เกิดใหม่อีกครั้ง สู่ช่วงวันวานแสนมั่งคั่งในยุค 70 (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    เมื่อเอ่ยถึงการแต่งงาน เฉินชุ่ยอวิ๋นก็อดถอนหายใจไม่ได้ เธอเก็บด้ายพลางบอก “การแต่งงานนี้ยังไม่รู้จะราบรื่นหรือเปล่าเลย เสี่ยวสยาทำลายชื่อเสียงเจิ้งหยวนข้างนอกแบบนั้น หากสกุลเฝิงเชื่อขึ้นมาล่ะ”

    “ถ้าสกุลเฝิงเชื่อคงเลอะเลือนแล้ว!” อู๋อวี้หลันอยู่ใกล้เหมือนกัน

    เลยรู้ว่าสองสามีภรรยาเฉินชุ่ยอวิ๋นกับเจิ้งเฉวียนกังเป็๲คนมีเมตตา

    และคิดว่าเด็กสาวเจิ้งหยวนถึงอารมณ์จะร้อนไปสักหน่อย แต่ยังคงจิตใจตี ทั้งยังฉลาด

    ต้องไม่ทำเ๱ื่๵๹โง่ๆ อย่างการแอบหาคนรักลับหลังคนในครอบครัวหรอก เธอจึงเอ่ยต่อ

    “ซ่งจินฮวาเป็๞คนยังไง พวกเรามีใครไม่รู้บ้าง

    แต่ก่อนเห็นลูกสาวเธอคนนั้นลำบากชีวิตอาภัพ

    มาคิดดูตอนนี้คนเลวแบบนั้นจะงอกผลิตผลดีงามออกมาได้ยังไง? คงอิจฉาริษยาที่เจิ้งหยวนจะได้เกี่ยวดองกับครอบครัวดีๆ

    อย่างสกุลเฝิงแน่นอน”

    เห็นอู๋อวี้หลันพูดเช่นนี้ เฉินชุ่ยอวิ๋นก็มั่นใจขึ้นมาบ้าง ต้องขอบคุณนิสัยหัวรั้นของตาแก่ที่บ้านรวมทั้งการวางตัวไม่เป็๞ของป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้ง เพื่อนบ้านรอบบริเวณเลยเชื่อเจิ้งหยวนกันเป็๞หลัก เธอลอบผ่อนลมหายใจแล้วเปลี่ยนด้ายป่านเส้นใหม่ พักเดียวก็ร้อยเข็มได้

    “พูดกันตรงๆ นะ ชุ่ยอวิ๋น ในบรรดาลูกๆ ของเธอ คนที่มีชีวิตสุขสบายที่สุดคงเป็๲เจิ้งหยวนแหละ” ป้าฟางผูกปมด้ายป่านพลางบอก “ฉันไม่ได้เห็นเธอแต่งงานดีถึงพูดแบบนี้นะ เจิ้งหยวนของเธอมาตรฐานสูง และอ่านหนังสือออก สมองดี ทั้งยังไม่ยอมเสียเปรียบ เธอดูแต่ก่อนสิ ซ่งจินฮวามาขอเสบียงบ้านเธอแทบทุกปี มีคืนเสียเมื่อไร หลังเจิ้งหยวนรู้ความขึ้น เขาก็เอาเปรียบเธอไม่ได้อีก เด็กสาวคนนี้น่ะ ดูแลบ้านได้ รู้จักทำงาน หนำซ้ำยังหัวไว หน้าตาหรือก็สะสวย ต่อไปชีวิตต้องเจริญแน่”

    แม้เจิ้งหยวนมักทำให้คนในครอบครัวโมโหตลอด และตัวเธอก็ไม่รู้สึกว่าเจิ้งหยวนจะมีความสามารถมากมายอันใด แต่พอได้ยินคนอื่นชื่นชมลูกสาวตัวเองเช่นนี้ ใจเฉินชุ่ยอวิ๋นพลันโห่ร้องอย่างยินดีขึ้นมา เธอรีบพูดทันที “อะแฮ่ม เธอยังเป็๞แค่เด็ก ไม่รู้ประสาอยู่เลย ฉลาด หน้าตางดงามอะไรไม่สำคัญหรอก ขอเพียงเธอประพฤติตัวดี ไม่ก่อเ๹ื่๪๫อีก ฉันก็พอใจมากๆ แล้วละ”

    วันนี้อากาศดี แสงแดดกำลังพอเหมาะ เมล็ดพืชในลานข้าวสาลีส่วนใหญ่สีเรียบร้อยหมดแล้วมีบางส่วนตากแดดจนแห้งขนขึ้นรถแล้ว ผลผลิตปีนี้ดียิ่ง เกวียนคันหนึ่งบรรจุธัญพืชตั้งสามร้อยจิน อาศัยเกวียนทุกคนขนหลายเที่ยวก็เสร็จ ถึงกระนั้น ก็ยังเหลือที่ยังคงไม่แห้งดีในลานข้าวอยู่อีกมาก

    เจิ้งหยวนรับหน้าที่ใช้คราดพลิกข้าวสาลีไปมาในลานข้าวให้ข้าวแห้งทั่วถึงกันมากยิ่งขึ้น เป็๞งานสบาย สามารถทำๆ หยุดๆ ได้ ๰่๭๫แอบอู้ก็นั่งใต้กองข้าวสาลีที่มีร่มเงา แม้ไม่ค่อยเย็นสบายนัก อย่างน้อยก็ไม่ถึงกับโดนแดด

    แม้เจิ้งหยวนจะใส่หมวกฟางและเสื้อแขนยาวตลอด ทั้งยังคุ้ยครีมกันแดดจากห้องพักแขกโรงแรมในมิติออกมาทาอย่างพิถีพิถัน แต่ยังคงคล้ำขึ้นหนึ่งเฉดอยู่ดี โชคดีที่ไม่โดดแดดเผา คอยบังๆ หน่อยก็คืนสภาพเดิมแล้ว เธอรู้จักผิวตัวเองดี เธอไม่ใช่พวกที่ตากแดดแล้วไม่ดำ แต่เม็ดสีเมลานินสลายเร็ว คนอื่นอาจต้องพักผิวครึ่งปีถึงกลับมาปกติ เธอใช้เวลาแค่หนึ่งถึงสองเดือนเท่านั้น

    “หยวนหยวน เกิดเ๹ื่๪๫อะไรระหว่างเธอกับพี่เสี่ยวสยา?”

    เจิ้งหยวนเพิ่งนั่งดื่มน้ำได้อึกเดียว ก็มีคนเข้ามาถามแล้ว เธอหันกลับไปมองคือเจิ้งเสี่ยวชิว เพื่อนสนิทของเธอเมื่อก่อน แม้จะเป็๲เพื่อนสนิท ทว่าเธอกลับไม่เคยบอกเ๱ื่๵๹หลินเสี่ยวหยางให้ฟังเลย เจิ้งหยวน๰่๥๹อายุสิบกว่าถึงจะนิสัยไม่ค่อยดี และหัวแข็ง แต่ไม่โง่ เพื่อนเธอคนนี้ปากเปราะยิ่งกว่าเจิ้งเจวียน เธอจึงไม่กล้าเล่าอะไรมั่วซั่ว

    เจิ้งเสี่ยวชิวนั่งลงข้างๆ เจิ้งหยวน แล้วถามขึ้น “เธอหาคู่ในเมืองจริงๆ เหรอ? ก่อนหน้านี้ฉันเดาว่าเธอมีคนรักแล้ว

    แต่เธอบอกว่าไม่มี!” เธอรู้สึกเจิ้งหยวนแปลกไปตั้งนานแล้ว!หลังๆ

    มานี้เจิ้งหยวนมักวิ่งรอกเข้าอำเภอเมืองอยู่บ่อยครั้ง

    เธอไม่เชื่อว่าเ๽้าตัวไปบ้านอาสามจริงๆ หรอก เจิ้งหยวนเคยพูดไว้

    อาสะใภ้สามเธอเป็๞คนขี้เหยียด ไปบ้านอาสะใภ้สามทีไม่เพียงต้องทำงานเยอะ

    ยังโดนอาสะใภ้สามพูดจาแดกดัน ติโน่นตินี่ประจำ

    เจิ้งหยวนจำไม่ได้แล้วว่าเคยพูดสิ่งใดกับเจิ้งเสี่ยวชิวบ้าง เลยปฏิเสธตามตรงเหมือนเดิม “ฉันไม่ได้หาคนรักในเมือง เธอพูดไร้สาระอะไรเนี่ย!”

    

    

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้