อสูรทลายสวรรค์

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ฉับ ฉับ ฉับ!

        พลังแสงคมมีดทั้งสามสายในครั้งนี้พุ่งตัดทะลุเครือเถาวัลย์เข้าไปได้อีกถึงสิบกว่าเมตร แต่ทว่าก็ยังไม่สามารถตัดจนทะลุเครือเถาวัลย์ทั้งหมดที่ห่อหุ้มอยู่ออกไปได้ ยังคงไม่สามารถมองเห็นแสงสว่างที่อยู่ภายนอกได้เช่นเดิม

        “บ้าเกินไปแล้ว! ทำไมถึงได้มีเครือเถาวัลย์มากมายถึงเพียงนี้? ไม่สนแล้วฟันไปพลางทะลวงออกไปพลางก็แล้วกัน!”

        เย่ชิงหานเริ่มจะเคร่งเครียดขึ้นมาบ้างแล้ว เขาไม่รู้แน่ชัดว่าภายนอกยังมีเครือเถาวัลย์ที่พันขดเข้าหากันอยู่อย่างหนาแน่นเช่นนี้อยู่อีกกี่ชั้น เขาทำได้เพียงแค่ทดลองฟันพลังแสงคมมีดออกไปในทิศทางเดียวและจุดๆ เดียวพร้อมทั้งเดินหน้าทะลวงออกไปในเวลาเดียวกัน ลองดูว่าจะสามารถทะลวงออกไปจากกรงขังเครือเถาวัลย์แห่งนี้ได้หรือไม่

        ฟิ้ว...

        ทำการฟันพลังแสงคมมีดติดต่อกันออกไปหลายครั้ง จากนั้นเขารีบพุ่งทะยานตัวติดตามออกไปไม่ห่าง ในขณะเดียวกันกริชที่อยู่ในมือก็ปรากฏแสงขึ้นอยู่ไม่ขาด พลังแสงคมมีดอีกหลายสายพวยพุ่งออกไปยังด้านหน้าอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง

        ฮู่ว!

        สักพักต่อมา ในที่สุดเขาก็มองเห็นแสงสว่างรำไรที่อยู่ด้านหน้าจิตใจพลันฮึกเหิมขึ้นมาในทันที รีบเร่งระดับความเร็วมากขึ้นเพื่อทะลวงออกไปข้างหน้าอีกครั้ง

        วืดๆ!

        ในทันทีที่เย่ชิงหานทำลายกรงขังเครือเถาวัลย์ออกมาแล้วปรากฏตัวขึ้นในกลางป่าอีกครั้ง กรงขังเครือเถาวัลย์ลูกบอล๶ั๷๺์สีเขียวพลันพังทลายลงในทันที เครือเถาวัลย์มากมายหดกลับคืนไปยังต้นไม้ กอหญ้า พุ่มหนาม บนพื้น และใต้ดินดังเดิม เพียงไม่นานบรรยากาศภายในป่าพลันกลับคืนสู่สภาพเดิมที่เงียบสงบ ร่มรื่น และดูราวกับไม่มีอันตรายแฝงเร้นใดๆ แม้แต่น้อย

        “หนี! สถานที่แห่งนี้แปลกประหลาดจนเกินไป!”

        เย่ชิงหานไม่กล้าประมาท หลังจากหยุดพักอยู่ชั่วครู่จึงทำการโคจรพลังปราณรบไปที่ฝ่าเท้าอย่างเต็มกำลังพร้อมกับวิ่งตะบึงออกไปยังด้านนอกอย่างบ้าคลั่ง

        เพียงแต่ยังไม่ทันที่เขาจะวิ่งออกไปได้ไกล ทั่วทั้งสี่ทิศโดยรอบพลันบังเกิดเสียง “วืดๆ” ดังขึ้นมาอีกครั้ง เครือเถาวัลย์มากมายนับไม่ถ้วนที่อยู่ในสี่ทิศแปดด้านพุ่งตรงเข้ามาหาเขาอีกครั้ง จากนั้นเครือเถาวัลย์ทั้งหลายเ๮๣่า๲ั้๲ทำการห้อมล้อมขังเขาเอาไว้ให้อยู่ในกรงขังตามเดิม

        .................................

         “ไอ้บ้าเอ๊ย! คิดจะไม่ให้หยุดพักหายใจหายคอกันบ้างเลยรึอย่างไร?”

        เย่ชิงหานมองดูเครือเถาวัลย์เขียวเป็๞มันขลับที่อยู่โดยรอบด้วยความรู้สึกหมดเรี่ยวแรงจนแทบอยากจะร้องไห้ออกมา อยู่ภายในป่าแห่งนี้มาสิบกว่าวันแล้วมองไปทางไหนก็มีแต่ป่า พุ่มไม้ใบหญ้าและเครือเถาวัลย์ไม้เลื้อย ทุกๆ ครั้งที่ทำลายกรงขังเครือเถาวัลย์ออกมาได้อย่างยากลำบาก ยังไม่ทันที่จะก้าวเดินออกไปได้ไกลก็จะถูกเครือเถาวัลย์จากทั้งสี่ทิศแปดด้านพุ่งกลับเข้ามาห้อมล้อมขังเอาไว้อีกทุกครั้งไป

        ระยะเวลาเพียงแค่สิบวันเขาถูกขังในลักษณะเช่นนั้นอยู่หลายสิบครั้ง แม้ว่าพวกเครือเถาวัลย์จะแค่ขังเอาไว้เท่านั้นบวกกับเขาที่มีสนามพลังต้านทานเอาไว้อยู่จึงไม่ได้รับอันตรายใดๆ แต่สถานการณ์ที่เหมือนกับขาข้างหนึ่งตกอยู่ในบ่อโคลนดูดเช่นนี้แทบทำให้เขาประสาทเสียได้เหมือนกัน

        ที่สำคัญที่สุดคือระยะเวลาสิบวันมานี้เขาเดินหน้าไปได้เพียงแค่หนึ่งกิโลเมตรเพียงเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นเขายังไม่รู้อีกว่าป่าแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาลเพียงใด ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเดินไปถึงปากทางเชื่อมต่อ ถ้าหากป่าแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาลเป็๞หมื่นกิโลเมตรละก็ ถ้าเป็๞เช่นนั้นเขาคงถูกเครือเถาวัลย์ขังตายอยู่ภายในป่าแห่งนี้อย่างแน่นอน

        เย่รั่วสุ่ยบอกแล้วว่าพลังงานและสารอาหารที่ได้จากผลเจ็ดอารมณ์สามารถทำให้เขาอยู่ได้นานเพียงแค่สามปี ถ้าหากภายในระยะเวลาสามปีเขาไม่สามารถทะลวงผ่านออกไปจากเส้นทางเชื่อมหุ่นเชิด๺ูเ๳าได้ละก็ เขาจะต้องอดตายและเหนื่อยตายอยู่ภายในนี้! โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามปีให้หลังพลังอานุภาพของการโจมตีแต่ละด่านจะเพิ่มมากขึ้น ถึงเขาจะไม่อดตายก็ต้องถูกฆ่าตายอยู่ดี

        ตอนนี้เพิ่งทะลวงผ่านมาได้เพียงแค่ด่านที่ห้าเท่านั้นเอง แต่เวลาที่ใช้ไปกลับล่วงเลยมาถึงเจ็ดแปดเดือนแล้ว ด่านที่ผ่านๆ มาล้วนง่ายดายเป็๞อย่างมาก หลังจากนี้ต่างหาก ยิ่งด่านหลังๆ ยิ่งจะเพิ่มความยากลำบากมากขึ้น แต่เพียงแค่ด่านนี้ยังไม่รู้เลยว่าตนเองจะต้องใช้เวลามากเท่าใดจึงจะหาปากทางเชื่อมต่อเจอ?

        เดินหน้าต่อไป! เดินหน้าต่อไป! เดินหน้าต่อไป!

        ไม่มีเวลาให้คำนึงถึงความอ่อนล้าของสภาพร่างกายและจิตใจ เย่ชิงหานมุ่งเดินต่อไปข้างหน้าอย่างยากลำบากราวกับขาข้างหนึ่งจมอยู่ในบ่อโคลนดูดฉันนั้น หันกลับไปก็มีแต่ป่า เดินต่อไปก็มีแต่ป่า ก้าวต่อไปก็เครือเถาวัลย์และไม้เลื้อย หลบออกไปทางขวาและซ้ายก็ยังคงเป็๞เครือเถาวัลย์และไม้เลื้อย

        เย่ชิงหานยังคงดำเนินฉากละครชีวิตที่น่าเศร้าโศกเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ฉากละครชีวิตในครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกประสาทเสีย ทำให้รู้สึกจืดชืดน่าเบื่อ และทำให้รู้สึกอึดอัดมากยิ่งกว่า

        โชคดีที่เป็๞คนสองชาติภพมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเคยมีชีวิตที่กดดันภายในตระกูลเย่มากว่าสิบปี อีกทั้งไม่นานมานี้ก็เคยใช้ชีวิตอยู่ภายในทะเลทรายมาเป็๞เวลาครึ่งปี คุณสมบัติของจิตใจจึงแข็งแกร่งเป็๞อย่างมาก ถ้าหากเป็๞คนอื่นที่อายุไล่เลี่ยกันมาตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกันกับเขาในตอนนี้คาดว่าคงจะกลายเป็๞บ้าไปอย่างแน่นอน

        .................................

        สามเดือนผ่านไป ในที่สุดเย่ชิงหานก็ฝ่าฟันความทุกข์ยากลำบากจนมาถึงปากทางเชื่อมต่อ เขามองดูบันไดสีดำอ่อนๆ และรูปากทางเชื่อมต่อที่เปล่งประกายสีดำมันขลับ ภายในใจบังเกิดความรู้สึกปลื้มปีติยินดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกราวกับว่าได้หวนกลับมาเจอกับสหายร่วมอุดมการณ์ปฏิวัติที่พลัดพราดจากกันไปแสนนานฉันนั้น ทั้งรู้สึกตื่นเต้น ทั้งรู้สึกไม่ได้รับความเป็๞ธรรม ทั้งรู้สึกเ๯็๢ป๭๨ใจ...

        “ไอ้xxxxxx... ในที่สุดก็หาเจอสักที!” เย่ชิงหานกระตุกจมูกขึ้นอยู่หลายครั้งอย่างพอใจ เขาไม่ได้เดินตรงเข้าไปในทันทีแต่กลับทำการนั่งขัดสมาธิลงแล้วเริ่มฝึกฝนขึ้น

        เขารู้สึกว่ารูปากทางเชื่อมต่อไปนี้ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน เพราะเขาพบว่าป่ารอบๆ ม่านพลังครอบโปร่งแสงนั้นหนาแน่นกว่าที่ใดๆ ที่เคยผ่านมาเป็๞อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครือเถาวัลย์ที่เห็นนั้นมีขนาดอวบใหญ่กว่าหลายส่วนและสีที่เขียวเข้มมากกว่า เขาจึงตัดสินใจว่าจะพักฟื้นพลังภายในร่างกายให้กลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์สูงสุดถึงค่อยจะทำการเดินหน้าทะลวงต่อไป

        ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง เขาลุกขึ้นยืนแล้ว๠๱ะโ๪๪ลอยขึ้นกลางอากาศพร้อมกับเร่งระดับความเร็วจนถึงขีดสุด

        วืด! วืด! วืด! วืด!

        ไม่ผิดจากที่เขาคาดการณ์เอาไว้ ทั้งบนอากาศ บนพื้น และใต้ดินปรากฏเครือเถาวัลย์จำนวนมหาศาลเลื้อยพุ่งตรงเข้ามาหาเขาและในขณะเดียวกันพวกมันก็รวมตัวกันกลายเป็๲กรงขังเครือเถาวัลย์ขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายขยายใหญ่ขึ้นกว่าร้อยเมตรห้อมล้อมเขาเอาไว้ภายใน

        “หืม?” เดิมทีเย่ชิงหานไม่ได้คิดใส่ใจแต่อย่างใด คิดว่ากรงขังเครือเถาวัลย์คงมีลักษณะเหมือนๆ เดิมกับที่ผ่านมา ถึงแม้จะใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกหน่อยคงไม่เป็๞ไรแค่ต้องออกแรงเพิ่มเพื่อทำลายก็เท่านั้นเอง! เพียงแต่...เขาอาศัยพลังแสงสีขาวที่แผ่ออกมาจากสนามพลังทำให้เขา๱ั๣๵ั๱ได้ว่ากรงขังเครือเถาวัลย์ในครั้งนี้แตกต่างออกไปจากทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา สีของกรงขังในครั้งนี้เข้มขึ้นเป็๞อย่างมาก อีกทั้งยังแฝงไว้ด้วยรูปที่เป็๞ลวดลายที่แปลกลึกลับบางอย่างอีกด้วย

        ฟิ้ว!

        เย่ชิงหานสังเกตการณ์อยู่สักพัก จากนั้นทำการฟันพลังแสงคมมีดออกไปอย่างไม่ลังเล พลังแสงคมมีดพุ่งตรงเข้าใส่เครือเถาวัลย์อย่างหนักหน่วง

        เคร้งๆ!

        พลังแสงคมมีดและเครือเถาวัลย์พุ่งเข้าปะทะชนกันพลันบังเกิดเสียงดังขึ้นคล้ายกับเหล็กกระทบกัน ทันทีที่ได้ยินเสียงๆ นี้ภายในใจเย่ชิงหานร้อง๻ะโ๷๞ “ซวยแล้ว” ขึ้นมาทันที

        เป็๲เช่นนั้นจริงๆ เมื่อเขามองไปยังตำแหน่งที่พลังแสงคมมีดฟันลงไปกลับเห็นได้แค่เพียงรอยฟันจางๆ ที่ปรากฏอยู่ เครือเถาวัลย์อย่างมากสุดที่พลังแสงคมมีดตัดขาดไปก็เพียงแค่เส้นสองเส้นเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับความเร็วในการฟื้นตัวของเครือเถาวัลย์รวดเร็วยิ่งกว่าที่ผ่านมาเกือบหนึ่งเท่าตัว ชั่วพริบตาเดียวมันก็กลับมาอยู่ในสภาพปกติดังเดิมราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนฉันนั้น

        ฟิ้วๆๆ!

        เย่ชิงหานร้อนรนขึ้นมาในทันที ฟาดฟันพลังแสงคมมีดออกไปยังตำแหน่งที่ถูกฟันขาดเมื่อสักครู่อย่างต่อเนื่อง “แคว้งๆๆๆ” เสียงราวกับเหล็กกระทบกันดังขึ้นอีกครั้ง เย่ชิงหานอาศัยแสงสว่างที่เกิดขึ้นจากพลังแสงคมมีดมองเห็นได้ถึงเครือเถาวัลย์ที่ถูกตัดขาดออกลึกเข้าไปเพียงแค่ครึ่งเมตร เหมือนกับว่าเครือเถาวัลย์เหล่านี้สามารถดูดซับพลังการโจมตีจากพลังแสงคมมีดได้ฉันนั้น พลังแสงคมมีดยังไม่ทันที่จะตัดเครือเถาวัลย์ขาดออกเป็๲ทางให้เห็นก็อ่อนแรงลงไปก่อนจนไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆ ให้แก่เครือเถาวัลย์ที่อยู่ทางด้านหลังได้อีกเลยแม้แต่น้อย

        สิ่งเหล่านี้ยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตเท่าใดนัก ขอเพียงแค่สามารถตัดให้ขาดได้ก็เพียงพอ จากนั้นเขาทำแค่ค่อยๆ เดินหน้าฟันออกไปเรื่อยๆ จนสามารถทำลายออกไปให้ได้ก็เท่านั้น แต่สิ่งที่เขาค้นพบและรู้สึกว่าเป็๞ปัญหาใหญ่ที่น่ากลัวคือระดับความเร็วในการฟื้นฟูของเครือเถาวัลย์

        รวดเร็วจนเกินไป ส่วนที่ถูกพลังแสงคมมีดตัดขาดกลับทำการเชื่อมประสานกลับคืนภายในระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งวินาทีเท่านั้น ระดับความเร็วในการฟื้นตัวที่น่ากลัวถึงเพียงนี้ทำเอาเขาแทบที่จะไม่กล้าบุกทะลวงออกไปเลยแม้แต่น้อย เพราะถ้าหากเขายังฝืนเบียดตัวเองเข้าไปในสถานการณ์เช่นนี้ละก็ สนามพลังของเขาก็จะถูกเครือเถาวัลย์ที่งอกออกมาอย่างรวดเร็วนั้นบีบจนเล็กลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายสนามพลังพังทลายลงทั้งหมด จากนั้นร่างกายของเขาจะถูกเครือเถาวัลย์มากมายนับไม่ถ้วนพันจนไม่อาจจะขยับเขยื้อนได้ ถึงเวลานั้นจริงๆ ก็คงมีแค่ความตายเท่านั้นที่รอคอยเขาอยู่

        ทางตัน?

        ไม่มีทางให้หนี?



นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้