เช้าวันใหม่ แสงอาทิตย์ยามเช้าอุ่นๆ สาดส่องกระทบใบหน้าของชายหนุ่ม สร้างพลังใจให้กับวันทำงานแรกของชาร์ลส์ โจเซฟมาถึงบ้านพักของชาร์ลส์ ก็เห็นเพื่อนยืนรออยู่แล้วที่หน้าประตู มือยังถือไม้เท้าหัวเงินอยู่เหมือนเมื่อคืน แต่ใบหน้าของเขาดูมีสีสันกระปรี้กระเปร่า แผลที่ได้รับมาดูจะทุเลาลงมาก
"อรุณสวัสดิ์ โจเซฟ" ชาร์ลส์ทักทายด้วยรอยยิ้มมุมปาก เมื่อเห็นโจเซฟลงมาจากรถม้า
"อรุณสวัสดิ์ อาการดีขึ้นแล้วหรือยัง?" โจเซฟเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยความห่วงใย
"ดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณมากนะ" ชาร์ลส์ตอบอย่างรู้สึกซาบซึ้ง
"ดีแล้ว งั้นไปกันเถอะ" โจเซฟผายมือเชิญชวน
ชาร์ลส์ยิ้มตอบ ก่อนจะค่อยๆ ก้าวขึ้นรถม้าไปอย่างระมัดระวัง โจเซฟมองตามด้วยความเป็ห่วงเล็กน้อย แล้วจึงก้าวขึ้นไปนั่งบนรถบนที่นั่งตรงข้าม
"แผลเป็ไงบ้าง?" โจเซฟหันไปถามชาร์ลส์ หลังจากที่รถม้าเคลื่อนออกไปแล้ว
"อย่างที่เห็น หายเกือบเป็ปกติแล้ว ขอบคุณนายอีกครั้งนะ ที่ให้ยืมไม้เท้า" ชาร์ลส์ตอบ
รถม้าพาทั้งคู่แล่นไปตามถนนที่เริ่มพลุกพล่านไปด้วยผู้คนและยานพาหนะมากมาย ภายใต้แสงอาทิตย์เช้ายามสดใส ผ่านวิถีของผู้คนที่เริ่มต้นวันใหม่ของพวกเขา
"รู้สึกยังไงบ้างกับวันแรกของงาน?" โจเซฟถามขึ้นเพื่อกระตุ้นบรรยากาศ
"ก็ตื่นเต้นนิดหน่อย" ชาร์ลส์ตอบด้วยน้ำเสียงประหม่า
"คุณอาเอ็ดเวิร์ดคงเห็นความสามารถในตัวนายมากแน่ๆ ถึงได้ชวนให้มาทำงานด้วย" โจเซฟเอ่ยชมเชยอย่างจริงใจ
"ฉันก็หวังว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังนะ" ชาร์ลส์พูดอย่างมุ่งมั่น
ในที่สุด รถม้าก็แล่นเข้าไปในเขตราชอำนาจชั้นนอกอันเป็ที่ตั้งของสถานที่ราชการและหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงหน่วยงานที่โจเซฟทำงานด้วย ตึกอาคารขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านเด่น สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของหน่วยงานนี้ได้เป็อย่างดี เมื่อรถม้ามาจอด ชาร์ลส์ก็เงยหน้ามองป้ายชื่อหน่วยงานที่มีตัวอักษรสลักเอาไว้ ‘กรมปราบปรามและป้องกันภัยเหนือธรรมชาติ’
"ถึงที่หมายแล้ว" โจเซฟหันไปบอกเพื่อน ก่อนจะก้าวลงจากรถม้า
ชาร์ลส์พยักหน้ารับ แล้วก้าวตามลงมาอย่างระมัดระวัง มองอาคารตรงหน้าด้วยสีหน้าตื่นเต้นระคนประหม่าไปพร้อมกัน เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกความมั่นใจ
"พร้อมแล้วใช่ไหม?"
"พร้อมสิ ไปกันเลย!"
ทั้งสองเดินเข้าไปภายในอาคาร ข้างในอาคารคึกคักไปด้วยเหล่าเ้าหน้าที่ที่เดินวุ่นวายไปมา สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่ชาร์ลส์ ชายหนุ่มหน้าใหม่ที่ไม่คุ้นตา แต่โจเซฟไม่สนใจ เขาพาเพื่อนเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง ซึ่งเป็ที่ตั้งของห้องทำงานหัวหน้าหน่วย
"คุณเอมีเลีย หัวหน้าเอ็ดเวิร์ดอยู่ในห้องหรือเปล่าครับ" โจเซฟเอ่ยถามเลขานุการสาวที่นั่งอยู่หน้าห้อง
"อยู่ค่ะ เชิญเข้าไปได้เลย" เลขาตอบพร้อมรอยยิ้มสวยงาม
โจเซฟพยักหน้า ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป ชาร์ลส์รีบเดินตามหลังอย่างใจจดใจจ่อ
ภายในห้องทำงาน มีชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่นั่งอยู่ที่โต๊ะ ใบหน้ามีแผลเป็เก่าๆ ที่จางลงตามกาลเวลา ผมสีน้ำตาลอมเทาหวีเรียบ สายตาคมปลาบแฝงความเด็ดขาดเอาไว้
"อรุณสวัสดิ์ครับ หัวหน้าเอ็ดเวิร์ด" โจเซฟทักทายด้วยน้ำเสียงเคารพนับถือ
"อรุณสวัสดิ์ โจเซฟ" เอ็ดเวิร์ดเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารตรงหน้า เขามองไปยังชาร์ลส์ "ชาร์ลส์ มาถึงแล้วสินะ"
"อรุณสวัสดิ์ครับ" ชาร์ลส์ทักทายน้ำเสียงสุภาพ พยายามซ่อนความประหม่าเอาไว้
"ยินดีต้อนรับสู่หน่วยของเรา ฉันหวังว่าความสามารถในการสืบสวนของเธอ จะช่วยเหลือให้คดีนี้สำเร็จลุล่วงนะ" เอ็ดเวิร์ดพูดเสียงทุ้ม ก่อนหันไปทางโจเซฟ "จัดการพาเขาไปรับอุปกรณ์ แล้วเริ่มเรียนรู้งานได้เลย"
"ครับ" โจเซฟรับคำสั่งแล้วพยักหน้า เขาหันไปทางชาร์ลส์แล้วส่งสายตาให้ออกไปข้างนอก
ทั้งสองเดินออกไป โจเซฟพาชาร์ลส์ลงไปที่ห้องจ่ายอุปกรณ์ของหน่วยวิทยาการ บรรยากาศภายในอาคารคึกคักไปด้วยเหล่าเ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงาน ชาร์ลส์สังเกตเห็นเครื่องมือต่าง ๆ และอุปกรณ์ที่แปลกตามากมาย
ขณะที่เดินเข้าไปในห้อง สายตาของชาร์ลส์อยู่ไม่นิ่ง มองประเมินทุกสิ่งที่ผ่านการมองเห็น
โจเซฟสังเกตเห็นท่าทีของเพื่อน จึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงให้กำลังใจ "รู้สึกยังไงบ้าง?"
ชาร์ลส์ยิ้มเจื่อนๆ "ทั้งแปลกแยก และแปลกใหม่ด้วย"
"ไม่ต้องกังวลไปหรอก" โจเซฟตบไหล่เพื่อนเบาๆ "ทุกคนก็เคยเป็มือใหม่กันทั้งนั้น เดี๋ยวฉันจะคอยช่วยเองนะ"
คำพูดของโจเซฟช่วยให้ชาร์ลส์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาพยักหน้ารับ "ขอบใจมากนะ"
เมื่อทั้งสองมาถึงห้องจำหน่ายอุปกรณ์ เ้าหน้าที่ประจำห้องยิ้มต้อนรับ "มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ?"
โจเซฟแจ้งความประสงค์ "ครับ ผมพาสมาชิกใหม่มารับอุปกรณ์" โจเซฟตอบพลางผายมือไปทางชาร์ลส์
"อ๋อ! เชิญทางนี้เลยครับ" เ้าหน้าที่ลุกขึ้นเดินนำทางไปที่โต๊ะยาวริมห้อง ซึ่งมีอุปกรณ์หลากหลายชนิดวางเรียงรายอยู่อย่างเป็ระเบียบ
"นี่คือนาฬิกาพกที่เรามอบให้เ้าหน้าที่ทุกคน" เ้าหน้าที่อธิบายขณะหยิบนาฬิกาพกขึ้นมา นาฬิกาดูหรูหราด้วยหน้าปัดที่มีเฟืองสีทองติดเอาไว้ "นอกจากจะใช้ดูเวลาแล้ว เฟืองด้านในยังจะคอยเตือนส่งเสียงให้ผู้ถือครองรับรู้ได้ด้วย ถ้ามีผู้ยกระดับตัวตนกำลังใช้พลัง มันจะมีเสียงเหมือนกับเสียงเตือนของนาฬิกาลูกตุ้มขนาดใหญ่ดังออกมาในหัว และคนที่ถือครองจะได้ยินคนเดียว ความเร็วในการหมุนของเฟืองบนหน้าปัดนาฬิกาจะบอกว่าอยู่ใกล้กับผู้ใช้พลังแค่ไหน"
ชาร์ลส์พยัก เขารับนาฬิกาเรือนงามมาด้วยความระมัดระวัง เขารู้สึกถึงน้ำหนักของมันในมือ ความเย็นของโลหะ และความละเอียดของกลไก
"รู้สึกยังไงบ้าง?" โจเซฟถามพลางยิ้ม
"รู้สึกถึงของใหม่" ชาร์ลส์ตอบ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น "นาฬิกาพกที่ใช้นวัตกรรมจากซาร์เนียแบบนี้ ฉันอยากได้มานานแล้ว"
"มันเป็อุปกรณ์พิเศษของหน่วยเรา" โจเซฟอธิบาย "ต้องระวังรักษาให้ดีล่ะ"
ชาร์ลส์อมยิ้ม "แน่นอน ฉันจะดูแลมันอย่างดี"
แล้วจากนั้นชาร์ลส์หันไปรับอุปกรณ์อื่น ๆ ต่อ
"นี่คือผ้าเช็ดหน้าที่ใช้สำหรับป้องกันตัว ในอาณาจักรนี้มีกฎหมายห้ามพกอาวุธ จึงจำเป็ต้องใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้แทน วิธีใช้ก็คือใช้นิ้วจับมุมแหลมของผ้าแล้วสะบัดแรงๆ มันจะกลายเป็ดาบไว้ใช้ต่อสู้"
ชาร์ลส์รับผ้าเช็ดหน้ามาและลองทำตามคำแนะนำ เขาจับมุมแหลมของผ้าแล้วสะบัด
"..." แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
โจเซฟหัวเราะเล็กน้อยก่อนพูดขึ้นว่า "สะบัดแรงกว่านี้อีก" ชาร์ลส์จึงสะบัดผ้าอย่างสุดแรง ทันทีที่เสียงผ้าตีกับอากาศมันก็เปลี่ยนเป็ดาบโดยทันที มันเป็ดาบยาวทำจากเหล็ก ใบดาบสีเงินขัดเงาอย่างดี ดูคมพอที่จะตัดกระดาษโดยไม่ต้องออกแรง ด้ามจับหุ้มด้วยหนังสีดำกันลื่นพอดีมือ
เมื่อผ้าเช็ดหน้ากลายเป็ดาบ ชาร์ลส์ถึงกับอ้าปากค้าง ความประหลาดใจและความตื่นตาตื่นใจฉายชัดบนใบหน้า
"นี่มัน... เหลือเชื่อจริงๆ" เขาพูดพลางหมุนดาบไปมาในมือ น้ำหนักของมันเหมาะมือพอดี
"มีอะไรให้ใอีกเยอะ"
"งานนี้ก็ไม่แย่ แทบรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นอันต่อไปเพิ่มอีก" ชาร์ลส์ตอบ ดวงตาเป็ประกาย
"จะเก็บมันยังไง?" นักสืบหนุ่มถามอย่างสงสัย เ้าหน้าที่อธิบายว่า "เคาะที่ก้นดาบสามทีแล้วใช้นิ้วลูบจากสันดาบไปปลายดาบ" ชาร์ลส์ทำตามคำแนะนำ เขาเคาะที่ก้นดาบสามทีและลูบใบดาบจากสันดาบไปสุดปลายดาบ ทันใดนั้นความรู้สึกจากมือข้างที่ถือดาบก็เปลี่ยนไป จากความหนาของหนังด้ามจับกลับกลายเป็ความบางของผ้าละเอียด
ชาร์ลส์เก็บผ้าเช็ดหน้าที่กลับเป็ผ้าธรรมดาใส่กระเป๋าเสื้อพร้อมกับนาฬิกา จากนั้นเ้าหน้าที่ก็ยื่นขวดให้กับชาร์ลส์ เป็ขวดขนาดเล็ก ด้านในเป็ของเหลวสีทองอมแดงหนืดข้น พอๆ กับน้ำผึ้ง
"นี่คือยารักษาแผล มีสรรพคุณในการห้ามเื บรรเทาความเ็ป และรักษาแผลได้อย่างดีเยี่ยม วิธีใช้คือการทาลงบนแผลตามร่างกาย ผลของยาจะทำให้ความเ็ปบรรเทาลง และห้ามเืให้หยุดไหล หลังจากนั้นสองถึงสามวันแผลถึงจะหายสนิท" เ้าหน้าที่อธิบาย
ชาร์ลส์มองขวดยาในมือด้วยความคุ้นเคย นึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่เขาได้รับาเ็ที่ขา
"นี่เป็ยาที่ใช้รักษาแผลที่ขาฉันเมื่อวานใช่ไหม?" เขาถามเพื่อความแน่ใจ
โจเซฟพยักหน้า "ใช่แล้ว เห็นผลดีใช่ไหมล่ะ? เราพกติดตัวไว้เสมอเพื่อกรณีฉุกเฉิน"
ชาร์ลส์พยักหน้าเห็นด้วย "ใช่ มันช่วยได้มากจริงๆ ฉันแทบไม่เชื่อว่าแผลจะหายเร็วขนาดนั้น"
"นั่นแหละคือความพิเศษของมัน" โจเซฟอธิบายเพิ่มเติม "แต่ก็อย่าประมาทนะ ถึงจะมียาวิเศษ เราก็ต้องระวังตัวอยู่ดี"
ชาร์ลส์ยิ้มเล็กน้อย รู้สึกอุ่นใจที่มียานี้ติดตัว "แน่นอน ฉันจะระวังตัว แต่ก็ดีที่รู้ว่าเรามีตัวช่วยแบบนี้"
"ใช่ มันทำให้เรามั่นใจขึ้นเยอะเลย" โจเซฟตอบ "แต่หวังว่าเราจะไม่ต้องใช้มันบ่อยนัก"
ชาร์ลส์พยักหน้าเห็นด้วย ความรู้สึกพร้อมรับมือกับภารกิจที่รออยู่ข้างหน้าเริ่มก่อตัวขึ้นในใจพร้อมๆ กับความตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ในการทำงาน
หลังจากที่รับอุปกรณ์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว โจเซฟพาชาร์ลส์ออกไปและแจ้งกับเ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ทำหน้าที่จัดแจงสถานที่เพื่อยืมห้องสำหรับอบรมและฝึกสอนสมาชิกใหม่ หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนแล้ว โจเซฟจึงได้รับอนุญาตให้ใช้ห้องได้ห้องหนึ่ง แล้วเขาก็พาชาร์ลส์ไปที่ห้องนั้น
ภายในห้องที่โจเซฟจัดเตรียมไว้ บรรยากาศเงียบสงบแผ่ซ่านไปทั่ว แสงสลัวจากโคมไฟบนเพดานทอดเงาอ่อนๆ ลงบนพื้นและผนังห้องที่ดูแข็งแรงทนทาน มุมห้องมีตู้และชั้นวางของจัดเรียงอย่างเป็ระเบียบ สร้างความรู้สึกเรียบง่าย
โจเซฟลากเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งมาวางกลางห้อง เสียงขาเก้าอี้ครูดกับพื้นดังแ่เบา ก่อนที่เขาจะผายมือเชิญให้ชาร์ลส์นั่งลง
"นั่งลงก่อนเถอะ" โจเซฟเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เรามีเื่ที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย"
ชาร์ลส์ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ความรู้สึกตื่นเต้นและประหม่าผสมปนเปกันในใจ เขาเงยหน้ามองโจเซฟที่ยืนอยู่ตรงหน้า รอคอยที่จะได้รับรู้ความลับที่ซ่อนอยู่เื้ัโลกที่เขารู้จัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้