“ปึง!”
ชิงจิ้นเพิ่งหยิบมีดออกมา จู่ๆ ก็เห็นเงาคนวิ่งออกมาจากความมืด รวดเร็วมากๆ ชิงจิ้นยังไม่ทันเห็นชัดเจนว่าอีกฝ่ายหน้าตาเป็ยังไง ก็ถูกอีกถีบตัวลอยออกไป แล้วพุ่งไปทางเคาน์เตอร์บาร์อย่างรวดเร็ว
มองดูชิงจิ้นใกล้จะกระแทกหน้าบวมช้ำแล้ว อันหยางจึงยื่นมือออกไปดันหลังของชิงจิ้นอย่างกะทันหัน ลดแรงจะแทกไปได้มากกว่าครึ่ง ทำให้ชิงจิ้นยืน ‘ถไล’ ไปเพียงไม่กี่ก้าว ก็ทรงตัวได้แล้ว นั่นแสดงว่าอันหยางก็เป็ผู้ฝึกยุทธ์ที่แท้จริงเหมือนกัน และเก่งกว่าชิงจิ้นมากด้วย
แม้ชิงจิ้นจะไม่กระแทกจนหน้าบวมช้ำ แต่เขาก็โดนฉินหลางถีบไปหนึ่งที นั่นทำให้เขาเดือดมากกว่าเดิม ส่ายมีดในมือไปมา พูดอย่างโอหังว่า “มารดาแกสิเ้าหนู แกรู้ไหมว่าบิดาเป็ใคร? ทำให้บิดาเดือด ฉันจะฆ่าคนที่บ้านแกให้หมด! ได้ยินไหม ฆ่าพวกแกให้ตายทั้งบ้าน!”
“ตายให้หมดใช่ไหม?” ฉินหลางพูดอย่างเย็นเยือก “เพราะคำพูดนี้ของแก วันนี้แกตายแน่!”
“แม่มแกขู่ฉันเหรอ? แกรู้ไหมว่าพ่อฉันเป็ใคร? เขามีลูกสมุนเป็พัน ฆ่าแกก็ง่ายพอๆ กับเหยียบมดตายตัวนึง!” ชิงจิ้นยังคงไม่หยุดโอหัง
ฉินหลางไม่ได้สนใจเ้าชิงจิ้นด้วยซ้ำ หันกลับไปถามอันหยางว่า “วิชายุทธ์นายไม่เลว แต่ถ้าเทียบกับพ่อแกยังห่างอีกไกล! พวกแกมีปัญญาแค่นี้ ยังอยากจะจัดการฉันงั้นเหรอ?”
ขณะที่พูด ฉินหลางได้แก้เชือกที่มัดเจียงเสี่ยวฉิงอยู่ออกแล้ว
“จัดการกับแกอาจจะยากอยู่บ้าง แต่ฉันจัดการกับผู้หญิงข้างตัวนาย กลับง่ายมากๆ” อันหยางหัวเราะเย็นเยือกอย่างได้ใจ “แค้นที่ฆ่าพ่อแค้นที่แย่งเมีย แกฆ่าพ่อฉัน แย่งกิจการที่ควรจะเป็ของฉันไป ฉันก็ฆ่าผู้หญิงข้างตัวแก อ้อจริงสิ ผู้หญิงคนที่ชื่อรั่วปิน แกรู้แล้วใช่ไหม ว่าเธอตายไปแล้ว? ฮึ นี่เป็ของขวัญชิ้นใหญ่ที่ฉันส่งให้แก!”
“รั่วปินเธอ—เป็อะไรเหรอ?” เจียงเสี่ยวฉิงใมาก
“ตอนนี้ยังไม่ต้องสนใจเื่นี้” ฉินหลางเตือนสติเจียงเสี่ยวฉิงเบาๆ จากนั้นจ้องหน้าอันหยาง “อย่าพูดไร้สาระ ในเมื่อวันนี้แกปรากฏตัวแล้ว ก็อย่าหวังว่าจะได้ออกไปง่ายๆ”
“แกนี่เ้าเล่ห์จริงๆ! ที่แท้แกก็ใช้เธอล่อให้ฉันปรากฏตัว!” ตอนนี้อันหยางรู้แล้วว่าฉินหลาง้าอะไร
“ใช่” ฉินหลางพยักหน้า “เมื่อก่อนอย่างน้อยพ่อแกก็มีรังประจำ จะหาเขาง่ายกว่ามาก แต่แกกลับอยู่ไม่เป็หลักเป็แหล่ง ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้พวกแกทำเื่โง่ๆ แบบนี้ ฉันยังต้องเสียเวลาหาโอกาสมาจัดการกับแก ในเมื่อ ฆ่าคนก็จะโดนคนอื่นมาฆ่าเช่นกัน วันนี้ถือว่าพวกแกโชคร้าย!”
“นี่ พี่หยาง…มันจะทำอะไรเหรอ?” ชิงจิ้นรีบถอยมาหลบข้างหลังอันหยาง
“ฉินหลาง แกนี่มันไร้เดียงสาจริงๆ! ตอนนี้ยุคสมัยไหนแล้ว แกคิดว่าวรยุทธ์แกดีแล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ? ฉันกับพ่อฉันไม่เหมือนกัน นอกจากฉันจะฝึกยุทธ์ ยังฝึกยิงปืนด้วย จัดการคนที่ไม่มีวรยุทธ์ ฉันจะใช้วรยุทธ์ แต่ถ้าจัดการกับคนที่วรยุทธ์เหนือกว่าฉัน ฉันก็จะใช้ปืน! ฮึฮึ…”
ท่ามกลางเสียงหัวเราะที่ชั่วร้าย ในมืออันหยางมีปืนกระพกสีดำเล็กๆ เพิ่มขึ้นมาหนึ่งกระบอก แล้วตอนนี้ก็มีเสียงดัง “ปัง” ไฟในบาร์เปิดพร้อมกันทุกดวง ทำให้สว่างกว่าเดิมมาก นั่นเพราะอันหยางเปิดไฟแล้ว เขาไม่อยากให้ฉินหลางมีโอกาสเข้าไปซ่อนตัวในความมืดอีก
“พี่หยาง…ปืนของจริงนี่! ไม่เลว! เฮ้อ ผมอยากได้สักกระบอกตั้งนานแล้ว แต่เสียดายที่พ่อผมไม่อนุญาต!” ชิงจิ้นมองปืนพกในมืออันหยางด้วยความอิจฉา
นี่ไม่ใช่ปืนที่ทำเลียนแบบ แต่เป็ปืนพกของจริง!
มีปืนอยู่ในมือ ความมั่นใจของอันหยางจึงเพิ่มขึ้นมาก เขาใช้ปืนฆ่าคนไม่บ่อย แต่ปกติกลับมีเวลาซ้อมยิงปืนเยอะ ในยามคับขันจะได้ยิงเป้าหมายได้อย่างแม่นจำ อันหยางเป็คนที่มีความโลภ และเ้าคิดเ้าแค้นมาก ดังนั้นปกติเขาจึงมักจะซ่อนวิธีการต่างๆ ของตัวเองเอาไว้ จะแสดงออกมาในยามคับขันเท่านั้น
“ฉินหลาง แกว่าฉันจะฆ่าแกก่อน หรือว่าจะฆ่าเธอก่อนดีล่ะ?” อันหยางพูดอย่างโอหัง ราวกับเขาเป็ผู้ชนะแล้ว
ฉินหลางไม่ตอบ แต่จู่ๆ เจียงเสี่ยวฉิงกลับทำเื่ที่ทุกคนต่างคาดไม่ถึง เธอมายืนอยู่ข้างหน้าฉินหลาง จากนั้นพูดกับฉินหลางเบาๆ ว่า “นายคล่องแคล่วว่องไว เดี๋ยวเขาใช้ปืนยิงฉัน นายรีบหนีไปแจ้งตำรวจ!”
ฉินหลางรู้สึกซึ้งใจ เมื่อถึงนาทีคับขัน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะกล้าเดินออกมา ยิ่งเป็เด็กผู้หญิงแล้วด้วย เพียงแต่ เผชิญหน้ากับมิตรภาพแบบนี้ ฉินหลางกลับไม่รู้ว่าจะเปิดใจรับยังไง
“ขอบคุณมากนะ เจียงเสี่ยวฉิง แต่ฉันไม่ใช่ผู้ชายสารเลวที่ให้ผู้หญิงมาบังปืนให้” ฉินหลางขยับตัวมายืนบังอยู่ข้างหน้าเจียงเสี่ยวฉิง
“เชี่ย! รักแท้ชนะทุกอย่างเหรอ!” ชิงจิ้นพูดเสียดสีอยู่ข้างๆ แต่ในใจกลับรู้สึกอิจฉาฉินหลาง แม้เขาจะเคยเล่นผู้หญิงมาเยอะ แต่กลับไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่ยอมตายเพื่อความรักๆ ได้อย่างเจียงเสี่ยวฉิง
“อันหยาง แกคิดว่าแกเก่งกว่าพ่อแกจริงๆ เหรอ?” ฉินหลางยิ้มอย่างจางๆ “ขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ด ขนาดพ่อแกยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ฉัน แล้วแกจะใช่เหรอ?”
“ดี! โดนปืนจ่อแล้วหน้ายังไม่ถอดสี! แต่ไม่รู้ว่าหลังจากโดนยิงสักนัดแล้ว แกยังจะปากดีแบบนี้ได้อีกรึเปล่า!”
อันหยางโมโหจริงๆแล้ว เขาเล็งไปที่ขาของฉินหลาง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยอย่างเย็นเยือก นิ้มมือเกี่ยวไกปืนเอาไว้เบาๆ
ทว่าในเวลานั้นเอง จู่ๆ อันหยางก็รู้สึกเย็นๆ ที่ข้อมือ ตามด้วยชา จากนั้นมือของเขาก็ไม่มีความรู้สึกอะไรอีก ทำให้ปืนกระบอกนั้นตกลงบนพื้น
เหมือนว่าฉินหลางยังไม่ทันจะขยับเลยด้วยซ้ำ แต่ดูจากสีหน้าและท่าทีที่เรียบเฉยของฉินหลาง เขารู้ั้แ่แรกแล้วว่าจะเป็แบบนี้
“พิษ! แกใช้อาวุธลับ?”
น้ำเสียงของฉินหลางเต็มไปด้วยความสงสัย เพราะเขาไม่มั่นใจว่าฉินหลางใช้อาวุธลับจริงรึเปล่า เนื่องจากทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป และที่สำคัญเหมือนว่าฉินหลางยังไม่ได้ขยับเขยื้อนเลยด้วยซ้ำ จะปล่อยอาวุธลับออกมาได้ยังไง?
สิ่งเดียวที่อันหยางมั่นใจก็คือ เขาถูกพิษแล้ว! ทั้งฝ่ามือของเขาไม่มีความรู้สึกแล้ว และบวมขึ้นอย่างรวดเร็ว! ความแรงของพิษแบบนี้ เกินกว่าที่อันหยางเคยคิดไว้มาก เขารู้ว่านี่จะต้องเป็ที่สุดของพิษที่ร้ายแรงที่สุดแน่นอน!
“ใช่ อาวุธลับ” ฉินหลางพูดอย่างเฉยเมย “ถ้าไม่มีอาวุธลับ ฉันจะจัดการกับเขี้ยวเล็บของพ่อแกได้ยังไง? แกน่าจะยังไม่รู้ พ่อแกเก่งกว่าแกมาก เขายังดึงตัวตำรวจไปช่วยอีกไม่น้อย แต่เสียดาย สุดท้ายก็ยังแพ้ให้ฉันอยู่ดี! ส่วนแก เทียบกับพ่อแกไม่ได้ด้วยซ้ำ กลับบังอาจมาสู้กับฉัน!”
“ทำไมฉันจะไม่กล้า!” อันหยางกลืนยาเม็ดหนึ่งลงไปในท้อง สามารถต้านพิษได้ชั่วคราว พูดอย่างเหิมเกริมว่า “ฉันใช้ “ผีมาเอาชีวิต” ฆ่ารั่วปิน ฆ่าผู้หญิงของแกแล้ว! ต่อให้แกฆ่าฉันไป ในใจแกก็ต้องทุกข์ทรมานตลอดไปอยู่ดี!”
“คาดว่าแกจะต้องผิดหวังอีกแล้ว!” ฉินหลางยิ้มอย่างไม่สบอารมณ์ “แม้ผีมาเอาิญญาจะร้ายแรง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มียาถอนพิษ ดังนั้น ตอนนี้เธอยังสบายดี ส่วนแก ควรจะต้องเป็ห่วงตัวเองได้แล้ว!”
พิษของตั๊กแตนสีเืร้ายแรงกว่าพิษทุกชนิด แม้จะไม่ได้เป็เืปุ๊บแล้วตายปั๊บ แต่ขนาดฉินหลางยังรับมือได้ยากเลย ยิ่งเป็คนที่ใช้พิษได้งูๆ ปลาๆ อย่างอันหยางด้วยแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้