"เรียนฮูหยินผู้เฒ่า ไท่ไท่รองสุขภาพแข็งแรงดียิ่ง ชีพจรมั่นคง ทารกในครรภ์ก็ไม่มีปัญหา" หมอหลวงกล่าวอย่างสุภาพ
ไท่ไท่รองหน้าเสีย "เ้าตรวจเป็หรือเปล่า เมื่อครู่นี้ข้ารู้สึกไม่สบายจริงๆ นะ"
"ใช่ เมื่อครู่ไท่ไท่ของเราเพิ่งจะปวดท้องอย่างหนักเลยเ้าค่ะ" หรูหมัวมัวเข้ามาช่วยเสริม
"ชีพจรมั่นคงสม่ำเสมอ ไม่รู้สึกว่ามีสิ่งผิดปรกติ หากท่านยังรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ก็ให้ท่านหมออีกสองท่านร่วมวินิจฉัย" หมอหลวงกล่าวเสียงเข้มขึ้นมา
ผลออกมาเป็ดังคาด อีกสองท่านก็กล่าวอย่างเดียวกัน
เมื่อเห็นไท่ไท่รองจะพูดอะไรอีก ฮูหยินผู้เฒ่ากลับไม่ให้โอกาส เอ่ยเพียงว่า "ขอบคุณท่านหมอทั้งสามที่เดินทางมาถึงที่นี่ เ้าสาม ออกไปส่งท่านหมอ"
หลังจากหมอหลวงไปแล้ว ไท่ไท่รองก็พึมพำขึ้นมา "หมอจากสำนักหมอหลวงก็แค่นี้เอง ข้าเพิ่งรู้สึกไม่สบายชัดๆ เขากลับตรวจไม่พบสิ่งใดแม้แต่น้อย ต้องเป็หมอเถื่อนแน่ๆ เป็ไปได้แปดส่วนว่าเข้าสำนักหมอหลวงได้เพราะยัดเงิน"
"พี่สะใภ้รองคิดว่าใครๆ ก็ล้วนแต่ทำเื่สกปรกเช่นนี้ทุกคนเลยหรือ" บัดนี้ซูซานหลางกลับมาจากไปส่งหมอหลวงออกจากจวนพอดี เขายิ้มเยาะพลางประชดประชัน
"ซานหลางเ้าพูดหมายความว่าอย่างไร ต่อให้ตอนนี้ข้าไม่เป็อันใด แต่เมื่อครู่ข้า..." ไท่ไท่รองยังจะเถียง
"พอได้แล้ว!"
ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธจัด "เ้าหุบปากให้ข้าเดี๋ยวนี้"
หลังจากนั้นก็หันไปมองซูซานหลาง "ซานหลางเ้าพูดมา ครานี้เหตุใดถึงไม่เห็นแก่หน้าตา ไปเชิญหมอหลวงมาโดยตรง เ้ามิใช่ไม่รู้ว่าพี่สะใภ้รองของเ้าเป็คนอย่างไร หญิงโง่งมไร้วิชาความรู้ เ้าอยากให้ทุกคนรู้กันหมดหรือว่าพี่รองของเ้าแต่งงานกับสตรีประเภทไหน?"
ใบหน้าของไท่ไท่รองประเดี๋ยวคล้ำประเดี๋ยวซีดสลับกันไป
ซูซานหลางตอบอย่างสุขุม "หากไม่ให้หมอหลวงมาตรวจ วันนี้พี่สะใภ้รองปรักปรำพวกเราได้ พรุ่งนี้นางก็จะแล่นไปปรักปรำผู้อื่นอีก คนในครอบครัวกันเองก็แล้วไป พวกเราทนนางได้ แต่หากเป็คนข้างนอกท่านแม่คิดว่าจะยังได้อยู่อีกหรือ มิใช่ว่าตั้งท้องแล้วตนเองจะทำผิดอย่างไรก็ได้ หรือเอ่ยขอสิ่งใดผู้อื่นก็ต้องรับปาก"
ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปถามไท่ไท่รอง "เ้าเรียกร้องอันใดอีกเล่า?"
"ข้าไหนเลยจะเรียกร้องอันใด พวกเขาเพียงเข้าใจข้าผิด ข้า..."
"โครม!"
เสียงดังมาจากนอกหน้าต่าง
ซูซานหลางเดินสองสามก้าวไปเปิดประตูหน้าต่าง เห็นพี่น้องฝาแฝดซึ่งหนีจากที่เกิดเหตุไม่ทัน
เฉียวเยว่หมุนตัวกลับมาช้าๆ แสร้งทำเป็ตกอกใ "พวกเราบังเอิญผ่านมา เพียงแค่เดินผ่านเ้าค่ะ"
"เดินผ่าน?" ซูซานหลางมุมปากกระตุก
ไม่รู้ว่าเ้าตัวเล็กเหล่านี้มาแอบฟังนานเท่าไรแล้ว เห็นขาของนางยามวิ่งดูแข็งแปลกๆ คะเนว่าคงนั่งจนขาชาแล้ว
"โธ่เอ๊ย นี่นะหรือการอบรมของเรือนสาม เด็กโตขนาดนี้ยังแอบหลบมุมกำแพง หึๆ ช่างมีมารยาทเสียเหลือเกิน สตรีชาติกำเนิดจากตระกูลนักปราชญ์ มีปัญญาอบรมบุตรแค่นี้เอง"
เป็แม่ไก่แก่ที่ชอบจิกตลอดเวลาจริงๆ
เฉียวเยว่เอี้ยวศีรษะกลับมา แต่ไม่วิ่งหนีแล้ว นางปีนขึ้นมาเกาะขอบหน้าต่าง ขาน้อยๆ ห้อยต่องแต่งอยู่ข้างล่าง "อย่างน้อยมารดาข้าก็ไม่มีน้องสาวที่แต่งงานไม่ออกจนต้องมายัดเยียดให้พี่ชายของท่านให้ได้"
นางทำท่าขบคิดแล้วพูดเสริมอีกว่า "มารดาข้าไม่เคยคิดว่าต้องจ่ายเงินถึงจะสามารถซื้อตำแหน่งขุนนางเล็กๆ ขั้นเก้า หรือบุตรสาวของขุนนางตำแหน่งเล็กกระจ้อยร่อยไร้ความสำคัญคิดจะแต่งให้เสนาบดี แต่กลับว่าเสนาบดีเป็ฝ่ายอาจเอื้อม"
"พรืด!" ซูเอ้อหลางถึงกับสำลักออกมา
เขาหันไปชี้หน้าภรรยาของตนเอง "ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่เ้าทำรึ นางหญิงโง่"
"เมื่อไม่ได้ดังใจมารดาของข้าก็มิเคยด่าทอผู้อื่นว่า นาง-แพศ-ยา นาง-ตัว-ซวย ท่านลุงรอง นี่หมายความว่าอย่างไรหรือ ท่านป้าสะใภ้รองด่าคนเก่งยิ่ง พวกเราฟังไม่รู้เื่เลยเ้าค่ะ" นางใช้น้ำเสียงนุ่มนวลไร้เดียงสา
ถึงแม้ซูเอ้อหลางจะไม่เป็โล้เป็พาย แต่ไหนเลยจะเคยเสียหน้าเพียงนี้
เขาจ้องหน้าภรรยา ไท่ไท่รองก็ชักสีหน้าเอ่ยว่า "แค่นี้ไม่เห็นจะเป็อันใด"
เฉียวเยว่ยังคงยิ้มตาหยี พูดต่อไป "ยังมีอีกนะเ้าคะ เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ใจปรารถนาป้าสะใภ้รองก็บอกว่าปวดท้อง คิดหมายปรักปรำผู้อื่น มิน่าเล่าท่านพ่อถึงไม่ให้พวกเรามา หากมาละก็ เป็ไปได้แปดส่วนว่าต้องมีข่าวลือออกไปว่าข้าผลักป้าสะใภ้รอง จนครรภ์ของป้าสะใภ้รองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างนั้นอย่างนี้ หวา คิดดูแล้วช่างน่ากลัวเหลือเกิน"
เด็กหญิงตัวน้อยไถลลงจากขอบหน้าต่าง แล้วจูงมือของฉีอัน "ท่านป้าสะใภ้รองน่ากลัวยิ่งนัก พวกเรารีบหนีกันเถอะ"
หลังจากนั้นเด็กน้อยสองคนก็วิ่งจู๊ดหายไปไม่เห็นฝุ่น
แต่เป็เช่นนี้ก็ดี ซูซานหลางไม่จำเป็ต้องพูดอะไรอีก เพราะเฉียวเยว่ของพวกเขาเล่าเื่ราวทั้งหมดออกไปแล้ว
เขายืนนิ่งอยู่ด้านข้าง กล่าวอย่างจริงจัง "ท่านแม่ขอรับ ไม่ใช่ว่าบุตรชายอย่างข้า้าทำเื่เล็กให้เป็เื่ใหญ่ แต่วันนี้เวลานี้เมื่อหมอหลวงต่างเป็พยานว่าพี่สะใภ้รองมิได้เป็อันใดแม้แต่น้อย เช่นนั้นข้าคงสามารถสรุปความได้แล้วหรือไม่ว่าพี่สะใภ้รองคิดใส่ร้ายพวกเรา?"
สีหน้าของซูเอ้อหลางย่ำแย่อย่างยิ่ง เขาก้าวเข้ามาตบหน้าภรรยาฉาดหนึ่ง ไท่ไท่รองเงยหน้ามองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ "ท่านตบข้า?"
"รีบขอขมาน้องสามกับน้องสะใภ้สามซะ" ซูเอ้อหลางพูด
ไท่ไท่รองร้องไห้ "ข้าทำผิดอันใด? ข้าช่วยพวกเขาเชื่อมต่อด้ายแดง ผิดด้วยหรือ?"
เห็นนางยังไม่รู้จักดีชั่วเช่นนี้ ซูเอ้อหลางก็เงื้อมือขึ้นอีก แต่ฮูหยินผู้เฒ่าไม่อาจปล่อยให้เขาตบตีภรรยาตามอำเภอใจได้ อย่างไรเสียนางก็มีบุตรอยู่ในครรภ์
"เ้ารอง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรือนของเ้าเกิดเื่ เห็นแล้วใช่หรือไม่ว่าภรรยาเ้าไม่มีความสามารถที่จะดูแลเหย้าเรือนได้" ฮูหยินผู้เฒ่าหยุดเว้นจังหวะ ก่อนจะพูดว่า "ให้หลี่หมัวมัวไปช่วยดูแลแทนเถอะ ส่วนบ่าวชั่วที่คอยยุแยงเ่าั้ ให้โบยสักยก แล้วขับไล่ออกไปเสีย"
หรูหมัวมัวได้ยินก็ทิ้งตัวคุกเข่าร่ำร้อง "ไม่ได้นะเ้าคะ ฮูหยินผู้เฒ่า ท่าน... ไท่ไท่รอง ไท่ไท่รอง..."
ไท่ไท่รองไม่นึกว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะขับไล่แม่นมของตนเองออกไป นางเอ่ยปากทันควัน "ไม่ได้ พวกท่านจะขับไล่นางไม่ได้ นางเป็แม่นมของข้า เป็คนที่ข้าพามา พวกท่าน..."
"หากอาวรณ์นางนัก เ้าก็ไปพร้อมกับนางเสียเลยสิ" ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวอย่างสงบนิ่ง
ไท่ไท่รองมองแม่สามีด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ เห็นอีกฝ่ายไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อยก็เริ่มหวาดกลัว
"ท่านแม่ ท่านแม่ ข้าขอร้อง ท่านละเว้นนางเถิด ต่อไปข้าจะปรับปรุงตัวให้ดี ไม่ก่อเื่วุ่นวายอีกแล้ว ท่านต้องเชื่อข้านะเ้าคะ ท่านเชื่อข้าได้หรือไม่?" ในที่สุดไท่ไท่รองก็ตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของเื่นี้
เดิมทีนางนึกว่าตนเองสามารถอาศัยท้องของตนเองวางอำนาจบาตรใหญ่ในจวนได้ แต่พวกเขากลับไม่เป็อย่างที่นางคิดเลย
"ท่านแม่ ท่านแม่..."
นางร้องไห้อย่างหนัก "ขอร้องล่ะ ท่านให้นางอยู่ต่อด้วยเถิด..."
แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น สายตาเคียดแค้นของนางไม่ซ่อนเร้นความเกลียดชังแม้แต่น้อย
"เ้ารอง เ้าเป็บุรุษ ตามหลักแล้วไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเื่ในเรือนหลัง แต่นี่เป็เื่ของภรรยาเ้าเอง อย่างน้อยเ้าก็ควรรับผิดชอบ อีกอย่างเ้าอย่าได้ตำหนิน้องชายของเ้าเชียว ลองคิดกลับกัน หากเ้าเป็ซานหลาง เ้าจะทำอย่างไร?"
ซูเอ้อหลางรีบกล่าวทันที "ลูกเข้าใจขอรับ และจะไม่โทษน้องสามเป็อันขาด ล้วนเป็เพราะความสิ้นคิดของหญิงโง่คนนี้ ตอนนั้น... ตอนนั้นลูกถูกความงดงามของนางบังตา นึกเสียใจภายหลังตอนนี้ก็สายไปแล้วขอรับ"
ไท่ไท่รองมองเขาอย่างคาดไม่ถึง แต่ซูเอ้อหลางไม่แม้แต่จะชายตามองไท่ไท่รอง
"เ้ารู้ตัวก็ดีแล้ว จริงอยู่ภรรยาเ้าเป็คนโง่ไร้วิชาความรู้ แต่ถึงอย่างไรพวกเ้าก็แต่งงาน บุตรก็มีด้วยกันแล้ว ข้าหวังว่าครอบครัวเราจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เ้าเองก็อย่าขยันก่อเื่นอกบ้านให้มากนัก นางถึงจะสงบลงได้บ้าง ส่วนเื่ดูแลเหย้าเรือนให้หลี่หมัวมัวจัดการตามความเหมาะสม ข้าว่าภรรยาของเ้าควรพักผ่อนบำรุงครรภ์ไปเงียบๆ จะดีกว่า"
หลังจากพูดทุกอย่างจบสิ้น ก็ชำเลืองไปที่ไท่ไท่ใหญ่ "ตอนนี้เ้าเป็ผู้ดูแลเื่ใหญ่น้อยในจวน เื่เสื้อผ้าอาหารการกินล้วนดีมาก การจัดการในจวนก็ไม่เลว แต่ข้าจำได้ว่าเคยบอกให้จัดหาคนเฝ้าจับตาน้องสะใภ้รองของเ้าให้ดี คนเช่นนางอาจจะอ้างเื่ตั้งครรภ์ไปก่อเื่อะไรก็ได้ แล้วนี่คือผลลัพธ์การดูแลของเ้าหรือ?"
ไท่ไท่ใหญ่รีบคุกเข่า "เป็ความสะเพร่าของสะใภ้เองเ้าค่ะ"
ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มอ่อนจาง "เป็เพราะความสะเพร่าจริงหรืออย่างอื่น ข้าจะไม่สืบสาวราวเื่ แต่หากเ้าจัดการในจวนให้ดีไม่ได้ เช่นนั้นก็ไม่ต้องจัดการอะไรแล้ว"
เมื่อคำพูดประโยคนี้กล่าวออกมา ไท่ไท่ใหญ่ก็แข็งค้างไปทั้งตัว ก่อนที่จะพูดอย่างรวดเร็ว "ท่านแม่ สะใภ้ผิดไปแล้ว ขอท่านแม่โปรดลงโทษ ความไม่รอบคอบของข้าส่งผลให้น้องสามกับน้องสะใภ้สามถูกใส่ความ ล้วนเป็ความผิดของข้าทั้งสิ้น"
ฮูหยินผู้เฒ่าจ้องนางอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยขึ้น "เอาล่ะ ทุกคนกลับเรือนของตนเอง ต้องทำสิ่งใด ตนเองควรรู้อยู่แก่ใจ"
นางลุกขึ้น "คืนนี้ให้เฉียวเยว่กับฉีอันไปนอนกับข้าเถอะ"
หลังจากนั้นก็สั่งอีกว่า "ไปตามเด็กสองคนนั้นมา"
แสดงให้เห็นว่ากลัวซูซานหลางจะคิดบัญชีกับเด็กๆ ย้อนหลัง หลังจากที่พวกเขากลับกันไปหมดแล้ว พวกเขามาแอบฟังผู้ใหญ่คุยกันไม่ถูกตีก้นสิถึงจะแปลก
เด็กน้อยสองคนกำลังเศร้า คิดอยู่ว่าจะหาทางหลีกเลี่ยงการถูกสอบสวนจากบิดาอย่างไรดี
พอได้ยินว่าท่านย่าส่งข่าวดีมาว่าจะพาพวกเขาไปด้วย เฉียวเยว่ก็ะโไปรอบๆ "พี่สาว ท่านเห็นหรือไม่ อยู่ๆ โชคดีก็มาเองโดยไม่คาดคิด"
เดิมทีพวกเขามาขอความช่วยเหลือจากอิ้งเยว่ แต่พี่สาวบอกว่าให้พวกเขายอมรับผิดและยื่นก้นมาให้ตีเสียโดยดี ไหนเลยจะมีเื่เช่นนี้!
"พวกเ้าหลบสิบเอ็ดพ้น ก็หลบสิบห้าไม่พ้น" อิ้งเยว่ยิ้มมุมปาก
"หลบสิบเอ็ดให้พ้นก่อนค่อยว่ากัน" เฉียวเยว่บ่นพึมพำ
เด็กทั้งสองมาถึงห้องของฮูหยินผู้เฒ่าด้วยความดีใจ "วันนี้ท่านปู่ต้องไปนอนห้องหนังสืออีกแล้วหรือ?"
ชายชราซึ่งอ่านตำราอยู่ชำเลืองมาที่พวกเขา เห็นสายตายิ้มย่องราวกับดีใจที่ได้เห็นผู้เคราะห์ร้ายของเด็กน้อยก็แค่นเสียงหึ ตอบอื้ม
ฝาแฝดสองคนพากันหัวเราะชอบใจ
นายท่านผู้เฒ่าหันมามองภรรยา "เหตุใดไปจัดการปัญหา แต่กลับพาพวกเขามาด้วยเล่า ทำอะไรผิดอีกแล้วหรือ?"
เฉียวเยว่รู้สึกได้ว่าคำว่า "อีกแล้ว" ฟังดูไม่ค่อยเป็มิตรเท่าไรนัก
นางยืดอกพูดว่า "ข้าเป็เทพธิดาน้อยแสนดี จะทำผิดได้อย่างไร"
นายท่านผู้เฒ่าซูหัวเราะหึๆ
"เล่าให้ท่านปู่ของเ้าฟังสิ" ฮูหยินผู้เฒ่ามองมาที่เฉียวเยว่
เฉียวเยว่ตื่นเต้นขึ้นมาทันที นางจูงมือฉีอัน "มาๆ พวกเรามาแสดงให้ท่านปู่กับท่านย่าชมกัน"
ฉีอันเอ่ยขึ้น "ข้ารู้สึกว่าถึงแม้ท่านพ่อจะพูดน้อย แต่แข็งแกร่งมาก ข้าจะแสดงเป็ท่านพ่อ"
เฉียวเยว่ตีหน้าเศร้า "บทสตรีร้ายกาจเช่นท่านป้าสะใภ้รองก็ตกเป็ของข้าล่ะสิ เช่นนั้นเ้ารับบทท่านแม่ด้วยแล้วกันนะ"
ฉีอันพยักหน้า "ไม่มีปัญหา"
"น้องสะใภ้สาม เ้ากับข้าจะว่าไปแล้ว..."
เฉียวเยว่เลียนแบบออกมาครบถ้วนทั้งสีหน้าและน้ำเสียง
...
ต้องบอกว่าเด็กน้อยความจำดีอย่างยิ่ง ถึงนางกับฉีอันจะจดจำไม่ได้หมดทุกคำพูด แต่ก็ช่วยกันเตือน จนสามารถนึกออกได้เจ็ดแปดส่วน เห็นพวกเขาสองคนต่างช่วยกันเล่า แม้ริมฝีปากของนายท่านผู้เฒ่าจะยังมีรอยยิ้ม แต่ดวงตากลับเ็าขึ้นมาเล็กน้อย
"ท่านปู่ ข้าแสดงได้ดีหรือไม่?" เฉียวเยว่ขอคำชม
นายท่านผู้เฒ่าซูลูบศีรษะของนาง "แสดงได้ดีมาก"
"ข้าเล่า ข้าเล่า?"
"เ้าก็เก่งมาก" นายท่านผู้เฒ่าซูหัวเราะ
เขาเข้าใจสาเหตุที่ภรรยาพาเด็กทั้งสองคนมาแล้ว นอกจากเพื่อช่วยไม่ได้พวกเขาถูกตีเพราะแอบฟังผู้ใหญ่คุยกัน ยังได้ฟังรายละเอียดทั้งหมดจากสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างไรเสียเด็กน้อยไม่มีทางโกหกอยู่แล้ว
"เช่นนั้นพวกเราขอรางวัล พวกเราล้วนแสดงได้ดี ก็ต้องมีรางวัลใช่หรือไม่เ้าคะ" เฉียวเยว่ยื่นมือออกมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้