อากาศในเมืองจงไห่หนาวเย็นลงเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงนั่นทำให้หยางเฉินไม่อยากลุกออกไปจากผ้าห่มในตอนเช้า
ใน่ครึ่งปีหลังจากที่ฉันกลับมาที่ประเทศนี้คำว่า ''ซุกตัวในผ้าห่ม''กลับเข้ามาในหัวทั้งที่ฉันไม่เคยคาดคิดถึงมันตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ฉันตกต่ำลงเสียแล้ว
หยางเฉินสูดอากาศสดชื่นภายใต้แสงแดดส่องสว่างในยามเช้าพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงนุ่ม ดมกลิ่นหอมของอาหารเช้าที่ถูกจัดเตรียมไว้ชั้นล่าง ใช่…ช่างเป็ชีวิตที่แสนเรียบง่าย...
ก๊อกก๊อก
ประตูถูกห้องถูกเคาะและเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากด้านนอก
"คุณชายทานข้าวได้แล้วค่ะเดี๋ยวคุณหนูจะโกรธเอาได้นะคะ หากให้เธอรอที่โรงพยาบาล"
วันนี้เป็วันที่หลินรั่วซีจะออกจากโรงพยาบาลซึ่งเป็เหตุผลที่ป้าหวังขึ้นมาปลุกหยางเฉิน
หลังจากอาบน้ำเสร็จหยางเฉินใส่เสื้อแขนแสนสั้น และกางเกงขาสั้น และรองเท้ากีฬา เขาไม่จำเป็ต้องกังวลเื่เจ็บป่วยเลยแม้แต่น้อย
หยางเฉินวิ่งลงบันไดไปเพลิดเพลินกับอาหารเช้าแสนอร่อยจากนั้นจึงออกจากบ้านมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล และเมื่อหยางเฉินขับรถผ่านร้านดอกไม้เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นึกถึงคำพูดที่ว่า ''เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด''คิดได้ดังนั้นหยางเฉินก็จอดรถพร้อมเดินเข้าไปในร้านดอกไม้ทันที
หญิงสาวเ้าของร้านดอกไม้นั้นมีความงดงามในแบบผู้ใหญ่เมื่อเธอเห็นหยางเฉินเดินเข้ามาในร้าน เธอก็กล่าวต้อนรับหยางเฉินอย่างอบอุ่น
หยางเฉินจำได้ว่าป้าหวังพูดถึงดอกคาร์เนชั่นแต่เขาก็พบว่ามันมีหลายสีเป็อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็ สีขาว สีแดง สีเหลือง สีม่วงและแม้กระทั่งสีเขียว!
คิดอะไรกันอยู่รู้มั้ยว่ากว่าจะโตจนออกดอกต้องใช้เวลาไปเท่าไร?หยางเฉินคิดอย่างเศร้าโศก
"พ่อหนุ่ม ดอกคาเนชั่นนี้แต่ละสีต่างแทนความหมายไม่เหมือนกัน ให้ฉันอธิบายให้คุณฟังก่อนนะคะ"หญิงสาวแนะนำอย่างชำนาญ
แต่มีหรือที่หยางเฉินจะอดทนฟัง?เขาโบกมืออย่างมั่นใจ และกล่าวว่า "ไม่จำเป็ครับเอาอย่างละสีก็แล้วกัน นั่นสามารถช่วยผมได้มากทีเดียว!"
ได้ยินดังนั้นคิ้วของหญิงสาวถึงกับขมวดเป็เส้นตรงเป็ครั้งแรกที่เธอพบกับคนที่ซื้อดอกไม้เช่นนี้ คิดว่าการเลือกดอกไม้เหมือนสามารถเลือกส่งๆไปได้หรือไง?
แต่ในเมื่อมันเป็ความ้าของลูกค้าหญิงสาวก็จำต้องปั้นหน้ายิ้มแย้ม พร้อมส่งช่อดอกไม้หลากสีให้หยางเฉิน
เนื่องจากดอกไม้ผสมกันหลากหลายสีทำให้การคิดเงินนั้นค่อนข้างยุ่งยากดังนั้นหยางเฉินจึงวางแบงก์สีแดงจำนวนหนึ่งไว้บนโต๊ะที่เคาน์เตอร์จากนั้นก็เดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อหญิงสาวร้านดอกไม้นับเงินเธอก็พบว่าเงินที่หยางเฉินให้มานั้นไม่ถึงร้อยหยวนด้วยซ้ำแต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมา หยางเฉินก็ขับรถออกไปเสียแล้วนั่นทำให้เธอเกือบเป็ลมล้มพับลงไปเพราะความโกรธ
เมื่อหยางเฉินมาถึงโรงพยาบาลมันก็เป็เวลานัดหมายพอดีและเมื่อหยางเฉินเข้าไปในห้อง เขาก็เห็นร่างที่คุ้นเคยซึ่งไม่ได้เห็นมานาน
"คุณหยางไม่เจอกันนานนะครับ" ซูจื้อหงเอ่ยทักทายอย่างยิ้มแย้มตามปกติในมือของเขามีช่อกล้วยไม้สีขาวสดใส
ข้างๆ ซูจื้อหงคือเหมาฉิวที่กำลังยืนเกาก้นอยู่ ไม่รู้ว่าเป็เพราะยุงหรือเพราะไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน
หลินรั่วซีสวมเสื้อสีขาวสบายๆนั่งอยู่บนเตียง ด้านข้างของเธอเป็กระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก
หยางเฉินจ้องมองซูจื้อหงดูเหมือนว่ามันจะชอบหลินรั่วซีเอามากๆ หยางเฉินพูดขึ้นอย่างเบื่อหน่ายว่า "คนอย่างบอสซู ถึงกับส่งดอกไม้ให้กับภรรยาของผม คุณนี่ไว้หน้าผมจริงๆ"
รอยยิ้มบนใบหน้าของซูจื้อหงแข็งค้างไปในทันทีไว้หน้าอะไรของมัน!? ฉันให้ดอกไม้แก่หลินรั่วซีไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับแกเสียหน่อย!?
"คุณหยางช่างสุภาพจริงๆเลยนะครับ" ซูจื้อหงเห็นดอกคาร์เนชั่นหลากสีในมือหยางเฉินเขาก็กลั้นหัวเราะไว้ พร้อมกล่าวว่า"ผมสงสัยว่าช่อดอกไม้นี้คืออะไรผมไม่เคยเห็นช่อดอกไม้เช่นนี้มาก่อน"
หลินรั่วซีแอบมองไปที่ห่อดอกไม้ในมือหยางเฉินด้วยเช่นกันทันใดนั้นเธอก็เลิกคิ้วขึ้น เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าหยางเฉินเอาช่ออะไรมาให้เธอแต่หลังจากที่ได้เห็นกองคาร์เนชั่นอย่างดีถูกจัดซ้อนกันเช่นช่อดอกไม้ป่าเธอก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรเลยทีเดียว
หยางเฉินไม่ได้สนใจมากนักเขายิ้มและตอบว่า "ความหมาย?ผมสงสัยว่าดอกไม้ของบอสซูเป็อย่างไร?"
ซูจื้อหงกล่าวอย่างภูมิใจว่า "งดงามและสูงส่งนี้คือสิ่งที่ผมเห็นในตัวรั่วซี ดังนั้นดอกไม้ของผมจึงเป็ดอกกล้วยไม้"
"ขอบคุณที่ชมภรรยาของผมนะครับ"หยางเฉินจนใจ เน้นคำว่า ''ของผม''จากนั้นกล่าวว่า "เหตุผลที่ว่าทำไมช่อดอกไม้ของผมถึงมีหลายสีก็เพราะว่าผมไม่อาจนิยามของรั่วซีได้ เธอทั้งสวย งดงามสูงส่ง มั่นใจ เซ็กซี่ น่ารักมีคุณธรรม และจิตใจดี... เป็ภรรยาที่ดีเป็แม่ตัวอย่าง เป็ผู้หญิงอันดับหนึ่งในจีนประจำปีนี้คุณคิดหรือว่าจะสามารถนิยามหลินรั่วซีของผมได้หมด ดังนั้นผมเลยซื้อมันมาทั้งหมด"
ใครสนกันล่ะแค่ซื้อดอกไม้หลายสี พร้อมกับบอกความหมายมากมาย มันช่างเหมาะเจาะอะไรเช่นนี้หยางเฉินคิดอย่างมีความสุข
เมื่อถูกชมอย่างมากมายโดยหยางเฉินหลินรั่วซีก็ไม่อาจทำอย่างไรได้ เธอเขินอายออกมาเล็กน้อยผู้หญิงตัวอย่างแห่งปีอะไรกัน!?
ถ้าซูจื้อหงรู้ว่าเื่นี้จะเกิดขึ้นเขาคงซื้อกล้วยไม้มาทุกสีเช่นกัน เขาทำได้เพียงฝืนยิ้มและกล่าวว่า "คุณหยางช่างมีความสามารถที่หลากหลายจริงๆ"
"ขอบคุณที่ชมนะครับคุณซู!ที่จริงผมนั้นเป็คนต่ำต้อย ถ้าหากไม่มีเื่อะไรแล้วเชิญบอสซูวางดอกไม้แล้วออกไปได้แล้วครับ" หยางเฉินทำท่าทางสุภาพและเผยรอยยิ้มที่อบอุ่น
ใบหน้าซูจื้อหงหมองคล้ำลงทันทีเขาเกือบจะไม่สามารถระงับความโกรธเอาไว้ได้!
ดีมาก!มันกล้าพูดแบบนี้กับฉันอย่างตรงไปตรงมาทำให้ฉันอัปยศอดสูอย่างหาที่ระบายไม่ได้ ดีมาก!
ทางด้านเหมาฉิวที่ยืนอยู่ข้างๆมองไปที่เ้านายของมันด้วยสายตาสงสาร เพื่อไล่ตามผู้หญิงที่แต่งงานแล้วและแม้กระทั่งการทรมานตัวเองเช่นนี้ มันคุ้มค่าแล้วหรือไม่
"ถ้างั้น...รั่วซีผมวางดอกไม้ไว้ตรงนี้นะครับ แล้วก็ยินดีด้วยที่ได้ออกจากโรงพยาบาล"
ซูจื้อหงรู้สึกว่าถ้าหากยังอยู่ต่อคงได้บ้าตายแน่ๆ ดังนั้นจึงกล่าวอำลาแล้วเดินออกจากห้องไป
เมื่อซูจื้อหงออกจากห้องไปแล้วหลินรั่วซีก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกล่าวว่า "อย่าทำหยาบคายกับบอสซู เขาไม่ได้ทำอะไร"
"ไม่ได้ทำอะไร!?"หยางเฉินพูดเสียงดังว่า "มันมาที่นี่เร็วกว่าสามีอย่างผมซะอีกมันรนหาที่ตายเองต่างหาก!?"
หยางเฉินกล่าวพลางเดินไปหยิบดอกไม้ของซูจื้อหงโยนลงถังขยะโดยพลันจากนั้นเดินไปหาหลินรั่วซีอย่างยิ้มแย้ม
"ยินดีด้วยที่ได้ออกจากโรงพยาบาลเสียทีที่รักของผม"
วิธีการพูดของเขานั้น''ฟังดูน่าอึดอัดใจเล็กน้อยแต่ด้วยมารยาทที่และการถูกสั่งสอนมาอย่างดีนั้น ทำให้หลินรับดอกไม้มาพร้อมกล่าวว่า
"ขอบคุณ"
หยางเฉินหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมกล่าวว่า
"ไม่จำเป็ต้องขอบคุณผมผมรู้ว่าคุณสับสน แต่อย่าร้องไห้เลย ผมกลัวผู้หญิงร้องไห้ต่อหน้าที่สุด"
หลินรั่วซีถอนหายใจออกมาผู้ชายคนนี้กลับมาอีกแล้ว ทำไมฉันต้องร้องไห้โดยไม่มีเหตุผลด้วย!?
หลังจากจัดการเื่ทุกอย่างแล้วหยางเฉินก็ขับรถกลับบ้านพร้อมกับหลินรั่วซีนี่เป็ครั้งแรกที่พวกเขานั่งอยู่บนรถกันสองคน หลังจากหลินรั่วซีขับรถเบนท์ลีย์มารับหยางเฉินในคราวก่อน
หลินรั่วซีนั่งอยู่ในรถและเห็นว่าสภาพภายในรถดูเปลี่ยนไป ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรบางอย่างออกและกล่าวถามอย่างเฉินทันที
"หยางเฉินรถที่นายขับเป็รถของฉัน นายไม่รู้สึกละอายใจเลยงั้นเหรอ ?"
หยางเฉินส่ายหัว "ไม่เลย บอสหลินมีรถตั้งหลายคัน ปล่อยมันโดยไม่ได้ทำอะไรมีแต่จะเสียของเปล่าๆผมกำลังทำให้รถพวกนั้นได้ทำประโยชน์ นั่นเป็ความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของผมเชียวล่ะ!"
"ฉันจริงจังนะ"หลินรั่วซีขมวดคิ้วกล่าวว่า "นายเป็ผู้ชายไม่คิดว่าควรทำงานหนักเพื่อซื้อรถและบ้านเป็ของตัวเองมั่งงั้นหรือ?ขับรถของผู้หญิงอย่างนี้ไม่กลัวคนอื่นจะหัวเราะเยาะหรือไง?"
หลินรั่วซีพยายามกระตุ้นหวังให้หยางเฉินรู้สึกอัปยศในใจ และใช้มันเป็แรงขับเคลื่อนให้ทำงานหนักขึ้น
หยางเฉินครุ่นคิดสักพักแล้วพยักหน้าด้วยใบหน้าจริงจังกล่าวว่า "ที่รักคุณคิดว่าผมจะรู้สึกเสียหน้าใช่มั้ยล่ะ เดี๋ยวผมจะใช้มีดตัดโลโก้ BMWออกไปเอง คุณคิดว่ายังไงล่ะ?"
หลินรั่วซีรู้สึกเหมือนอยากจะหักพวงมาลัยพุ่งลงข้างทางเพื่อฆ่าชายคนนี้ซะเหลือเกิน!
เธอรู้สึกผิดหวังกับหยางเฉินและแสดงท่าทางเงียบขรึม โดยไม่พูดอะไรอีก
หยางเฉินรู้ว่าภรรยาของเขาบูดบึ้งกับการขาดความทะเยอทะยานของเขาดังนั้นเขาจึงจดจ่ออยู่กับการขับรถและแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ การเดินทางกลับบ้านจบลงด้วยความเงียบป้าหวังรออยู่ที่ประตู และเมื่อเธอเห็นทั้งสองออกมาจากรถป้าหวังจึงรีบเข้าไปช่วยหลินรั่วซียกกระเป๋า แล้วกลับเข้าไปเตรียมอาหารกลางวันต่อ
หลินรั่วซีไม่สนใจหยางเฉินเมื่อเธอเข้าไปในบ้าน เธอก็โทรหาเลขาอู๋เยวี่ย แล้วขึ้นไปทำงานที่ชั้นสองทันที
ป้าหวังเป็ห่วงหลินรั่วซีเธอพยายามห้ามไม่ให้หลินรั่วซีทำงานหนัก แต่ดูเหมือนหลังจากกลับออกมาจากโรงพยาบาลเธอก็ยังคงทำงานหนักอยู่เช่นเคย
ป้าหวังทำอาหารต้อนรับหลินรั่วซีอย่างอลังการมันมีปริมาณมากและอร่อยกว่าปกติ อาหารชนิดต่างๆ ล้วนส่งกลิ่นหอมทำให้หยางเฉินกลืนน้ำลายจ้องมองอย่างเหม่อลอย
"ป้าหวังครับถ้ามีเวลาก็สอนผมทำอาหารบ้างนะครับ ผมชอบอาหารที่ป้าหวังทำที่สุด"หยางเฉินเอ่ยขึ้น
คำชมย่อมทำให้คนฟังมีความสุขป้าหวังเผยรอยยิ้มกว้างตอบว่า
"คุณชายชอบมันก็ดีแล้วล่ะค่ะไว้ฉันจะสอนตอนที่คุณชายว่างก็แล้วกัน คนแก่อย่างฉันว่างตลอดอยู่แล้วสามารถสอนคุณเมื่อไรก็ได้"
หลินรั่วซีเห็นดังนี้แล้วเธอก็คิดว่าชายคนนี้ไม่เพียงไม่เต็มไม่เต็มใจทำงานเขายัง้าเรียนวิธีการปรุงอาหารเช่นหญิงสาว เธอไม่อาจทำอย่างไรได้ได้แต่ทำสีหน้าไม่พอใจ และความผิดหวังอย่างรุนแรง
แม้ว่าป้าหวังจะเตรียมอาหารแสนอร่อยมากมายแต่ตอนนี้หลินรั่วซีกำลังอยู่ในอารมณ์บูดบึ้งดังนั้นเธอจึงกินอาหารเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากนั้นยืนขึ้นเตรียมตัวออกไปข้างนอก
ป้าหวังเห็นดังนั้นก็สะกิดขาหยางเฉินพร้อมส่งสัญญาณทางสายตาหยางเฉินเข้าใจความหมาย ดังนั้นจึงเอ่ยถามหลินรั่วซีด้วยรอยยิ้ม
"จะไปไหนหรือ?ถ้าคุณจะไปออฟฟิศ ผมไปส่งคุณเองเป็ไง ผมว่างอยู่ด้วย"
หลินรั่วซีเหลือบมองหยางเฉินอย่างเ็าพลางกล่าวว่า "ไม่จำเป็ฉันไม่ได้ไปออฟฟิศ ฉันขับรถเองได้ นายกินข้าวกับป้าหวังที่นี่ไปเถอะ"
ขณะกล่าวกับหยางเฉินหลินรั่วซีก็หยิบกุญแจรถและเดินออกจากประตูโดยไม่หันมามองอีกเลย
ไม่ได้ไปออฟฟิศ?หยางเฉินรู้สึกงุนงง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอออกไปข้างนอกกลางดึก และไม่บอกว่าจะไปไหน แม้ว่าเขาจะเป็คนขี้สงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามออกไป
เมื่อคิดเกี่ยวกับเื่นี้หยางเฉินรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเขากับหลินรั่วซีได้กลับไปเหมือนตอนที่เขาพบกันครั้งแรกที่ต่างเป็ความสัมพันธ์ตามสัญญาแต่งงานไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ ให้กันเขาคิดไปเองว่า่นี้ความสัมพันธ์ของเขาและหลินรั่วซีนั้นดีขึ้นกว่าเดิมและจะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆเมื่อเธอกลับมาบ้าน แต่สถานการณ์กลับกลายเป็อย่างนี้นั่นทำให้หยางเฉินทำตัวไม่ถูกไปทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้