Chapter 1
No Land เมืองเล็ก ๆ ในคู่โลกขนาน เมืองที่ 'มนุษย์' จะได้ใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์น้อยแสนน่ารักอย่าง 'แมว' เมืองเล็กต่างโลกนี้ มีสิ่งมหัศจรรย์ที่ถูกขนานนามว่า 'ครึ่งทาง' มนุษย์ที่สามารถกลายร่างเป็แมวได้ หากอยู่ในเมือง No Land ครึ่งทางจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์เลี้ยง
กฎเหล็กของเมืองนี้ คือทุกบ้านจะต้องรับเลี้ยงแมวอย่างน้อย 1 ตัว หากแต่ว่าบ้านใดมีสมาชิก 4 คนเป็ต้นไป จะต้องรับเลี้ยงทั้งหมด 2 ตัว โดยตระกูลผู้นำเมือง No Land ั้แ่ต้นตระกูลได้ตั้งปนิธานที่แน่วแน่ว่ามนุษย์จะต้องอยู่ร่วมกับแมวหรือครึ่งทางได้อย่างสันติ เหตุผลก็เพราะเมืองนี้เป็เมืองเล็ก ๆ ที่มีแมวเกิดใหม่ในทุก ๆ เดือน ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้เลยว่าแมวที่มากมายเ่าั้เกิดมาจากที่ไหน ทางการตรวจสอบอยู่หลายปีและไม่พบแหล่งกำเนิดจริง ๆ เลยจำเป็ที่จะต้องสร้างกฎเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อให้ทั้งมนุษย์และแมวอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
อิสระเช่นกัน ถ้าหากจะมีใครทำเื่ย้ายเมือง แต่ต้องมีเอกสารยืนยันการรับเข้าเป็พลเมืองของเมืองปลายทางที่จะย้ายไปเสียก่อน เพราะฉะนั้นในปัจจุบันนี้จึงไม่มีแมวตัวใดในเมืองนี้ไร้บ้าน แมวทุกตัวรวมถึงครึ่งทางต้องได้รับการดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแมวแต่ละตัวจะถูกคัดไปอยู่ในแต่ละบ้านตามฐานะของเ้าของบ้าน บ้านที่มีฐานะและกำลังเงินจะได้รับแมวพันธุ์ที่ต้องดูแลเป็พิเศษมากกว่าพันธุ์อื่น
สำหรับบุคคลที่ได้รับการยกเว้นในการบังคับให้รับเลี้ยงแมวหรือครึ่งทางนั้น ก็คือบุคคลที่มีอาการแพ้ขนสัตว์หรือมีอาการใด ๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นจากสัตว์เลี้ยง ทะเบียนบ้านของบุคคลประเภทนี้จะได้รับการยกเว้นไปโดยปริยาย โดยจะต้องได้รับการยืนยันจากแพทย์ถึงอาการดังกล่าวเท่านั้น
ครอบครัว Butler
'พอล บัตเลอร์' ผู้นำครอบครัว 'บัตเลอร์' ผู้มีอิทธิพลในวงการสิ่งพิมพ์ เดิมทีแล้ว ครอบครัวนี้มีผู้อาศัยในทะเบียนบ้านได้แก่ พอล บัตเลอร์ , คุณนายเจสซี่ บัตเลอร์ , ลูกสาว เจนนี่ บัตเลอร์ และครึ่งทางสีเทาปลายขาว ออกัส
แต่ในเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีสมาชิกของบ้านบัตเลอร์เกิดใหม่หนึ่งคน ได้แก่ เจสัน บัตเลอร์ ลูกชายคนเล็ก ซึ่งก็ทำให้สมาชิกในครอบครัว (ไม่นับรวมแมวหรือครึ่งทาง) มีจำนวนทั้งสิ้น 4 คน และทำให้ครอบครัวบัตเลอร์ต้องรับเลี้ยงแมวหรือครึ่งทางเพิ่มอีกหนึ่งตัว
ศูนย์ดูแลสัตว์กลาง เมือง No Land
“ตื่นเต้นไหมเ้าหมายเลข 32 วันนี้จะได้ไปอยู่กับเ้านายแล้วนะ”
“เราตื่นเต้นมาก ๆ เลยคุณเคธ! เราจะได้ชื่ออะไรนะ”
“รอเ้านายเขาบอกนะ ไปอยู่ข้างนอกก็เป็เด็กดีนะรู้ไหม?”
“เราจะเป็เด็กดี เ้านายจะได้รักเรามาก ๆ”
“รักอยู่แล้ว รู้ไหมว่าคนชอบแมวสีขาวมาก ๆ เลยน้า”
“จริงเหรอครับ?”
“จริงสิ”
“งั้นเราจะเป็แมวที่มีความสุขที่สุด! สัญญา!”
“ขอให้มีความสุขมาก ๆ เ้าแร็กดอลล์” แมวสีขาวนวลตัวน้อยที่รอเ้าของมารับวางคางลงบนมือเคธ เ้าหน้าที่ศูนย์ที่ดูแลเ้าแมวตัวนี้มาั้แ่คลอดออกมา
ตื่นเต้นจัง
เ้านายเราจะเป็ยังไงนะ
พอล บัตเลอร์ได้รับหนังสือเชิญให้มารับสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ที่ศูนย์ดูแลสัตว์กลาง ศูนย์ดูแลสัตว์กลางจะมีหน้าที่ในการดูแลแมวและครึ่งทางทุกตัวที่เกิดมาในเมือง เมื่อประชาชนบรรลุนิติภาวะ ก็จะต้องมาที่นี่ เพื่อรับแมวไปดูแล รวมถึงเมื่อมีการแจ้งเกิดสมาชิกในบ้านใหม่เช่นกัน
พอลทำการติดต่อเ้าหน้าที่ของศูนย์ดูแลเพื่อไปพบกับแมวหรือครึ่งทางที่ทางศูนย์คัดเลือกไว้ แมวสีขาวขนปุยปลายหางสีเข้มปรากฏขึ้นตรงหน้าพอล ในความรู้สึกแล้วพอลและครอบครัวไม่ได้อยากจะเลี้ยงแมวเพิ่มเลย เพราะพวกเขาไม่ชอบสัตว์ตัวเล็ก แต่ด้วยความที่เป็คนที่มีหน้ามีตาในสังคม จึงไม่ได้แสดงอะไรออกไป
“สวัสดีค่ะ คุณพอล บัตเลอร์” เ้าหน้าที่ศูนย์เอ่ยทักทายตามใบรายชื่อ”
“สวัสดีครับ”
“ครึ่งทางพันธุ์ Ragdoll หมายเลขประจำตัว 15598-32 ค่ะ”
“ครึ่งทาง?”
“ใช่ค่ะ เดี๋ยวรบกวนคุณพอล บัตเลอร์แจ้งชื่อของสัตว์เลี้ยงที่ตั้งไว้ได้เลยนะคะ ทางศูนย์จะส่งเื่แจ้งเพิ่มชื่อเข้าทะเบียนบ้านให้ค่ะ”
ชื่องั้นเหรอ?
เหอะ คิดมาที่ไหนกัน
“ชื่อ เอ่อ ผมตั้งให้ว่า ซี ซีแล้วกันครับ” ชายสูงวัยตอบเ้าหน้าไปด้วยรอยยิ้ม ยิ้มที่เต็มไปด้วยความเสแสร้ง
“ค่ะ ซี บัตเลอร์” เ้าหน้าที่รับเื่
เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พอลก็รับครึ่งทางตัวใหม่ขึ้นรถมาด้วยความเบื่อหน่าย ในความคิดเขาคือทำไมเขาจะต้องเสียเวลาชีวิตมารับสัตว์บ้า ๆ นี่ไปเลี้ยงด้วย ทั้งเป็ภาระ เปลืองค่าใช้จ่าย
“อยู่บ้านก็ทำตัวให้มันดี ๆ อย่าเื่เยอะ อย่าเื่มาก”
‘ทำไมถึงพูดจาแบบนี้ ไหนพี่เ้าหน้าที่บอกว่าเขาใจดี แถมยังมีเงินซื้อขนมเยอะ ๆ ไง’
ครึ่งทางตัวน้อยได้แต่คิดในใจ เพราะเขาตอบกลับไม่ได้ในขณะที่อยู่ในร่างแมวแบบนี้ ครึ่งทางตื่นเต้นมากที่จะได้ออกมาอยู่กับเ้านายใหม่ เพราะเขาร่างกายไม่แข็งแรง จะต้องถูกเ้าหน้าที่ในศูนย์ดูแลเป็พิเศษ ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะได้รับการยืนยันว่าสามารถออกมาอยู่กับมนุษย์ได้ แต่ั้แ่วันแรกเขาก็ได้รับคำพูดที่ไม่ค่อยดีแล้ว แถมยังไม่ค่อยถูกใจชื่อที่ตั้งให้อีกด้วย เมื่อเดินทางมาถึงบ้าน พอลทำเพียงแค่เปิดประตูรถให้แล้วเดินเข้าบ้านไป
‘มนุษย์ทำไมไม่อุ้มเราเข้าบ้านด้วย!’
แร็กดอลล์สีขาวขนปุยทำได้เพียงหงุดหงิดในใจแล้วเดินตามเ้านายเข้าบ้านไป สี่ขาสวยเดินเข้าไปสำรวจส่วนต่าง ๆ ในบ้าน แล้วก็พบกับบรรยากาศที่ไม่น่าอยู่เอาเสียเลย ทั้งเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนโซฟา ครัวที่มีกลิ่นเน่าของอาหาร แร็กดอลล์เบ้หน้าด้วยความรู้สึกขนลุก ได้แต่คิดว่าคนมีอิทธิพลนี่ไม่มีใครมาเยี่ยมหรือมาสัมภาษณ์บ้างหรือไง ทำไมปล่อยให้ข้าวของเละเทะขนาดนี้
“เมี๊ยว”
‘หือ? เสียงแมวเหรอเมื่อกี้ ร้องเหมือนเราเลย’
แร็กดอลล์นึกขึ้นได้ว่าบ้านหลังนี้เลี้ยงแมวอยู่ก่อนหน้าแล้ว เท้านุ่มก้าวเข้าหาต้นทางของเสียงที่ได้ยิน และพบว่ามันดังมาจากในห้องเล็ก ๆ ข้างห้องครัว สายตาของแร็กดอลล์ก็ไปหยุดที่แมวขนสั้นสีดำที่ถูกผูกสายจูงไว้กับเสาเล็ก ๆ ริมห้อง แมวสีดำร้องขู่โดยอัตโนมัติเมื่อเห็นแมวอีกตัวในบ้าน แร็กดอลล์ทำการกลายร่างเป็มนุษย์และแกะสายจูงของแมวสีดำตรงหน้าทันที
“ทำไมเ้านายเราเขาทำแบบนั้น?” เมื่อได้ยินคำถามแมวสีดำก็กลายร่างเป็มนุษย์เช่นกัน
“เ้านายเรา?”
“อ้าว คุณไม่ได้เป็แมวบ้านนี้เหรอ?”
“เป็แมวนี้น่ะใช่ แต่เธอเป็ใคร เข้ามาที่นี่ทำไม?” เ้าของร่างแมวสีดำเท้าเอวถาม
“อ๋อ ๆ คือคุณพอลเพิ่งไปรับเรามาจากศูนย์วันนี้เอง”
“ที่แท้ก็แมวตัวใหม่ เหอะ แยกกันใช้ชีวิตไปเลยนะ อย่ามาใกล้”
“แล้วคุณชื่ออะไรนะครับ?” แร็กดอลล์ในร่างมนุษย์เอ่ยถามขึ้น
“ออกัส ชื่อออกัส แต่ไม่ต้องเรียกบ่อย ไม่ชอบ”
“ยังไม่ทันทำอะไรเลย แล้วนี่เราอุตส่าห์ช่วยแกะเชือกให้นะ”
“เธอเป็แมวปลอมหรือไงกัน แค่มีแมวตัวใหม่เข้าบ้านก็ควรไม่ชอบหน้าแล้วไหม?” แร็กดอลล์ตัวน้อยล้มตัวลงกุมท้องพร้อมกับะเิเสียงหัวเราะดังลั่น
“555555555555555555”
“ขำอะไรไม่ทราบ!”
“นี่อินกับการเป็แมวไปหรือเปล่า แมวทุกตัวไม่ได้ไม่อยากมีเพื่อนนะ ออกัสมั่วแล้ว”
“ไม่รู้แหละ ไม่ชอบอยู่ดี จะมาแย่งอาหารกินใช่ไหมล่ะ?”
“มีแมวมาใหม่เดี๋ยวเ้านายก็ซื้ออาหารมาไว้เยอะขึ้นแหละ”
“เธอจะไปรู้อะไร เพิ่งมาจะก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้แท้ ๆ อย่างแรกเลยนะ เสื้อผ้าที่กอง ๆ ไว้ กับจานเหม็น ๆ พวกนั้นน่ะ เราต้องเป็คนซักล้าง ต้นไม้ ดอกไม้ข้างนอก เราก็ต้องเป็คนรดน้ำ”
“ทำไมต้องทำอะไรเยอะขนาดนั้นด้วยล่ะ?” แร็กดอลล์เอ่ยถามด้วยความสงสัย
“แลกอาหารไง!”
แร็กดอลล์ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินสิ่งที่ออกัสพูด แร็กดอลล์สีขาวขนปุยอยู่กับเ้าหน้าที่นานจนโตพอที่จะพิจารณาอะไรได้ จึงได้เห็นเอกสารหรือกฎระเบียบของเมืองเยอะมากพอสมควร เพราะเขาคลุกคลีกับเ้าหน้าที่บางคนเอามาก ๆ เขาจำได้ว่าทางเมืองเองจะมีสวัสดิการต่าง ๆ ที่จะมอบให้แต่ละบ้านเพื่อใช้ในการเลี้ยงดูแมวหรือครึ่งทาง รวมไปถึงทุนทรัพย์ที่จะต้องใช้ซื้ออาหารหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เวลาที่ทุกบ้านไปรับแมวหรือครึ่งทางมาเลี้ยง ทางศูนย์ดูแลจะมีคู่มือและอุปกรณ์ต่าง ๆ มาให้ครบครัน เช่น กระบะทราย ของเล่น อาหาร และอื่น ๆ อีกเยอะแยะมาก
‘แล้วทำไมบ้านนี้ถึงเลี้ยงแมวแบบนี้ ไม่ได้เื่เอาเสียเลย คอยดูนะ จะวีนให้บ้านแตก!’
สิ่งที่ทำให้แร็กดอลล์ตัวน้อยไม่พอใจไม่ใช่แค่เพียงการใช้สัตว์เลี้ยงทำงานบ้านหนักขนาดนี้ ถ้ามีอะไรให้ช่วย เขาก็พร้อมจะช่วยเสมอ แต่ถ้าให้ทำทุกอย่าง อย่างการล้างจาน มันเป็สิ่งที่ต้องทำทุกวัน แล้วเวลาที่ครึ่งทางแต่ละตัวกลายร่างมาเป็มนุษย์ พวกเขาจะต้องใช้พลังงานที่มากพอ ต้องสะสมเวลานอนในแต่ครั้งให้เยอะถ้ารู้ว่าจะต้องกลายร่างไปทำอะไร นั่นเป็สาเหตุที่ทำให้ครึ่งทางจะต้องมีคนดูแล เพราะพวกเขาทำงานในระยะยาวไม่ได้
แร็กดอลล์เดินตรงเข้าไปในอีกส่วนของตัวบ้าน และพบกับพอลที่นั่งอยู่บนโซฟา
“คุณพอล บัตเลอร์ ทำไมคุณถึงใช้งานออกัสแบบนั้น มันผิดกฎ และคุณเองก็น่าจะรู้ดี”
“อะไรกัน ใครอนุญาตให้เธอกลายร่าง!” พอลเดินมายืนตรงหน้าแร็กดอลล์ตัวน้อย พร้อมกับะโใส่หน้าและกระชากแขนอย่างแรง
“คุณตอบคำถามเราสิ”
“นี่ มาอยู่บ้านคนอื่น จะกินจะนอนอย่างเดียวเลยหรือไง ทำอะไรที่เป็ประโยชน์บ้าง ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหายนี่แมวน้อย”
“แต่ทางศูนย์ก็ให้งบตลอดสำหรับการเลี้ยงดูเรานะ เราไม่จำเป็ต้องทำแบบนั้นทุก ๆ วัน”
“หึ เถียงเก่งดีนี่ มีดีอะไรหนักหนาถึงได้รับเลือกให้เข้ามาอยู่บ้านของฉัน เธอรู้ไหมฉันเป็ใคร?”
“เป็ใครก็เื่ของคุณ! คุณรอเลยนะ เราจะแจ้งเ้าหน้าที่”
“แจ้งสิ แล้วดูว่าเขาจะเชื่อใคร ฉันมีหน้ามีตาในสังคมมาเป็สิบ ๆ ปี ถ้าจะมีใครกล้าเอาเื่ฉันคงไม่อยู่มาจนถึงทุกวันนี้หรอก!”
“เสียงดังโวยวายอะไรกันคะคุณ? แล้วนี่ใครกัน” คุณนายบัตเลอร์ หรือเจสซี่บัตเลอร์เข้ามาร่วมสนทนาเมื่อได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกัน
“สวัสดีครับ เราเป็ครึ่งทางพันธุ์แร็กดอลล์ คุณพอลเพิ่งจะไปรับเรามาครับ”
“อ้อ แล้วเจอกับออกัสหรือยังล่ะ?”
“เจอกันแล้วครับ”
‘คุณนายบัตเลอร์ดูเหมือนใจดีนะเนี่ย อยากร้องเหมียว ๆ ใส่เลย’
“เจอกันแล้วก็อย่าลืมแบ่งงานกันทำนะ ครึ่งทางี้เีนั่นทำอะไรเชื่องช้า ฉันรำคาญที่สุดเลยล่ะ หวังว่าเธอเข้ามาก็จะมีประโยชน์มากขึ้นแล้วกัน”
‘ที่แท้ก็เป็เหมือนกันทั้งบ้าน ไม่ใช่คนใช้นะโว้ย!’
ด้วยความโมโหที่ไม่สามารถต่อรองอะไรได้ แร็กดอลล์ตัวน้อยก็กลับมาที่ส่วนหน้าของบ้าน สิ่งที่เห็นก็ยิ่งทำให้หงุดหงิดเข้าไปใหญ่ เพราะออกัสกำลังตามเก็บเสื้อผ้าที่ถูกถอดทิ้งไว้ตามมุมต่าง ๆ ของบ้าน เดินไปล้างจานกองโตที่ส่งกลิ่นเหม็น เขาไม่เข้าใจว่าทำไมออกัสถึงยอมทำอะไรแบบนี้ ทำไมถึงไม่ไปร้องเรียนศูนย์ดูแล
“นี่ ถามอะไรหน่อยสิ”
“เงียบหน่า ไม่ต้องพูดมาก” ออกัสตอบกลับมาในขณะที่มือยังถูฟองน้ำกับจาน
“ทำไมต้องยอม-“
“อะไรที่เธอกำลังคิดหาทางออกน่ะ ฉันลองมาหมดแล้วเ้าแมวสมัครเล่น คิดว่าฉันโอเคนักหรือไงที่ต้องมานั่งหมดพลังงานไปกับเื่บ้า ๆ พวกนี้ ฉันแจ้งศูนย์ ติดประกาศตามเสา บอกเพื่อนบ้าน ป่าวประกาศทุกอย่างไปแล้ว แต่ที่เื่มันยังเงียบอยู่แบบนี้เธอคิดว่าเพราะอะไรล่ะ เขาทำอะไรได้มากกว่าที่เธอคิดนะ เตือนไว้ก่อน อย่าพยายามเลย”
“แต่ว่า นั่นอาจจะเพราะตอนนั้นออกัสไม่มีพยานไง แต่ตอนนี้มีเราแล้ว ไปแจ้งศูนย์ด้วยกันเถอะ”
ออกัสละมือจากภาระตรงหน้า เปิดน้ำล้างฟองออก และเดินมาหยุดตรงหน้าแร็กดอลล์แสนสวย ก่อนจะหันหลังและเปิดเสื้อให้เห็น่เอว แร็กดอลล์เบิกตากว้างและยกมือขึ้นปิดปากกับสิ่งที่เขาได้เห็น
มันคือรอยแผลเป็ขนาดไม่เล็กเลย
“นี่ ธะ เธอ ใครเป็คนทำ?”
“ไม่เห็นต้องถาม นี่แหละผลของการกระทำของฉัน ไปแจ้งศูนย์ ขอความช่วยเหลือ ก็เลยได้สิ่งนี้เป็การตอบแทนไง เธออยากโดนบ้างไหมล่ะแร็กดอลล์ จะได้รู้ว่าเจียนตายมันเป็ยังไง”
“นี่มันเกินไปมาก ๆ เลยนะออกัส”
“ตาเฒ่าบัตเลอร์นั่นมีอำนาจมากกว่าที่เธอคิด ถ้าเธออยากเอาไปป่าวประกาศให้มันเป็กระแสล่ะก็ ก่อนที่เื่มันจะแดงขึ้นมาเธอคงถูกฝังอยู่ใต้ดินก่อน เพราะงั้น อย่าพยายามเลย ฉันเตือนแล้ว”
“ก็เพราะออกัสยอมแบบนี้ไง มันถึงได้ใจ”
“ว่าแล้วต้องไม่เข้าใจ ฉันโคตรเกลียดพวกอวดดีแบบเธอเลยรู้ไหม? พวกที่ทำเป็เก่ง ทำเป็กล้าไปหมด เพราะไม่เคยเจอมันกับตัวไง”
“ออกัส!”
“ต่อไปนี้ไม่ต้องยุ่งกับฉันอีก อยากทำอะไรก็ทำ ต่างคนต่างอยู่” ออกัสพูดเสียงแข็งและเดินกลับไปประจำที่ซิงค์ล้างจานดังเดิม
“เห้อ งั้นเราเอาผ้าในตะกร้าไปซักให้แล้วกัน”
“ชื่ออะไร?” จู่ ๆ ออกัสก็ถามขึ้นในขณะที่แร็กดอลล์ตัวน้อยกำลังถือตะกร้าผ้าไปซัก
“ห้ะ?”
“ฟังไม่ออกหรือไง? ถามว่าเธอชื่ออะไร?
“อ๋อ ชื่อเหรอ? ไม่ต้องรู้หรอก เรียกว่าแร็กดอลล์ก็ได้ ไม่ได้อยากจะใช้ชื่อที่ตาแก่นั่นตั้งให้” ว่าจบแร็กดอลล์ตัวน้อยก็เดินตรงไปที่ด้านหลังของบ้านเพื่อซักผ้า
การใช้ชีวิตเพียงไม่กี่วันในบ้านบัตเลอร์ ทำให้แร็กดอลล์ตัวน้อยรู้สึกอึดอัดมากกว่า่เวลาไหนในชีวิต โดนกระทำในสิ่งที่ไม่สมควรมากมาย ไม่ว่าจะจากพอล เจสซี่ หรือแม้แต่ลูกสาวของพวกเขา เจนนี่ เด็กคนนี้มักจะแกล้งเขาอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่ชอบแมวสีขาว ซึ่งนั่นก็เป็เหตุผลที่งี่เง่าที่สุดเท่าที่แร็กดอลล์ตัวน้อยเคยพบเจอ
บ้านนี้ดูแลแมวได้แย่มากถึงมากที่สุดในความคิดของแร็กดอลล์ เื่ความใส่ใจเขาอาจจะไม่ได้ติดใจอะไร เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนในเมืองจะชอบแมวหรือครึ่งทางมากขนาดนั้น เพราะโดนบังคับให้เลี้ยงจึงต้องเลี้ยง แต่คนบ้านนี้แม้แต่อาหารก็ไม่คิดจะเทให้ ออกัสกลายร่างเป็คนมาเทมันเองเสมอ หากวันไหนอาหารหมดถุงพวกเขาก็ต้องอด ต้องเป็วันที่มีคนอารมณ์ดีหรือเวลาที่เชิญใครมาบ้านถึงจะซื้อมาให้
‘สร้างภาพเก่งอะไรขนาดนั้นกันคุณบัตเลอร์’
แมวหรือครึ่งทางบางตัวโชคดีมากที่เขาได้ไปอยู่กับเ้านายที่คิดอยากจะเลี้ยงสัตว์อยู่แล้ว พวกเขาจะดูแลใส่ใจเป็อย่างดี ทั้งหาวิตามินเสริมมาให้กิน หาบ้านหลังสวย ๆ มาให้อยู่ หาที่นอนนุ่ม ๆ มาให้นอน หาของเล่นมากมายมาให้เขาเล่น ในตอนนี้แร็กดอลล์ตัวน้อยคิดถึงบรรยากาศในศูนย์ดูแลมาก ๆ พี่ ๆ เ้าหน้าที่ดูแลใส่ใจเขาเป็อย่างดี เพราะเขาร่างกายไม่แข็งแรง เหนื่อยง่าย ในขณะเดียวกันพวกเขาไม่เคยละเลยสัตว์ตัวอื่นเลยแม้แต่นิดเดียว
มาตรฐานในศูนย์ดูแลเป็กลางและอยู่ในระดับสูง แต่เขาเองก็เพิ่งจะได้เคยััชีวิตด้านนอกศูนย์ มันทำให้เขารู้สึกโหยหาความใส่ใจจากมนุษย์ เขามักจะอยู่ด้วยตลอดเวลาที่มีมนุษย์มารับแมวหรือครึ่งทางไปดูแล มนุษย์จะยิ้มต้อนรับเหล่าแมวเสมอ และใช่ วันนั้นพอล บัตเลอร์ก็เป็เช่นนั้น เขายิ้มแย้ม แต่หลังจากที่พอลลังเลที่จะบอกชื่อ เขาก็รับรู้ได้เลยว่าคน ๆ นี้ไม่ใช่คนที่ใส่ใจเท่าไหร่ เขาพยายามเข้าใจชีวิตของมนุษย์ที่ต้องทำงาน อาจจะไม่ได้มีเวลามาคิดเื่พวกนี้ แต่ก่อนเขาถูกรับเลี้ยง เขาได้เห็นมนุษย์บางคนที่ดูตื่นเต้นในการรับเลี้ยงแมวเอามาก ๆ บางคนถึงกับเขียนชื่อในกระดาษหลาย ๆ ใบ ใส่กระดาษลงในโหล และยกมาให้เหล่าแมวเลือกถึงศูนย์ดูแล ลึก ๆ แล้วเขาเองก็หวังว่าจะได้ทำอะไรแบบนั้น
แมวอย่างเขาจะไปหวังอะไรมากมาย
นอกจากได้เล่นอะไรสนุก ๆ
แล้วก็เจอเ้านายที่รักเขามาก ๆ
แต่สิ่งที่เขาได้เจอกลับตรงข้ามโดยสิ้นเชิง……
‘เธอทำอะไรของเธอ?’
‘เราวาดรูป ๆ คุณชอบไหม?’
‘เลอะเทอะ หัดอะไรให้มันมีประโยชน์บ้าง’
‘นี่ มาล้างจาน’
‘เราเพิ่งตากผ้าเสร็จ ขอพักก่อนได้ไหมครับ พลังงานจะหมด’
‘อ่อนแอ ไหนเ้าหน้าที่นั่นบอกเก่งหนักหนา ก็ไม่เห็นจะได้เื่’
‘คุณพอลช่วยทำแผลให้เราหน่อยได้ไหมครับ? คือเราโดนกระดาษบาด’
‘เธอนี่นอกจากจะไม่ทำประโยชน์แล้วยังจะเป็ภาระอีกนะ’
อยู่ที่นี่ตัวเขาเองไม่ว่าจะทำอะไรก็โดนว่าอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับโดนจำกัดให้อยู่ในกรอบ ไม่มีความเป็อิสระ แร็กดอลล์ตัวน้อยมีความสุขกับการวาดรูปเป็อย่างมาก แต่เมื่อไหร่ที่เขาวาดรูป เขาก็มักจะโดนด่าโดนว่าเสมอ การใช้ชีวิตของแร็กดอลล์ตัวน้อยในบ้านหลังนี้ไม่เคยได้รับคำชมเลยแม้แต่คำเดียว เขาอึดอัดจนระบายออกมาเป็คำพูดไม่ได้เสียด้วยซ้ำ
เขารู้แค่เขาเสียใจ
แล้วก็เหนื่อย
เหนื่อยมาก ๆ
หลายวันต่อมา
โอ๊ย!
เสียงร้องของออกัสทำให้แร็กดอลล์ที่กำลังรดน้ำต้นไม้เพลิน ๆ หลุดจากภวังค์และหันกลับไปสนใจ
“ออกัส! เป็อะไร!?” แร็กดอลล์วิ่งเข้ามาในตัวบ้านและพบกับออกัสที่นั่งอยู่ที่พื้นและจับข้อมือตัวเองไปด้วย อีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็คือเจนนี่ บัตเลอร์
“คุณทำอะไรออกัส?” แร็กดอลล์ตัวน้อยหันไปถามเสียงแข็ง
“อย่ายุ่งหน่า นี่มันสัตว์เลี้ยงฉัน ฉันจะทำยังไงกับมันก็ได้”
“ขอโทษทีนะคุณหนู ใหญ่คับฟ้ามาจากไหนถึงได้มาบงการชีวิตคนอื่นแบบนี้?”
“แล้วเธอกล้าดียังไงมาตั้งคำถามกับฉัน?”
“ที่ผ่านมาไม่คุยด้วยเพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนในบ้านคุณ เราเลยไม่รู้ว่าคุณเป็คนยังไง แต่ตอนนี้ก็พอจะรู้แล้วว่าลูกไม้คงจะหล่นไม่ไกลต้น พ่อแม่เป็แบบไหน ลูกก็ไม่ต่างกัน”
“นี่! กล้ามากนะที่พูดกับฉันแบบนี้! ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ก่อนที่จะพูดมันออกมาได้คิดว่าแมวไร้ประโยชน์อย่างเธอจะไม่มีที่อยู่บ้างไหม!”
“อยู่ที่นี่คงไม่ได้ต่างอะไรจากข้างถนนหรอกครับ เราไม่เห็นว่าที่นี่มันจะเป็บ้านตรงไหนเลย” แร็กดอลล์วางสายตาลงที่พื้น
“ถ้าว่าง่ายเหมือนออกัสก็ดีสิ เธอมันรั้น”
“เขาไม่ตอบโต้พวกคุณยังลงไม้ลงมือกับเขาเลย อย่าพูดให้ตัวเองดูดีหน่อยเลยครับ”
ด้วยความโมโห เจนนี่เดินเข้าไปในห้องของแร็กดอลล์ตัวน้อยและหยิบกระดาษทั้งหมดที่แร็กดอลล์ใช้วาดรูปออกมา ปากระดาษในมือใส่หน้าแมวสีขาวตรงหน้า ตามไปหยิบใบที่ใกล้ตัวและฉีกมันต่อหน้าต่อตาเ้าของผลงาน
“คุณทำบ้าอะไรเนี่ย!”
“รู้ไหม? ฉันเกลียดแมวสีขาวแบบเธอที่สุดเลย สกปรก!”
อีกแล้ว…..
สกปรก?
งั้นเหรอ?
ไหนพี่เ้าหน้าที่บอกว่าคนจะชอบแมวสีขาวไง
ไหนบอกว่าเราน่ารัก
แร็กดอลล์ตัวน้อยปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาจากความอึดอัดตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่ เขาคิดเสมอว่าการออกมาจากศูนย์จะเป็เื่ที่ดี เขาจะมีความสุข เขาจะมีชื่อน่ารัก ๆ ได้ทำอะไรสนุก ๆ แต่ทำไมคำพูดแต่ละคำที่เขาได้รับมาถึงมีแต่อะไรแบบนี้
‘เธอมันไร้ประโยชน์’
‘เหอะ ไม่เห็นจะเก่งอะไรสักอย่าง’
‘สกปรก’
เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่าความมั่นใจที่เขาสะสมมาเป็ภูมิคุ้มกัน มาถึงเวลานี้มันจะยังใช้ได้ผลอยู่หรือเปล่า
“ทำบ้าอะไรกัน!” พอลที่เพิ่งกลับมาจากที่ทำกล่าวขึ้นหลังจากเห็นความวุ่นวายตรงหน้า
“พวกแกกลายร่างกลับไปเป็แมวเดี๋ยวนี้!” ออกัสหลบตาแร็กดอลล์ตัวน้อยที่มองอยู่และทำตามคำสั่งพอลทันที ทางด้านแมวสีขาวปาดน้ำตาแล้วกลายร่างกลับไป พอลจัดการโยนออกัสกลับเข้าไปในห้องนอนและล็อคไว้ ส่วนแร็กดอลล์สีขาวนวลก็ถูกโยนไปไว้นอกบ้าน
“จะไปเป็แมวข้างถนนที่ไหนก็ไป”
เห้อ
โดนไล่ออกมาจนได้
คิดถึงเวลาเคธลูบหลังจังเลย เราอยู่ที่นี่ไม่มีใครทำให้เรา
เราพยายามเอาหลังถูกำแพงแล้วคิดถึงหน้าเคธ
แต่มันไม่เห็นเหมือนกันสักนิดเลย
‘งั้นเราจะเป็แมวที่มีความสุขที่สุด! สัญญา!’
ขอโทษนะเคธ เราเป็แมวที่มีความสุขที่สุดไม่ได้แล้ว