"ต่อหน้าคนอื่นเรียกฉันว่าผู้เฒ่าหวังหรือพี่หวังก็พอ!"
ผู้เฒ่าหวังไม่กล้าปล่อยให้เฉินเฟิงเรียกเขาว่าพ่อทูนหัวตลอดเวลา
นอกจากสัญญาการเดิมพันแล้ว พวกเขาก็แค่เปลี่ยนแปลงความเกี่ยวดองเป็พ่อบุญธรรมกับลูกบุญธรรมแค่นั้น
ด้วยวิธีนี้ พวกเขาก็มีข้อผูกมัดกับปรมาจารย์ฮวงจุ้ยเฉินเฟิงได้
รางวัลเดิมพันเป็ส่วนแบ่งเฉียนต๋ากรุ๊ปยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเรียกได้ว่าอยู่ในกำมือเฉินเฟิงเกือบจะแน่นอนแล้ว
และแล้วสายตาของเขาก็หันไปทางผู้เฒ่าถาง
"สุขภาพร่างกายฉันแข็งแรงดี นายกำลังแช่งว่าฉันจะอยู่ไม่พ้น 2004 เหรอ?"
ผู้เฒ่าถางไม่เชื่อว่าตนจะมีชีวิตเหลืออยู่อีกเพียงเก้าปี เขาขบฟันมองเฉินเฟิงด้วยความไม่พอใจยิ่ง
เฉินเฟิงตระหนักเื่ที่เขากลายเป็ปรมาจารย์แห่งศาสตร์ฮวงจุ้ยในสายตาของผู้เฒ่าทั้งสอง
ดังนั้นเขาจึงแกล้งวางท่าให้ดูล้ำลึกและพูดด้วยน้ำเสียงปรามาส
"จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ แม้ว่าถางเฉินกรุ๊ปของคุณตอนนี้จะมีมูลค่าสินทรัพย์โดยรวมสูงกว่าเฉียนต๋ากรุ๊ปหลายเท่าตัวก็เถอะ แต่ในไม่ช้า เฉียนต๋ากรุ๊ปจะตามทันและทิ้งห่างไปไกลแบบไม่เห็นฝุ่น
จุดสูงสุดของถางเฉินกรุ๊ปที่เอื้อมถึงในอนาคต ก็มีแค่มูลค่าทรัพย์สินกว่าสองหมื่นล้านหยวนแค่นั้น
ขณะที่ทางด้านว่านต๋า [1] กรุ๊ปกลับมีทรัพย์สินได้มากถึงสองแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ดังนั้นผมจึงไม่ได้ให้ค่าอะไรกับอีแค่ส่วนแบ่งเก้าเปอร์เซ็นต์ของถางเฉินกรุ๊ปหรอก
เหตุผลที่ผมเสนอการเดิมพันนี้ คือผม้าช่วยชีวิตคุณ ในเมื่อผมได้แกนหลักทางฮวงจุ้ยของตี้หวางมาแล้ว ผมก็มีแผนจะสร้างถางเฉินจี๋พิ่นวิลล่าบนที่ดินแปลงนี้ เพื่อเป็บ้านของพวกเราในโม๋ตู"
ผู้เฒ่าหวังยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง
ตอนนี้เขาเชื่อทุกคำพูดของเฉินเฟิง
ยิ่งเฉินเฟิงเพิ่งบอกว่าเขาจะกลายเป็บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเหยียนหวง และจุดสูงสุดของเฉียนต๋ากรุ๊ปสามารถไปได้ไกลถึงการมีสินทรัพย์กว่าสองแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพื่อนดีหาง่าย เพื่อนตายสิหายาก
เฉินเฟิงไม่ใช่แค่เพื่อนแท้ของผู้เฒ่าหวัง แต่เป็ผู้ให้คำแนะนำด้านจิติญญาด้วย
เฉียนต๋าในตอนนี้มีสินทรัพย์ประมาณหนึ่งพันล้าน และยังอยู่ใน่ขาดทุน
เฉินเฟิงกลับกล้าพูดว่าเฉียนต๋ากรุ๊ปจะมีสินทรัพย์สูงได้ถึงสองแสนล้านดอลลาร์สหรัฐในอนาคต
แค่คำพูดนี้เพียงอย่างเดียวก็คุ้มค่ากับส่วนแบ่งยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของเฉียนต๋ากรุ๊ปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เทียบกับความตื่นเต้นของผู้เฒ่าหวัง ผู้เฒ่าถางยังแสดงความลังเลอยู่
แม้ว่าเขาจะได้ยินสิ่งที่เขากำลังคิดมาอย่างเนิ่นนานจากปากเฉินเฟิงก็ตาม
เขาวางแผนจะสร้างอสังหาริมทรัพย์ที่หรูหราที่สุดในประเทศบนที่ดินตี้หวางและที่ดินแห้งแล้งแห่งนี้อย่างถางเฉินจี๋พิ่น
แต่เขาก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะถ้าหากเขาเชื่อและลงเดิมพันกับเฉินเฟิงจริง นั่นก็หมายถึงการยอมรับว่าตนจะมีชีวิตไม่พ้นปี 2004
เมื่อเห็นผู้เฒ่าถางเป็เช่นนี้ เฉินเฟิงจึงฉีดแรงกระตุ้นเข้าไปอีก
"บ้านเกิดของคุณคือเซียงเจียงใช่ไหม? อ่าวเพนนีที่เกาะลันเตายังไม่มีผู้ ซื้อที่นั่นด้วยราคาสี่สิบล้านในชื่อผมสิ"
ในชาติก่อนเฉินเฟิงเคยต่อสู้ฟันฝ่าในตลาดหุ้นฮ่องกงนานหลายปี จึงคุ้นเคยกับสถานการณ์ของสวนดิสนีย์แลนด์ในฮ่องกงเป็อย่างดี
ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1999 บริษัทดิสนีย์ร่วมกับเขตปกครองพิเศษฮ่องกงได้มีการเจรจาอย่างเป็ทางการเกี่ยวกับการก่อสร้างดิสนีย์แลนด์ในฮ่องกง
จนถึงในวันที่ 3 มีนาคม ก็มีการเปิดเผยงบประมาณจากเลขานุการฝ่ายการเงินเป็ครั้งแรก
ต่อมาวันที่ 31 ตุลาคม ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเสร็จสรรพ จึงมีการจัดตั้งฮ่องกงอินเตอร์เนชันแนล ธีม พาร์ค จำกัดขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาอ่าวเพนนีในเกาะลันเตา รวมถึงเป็ขั้นตอนแรกๆ ของการก่อสร้างดิสนีย์แลนด์รีสอร์ตด้วย
จากนั้นในวันที่ 12 มกราคม ปี 2003 ดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงเริ่มการก่อสร้างขึ้นอย่างเป็ทางการ โดยมีแผนจะใช้เงินในการก่อสร้างทั้งหมดเป็จำนวนหนึ่งหมื่นสี่พันหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์ฮ่องกง ด้วยฝีมือการออกแบบของทีมจินตวิศวกรรม [2] ของดิสนีย์เอง
ดังนั้นเฉินเฟิงจึงตัดสินใจให้ผู้เฒ่าถางผู้มีบ้านเกิดอยู่ฮ่องกงช่วยเขาซื้อที่ดินในอ่าวเพนนีบนเกาะลันเตา
ปัจจุบันเป็ปี 1995 ห่างจากปี 1999 สี่ปี
"อ่าวเพนนีบนเกาะลันเตา? เกาะนั่นเป็อาณาเขตของหยิงกั๋วเหริน [3] นะ ยิ่งกว่านั้น ที่ดินแถวนั้นมันทรุดโทรมไร้ค่ายิ่งกว่าที่ดินแห้งแร้งในมือของนายตอนนี้อีก"
ผู้เฒ่าถางสังเกตเฉินเฟิงอย่างใกล้ชิด เขารู้สึกว่าเฉินเฟิงคงไม่เคยไปเยือนฮ่องกงมาก่อน น้ำเสียงที่พูดจึงเจือปนไปด้วยความไม่เชื่อมั่น
"เื่นั้นคุณไม่ต้องกังวล แค่ใช้สี่สิบล้านซื้ออ่าวเพนนีบนเกาะลันเตาในนามผมก็พอ จากนั้นเอาสัญญาซื้อขายมาให้ผม แล้วผมจะมอบสัญญาที่ดินแห้งแล้งในมือผมให้
ส่วนเื่ราคาที่ดินของอ่าวเพนนีว่ามันจะเป็สี่สิบล้าน สามสิบล้าน ห้าสิบล้าน หรืออาจจะแพงขึ้น มันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวคุณเอง"
เฉินเฟิงใช้หนังสือสัญญาในมือเป็พัดและพูดด้วยความมั่นอกมั่นใจราวกับตนเองเป็สุดยอดนักวางแผนขงเบ้ง
"เอาละ ในเมื่อฉันก็ไม่ได้รีบจะสร้างอะไรบนที่ดินนั่น เอาเป็ว่าพรุ่งนี้ฉันจะเดินทางกลับเซียงเจียง แล้วจะพยายามซื้อที่ดินไร้มูลค่านั่นด้วยเงินราคาสี่สิบล้านให้ได้ก็แล้วกัน"
ผู้เฒ่าถางพยักหน้ารับอย่างเคร่งขรึม ก่อนพูดอย่างช้าๆ
ผู้เฒ่าถางไม่เคยคิดจะซื้ออ่าวเพนนีมาก่อน
เพราะเขาไม่เคยเชื่อแม้แต่น้อยว่าที่ดินที่ทั้งรกร้างว่างเปล่า ทั้งห่างไกลและไร้ผู้คนอาศัย แถมยังเป็ของอังกฤษอยู่นั้น จะเอามันมาพัฒนาหรือทำอะไรได้
โดยเฉพาะเมื่อเป้าหมายหลักของถางเฉินกรุ๊ปอยู่ที่โม๋ตูและเมืองใหญ่เมืองอื่นๆ ในประเทศ
เงินไม่ควรถูกใช้ไปโดยเปล่าประโยชน์
แต่เฉินเฟิงกลับเข้าซื้อที่ดินรกร้างกับโรงแรมใกล้เจ๊งไป
แม้แต่ตอนนี้ บางทีการที่เฉินเฟิงแย่งที่ดินแห้งแล้งไปได้อาจเป็เพียงแค่โชคช่วย แล้วเขาก็แค่ฉวยโอกาสนี้กรรโชกผู้เฒ่าถางเล่น
ผู้เฒ่าถางก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกเฉินเฟิงกรรโชกทรัพย์อยู่จริงๆ
ไม่ใช่แค่สี่สิบล้าน แต่ยังขอส่วนแบ่งถางเฉินกรุ๊ปอีกเก้าเปอร์เซ็นต์
ด้วยมูลค่าของถางเฉินกรุ๊ปกว่าเก้าพันเก้าร้อยล้าน เก้าเปอร์เซ็นต์นั่นราคาเกือบเก้าร้อยล้าน
แม้ว่าเฉินเฟิงจะไม่อาจขายส่วนแบ่งเป็เงินได้ก่อนการเดิมพันจะสิ้นสุดลงก็ตาม
ผู้เฒ่าถางคิดถึงคำพูดของเฉินเฟิงที่ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ไม่พ้น 2004 ซึ่งเป็คำพูดที่ติดอยู่ในหัวเขา
"งั้นก็ตามนี้ พรุ่งนี้คุณกลับเซียงเจียง
แล้วไปคว้าที่ดินในอ่าวเพนนีมาให้ผมด้วยเงินสี่สิบล้านให้ได้ จากนั้นเอาสัญญาที่ดินของอ่าวเพนนีให้ผม แล้วผมจะมอบสัญญาของที่ดินแห้งแล้งนี้ให้คุณ หลังจากนั้น ถ้าคุณยังไม่อยากลงเดิมพันกับผม ผมจะเปลี่ยนเนื้อหาการเดิมพันให้คุณ" เฉินเฟิงพยักหน้าพูดด้วยท่าทางมีลับลมคมในอีกครั้ง
สิ้นคำพูด ผู้าุโหวังถามขึ้นด้วยความสงสัยในทันที
"จะเปลี่ยนเนื้อหาการเดิมพันกับเ้าเฒ่าถาง นี่เป็แบบไหนกัน?"
เฉินเฟิงตอบกลับด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ
"เนื้อหาการเดิมพันที่ผมจะเปลี่ยน จะไม่ข้องเกี่ยวกับชีวิตและความตายของผู้เฒ่าถาง ไม่ว่าใครต่างก็หวาดกลัวความตาย ซึ่งผมก็ไม่มีทางเลือกอื่น เนื้อหาใหม่จะเกี่ยวข้องกับอ่าวเพนนี แต่แน่นอนว่าก่อนอื่น ผู้เฒ่าถางต้องซื้อที่ดินให้ผมในวันพรุ่งนี้ให้ได้ก่อน และสำหรับคุณ ผู้เฒ่าหวัง ผมมีการเดิมพันครั้งที่สองที่ผมอยากเล่นกับคุณ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เรามาเดิมพันด้วยส่วนแบ่งของเฉียนต๋ากรุ๊ปกัน"
เชิงอรรถ
[1] ว่านต๋า ในที่นี้อาจเป็ผู้แต่งพิมพ์ผิด หรืออาจเป็การเล่นคำจาก เฉียนต๋า เป็ ว่านต๋า เฉียน [ 千 พัน ] ต๋า ,ว่าน [ 万 หมื่น ] ต๋า
[2] จินตวิศวกรรม (Imagineering) เป็คำเฉพาะที่ดิสนีย์จดทะเบียนและใช้เรียกพนักงานบริษัทของตนเอง
[3] หยิงกั๋วเหริน มีความหมายว่าประเทศผู้ชนะ ซึ่งในเวลาปัจจุบันตามเนื้อเื่คือ 1995 ณ เวลานี้ฮ่องกงยังอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศผู้ชนะ (อังกฤษชนะาฝิ่นจึงปกครองฮ่องกงั้แ่ 1841) และฮ่องกงจะได้รับอิสรภาพจากอังกฤษในปี 1997