ขโมยของหรือ? หลี่อันหรานใไม่น้อย นางก้มลงมองเด็กน้อยที่มีสีหน้าอึดอัดใจทั้งสองคน แม้นางจะรู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ลองถามออกไปอยู่ดี “พวกเ้าขโมยของของคนอื่นหรือ?”
หลี่อันหลินวางนิ้วชี้บนริมฝีปากพร้อมกับเงยหน้าครุ่นคิด ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยตอบ “ไม่ถือว่าขโมย”
หลี่อันอันก็พยักหน้าตาม
“พวกเ้าขโมยสิ่งใดมา? จงเอาไปคืนเสีย” หลี่อันหรานกลอกตามองบน ก่อนเอื้อมมือไปขยี้เรือนผมหลี่อันหลินแรงๆ อย่างอดไม่ได้
นางเห็นมาั้แ่ต้นแล้วว่าเขาเอาแต่แอบมือไว้ด้านหลัง เดิมทีคิดว่าเด็กน้อยคนนี้จะนำเื่แปลกใจอันน่ายินดีมาให้ นึกไม่ถึงว่าจะเป็เื่น่าตื่นตระหนกใแทน
หลี่อันหลินนำหมั่นโถวเนื้อขาวสองลูกออกมาจากด้านหลัง หลี่อันหรานรับไว้ แม้หมั่นโถวสองลูกนี้จะดูน่าอร่อยกว่าหมั่นโถวที่นางเพิ่งกินไปเป็หมื่นเท่า แต่นางถือคติว่าหากไม่ใช่ของของตัวเอง นางจะไม่รับไว้เด็ดขาด
หลี่อันหรานเดินออกจากกระท่อมหลังเล็ก ขณะที่นางกำลังจะคืนหมั่นโถวให้กับหญิงชราหน้ากระท่อม กลับกลายเป็ว่าถูกหญิงชราที่ใจดีเพียงแค่หน้าตาดูผู้นี้ใช้ท่อนไม้ในมือฟาดทิ้งเสียก่อน ส่งผลให้มือของหลี่อันหรานถูกท่อนไม้ฟาดอย่างแรง
“พวกเ้ามันไร้ประโยชน์กันทั้งครอบครัว! เื่ดีๆ ไม่รู้จักทำ แต่กลับมาขโมยของเนี่ยนะ! ข้าจะฟาดพวกเ้าให้ตาย!” หญิงชราไม่เพียงแต่พูด หากแต่ทำท่าจะเหวี่ยงท่อนไม้ฟาดศีรษะหลี่อันหรานเต็มแรง
พอเห็นเช่นนั้น หลี่อันหลินกับหลี่อันอันพลันกรีดร้องด้วยความใขึ้นพร้อมกัน
โชคดีที่หลี่อันหรานคว้ามือของหญิงชราที่กำลังจะฟาดลงมาไว้ได้ทัน นางเอ่ยถามเสียงเย็นเยียบน่าขนลุก “ถึงอย่างไรท่านก็มีศักดิ์เป็ท่านย่าของพวกเรา เหตุใดจึงใจดำอำมหิตเช่นนี้?”
หลี่อันหรานรู้ตัวตนของหญิงชราตรงหน้าั้แ่วินาทีที่อีกฝ่ายปรากฏตัว นางคือนางฉาง เป็ย่าแท้ๆ ของนางเอง
แต่ย่าคนนี้ไม่เคยญาติดีกับครอบครัวของเสิ่นอิ๋นหวนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตอนที่พ่อของเ้าของร่างเดิมยังเป็เ้าเมือง อีกฝ่ายยังพอจะทำดีด้วยอยู่ แต่หลังจากที่พ่อถูกปลดจากตำแหน่งจนต้องกลับบ้านเกิดและเสียชีวิตด้วยอาการตรอมใจ ท่านย่าผู้นี้กลับทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เอาแต่พูดว่าเสิ่นอิ๋นหวนกับลูกๆ ทั้งสามคนเป็ตัวการที่ทำให้ลูกชายของนางต้องตาย
หลี่อันหรานแย่งท่อนไม้จากมือนางฉาง จากนั้นจับปลายทั้งสองด้าน ตามด้วยออกแรงหักและโยนลงพื้นอย่างไม่ยี่หระ
นางฉางสูญเสียการทรงตัวจนโซซัดโซเซและถอยหลังสองก้าว ตัวนางเป็หญิงชราที่เห็นโลกมานาน แม้จะเ้าเล่ห์เพทุบายกว่าหลี่อันหราน แต่หากลูกสาวคนโตของสะใภ้สามลงมือจริงๆ ขึ้นมา เกรงว่าหญิงชราเช่นนางคงสู้ไม่ได้
นางรู้ว่าหลี่อันหรานเป็พวกที่ไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา หากลงมือขึ้นมาคงไม่ปรานีต่อนางซึ่งมีศักดิ์เป็ย่า ด้วยเหตุนี้นางจึงก้าวถอยหลังติดต่อกันหลายก้าว ดวงตาขุ่นมัวจับจ้องหลานสาวที่ได้ยินว่าเกือบตายไปแล้วคนนี้
“เ้าฟื้นได้อย่างไร?”
ฟื้นได้อย่างไร? เหอะ! หลี่อันหรานจ้องนางฉางเขม็ง ปากก็พูดเหน็บแนมเสียดแทงใจ “ก็เพราะท่านย่ามิใช่หรือเ้าคะ? มีท่านย่าที่ดีต่อครอบครัวของข้าขนาดนี้อยู่ทั้งคน ข้าจะยอมตายได้อย่างไร?”
“เ้า!” นางฉางโมโหเดือดดาลพร้อมชี้หน้าหลี่อันหราน แต่ทุกคำพูดกลับจุกอยู่ในลำคอ นางพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว
ก่อนที่หลี่อันหรานจะชี้ไปยังหมั่นโถวแป้งขาวที่เปื้อนโคลนสกปรก พลางแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงเจือความเสียดาย “น่าเสียดายหมั่นโถวของท่านย่าโดยแท้ แต่ข้าว่าล้างแล้วยังกินได้อยู่ ท่านย่าจะเก็บกลับไปหรือไม่?”
“อายุแค่นี้แต่กลับใจดำอำมหิตยิ่งนัก! ผู้ใดไม่รู้บ้างกันว่าการเก็บเกี่ยวปีนี้ไม่ดี? เ้าทำใจโยนหมั่นโถวแป้งขาวลงพื้นได้เยี่ยงไร!” หวางเถาฮวามายืนอยู่ด้านนอกนานแล้ว เดิมทีนึกว่าจะได้ดูเื่สนุก นึกไม่ถึงว่าตัวภาระที่วันๆ ไม่ทำอะไรจะทำให้คนใจแคบแบบนางฉางถึงกับพูดไม่ออก นางทนเห็นลูกสาวของบ้านสะใภ้สามทำตัวอวดดีแบบนี้ไม่ได้หรอก
หลี่อันหรานเลิกคิ้วมองสตรีที่เดินเข้ามา อีกฝ่ายสวมชุดผ้าฝ้ายหยาบปักลาย ถึงแม้จะเป็ผ้าฝ้ายหยาบแต่ก็ดีกว่าผ้ากระสอบขาดรุ่งริ่งที่หลี่อันหรานสวมอยู่หลายเท่า
นางรู้จักสตรีนางนี้ อีกฝ่ายคือหวางเถาฮวา มีศักดิ์เป็ป้าสะใภ้ใหญ่ของตัวเอง ป้าสะใภ้ใหญ่คนนี้กับเหอชุนฮวาซึ่งเป็ป้าสะใภ้รองเป็พวกเดียวกัน พวกนางคอยทำตัวเป็ปรปักษ์กับเสิ่นอิ๋นหวนในทุกๆ เื่
“ดวงตาข้างใดของท่านเห็นหรือว่าข้าโยนลงพื้น?” หลี่อันหรานถามกลับ
พอถูกตอกกลับมาเช่นนี้ หวางเถาฮวาถึงกับไปต่อไม่ถูก ฝีปากของหญิงสาวนางนี้ต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง
ก่อนที่เสียงเล็กๆ ของหลี่อันหลินจะดังขึ้น เมื่อเด็กหญิงก้าวขึ้นมาด้านหน้า แม้จะไม่โอ้อวด แต่ก็หาได้จำยอมไม่ “ท่านย่าเป็คนตบหมั่นโถวร่วงเอง!”
“นั่นก็เพราะเ้าขโมยไปไม่ใช่หรือไร!” นางฉางกัดฟันกรอดจ้องหลี่อันหลินเขม็ง เดิมทีแล้วลูกชายของนางเป็ถึงเ้าเมืองผู้ไม่อาจเอื้อมและไม่เคยจะคิดฝัน แต่เพราะเสิ่นอิ๋นหวนกับลูกทั้งสามของนาง ทั้งครอบครัวถึงได้ตกต่ำจนมาถึงจุดนี้!
นางฉางมีแต่ความโกรธบังตาจนลืมไปว่าเด็กๆ พวกนี้เป็ทายาทของสกุลหลี่ เอาแต่มองว่าพวกเสิ่นอิ๋นหวนเป็กาฝากที่ขอข้าวบ้านตัวเองกิน!
หลี่อันหรานยังคงพูดเหน็บแนมต่อไม่หยุด “ท่านย่า ท่านก็อายุปูนนี้แล้ว เหตุใดวาจาจึงมีความเป็ผู้ใหญ่น้อยกว่าอันหลินอีกล่ะเ้าคะ? อันหลินเพียงแค่หยิบอาหารของบ้านตัวเองมากิน แต่ท่านกลับเกือบตีหลานแท้ๆ ของตัวเองตาย! หากเื่นี้แพร่งพรายออกไป คนทั้งหมู่บ้านคงหัวเราะเยาะว่าท่านสายตาฝ้าฟาง แยกไม่ออกระหว่างโจรกับหลานกระมัง?”
นางฉางกับหวางเถาฮวาหันมาสบตากัน ดวงตาทั้งสองเปี่ยมด้วยความสับสน
อึดใจต่อมา หวางเถาฮวาก็กระแอมไอเบาๆ ก่อนบ่นอุบว่านังเด็กคนนี้ปากคอเราะราย แล้วไม่ได้พูดอะไรอีก
สองคนนี้ต่างรักศักดิ์ศรียิ่งชีวิต ไม่อยากให้คนทั้งหมู่บ้านรู้ว่าตัวเองกดขี่ครอบครัวของเสิ่นอิ๋นหวนอย่างไรด้วยเื่แค่นี้
พอเห็นดังนั้น หลี่อันหรานจึงเอ่ยปากหาทางลงให้พวกนาง “อันหลินผิดที่หยิบหมั่นโถวมาโดยไม่บอกกล่าวกับท่านย่า ฉะนั้น ท่านย่ากับป้าสะใภ้ใหญ่จะเข้าใจผิดว่าเป็โจรก็ไม่มีอะไรผิด” นางเว้นวรรคเล็กน้อย ก่อนหลุบมองหลี่อันหลินที่ก้มหน้างุด นางจึงเอ่ยเตือนเสียงเจือความอ่อนโยน “อันหลิน คราวหลังต้องบอกกล่าวกับท่านย่าก่อนนะ และจำไว้ว่าที่นี่คือบ้านพวกเราเช่นกัน”
หลี่อันหลินฉลาดมาั้แ่เด็ก แม้จะอายุแค่เก้าขวบแต่ก็เป็ผู้ใหญ่กว่าคนในวัยเดียวกันเพราะอยู่ในครอบครัวแบบนี้ รู้ว่าควรก้มหัวเมื่อไรก็ต้องก้มหัว
“ข้าทราบแล้ว…”
แต่หลี่อันอันยังไม่รู้ความ แต่เห็นพี่ชายพี่สาวพากันพูดแบบนี้ก็พูดตาม
“ท่านย่า ป้าสะใภ้ใหญ่ พวกท่านยังมีธุระอะไรอีกหรือไม่? หากไม่มีแล้วก็นำเสื้อผ้าที่ท่านแม่ข้าซักเสร็จแล้วกลับไปด้วยเถิด มันถูกตากทิ้งไว้นานจนแห้งหมดแล้ว” หลี่อันหรานว่า รอยยิ้มบางฉาบบนใบหน้า
นางฉางกับหวางเถาฮวาไม่มีหน้าจะอยู่ที่นี่ต่อเมื่อได้ยินดังนี้ ทั้งสองคนหน้าแดงก่ำ ถลึงตาใส่หลี่อันหราน แล้วรีบเก็บผ้าที่ห้อยบนเชือกก่อนจะจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
หลี่อันหรานไม่ลืมที่จะะโไล่หลังทั้งสอง “หากไม่กลัวว่าวันหน้าเสื้อผ้าจะถูกขโมยก็นำมาให้ซักอีกได้”
นางบ่นกับตัวเองในใจ ‘หากยังเห็นคนพวกนี้เอาเสื้อผ้ามาให้ท่านแม่ซักอีก นางจะเอาไปเผาให้หมด! เอาให้พวกผู้ใหญ่ที่ไม่น่าเคารพพวกนี้ไม่มีเสื้อผ้าใส่!’
รอยยิ้มบนใบหน้าหลี่อันหรานค่อยๆ จางหายไปและเปลี่ยนเป็รอยยิ้มเย้ยหยันเมื่อสองคนนี้จากไป นางเบนสายตาไปยังหมั่นโถวแป้งขาวสองลูกที่สกปรกอยู่บนพื้น ภายในใจอดรู้สึกเศร้าขึ้นมาอีกรอบไม่ได้ นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งตัวเองจะต้องมาโมโหเพราะหมั่นโถวที่ชาติก่อนขายกันแค่ลูกละห้าเหมา
นางเงยหน้ามองท้องฟ้าอย่างจนปัญญา ในใจพลางคิดว่า ‘ไม่มีเงินนี่มันทุกข์จริงๆ !’
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้