ฝนไม่ตก ถ้าฝนตกย่อมลำบากกว่านี้
หลินกู๋หยู่จัดการได้ดีมาก อ่างไม้ทั้งหมดจึงสามารถลอยอยู่บนน้ำ
ทั้งสองคนดันอ่างไปด้วยขณะเดินขึ้นูเา
หลายคนเห็นการกระทำของหลินกู๋หยู่และฉือหาง พวกเขาแต่ละคนขมวดคิ้วด้วยความสับสนหลายส่วน
มีบางคนอยากรู้อยากเห็นถามไถ่ว่าทั้งสองคนกำลังทำอะไร ฉือหางบอกเพียงว่าบ้านถูกน้ำท่วม พวกเขา้าขึ้นไปบนูเา
มีเพียงไม่กี่บ้านเท่านั้นที่น้ำไม่เข้า
หลินกู๋หยู่รู้สึกว่ากางเกงของนางเปียกชื้นไปหมดแล้ว มันแนบติดกับร่างกายของนาง ทำให้นางรู้สึกอึดอัดอย่างมาก
เส้นทางเดินบนูเานั้นลื่นมาก ทุกย่างก้าวที่ก้าวไป นางกังวลว่าตนเองจะลื่นล้มลงไป
“ระยะทางไปที่ถ้ำไกลแค่ไหน?” หลินกู๋หยู่มองฉือหางอย่างสงสัย
"ไกลมาก" ใบหน้าของฉือหางน่าเกลียดเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่า "ถ้ำอยู่บนูเา คาดว่าต้องใช้เวลาเดินทางหนึ่งวัน"
หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้ว "ข้าไม่สามารถเดินไปได้ไกลขนาดนั้น"
พวกเขาสองคนนำอ่างไม้สามใบขึ้นไปที่กลางูเาด้วยความพยายามอย่างหนัก และเมื่อพบพื้นที่เปิดโล่ง หลินกู๋หยู่วางของทั้งหมดลง มองไปที่โต้ซาซึ่งกำลังนั่งอยู่ในอ่างด้วยท่าทางตื่นเต้น
พื้นยังคงลื่นมาก หลินกู๋หยู่มองไปที่หินที่อยู่ไม่ไกล นำมันมาก่อนที่จะกระจายลงบนพื้น
“พี่ฉือหาง คิดว่าเราจะสามารถย้ายแผ่นไม้ออกจากบ้านมาที่นี่ได้หรือไม่?” หลินกู๋หยู่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ตอนนี้ฝนไม่ตก หากฝนตกขึ้นมา พวกเราจะต้องเปียกฝนแน่”
ตามที่หลินกู๋หยู่พูด เขานำโต้ซาออกจากอ่างไม้
โต้ซายืนอยู่บนหินโดยเอามือไพล่หลัง สายตาทอดมองไปรอบด้านอย่างจริงจัง
หลินกู๋หยู่ทำความสะอาดอ่างไม้ใบใหญ่แล้วส่งให้ฉือหาง "เราวางของในนี้ได้ และลากมันขึ้นมาเมื่อถึงเวลานั้น ถ้าพี่ย้ายไปไม่ได้ บอกข้าลงไปข้างล่างด้วยก็ได้"
ฉือหางไม่เคยคัดค้านสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูด
เมื่อมองดูฉือหางลงไปพร้อมกับอ่างไม้ในอ้อมแขนของเขา หลินกู๋หยู่ก็มองไปที่ต้นไม้สองต้นที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งสามารถใช้สร้างบ้านได้
โต้ซาถือกิ่งไม้ในมือวาดภาพบนพื้น
สิ่งที่ไม่ขาดแคลนบนูเาคือหิน
หลินกู๋หยู่เดินไปที่ต้นไม้สองต้นพร้อมอุ้มโต้ซาอยู่ในอ้อมแขน
บนูเายังคงอันตรายมาก หลินกู๋หยู่รู้สึกว่าตนเองจำเป็ต้องให้โต้ซาอยู่กับนางตลอดเวลา
พอกระจายหินทั้งหมดบนพื้น เด็กสาวก็ดึงวัชพืชที่ยุ่งเหยิงออกให้หมด
หินขนาดต่างๆ ถูกปูไว้บนพื้น การเดินบนหินเ่าั้ทรมานมาก แต่วิธีนี้ทำให้นางไม่ต้องเดินบนพื้นโคลน
พอหลินกู๋หยู่สร้างพื้นที่ขนาดใหญ่ได้แล้ว จากนั้นนางก็ย้ายอ่างไม้ทั้งหมดขึ้น
เนื่องจากลมแรงและฝนตกหนัก ดังนั้นจึงมีกิ่งไม้มากมายเกลื่อนกลาดบนพื้นดิน
หลินกู๋หยู่พยายามรวบรวมกิ่งไม้เ่าั้ทั้งหมดเข้าด้วยกัน
กิ่งก้านเหล่านี้เปียกน้ำจึงไม่ติดไฟเลยแม้แต่น้อย แต่สามารถนำเอาไปทำอย่างอื่นได้
ในขณะที่หลินกู๋หยู่กำลังหยิบฟืน นางก็เห็นฉือหางขึ้นมาพร้อมอ่างน้ำในอ้อมแขนของเขา
เมื่อหลินกู๋หยู่เห็นฉือหาง นางก็รีบวิ่งไปหาฉือหางและช่วยฉือหางนำอ่างน้ำขึ้นเขาอีกแรง
พอย้ายอ่างน้ำไปวางบนพื้นหิน หลินกู๋หยู่ก็หายใจเข้าออกอย่างกระหืดกระหอบ
“เ้าอย่าใส่ของมากมายในคราวเดียว ไม่เช่นนั้นจะเหนื่อยมาก” หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วพูดอย่างจริงจัง
แม้ว่าฉือหางจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็เป็ไปไม่ได้ที่จะย้ายทุกสิ่งขึ้นพร้อมกันในคราวเดียว
"ไม่เป็ไร” ฉือหางพูดพร้อมกับหยิบกระดานไม้ขนาดใหญ่และขนาดเล็กออกจากอ่างอาบน้ำ
"ข้าคิดว่าถ้ามีกระดาษน้ำมันรอบๆ ก็คงจะดี จะได้ไม่ต้องกังวลว่าฝนจะตกแล้ว” หลินกู๋หยู่กล่าวเช่นนี้เนื่องจากพวกเขามีกระดานไม้ไม่เพียงพอ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงเท่านี้
การสร้างบ้านโคลนจะต้องใช้เวลานานเกินไป
"ไม่มี” ฉือหางขมวดคิ้วแน่นขึ้นและพูดอย่างจนใจหลายส่วน "หรือว่าให้ข้ารื้อแผ่นไม้ทั้งหมดจากบ้านของเราแล้วขนย้ายมาที่นี่?"
เมื่อแหงนหน้ามองท้องฟ้าก็เห็นว่าเวลาสายมากแล้ว หลินกู๋หยู่จึงพูด "ตอนนี้เรามาจัดการของที่มีให้เรียบร้อยก่อน ไม่เช่นนั้นคืนนี้เราจะหนาวได้"
ฉือหางช่วยหลินกู๋หยู่เลือกกิ่งไม้และวางพวกมันทั้งหมดไว้ข้างๆ ราวกับว่าจะสร้างรั้วกั้น
พวกเขาพยายามวางไม้กระดานสองแผ่นหันเข้าหากันเป็รูปสามเหลี่ยม กางเสื้อกันฝนทั้งหมดบนกระดานไม้ด้านข้าง ขนาดเพียงพอที่จะวางเตียงหนึ่งเตียงข้างในได้
เพียงพอสำหรับพวกเขาสามคนแล้ว
หลังจากหลินกู๋หยู่จุดไฟอย่างยากลำบาก พวกเขาสามคนรับประทานอาหารเสร็จแล้วก็เตรียมตัวเข้านอน
แผ่นไม้ไม่สามารถบังลมได้มากนัก หลินกู๋หยู่คลุมเสื้อคลุมบนตัวพวกเขาแต่ละคน ดังนั้นจึงไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็นมากนัก
โต้ซานอนระหว่างพวกเขาสองคน ดังนั้นจึงไม่มีภาระทางจิตใจ
ทว่ายามค่ำคืนลมพัดแรง ใบไม้ปลิวว่อน
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงหมาป่าหอนดังจากข้างนอก
ร่างกายของหลินกู๋หยู่สั่นเทิ้มอย่างไม่อาจควบคุมได้ มือทั้งสองจับผ้านวมแน่น ใบหน้าของนางเหยเกในทันใด