หลินเฮ่ายวนก้มลงมองไปทางเฉินเฉาเกอที่อยู่ด้านล่างพร้อมกับค่อยๆเอ่ยปากขึ้นว่า “เ้าทำผลงานได้ดีจริงๆ วันนี้โดยเฉพาะการเด็ดหัวของผู้นำฝ่ายศัตรูทั้งสองคนนั่นนับว่าเป็ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเลยทีเดียว”
พอหลินหยางได้ยินอย่างนั้นแล้วก็แอบทอดถอนใจออกมาดูท่าทางครั้งนี้เขาจะไม่สามารถจัดการไอ้สวะนี้ได้แล้ว
เพราะต่อให้เขาเลือกที่จะถอดหน้ากากลงั้แ่ตอนนี้แต่เขาก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่จะใช้ยืนยันได้ว่าเขาต่างหากที่เป็ลูกชายที่แท้จริงของหลินเฮ่ายวนและนั่นอาจจะทำให้เฉินเฉาเกอรู้สึกตัวได้ก่อนแล้วหนีหายไปก็เป็ได้
และหลินหยางตอนนี้ก็ยังดูไม่ออกด้วยว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวของเฉินเฉาเกอนั่นมันมีต้นกำเนิดมาจากไหน
ส่วนเฉินเฉาเกอในตอนนี้นั้นดีใจจนแทบจะตัวลอยแล้วใบหน้าของมันในตอนนี้ก็คือใบหน้าของเด็กน้อยที่ดีใจเวลาถูกผู้เป็พ่อชื่นชม
หลินเฮ่ายวนยังกล่าวต่ออีกกว่า “บางทีข้าก็แอบคิดนะว่า ถ้าเ้าเป็ลูกชายของข้าจริงๆ มันก็คงจะดี...ถ้ามีเ้าเป็ผู้นำอาณาจักรชูอวิ๋นละก็อาณาจักรของเราจะต้องเติบโตแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมแน่นอนแต่ประชาชนชาวเมืองของเราคงจะต้องตกระกำลำบากกันไม่น้อยเลย...”
เอ๊ะ เอ๊ะ?
องค์จักรพรรดิกำลังพูดเื่อะไรอยู่?
ผู้คนรอบๆ นั้นรู้สึกสับสนคำพูดของหลินเฮ่ายวนนั้นเป็ดั่งะเิที่ทิ้งลงกลางกลุ่มคน
รอยยิ้มของเฉินเฉาเกอพลันมลายหายไปจากใบหน้าของเขาความรู้สึกเย็นเยือกพลันเข้าปกคลุมไปทั่วทั้งตัวจนหนาวสั่นไปถึงกระดูก
หลินเฮ่ายวนยังคงพูดต่อไปด้วยท่าทางเรียบเฉยว่า“แต่น่าเสียดายความอำมหิตของเ้ามันมากเกินกว่าที่ข้าจะรับได้การเล่นเกมของเ้าคงต้องยุติแต่เพียงเท่านี้แล้วล่ะนะ...เฉิน เฉา เกอ!!”
เปรี้ยงง
เฉินเฉาเกอรู้สึกราวกับมีอสนีบาตสายหนึ่งฟาดผ่าลงมากลางใจเขาจนถูกย่างเกรียมไปทั้งตัว
“นี่...นี่มันเป็ไปไม่ได้...”
หลินเฮ่ายวนรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาอยู่แล้วหรือ?
แล้วมันจะยังรับเลี้ยงดูแลเขาอีกทำไมเล่า?
หลินหยางที่ยืนอยู่ข้างๆ หลินเฮ่ายวนเองก็ใเหมือนกัน
ตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเื้ันี้มีเื่ราวอะไรเกิดขึ้นบ้างแต่สิ่งเดียวที่เขามั่นใจมากก็คือ
ผู้เป็พ่อของเขาคนนี้มีมันสมองที่ฉลาดล้ำยิ่งกว่าที่เขาเคยคิดไว้อยู่หลายเท่าเลย
หลินเฮ่ายวนมองไปทางเฉินเฉาเกอด้วยท่าทางเรียบเฉยท่าทางหวาดกลัวของอีกฝ่ายนั้นไม่มีความหมายสำหรับเขาเลยแม้แต่น้อยเหมือนกับผู้ปกครองโลกหล้าที่กำลังมองดูตัวตลกที่กำลังเล่นโชว์ปาหี่อยู่ก็เท่านั้น
ส่วนเฉินเฉาเกอนั้นรีบดึงสติกลับจากความตื่นตระหนกและหวาดกลัวอย่างรวดเร็ว
เขาไม่คิดที่จะเล่นละครลิงโง่ๆ นั่นอีกต่อไปแล้วบรรยากาศรอบตัวของมันพลันเปลี่ยนไปเป็มืดหม่นเย็นเยือกกัดฟันจ้องไปทางหลินเฮ่ายวนแล้วกล่าวขึ้นว่า
“ท่านมองออกั้แ่เมื่อไหร่...ข้าว่าข้าทำลายหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอดีตของข้าไปหมดแล้วนะ...”
หลินเฮ่ายวนส่ายหัว “ไม่จำเป็ต้องมองออกหรอก...ข้าก็แค่เจอตัวจริงแล้วก็เท่านั้นเอง ถ้าอย่างนั้นตัวเ้าก็ย่อมต้องเป็ตัวปลอมอยู่แล้ว”
จอมราชันผู้ที่สามารถควบคุมทุกอย่างไว้ในกำมือได้ผู้นี้ในที่สุดก็แย้มรอยยิ้มออกมาพลางหันไปมองทางหลินหยาง จากนั้นจึงยื่นมือออกไปเคาะที่บริเวณส่วนหัวของชุดเกราะราชันเหล็กขาวจนเกิดเป็เสียงดังปึง
“เ้าเด็กบ้านี่เมื่อไหร่เ้าจะยอมให้บิดาเห็นหน้าจริงๆ ของเ้าสักทีนะ หืม!”
เฮ้ยย!!
ผู้คนทั้งหมดพลันตกตะลึงกันอย่างไร้เสียง
นายกรัฐมนตรีผู้สูงวัยอย่างสื่อซือิกำลังจะถูกโรคหัวใจกำเริบเล่นงานเพราะใกับเื่ราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้แล้วแม้แต่เหล่าคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับหลินหยางมาโดยตลอดอย่างพวกของเวินติ่งเทียนยังเบิกตาโต
เวินชิงชิงถึงกับพึมพำออกมาด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อว่า“หลินอี้... เ้าเ้าเป็องค์ชาย?”
โอ...
หลินหยางเริ่มเดาได้ั้แ่เมื่อครู่นี้แล้วว่าตัวตนของเขาน่าจะถูกจักรพรรดิผู้เป็พ่อของเขาผู้นี้มองออกแล้วเหมือนกันแต่การที่ต้องมาเปิดเผยตัวตนในสถานการณ์แบบนี้... มันก็ชวนให้รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยเลย!
รู้สึกราวกับว่าแผนการทั้งหมดที่ตัวเองวางเอาไว้มันไม่ต่างอะไรกับเื่เล่นๆในสายตาของผู้เป็พ่อแม้แต่ตัวเขาเองยังเดาไม่ออกเลยว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาถูกหลินเฮ่ายวนมองออกั้แ่เมื่อไหร่
แต่สุดท้ายเขาก็ยอมปลดเกราะส่วนหัวออกเผยให้เห็นใบหน้าที่คล้ายคลึงกับเฉินเฉาเกอมากถึงแปดส่วน
เพียงแต่สีหน้าของเขาในตอนนี้ดูหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย
หลินเฮ่ายวนมองไปที่หลินหยางด้วยสีหน้าภาคภูมิใจอย่างสุดซึ้งแถมยังเหมือนกับว่าเขาจะสามารถััได้ถึงความรู้สึกไม่ชอบใจของหลินหยางเลยพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า
“ไม่เอาน่า เด็กน้อยการที่ข้าจะมองเ้าออกมันไม่ใช่เื่แปลกอะไรเลย ความรู้สึกแข็งกร้าวที่แฝงอยู่ในดวงตาของเ้าน่ะมันเหมือนกับอวี่เวยไม่มีผิด”
คำพูดประโยคนี้ทำให้หลินหยางเข้าใจเื่ราวหลายๆอย่างมากขึ้นเยอะเลย
อย่างน้อยภายในใจของหลินเฮ่ายวนก็ยังไม่เคยลืมมารดาของเขาไปอย่างน้อยมันก็ช่วยให้ความรู้สึกที่เขามีต่อผู้เป็พ่อคนนี้ดีขึ้นมาบ้าง
แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเื่แบบนั้น
ตรงหลุมลึกบริเวณด้านล่างนั้นเฉินเฉาเกอใกับความจริงที่เพิ่งถูกเปิดเผยออกมาจนตัวสั่นไปหมด
“หลินหยาง... เ้า เ้ายังไม่ตาย!!”
คำพูดของเฉินเฉาเกอเท่ากับว่ามันสารภาพความผิดออกมาแล้ว
เป็มันเองที่แย่งชิงฐานะองค์ชายมาจากหลินหยางเสพสุขกับชีวิตอันสุขสบายที่ได้รับความรักใคร่ดูแลจากคนรอบข้างซึ่งแต่เดิมแล้วต้องเป็ของหลินหยางแถมมันยังมีหน้ามาสาบานอย่างหน้าด้านๆ ว่าจะปกป้องเสด็จพ่ออะไรนั่นอีกทั้งที่เป็ตัวมันเองแท้ๆ ที่คิดร้ายกับหลินเฮ่ายวน
อย่างไอ้สวะนี่คงไม่สามารถใช้แค่คำว่าไร้ยางอายมาอธิบายมันได้แล้ว...คนอย่างมันนี่ชั่วยันเงาเลยจริงๆ
หลินหยางมองไปทางเฉินเฉาเกอ
เขารอวันนี้มานานมากเหลือเกิน
หลินเฮ่ายวนที่อยู่ข้างๆ เองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเท่ากับว่าเขาปล่อยให้หลินหยางเป็คนจัดการสะสางหนี้แค้นครั้งนี้ด้วยตัวเอง
คนรอบข้างนั้นยังคงสับสนกับเื่ราวที่เพิ่งจะเกิดขึ้นนี้อยู่แต่สิ่งเดียวที่พวกเขาแน่ใจก็คือ เ้าชายตัวปลอมผู้นี้มันสมควรตายเป็หมื่นๆ ครั้งอย่างแน่นอน
“ฆ่ามันซะ!”
“ไม่ต้องจับมันมาทรมานก่อน!”
เสียงพูดที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นเริ่มดังขึ้นหลินหยางที่มองลงไปจากเบื้องบนนั้น มีแววตาที่เ็าดุจดั่งน้ำแข็งหมื่นปี
“เฉินเฉาเกอมาถึงตอนนี้แล้ว เ้าคงได้ไปพบพ่อของเ้าอย่างสบายใจแล้วล่ะ”
หลินหยางค่อยๆ ยกดาบเฟิ่งอู่ในมือขึ้นถึงแม้ว่าในมือของเฉินเฉาเกอนั้นจะยังถือโล่ทรงกลมสุดแข็งแกร่งนั่นเอาไว้อยู่ก็ตามแต่หลินหยางก็มั่นใจมากว่าจะสามารถลงมือจัดการสังหารไอ้โจรสวะนี้ได้อย่างแน่นอน
เฉินเฉาเกอตอนนี้ยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่มีทางหนีสำหรับมันแล้ว
แต่ในเวลาแบบนี้มันกลับยังสามารถหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นได้อยู่อีก“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่คิดเลย ไม่คิดเลยจริงๆ สุดท้ายแล้วคนอย่างข้ากลับต้องมาพ่ายแพ้ให้กับไอ้โง่อย่างเ้า...หลินหยาง ตอนนั้นข้ามองเ้าผิดไปจริงๆ! แต่ว่า เ้าคิดหรือว่าแกจะสามารถฆ่าคนอย่างข้าได้?ฮ่าฮ่า เ้าคิดง่ายไปแล้ว...”
ในขณะเดียวกันนั้นเองร่างกายของมันก็พลันบังเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
ร่างกายของมันเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเนื้อเริ่มปูดบวมขึ้นทีละส่วนๆ มีอยู่หลายส่วนที่มันขยายใหญ่ขึ้นจนกล้ามเนื้อฉีกขาดเผยให้เห็นเส้นเืสีแดงสดที่อยู่ข้างใน
แววตาของมันเปลี่ยนไปจนดูโเี้ดุจปีศาจร้ายไม่เหลือเป็มนุษย์อยู่เลยแม้แต่น้อยเหลือแต่เพียงสัตว์ร้ายแห่งความตายอันบ้าคลั่งเท่านั้น
ไม่มีใครเคยเห็นอะไรที่มันน่ากลัวขนาดนี้มาก่อนเลย
ไอ้เฉินเฉาเกอนี่มันไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้วจริงๆมนุษย์ธรรมดาที่ไหนจะสามารถเปลี่ยนตัวเองให้มีสภาพแบบนั้นได้อีกทั้งร่างกายของมันเริ่มเกิดอาการเน่าเปื่อยขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับส่งกลิ่นเหม็นเน่าจนแสบจมูกออกมาสภาพของมันไม่ต่างอะไรกับซากศพเลยสักนิด
มันหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าฮ่า! หลินหยาง ข้าไม่มีทางถูกเ้าฆ่าได้หรอก!! ทั้งชาตินี้เ้าอย่าหวังว่าจะล้างแค้นได้เลยสักวันหนึ่ง ข้าจะต้องกลับมา กลับมาจับเ้าถลกหนัง เลาะกระดูก จากนั้นก็ค่อยๆ กินมันลงไปทีละชิ้นๆให้เ้าตายอย่างทรมาน! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! แล้วก็พวกเ้าด้วยฝากไว้ก่อนเถอะ ครั้งต่อไปที่ข้ากลับมา พวกเ้าทุกคนจะต้องตาย จะต้องตายทั้งหมด! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
ความบ้าคลั่งดุจอสูรกายบนตัวของเฉินเฉาเกอนั้นถึงกับสามารถทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสีได้นั่นต่างหาก พลังที่แท้จริงที่มันเก็บซ่อนไว้ในร่างกายมาโดยตลอด!
คงมีแต่์ที่จะรู้ว่าไอ้สวะนี่มันไปได้พลังที่แสนชั่วร้ายและแข็งแกร่งนี่มาจากไหนแต่ผู้คนที่ยืนดูเหตุการณ์นี้อยู่ ต่างก็มั่นใจว่า แม้แต่หลินหยางเองก็คงไม่สามารถจัดการเฉินเฉาเกอในสภาพแบบนี้ได้โดยง่ายแน่
แต่ในวินาทีนั้นเองเฉินเฉาเกอก็หยุดคำรามอย่างเกรี้ยวกราดลงอย่างกะทันหัน
ต่อให้มันเป็อสูรกายแต่บนโลกนี้ยังมีสิ่งที่โเี้อำมหิตยิ่งกว่าอสูรกายอยู่
นั่นก็คือ หลินหยาง
เขาหยิบเอาขนนกอัคคีของปี้ฟังขึ้นมาถือไว้บนมืออีกครั้ง
ไอ้บ้าเอ๊ย!
อาวุธที่ทรงพลังอย่างไร้เหตุผลแบบนั้นมันยังมีอยู่อีกชิ้นอย่างนั้นหรือ!!
ฟึบ
ต้วนเทียนหยารีบคุ้มกันคนทั้งหมดล่าถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็วส่วนหลินหยางนั้นยืนอยู่บนูเาหินแร่ขนาดใหญ่อันสูงชันที่อยู่ห่างไกลออกไปเขาจ้องมองไปที่เฉินเฉาเกอที่เมื่อครู่นี้มีท่าทีโอหังสุดขีดด้วยสายตาเ็าจากนั้นก็สะบัดมือเบาๆ ทีหนึ่ง
ขนนกอัคคีของปี้ฟังนั้นปลิวไสวไปตามสายลมแต่พลังที่มันแผ่ออกมานั้นมหาศาลจนน่ากลัวดุจดั่งอาวุธมหาประลัยล้างโลกก็ไม่ปาน
“โฮกก!!”
เฉินเฉาเกอที่อยู่ด้านล่างนั้นพอต้องเผชิญหน้ากับขนนกอัคคีแสนน่ากลัวนั่นเข้า ก็ทำได้แค่สาปแช่งหลินหยางในใจซ้ำๆเป็พันๆ หมื่นๆ ครั้งพร้อมกับคำรามเสียงดังกึกก้องดุจอสูรร้ายออกมาด้วยความเกรี้ยวกราดเท่านั้น
มันรีบยกโล่ในมือขึ้นมาป้องกันทันทีนี่คือโอกาสรอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวที่มันมีอยู่แต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้ไม่ได้เหมือนครั้งก่อน ภายในใจกลางหลุมะเิขนาดใหญ่นั่นจะช่วยให้แรงะเิที่เกิดจากขนนกอัคคีนั้นรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมอีกเป็เท่าตัว
ตูม!!
ะเิแล้ว
เกิดการะเิที่รุนแรงจนยากจะอธิบายได้ขึ้นอีกครั้ง
ประชาชนชาวเมืองอวิ๋นเฉิงทุกคนล้วนรับรู้ถึงการสั่นะเือันรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็ครั้งที่สองนี้ท่ามกลางท้องนภายามรัตติกาลสีดำนี้ก็เกิดแสงสว่างจ้าราวกับพระอาทิตย์ส่องแสงยามกลางวันขึ้นอีกครั้ง
โดยเฉพาะการะเิครั้งนี้นั้นเกิดขึ้นภายในหลุมลึกพลังอันมหาศาลที่ขนนกอัคคีปลดปล่อยออกมาจึงไม่ได้กระจายออกไปยังรอบข้างแต่มันพุ่งขึ้นฟ้าแทนจนกลายเป็เสาเพลิงขนาดใหญ่ต้นหนึ่งที่พุ่งขึ้นสูงจนเหมือนกับว่ามันจะเชื่อมต่อไปถึง์ชั้นฟ้าพลังงานความร้อนอันไร้ขีดจำกัดได้เปลี่ยนให้ภายในหลุมนั่นกลายเป็ดั่งขุมนรกโลกันตร์นอกจากจะทำให้หลุมนั่นขยายใหญ่ขึ้นจนมีรัศมีกว้างกว่าร้อยเมตรแล้วมันยังหลอมเอาหินแร่ทั้งหมดที่อยู่ในนั้นให้กลายเป็เหล็กเหลวร้อนๆ ดุจลาวาไม่มีทางที่สิ่งมีชีวิตจะสามารถหลุดรอดออกจากขุมนรกนั่นไปได้อย่างแน่นอน
หลังจากเกิดการะเิไปประมาณหนึ่งนาที
ในที่สุดทุกอย่างก็กลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง
พระราชวังของราชวงศ์ชูอวิ๋นเกิดความเสียหายขึ้นอย่างหนักพระตำหนักยงเหอและพื้นที่รอบๆ ข้างล้วนถูกทำลายจนเหลือแต่เพียงซากปรักหักพังบนท้องฟ้ามีแต่เศษฝุ่นผงลอยล่องอยู่เต็มอากาศ
แต่สิ่งที่ผู้คนเป็ห่วงมากที่สุดก็คือไอ้เฉินเฉาเกอนั่นมันตายแล้วรึยังจึงรีบพากันมาตรวจสอบทันที
หลินหยางได้มายืนอยู่ตรงขอบหลุมแล้วเขามองไปที่ก้นหลุมขนาดมหึมานี้โดยไม่พูดอะไร
หลังจากความร้อนที่เกิดจากการะเิค่อยๆเย็นลงแล้ว แร่ธาตุต่างๆ ที่ถูกหลอมเหลวจนกลายเป็ลาวาสีแดงสดไปเมื่อครู่นี้ก็เย็นตัวลงอย่างรวดเร็วจนมันเปลี่ยนสภาพกลับมาเป็ของแข็งอีกครั้งก้นหลุมตอนนี้จึงมีบ่อผลึกโปร่งใสสีแดงสดขนาดเล็กเกิดขึ้น
ข้างในนั้นผลึกโปร่งใสนั้นสามารถมองเห็นเศษชิ้นส่วนสีดำส่วนหนึ่งที่ถูกหลอมรวมอยู่ในนั้นมันคือเศษซากของโล่ที่เฉินเฉาเกอถือเมื่อครู่ซึ่งมันทนต่อแรงะเิและความร้อนอันมหาศาลไม่ไหวจนปริแตกกลายเป็เศษซากในที่สุด
ส่วนศพของเฉินเฉาเกอก็อยู่ท่ามกลางเศษซากของโล่นั้นด้วยเช่นกันร่างกายมันถูกไฟเผาไหม้จนเกรียม ไม่เหลือสภาพของมนุษย์อยู่เลยแม้แต่นิดเดียวเหมือนกับเนื้อเน่าๆ ที่ถูกเผาจนดำเป็ตอตะโก
ตายแล้ว...
ในที่สุด ไอ้โคตรคนชั่วที่หมื่นปีจะมีสักคนผู้นี้ก็ถูกปลิดชีพลงเสียที
ผู้คนที่กำลังมองดูสภาพศพที่ถูกเผาจนไหม้เกรียมนั่นแล้วก็เหมือนจะยังสามารถจินตนาการได้ว่าไอ้สวะนี่มันต้องดิ้นรนอย่างทุกข์ทรมานแค่ไหนก่อนที่มันจะตายจากไป
เป็ความทรมานที่เกิดจากการถูกไฟเพลิงโลกันตร์อันร้อนแรงค่อยๆแผดเผาทีละส่วนๆ อย่างแสนเ็ป เป็ความทรมานอันแสนสิ้นหวังที่ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่มีทางหนีรอดออกมาได้หนึ่งนาทีเต็มๆ ที่มันต้องถูกเผาไหม้อยู่อย่างนั้น แต่สำหรับไอ้โจรชั่วนี่น่าจะรู้สึกยาวนานราวหมื่นปี
ใบหน้าบนซากศพของเฉินเฉาเกอในตอนนี้ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความสิ้นหวังและความโกรธแค้นชิงชังถึงแม้ว่ามันจะตายไปแล้วก็ตาม แต่บรรยากาศอันแสนน่ากลัวที่ตัวมันปล่อยออกมาก็ยังคงน่ากลัวจนขนลุกอยู่ดี
“เหอะ!! แค่นี้ยังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับคนชั่วๆ อย่างไอ้เวรนี่น่ะ!”
หัวหน้าองครักษ์หลินไท่เป่ยนั้นรู้สึกโกรธแค้นมากที่สุดจึงอดไม่ได้ที่จะถุยน้ำลายลงไปในหลุมลึกหนึ่งที
“ช่างเถอะ ช่างเถอะคนมันก็ตายไปแล้ว อีกทั้งเ้าเฉินเฉาเกอนี่ยังชั่วร้ายขนาดนี้ิญญาของมันย่อมต้องตกลงไปในนรกขุมที่ 18 อยู่แล้วหนีไม่พ้นต้องทนทุกข์ทรมานไปตราบชั่วกัลปาวสานอย่างแน่นอน”
ท่านนายกรัฐมนตรีสื่อซือิค่อยๆ หลับตาลงแล้วก็พูดขึ้นอย่างนั้นพร้อมทอดถอนใจออกมา